เล่าเรื่องงานเบาหวานที่ฮานอย (๑)


คนนั่งกินอาหารที่ฟุตบาธเป็นกลุ่มๆ เยอะไปหมด เขานั่งเก้าอี้ตัวเตี้ยๆ ต่างจากอาหารริมบาทวิถีที่บ้านเรา

วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๒ ดิฉันตื่นตั้งแต่ ๐๔ น. เพื่อเตรียมตัวไปฮานอยด้วย TG 682 ที่จะออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา ๐๗.๔๕ น. Trip นี้มีสามีเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย ลูกสาวและลูกเขยมาค้างคืนที่บ้านเพื่อจะได้ไปส่งที่สนามบินแต่เช้ามืด

การเดินทางราบรื่นดี เราไปถึงสนามบิน Canh Bao เมื่อเวลาประมาณ ๐๙.๓๕ น. สนามบินนี้เป็นสนามบินนานาชาติ ดูจากขนาดและบรรยากาศแล้ว เงียบและคึกคักน้อยกว่าสนามบินในต่างจังหวัดของบ้านเราเสียอีก ระหว่างรอรับกระเป๋าดิฉันแวะไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่าต้องถอยกลับโดยด่วน เพราะไม่สะอาด สภาพคล้ายกับที่เคยเจอที่สนามบินประเทศฟิลิปปินส์เมื่อหลายปีก่อน รอกระเป๋าอยู่นานทีเดียว

คุณ David Beran เช่ารถมารอรับที่สนามบิน เราใช้เวลาเดินทางจากสนามบินถึงฮานอยประมาณ ๔๕ นาที สองข้างทางก่อนถึงฮานอย มีท้องทุ่งสีเขียว ปลูกข้าว ผักและข้าวโพดปะปนกัน มีแม่ค้าขายของอยู่ข้างทางเป็นระยะ ทีแรกดูไม่ออกว่าขายอะไร เห็นเป็นสีเหลืองๆ จะว่าเป็นข้าวโพดก็ไม่ใช่ มีช่วงหนึ่งที่ได้เห็นใกล้ๆ ที่แท้ก็เป็นขนมปังแบบฝรั่งเศส

การขับรถของคนที่นี่ ดูไม่ค่อยมีระเบียบ บีบแตรกันตลอดทาง เราพูดขำๆ ว่า “รถคงคุยกัน” บ้านเรือนสองข้างทางน่าสนใจ ที่เป็นตึกมักสูง ๓-๔ ชั้น มีหน้าต่างประตูสวยงาม

เราเดินทางถึงโรงแรม De Syloia Hotel ที่พักราว ๑๑ น. เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่ห้องพักสะอาด และจัดไว้เรียบร้อยน่าอยู่ คุณ David ขอตัวไปส่งเอกสารสำหรับการประชุมแล้วกลับมารับเราตอนเที่ยงเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน โชเฟอร์ที่ขับรถให้พูดภาษาอังกฤษได้น้อย ต้องพยายามสื่อสารว่าจะให้พาไปที่ไหน คุณ David จะพาไปรับประทานอาหารที่ Restaurant เลขที่ ๓๘ ต้องพยายามบอกกัน สามีลองพูดภาษาจีนด้วยโชเฟอร์ก็ไม่เข้าใจ คุณ David ใช้มือเขียนตัวเลขให้ดูและชี้ตัวเลขที่นาฬิกาประกอบ

โชคร้ายเหมือนตอนที่ไปเที่ยวเจนีวากันเลย (อ่านที่นี่) พอไปถึง Restaurant เลขที่ ๓๘ ปรากฏว่าร้านปิด คุณ David นึกไม่ออกแล้วว่าจะไปกินที่ไหน โชเฟอร์ใบ้ท่าทางว่าจะพาไปกินเฟอ เราตกลง ร้านนี้ขายเฟอเป็นหลัก คุณ David กินเฟอเนื้อ เรากินเฟอไก่ใส่ไข่อ่อนด้วย เฟอที่นี่ชามใหญ่ มีปาท่องโก๋ (แข็งๆ) มาให้กินด้วย น้ำซุปรสชาติดี เส้นเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก เขาหั่นเนื้อไก่บางๆ รสเหมือนไก่บ้านของเรา

ช่วงเวลาของอาหารกลางวัน เราเห็นคนนั่งกินอาหารที่ฟุตบาธเป็นกลุ่มๆ เยอะไปหมด เขานั่งเก้าอี้ตัวเตี้ยๆ ต่างจากอาหารริมบาทวิถีที่บ้านเรา หลังกินอาหารกลางวัน คุณ David พาเดินเที่ยว เริ่มจาก Lake มีทางเดินรอบๆ มีที่นั่งพักเป็นระยะ คนนั่งกันเกือบทุกเก้าอี้ บางคู่คงเป็นคู่รักกัน เพราะมีการโอบกอดให้เห็น

