ป้าอ่อนตาเป็นคนไข้เบาหวานของเขตอำเภอเมือง แต่ไม่ได้เข้าคลินิกเบาหวานที่ศูนย์สุขภาพเมืองของเรา ป้าเข้ารับการตรวจรักษาอยู่ที่ แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลพุทธชินราช วันหนึ่งป้านอนโรงพยาบาลเพราะมีแผลที่เท้ารับการรักษาที่หอผู้ป่วยศัลยกรรม ทางหอผู้ป่วยซึ่งมีแพทย์ และพยาบาลซึ่งอยู่ในทีมสหวิชาชีพเรื่องการดูแลสุขภาพเท้า ได้ส่งป้ามาที่คลินิกสุขภาพเท้า เพื่อรับการตรวจประเมินเท้า ดูการทำงานของเส้นเลือด เส้นประสาท แรกพบระหว่างเรากับป้าอ่อนตา เห็นแผลที่เท้าแล้วตกใจ ก็ซักประวัติ ตรวจประเมินเท้ากัน ป้าบอกว่า ป้าเป็นเบาหวานมาประมาณ 4ปี มารับการตรวจรักษา รับยาไปรับประทานอย่างต่อเนื่อง ก็ถามว่า ป้าสามารถดูแลตัวเองได้มั๊ย ในเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายต่างๆ ป้าบอกว่า ทั้งหมอ ทั้งพยาบาลก็ให้คำแนะนำป้าเรื่องต่างๆแล้ว แต่ป้าไม่ได้สนใจ ยังกินยังอยู่ เหมือนๆเดิม ระดับน้ำตาลของป้าบางครั้งก็ต่ำกว่า40-60 บางครั้งก็สูงมากกว่า 200 ขึ้นๆลงๆอยู่ตลอดเวลา มีอาการเป็นหน้ามืดใจสั่น หมดสติไปก็หลายครั้ง เข้าออกรพ.ก็บ่อยครั้ง ต่อมาเริ่มมีอาการชาเท้า แรกๆก็ชานิดหน่อย บอกหมอก็ให้ยาแก้ชาไปกิน นานๆเข้าก็เริ่มชาเท้ามากขึ้น จนกระทั่งเริ่มไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้กระทั่งเหยียบก้อนหินแข็งๆ อยู่มาวันหนึ่งป้าได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์สามีไปตลาด พอตอนขากลับ ลงจากรถมอเตอร์ไซด์ ไปเหยียบที่ท่อไอเสีย จึงรู้ว่ารองเท้าตนเองหลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ป้าจึงได้แผลที่ฝ่าเท้าเหวอะมา หลังจากนั้นก็ไปทำแผลที่ห้องทำแแผลโรงพยาบาลทุกวัน ประมาณ 1 เดือน แผลไม่ดีขึ้นมีเนื้อตายเหลืองๆ ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อทำแผล นี่เป็นที่มาที่ทำให้เราได้มาพบกัน
หลังจากที่ได้พูดคุยซักถามเกี่ยวกับความเป็นไปมาของป้าแล้ว เราก็นำผู้ป่วยเข้ากระบวนการตรวจ ประเมินเท้า กระบวนการให้ความรู้ การฝึกปฏิบัติเรื่องการดูแลสุขภาพเท้า แก่ป้า และโชคดี วันนั้นสามีป้าอ่อนตาได้มาด้วยกับป้าเราเลยจับให้มานั่งฟัง นั่งดู ด้วย ลุงแกดูทีท่าสนใจมาก และดูว่าจะรักและห่วงใยป้ามาก เลยดึงลุงเข้ามาเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการดูแลผู้ป่วยรายนี้ด้วย หลังจากนั้นก็ทำแผล ขูดหนังหนารอบๆแผล และขูดเนื้อตายให้ และเน้นเรื่องการควบคุมอาหาร ควบคุมระดับน้ำตาลให้ได้ร่วมกับการบริหารเท้าจะช่วยเรื่องการหายของแผลได้เร็วขึ้นส่งกลับหอผู้ป่วย ได้ติดต่อประสานงานกับพยาบาลที่ ward เมื่อผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว ทุกวันพุธให้ส่งกลับมาที่คลินิกสุขภาพเท้าเพื่อรับการประเมินแผลซ้ำและทำแผลให้ หลังจากนั้นเมื่อป้าได้กลับมาหาเราอีกครั้งในวันพุธ หนึ่งอาทิตย์ถัดมา ทีมคลินิกสุขภาพเท้าของเราก็ทำแผลให้ใช้เวลาในการขูดเนื้อตาย และขูดหนังหนารอบๆแผลประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง แผลป้าเริ่มเห็นเนื้อแดงๆสะอาดมากขึ้น เราเริ่มเห็นรอยยิ้มของป้า ทีมเราก็เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำที่ให้ไว้และทบทวนกับป้าอีกครั้ง (เราจำเป็นต้องพูด ต้องย้ำบ่อยๆในผู้ป่วยเบาหวาน พวกเราต้องไม่เบื่อที่จะพูด แล้วซักวัน เขาเบื่อที่จะฟัง เขาก็จะกลับมาดูแลตนเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนฟังเรื่องเก่าๆจากพยาบาล…555) หลังจากนั้นก็ให้ไปทำแผลต่อเนื่องที่ห้องทำแผลทุกวัน
อาทิตย์ต่อมา ป้าก็มาหาเราตามนัด และที่ขาดไม่ได้เราเห็นทุกครั้งคือคุณลุงจะตามมาดูแลคุณป้าด้วยทุกครั้งด้วยทีท่าที่นุ่มนวล ห่วงใย คอยช่วยเหลือประคองขึ้น ลง เตียงทุกครั้ง (อิจฉาๆๆๆ อิอิ) ลุงกับป้า บอกว่าฉันอยากให้ถึงวันพุธทุกวัน ทีแรกดีใจนึกว่าคิดถึงเรา แต่คุณลุงกับคุณป้าบอกว่าพอวันพุธได้มาทำแผลที่นี่แล้วมีความสุขมากเห็นความก้าวหน้าของแผลตนเองเริ่มหันกลับมาดูแลตนเองมากขึ้น ตอนนี้รับประทานอาหารตรงเวลาทุกมื้อ และควบคุมอาหารมากขึ้น ไม่กินตามใจปากเหมือนเดิม ลดขนมหวานๆ เคยกินผลไม้ทีละมากๆ ก็ลดลง นึกอยากกินอะไรก็กิน หรือแต่ก่อนไม่หิวไม่กิน แต่ตอนนี้จำเป็นต้องกินทุกมื้อ ทำตอนแรกๆรู้สึกทรมานเหมือนกัน แต่พอทำต่อเนื่องก็เริ่มชินคิดว่าร่างกายตนเองเริ่มปรับตัวได้ ตอนนี้สบายขึ้น ไม่มีอาการหน้ามืดใจสั่น เหมือนแต่ก่อน พอได้นวดเท้า ออกกำลังกายตามที่หมอแนะนำก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าแผลตนเองยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ บอกว่าดีใจที่ได้มาทำแผลที่คลินิกเท้าที่นี้เพราะทำให้ตัวเองเปลี่ยนแปลงมากขึ้น แต่เราคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นคือ การเลือกที่จะดูแลตนเอง การเลือกที่จะจัดการกับปัญหาที่เหมาะสมของคนไข้และผู้ดูแลใกล้ชิดของคนไข้เองนะแหละสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้ป่วยอยู่กับเบาหวานได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
ในขณะนั้นมีผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นแผลที่เท้าเป็นๆหายๆมาตลอด มาทำแผลที่คลินิกเรา เราพยายามที่จะโน้มน้าวเรื่องการปรับเปลี่ยนฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยรายนี้หลายครั้งแล้วดูทีท่าว่าเหมือนจะสำเร็จ แต่ไม่สำเร็จ พอเราได้ยินป้าแกพูดอย่างนี้ เราเลยได้โอกาสให้ป้าแกเล่าเรื่องการดูแลตนเองของป้าให้ผู้ป่วยรายนี้ฟังว่าป้าแกมีวิธีการอย่างไรถึงประสบความสำเร็จเรื่องการควบคุมระดับน้ำตาลได้ด้วยตนเอง ป้าแกเล่าด้วยความยินดี และภาคภูมิใจให้ผู้ป่วยรายนี้ฟัง….ก็ขอขอบคุณคุณป้ามา ณ ที่นี้ด้วย ( เป็นการสร้างเครือข่าย ขยายผล จากผู้ป่วย ถึงผู้ป่วยโดยตรง เพราะผู้ป่วยจะไม่ค่อยเชื่อที่หมอ พยาบาลบอกซักเท่าไหร่หรอก คิดว่าเขาคงเถียงเราในใจว่าหมอไม่เป็นหมอไม่รู้หรอกว่ามันยากเย็นแค่ไหน เขาจะเชื่อพวกเดียวกันเองมากกว่า ไม่เชื่อลองสังเกตุดูเวลาที่คนไข้เล่าเรื่องการใช้สมุนไพรต่างๆให้ผู้ป่วยด้วยกันฟังระหว่างรอตรวจ ครั้งต่อไปผู้ป่วยที่ฟังเขามาก็จะเล่าให้เราฟังว่าได้ลองไปใช้สมุนไพรตามที่เพื่อนบอกมาจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ …เป็นต้น) ก็จะติดตามการเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วยรายนี้มาให้ฟังคราวหน้าค่ะ….
ครั้งนี้ได้ถ่ายภาพตอนที่แผลป้าอ่อนตาดีขึ้นมากแล้วมาให้ดูด้วย เสียดายไม่ได้ถ่ายตอนที่มาครั้งแรกให้ดู…
ความภาคภูมิใจในการดูแลตนเองของป้าอ่อนตา ที่ทำให้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น
นี่ก็เป็นอีกกำลังใจในการร่วมดูแลผู้ป่วยเบาหวานของทีมสุขภาพเท้าของเรา....ขอบคุณป้าอ่อนตาจริงๆค่ะ...
นู๋ทิมเล่าเรื่อง
ดีใจด้วยกับป้าอ่อนตา ชื่นชมกับการทำงานของทีมเบาหวานทุกคนนะ อ่านบันทึกนี้ด้วยความรู้สึกที่ดีจริงๆ เชื่อเลยว่าหนูทิมและทีมเบาหวานคงมีความสุขไปกับป้าอ่อนตาด้วยเช่นเดียวกัน ขอบใจนะ
ชื่นชมกับความตั้งใจทำงานของพี่หนู ...รู้นะว่าเหนื่อย แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่า
....ดีใจที่มีพี่หนู ....มีคลินิกเท้า ...มีทีมที่ดีของพวกเรา เป็นกำลังใจให้พี่หนูนะคะ รักพี่หนูจังเลย ...อ้อ( size M)
· วันสงกรานต์ ชวนให้ สำราญจิต
· ชวนลิขิต ให้มวลมิตร คิดสร้างสรรค์
· สงกรานต์นี้ ชวนทำดี ดีทุกวัน
· ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมกันสร้าง พลังใจ
· สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