เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2551 กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดการสัมมนาการพัฒนากระบวนการส่งเสริมการเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตพืชยุทธศาสตร์จังหวัด ที่โรงแรมมารวยการ์เด้น กรุงเทพมหานคร
ผู้เข้าสัมมนามาจากทุกจังหวัด ๆ ละ 3 คนเป็นผู้รับผิดชอบพืชยุทธศาสตร์จังหวัดและฝ่ายยุทธศาสตร์และสารสนเทศ รวมทั้งนักวิชาการในส่วนกลางที่รับผิดชอบพืชและกอง/สำนักที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 250 คน
การสัมมนาครั้งนี้เริ่มต้นจากที่รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรฝ่ายบริหาร(นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ)กล่าวเปิดโดยท่านได้กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันปัจจัยการผลิตแพง ทำอย่างไรเกษตรกรจึงจะอยู่ได้ ประกอบกับปีที่แล้วกรมฯได้ดำเนินการการผลิตข้าวแบบยั่งยืนและสามารถลดต้นทุนลงได้ 510 บาทต่อไร่ ดังนั้นกรมฯจึงเห็นควรที่จะมีการปรับกระบวนการส่งเสริมการเกษตรโดยเน้นไปที่ประเด็นลดต้นทุนการผลิตพืชยุทธศาสตร์หลักของจังหวัด 3 พืชโดยพัฒนากระบวนการส่งเสริมการเกษตรให้เน้นหนักไปที่พืชยุทธศาสตร์หลักดังกล่าว
ที่ปรึกษากรมส่งเสริมการเกษตร(ดร.ประทีป วีระพัฒนนิรันดร์)เป็นวิทยากรและนำกระบวนการสัมมนาตลอดทั้งวัน โดยเริ่มต้นจากการกระตุ้นให้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนการผลิตพืช ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ จากนั้นท่านก็ได้ลงลึกไปที่กระบวนการส่งเสริมการเกษตรที่จะพัฒนาขึ้นมีเป้าหมายสำคัญคือ
1.การให้เกษตรกรต้นแบบเป็นทั้งนักวิจัยที่ใช้ไร่นาของตนเอง เป็นห้องทดลองและเป็นครูติดแผ่นดิน ที่ใช้ไร่นาต้นแบบที่ได้พัฒนาขึ้นเป็นห้องเรียนและสนามฝึก สำหรับเกษตรกรในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยกรมส่งเสริมการเกษตรและภาคีที่เกี่ยวข้องคอยกระตุ้นหนุนเสริม
2.จังหวัดมีคู่มือคำแนะนำการปลูกพืช ฉบับชาวบ้าน และแผนปฏิบัติการส่งเสริมการเกษตรเพื่อลดต้นทุนพืชยุทธศาสตร์จังหวัด 5 พืช มี Core team ที่เข้มแข็งและมีทำเนียบครูติดแผ่นดิน 27 คนและไร่นาต้นแบบ 27 แห่ง
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรก ที่ได้นำทีมจังหวัดมา 3 คนเพื่อสร้างเป็น core team ของจังหวัด
กระบวนการส่งเสริมการเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตพืชนี้มี 5 ขั้นตอนหลักคือ
1.การสร้างทีมงานหลักของจังหวัด(core team)
2.การจัดทำระบบข้อมูลพืชยุทธศาสตร์จังหวัด
3.การสร้างวิทยากรกระบวนการเพื่อถอดรหัสต้นแบบที่ดี
4.การจัดทำคู่มือคำแนะนำฉบับชาวบ้านเพื่อลดต้นทุนการผลิต
5.การจัดทำแผนปฎิบัติการส่งเสริมการเกษตรของจังหวัดเพื่อลดต้นทุนการผลิตพืชและสัมมนากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม
เราก็มีความหวังว่าด้วยกระบวนการส่งเสริมการเกษตรที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่นี้จะทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์ ได้ครูติดแผ่นดินที่สามารถใช้ไร่นาตนเองในการลดต้นทุนการผลิตพืชและเกษตรกรจะมีความภูมิใจในอาชีพของตนเองตลอดไป โดยสถาบันสร้างเสริมนวัตกรรมภูมิปัญญาได้รับมอบหมายภารกิจนี้จากท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรและรองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ก็ตั้งใจทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดและก็หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ
ธุวนันท์ พานิชโยทัย
3 เมษายน 2551
ไม่มีความเห็น