 

มุมด้านหนึ่งของทะเลสาบ <p style="text-align: center;"> </p><table border="1"><tbody><tr>

</tr></tbody></table> ท้องถนนยามบ่าย

เราไปเดินชมตลาด เดิมย่านนี้ถนนจะมีชื่อตามของที่ขาย ขายอะไรก็มีชื่อตามนั้น เช่น รองเท้า แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว มีของขายหลากหลายมากขึ้น ย่านที่เดินส่วนใหญ่ขายผ้า เสื้อผ้า ขนมและของแห้ง (คล้ายสำเพ็งและตลาดปีนังที่บ้านเรา) เราเดินชมย่านที่ขายของใช้ในบ้าน เช่น จาน ถ้วย กล่องใส่ของกระจุกกระจิก ที่มีการฝังเปลือกหอยเป็นลวดลายสวยงาม แต่ไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง

คุณ David พาไปกินกาแฟโบราณที่ร้านเล็กๆ ที่เขารู้จัก เจ้าของร้านเป็นผู้หญิง ท่าทางเป็นมิตรดี ตอนที่เราไปถึงมีฝรั่งผู้หญิงนั่งอยู่ก่อน ๑ คน เขาทักว่าคุณ David เป็นไกด์หรือ ที่ร้านมีเก้าอี้ตัวเล็กๆ เตี้ยๆ ซ้อนๆ กันเตรียมไว้ ลูกค้ามาก็หยิบมานั่งคนละตัว ร้านขายอาหารอื่นก็มีลักษณะอย่างนี้ กาแฟที่นี่รสเข้มข้นมาก หอมดีเพราะเขาบดใหม่ๆ

มุมหนึ่งของตลาดมีผลไม้วางขาย เห็นน้อยหน่าลูกน่ากินเลยอยากลองรับประทาน เลือกซื้อ ๓ ลูก พูดกับแม่ค้าไม่รู้เรื่องว่าราคาเท่าไหร่ แม่ค้าผลไม้พูดจาด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วไม่ไพเราะ แถมสีหน้าก็ไม่ยิ้ม ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ เขาจึงหยิบเงินจากเราไปเองคำนวณแล้วราคา ๓ ลูก ๑๐๐ กว่าบาท สามีมากินจะรู้ว่าเป็นน้อยหน่าหนัง ดิฉันไม่ได้กินน้อยหน่าที่ซื้อนี้เพราะคนหิ้วถุงเดินกวัดแกว่งจนน้อยหน่าเกือบเละ เราเลือกลูกที่เละน้อยที่สุดให้คุณ David ไป

หลังดื่มกาแฟเราเดินเที่ยวตลาดต่ออีกหน่อย คราวนี้ขอแวะดูตลาดสดเล็กๆ ผักสดมีเหมือนที่บ้านเรา แต่ของทะเล เช่น กุ้ง ปู ปลา เป็นของเป็นๆ ทั้งนั้น ยกเว้นปลาหมึกที่ตาย นอกจากนี้ยังมีกบ ปลาไหล ปลาน้ำจืดก็ยังเป็นๆ อยู่

 

ตลาดสด

เราเดินย้อนผ่านทะเลสาบกลับโรงแรม คุณ David อธิบายเส้นทางว่าต้องผ่านกี่แยกๆ แล้วเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาตรงไหน กว่าจะถึงโรงแรมก็เหงื่อซึมกันทุกคน เรานัดเจอกันเพื่อรับประทานอาหารเย็นที่ภัตราคารใกล้ๆ อาหารเวียดนามที่นี่มีรสชาติต่างจากที่กินในบ้านเรา ที่พอจะรู้สึกอร่อยบ้างคือข้าวสวยและผัดผักบุ้ง

คุณ David ต้องออกไปรับคุณ Marg McGrill, Senior Vice President ของ IDF ที่สนามบิน เรากลับโรงแรม คอยติดตามข่าวที่กรุงเทพทาง CNN และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ที่โรงแรมมีบริการอินเตอร์เน็ตฟรี ความเร็วใช้ได้ทีเดียว

วัลลา ตันตโยทัย

หมายเลขบันทึก: 255714เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2009 08:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

ตลาดเหมือนบ้านเรา

อ่านแล้วรู้สึกว่าลำบากนิดๆ

อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านเรานะคะ

เข้ามาอ่านค่ะ

เคยไปเมื่อสิบกว่าปี ซื้อผ้าปักลายและนำมาใส่กรอบก็สวยดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท