273 เมื่อรถคันสวยไฟไหม้ !!


อย่าตกใจว่ารถบางทรายไฟไหม้นะครับ..อิอิ...

ช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมาเพื่อนๆ g2k หนึ่งหนุ่ม สองสาว ยานพาหนะ พบปัญหาอย่างที่เราทราบกันดี ก่อให้เกิดความระมัดระวังมากขึ้นบ้างนะครับ  ส่วนตัวผมเองนั้นมีประสบการณ์ทั้งโดนเฉี่ยวชน และโดนงัด สูญเสียทรัพย์สินไปเป็นแสนมาแล้วครับก่อให้เกิดความหงุดหงิดในอารมณ์เป็นที่ยิ่ง เฉี่ยวชนนั้นเราผู้เสียหายต้องตามผู้กระทำผิดเองจนพบและจำนนต่อหลักฐานจึงซ่อมรถให้ ส่วนงัดรถนั้น จนป่านนี้มันหัวเราะจนฟันล่วงแล้วขึ้นใหม่ไปแล้วครับ (ยิ้ม..แหย..แหย) 

ตาม blog บันทึก ของน้องเบิร์ด แล้วก็อดสงสารและเห็นใจของรักของหวงที่โดนทำร้ายของทั้งสามท่านไม่ได้  

--------------------------

จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร   ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีแต่แพงนิดหน่อยนะครับผม

  • รถผมก็โดนชน...ข้างหลังยังปอกเปิก บั้นท้ายช้ำ 
  • รถพี่แป๋วก็โดนชน กระจังหน้าแตกเลย 
  • รถพี่เบิร์ดก็โดนงัด...

ถือว่าส่งเคราะห์ครับ ปีใหม่รับรองว่าสดใส มีโชคครับผม

-------------------------

เบิร์ด  สวัสดีค่ะพี่แป๋ว มีรักก็มีทุกข์นะคะพี่แป๋ว..เบิร์ดเข้าใจความรู้สึกเลยล่ะค่ะ..เป็นเพราะรักเพราะห่วงเพราะผูกพันถึงทุกข์นักเวลาที่เห็นร่องรอย ก็เราไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นเลยซักนิดเนาะคะ ออกจะรักถนอมมานานปีมาเกิดรอยซะได้ ( น่าเจ็บใจกว่าคือเกิดจากคนเมาซะนี่ ! )

-------------------------

      

 

paew  สวัสดีค่ะปีใหม่ค่ะน้องเบิร์ด เพิ่งมาพบว่าน้องเบิร์ดเจอชะตากรรมเกี่ยวกับรถก่อนพี่อีก ... โชคดีค่ะ ที่โจรเอารถไปไม่ได้... ส่วนของพี่ก็คิดว่าโชคดีที่รถไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อวานก็ลูบๆ คลำเขาเหมือนกันค่ะสงสาร อยู่มาตั้งนานไม่มีริ้วรอย มาเกิดริ้วรอยก่อนปีใหม่นี่เอง ... ยังใจเสียอยู่นิดๆค่ะ 

--------------------------- 

วันนี้เลยเอารูปที่รุนแรงกว่ามาเตือนสติกันครับ ในส่วนหนึ่งก็มาปลอบทั้งสามท่านว่า เออ มันผ่านไปแล้ว พ้นเคราะห์แล้ว  ของคนอื่นที่หนักกว่าเราก็มี ดูช่วงปีใหม่ซิ ล้มตายไปหลายร้อย บาดเจ็บหลายพัน..เฮ่อ.. อัตราการตายเมื่อเทียบเฉลี่ยต่อวันนี่ รุนแรงมากกว่าภาคใต้อีกนะครับ จนบางทีนึกไปถึงว่า ปีใหม่ สงกรานต์ นี่คือมหกรรมการตาย.ฤดูกาลแย่งกันตาย..บังคับให้ตาย หรือบาดเจ็บ (ไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้เลยนะ..)

    

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2549 ที่มุกดาหาร ผมทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วขับรถกลับที่ทำงาน ระหว่างทางก่อนถึงหน้าสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มุกดาหาร พบรถ nissan nv  ทะเบียน มุกดาหาร บค 1279 อยู่ต่างเลนกัน เกิดไฟไหม้ควันเต็มไปหมด  

   

ผมรีบจอดรถข้างทาง แล้ววิ่งไปดูว่ามีใครอยู่ในรถบ้าง เห็นคนขับรถวิ่งออกมาฝั่งตรงข้าม คือเลนที่ผมจอดรถอยู่ แบบตระหนกตกใจมาก เมื่อถามว่ามีใครอยู่ในรถอีกไหมเขาบอกไม่มีแล้ว ผมวิ่งกลับไปที่รถคว้ากล้อง Fuji S7000 ตัวโปรดเดินไปข้างหน้า ผมก็รีบตั้งกล้อง Auto แล้วลองซูมอิน ซูมเอาท์ ดูภาพ แล้วก็กดชัดเตอร์นับไม่ถ้วนเลยครับ 

  

ผมเห็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าสองสามคนออกมาดูแล้วก็แบกถังดับเพลิงมาพยายามจะไปดับ แต่ไฟไหม้รถรวดเร็วมากครับ เพียงไม่กี่นาทีก็ลุกท่วมคันเสียแล้วหากดับไฟก็หมดสภาพรถแล้ว เพียงแต่พยายามดับเพราะไม่ต้องการให้มันระเบิด หรือเกิดลุกลามไปที่อื่นต่อ โชคดีที่บริเวณนั้นปลอดภัย 

    

เมื่อกดชัตเตอร์พอใจแล้วก็จะเข้าไปคุยกับเจ้าของรถ เป็นผู้ชายวัยกลางคน ด้วยความตกใจกระมัง เขาก็หายไปไหนก็ไม่รู้ สักพักตำรวจก็มาดับไฟ แต่ก็เหลือแต่ซากเสียแล้ว

 

 เป็นเพราะ แก๊ส หรือน้ำมันรั่ว หรือเป็นข้อบกพร่องของรถรุ่นนี้ หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่มีคำตอบ แต่มันก็ก่อให้เกิดความเสียหายหมดสิ้น เราคงเดาออกนะครับว่าจ้าของรถรู้สึกอย่างไร   เป็นการเตือนกันไว้ครับ นอกจากจะระมัดระวังรถถูกงัด รถถูกเฉี่ยวชนทั้งรู้ตัวไม่รู้ตัว พึงระมัดระวังเรื่องเครื่องยนต์กลไกของระบบด้วย ตรวจเชคตามกำหนด ทุกสัปดาห์ควรเปิดฝากระโปรงรถดูระบบต่างๆว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ บางทีสายนั่นหลวม สายนี่หลุดได้ โดยที่เราไม่คาดคิดมาก่อน  ซึ่งผมเคยพบเช่นกันคือ แมลงสาปครับ มันไปแทะสายไฟ ผมพบลูกแมวเข้าไปนอนที่ใบพัดลมหน้าหม้อน้ำเฮ่อ

เราไม่ทราบก่อน และมันก็สุดวิสัย ใครจะไปคิดว่า เช้าวันหนึ่งรถที่เราจอดไว้ในที่จอดรถอพาร์ทเมนท์นั้น จะมีลูกแมวมาอยู่ที่ใบพัดลมหม้อน้ำ สตารท์รถพรึบ ใบพัดมันไปฟันตัวแมวจนสายพานหลุดกระเด็นออกมาเลย  ลูกแมวหรือครับ ไม่เหลือ เราเสียใจจนต้องทำบุญให้เขา อธิษฐานให้เขา 

ผมคิดว่าทุกท่านที่ใช้รถคงมีมาตรการเฉพาะตัวเองอยู่แล้วว่าหากเกิดปัญหาจะมีขั้นตอนทำอย่างไรบ้าง ชีวิตในเมืองอยู่กับรถไม่น้อยนะครับ เตรียมไว้เสียก่อนจะช่วยเราในช่วงวิกฤตได้มากทีเดียว ถามว่าผมมีการเตรียมอะไรบ้างหรือครับ มีดังนี้ครับ 

 

1 เบอร์โทรฯบริษัทประกันภัย ทั้งที่เป็นส่วนกลางกรุงเทพฯและสาขาท้องถิ่น เผื่อสายไม่ว่าง
 

เบอร์โทรฯ อู่ซ่อมรถ

ควรจะมีมากกว่า 1 อู่ เผื่อไว้ก่อน ควรเป็นอู่ที่เราคุ้นเคย หรือเพื่อนๆแนะนำ หรือบริษัทประกันภัยแนะนำไว้
 

เบอร์โทรฯ ญาติ เพื่อนที่สนิทที่รู้เรื่องเหล่านี้ดีและปรึกษาได้

หากมีเพื่อนเป็นตำรวจ ทนายความ ขอเบอร์ไว้
อย่างน้อยก็แจ้งให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา หรือขอคำแนะนำช่วงที่เราคิดไม่ออกจริงๆ สำหรับตำรวจ ทนายความนั้น อุ่นใจไว้ยามคับขันเขาสามารถแนะนำในสิ่งที่เป็นตัวบทกฎหมายได้ครับ
2 ยางอะไหล่ พร้อมเครื่องมือซ่อมเบื้องต้น ตรวจสอบทุกเดือนว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้ไหม หลายครั้งพบว่ายางอะไหล่ที่ติดรถไปไหนด้วยทุกหนทุกแห่งน่ะ ลมยางมันไม่ได้มาตรฐานแล้ว พอจะเอามาใช้จริงๆใช้ไม่ได้ เสียอารมณ์หนักขึ้นไปอีก อิอิ
3 เอกสารเกี่ยวกับรถ ทำสำเนาไว้ และเอาติดรถไว้ จดรายละเอียดรถลงในหน่วยความจำมือถือด้วย
4 ไฟสปอร์ตไลท์ ผมเคยได้ใช้ตอนวิ่งทางไกลแล้วพบรถเกิดอุบัติเหตุแต่มืดไปหมด เราได้ใช้สปอร์ตไลท์ช่วยเขา บางครั้งก็ช่วยเรื่องส่องข้างรถ ท้ายรถ หรือ เวลาเปลี่ยนยางล้อในที่มืดๆครับ
5 ยาสามัญประจำบ้าน ผมติดนิสัยออกป่าครับ เวลาออกสนามก็จะมียาสามัญประจำบ้านติดรถเสมอ ที่เราเรียก first aid  และเคยได้ใช้หลายครั้งแล้วครับ ราคาไม่กี่ตังค์หรอก มีไว้เถอะคุ้ม
6 สายลากจูงรถ เป็นในล่อนมีขายตามประดับยนต์ทั่วไปม้วนเล็กๆไม่กินที่ติดไว้ก็ไม่เสียหลายอะไรครับ

7  

8  

กล้องถ่ายรูป

ฟิวส์ หลอดไฟ

หากเกิดอุบัติเหตุเราถ่ายรูปเอาไว้ก่อน กล้องที่มือถือก็ได้ครับ พวกหัวหมอมีมาก หากเราไม่เก็บหลักฐานไว้ก่อนนี่ คดีดิ้นได้ครับ

บ่อยครั้งที่ไฟหน้าดับเพราะฟิวส์ขาด หรือหลอดขาด ปกติรถใหม่มีสำรองอยู่แล้ว แต่รถเก่าต้องตรวจหากไม่มีก็หาเพิ่มเตรียมไว้ 

อื่นๆเห็นหลายคนเตรียมไว้  
     
9 เครื่องปั้มลมฉุกเฉิน ผมเห็นหลายท่านมีติดรถไว้เผื่อยางลมแบนก็เอาออกมาปั้มลมชั่วคราวพอวิ่งไปได้ หาอู่ซ่อม
10 เครื่องดูดอากาศร้อนออกจากรถ รถที่จอดทิ้งตากแดดทั้งวันอุณหภูมิในรถสูงมากๆ ตัวทำลายหลายอย่างในรถ ตามร้านประดับยนต์จะมีตัวเสียบกระจกข้างเพื่อให้ทำหน้าที่ดูดลมร้อนออกจากตัวรถครับ พัดลมทำงานด้วย solar cell เล็กๆครับ
11 Radar detector อันนี้ขอให้พิจารณาเป็นกรณีเฉพาะ ไม่แนะนำทั่วไปครับ
12 สายพานสำรอง สำหรับรถที่วิ่งทางไกลควรมีสำรองไว้(บางญี่ห้อ)
13 หัวเทียนสำรอง เผื่อฉุกเฉิน
14 ไฟแวบฉุกเฉิน นอกจากเปิดไฟกระพริบที่ตัวรถแล้ว บางคนก็เตรียมไฟฉุกเฉินไว้ท้ายรถ

15

16

มือถือเก่าๆราคาถูกๆที่พร้อมใช้งาน

ค้อนหรือขวาน

ผมได้ยินทางทีวีแนะนำในกรณีรถหายตามไม่ได้ เขาแนะนำว่า รถสวยๆราคาแพงๆควรจะมีมือถือเก่าๆพร้อมใช้ติดท้ายรถไว้ เมื่อเราจอดรถก็เปิดเครื่องนี้ไว้แล้วซ่อนในที่ที่ปลอดภัย ทิ้งไว้เช่นนั้น  หากเกิดรถหาย ไม่ใช่เอาไว้โทรหาผู้ร้ายให้เอารถคืนนะ  แต่เราแจ้งตำรวจ หากมีมือถือที่เปิดเครื่องไว้ เขาสามารถใช้ระบบอะไรสักอย่างตามสัญญาณมือถือเครื่องนั้นได้ ก็จะรู้ว่ารถอยู่ตรงไหนครับ..

มีคำแนะนำว่าในกรณีรถตกน้ำจะออกไม่ได้ ให้ใช้ค้อน หรือขวานทุบกระจกครับ

  

โปรดพิจารณาเอาตามความจำเป็น เหมาะสม และอาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้ ท่านเป็นผู้ทราบดีว่าอะไรควรมากน้อยแค่ไหนครับ 

ด้วยความรักและหวังดีครับญาติพี่น้องชาว g2k ครับ   

หมายเลขบันทึก: 158122เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2008 14:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)
  • สวัสดีปีใหม่ครับ
  • เข้ามาเยี่ยมชม มีสาระน่ารู้ที่เป็นประโยชน์จริง ๆ ครับ โดยเฉพาะผู้ที่มีรถยนต์ไว้ใช้เอง

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

อุตส่าห์ตามอ่านเงียบๆ ตั้งแต่ไปเที่ยวลาวแล้วเข้า " ประตูหลัง " เพื่อแกะรอยลำน้ำโขง..แต่มาโดนเปิดโปงเอาในบันทึกนี้ อิ อิ อิ

เทศกาล " ห้ามตาย " นี่ไม่ทราบว่าใครริเริ่มนะคะ พี่บางทราย..เพราะทำใจลำบากจริงๆเวลาที่เห็นป้ายห้ามอยู่ข้างถนนนี่ ยังกะเห็นท่านท้าว ฯ ยืนอยู่ยังไงยังงั้นสิคะ

เบิร์ดอ่านด้วยความเป็นห่วงและสยองในประสบการณ์ใบพัดฟันลูกแมวของพี่บางทราย :(..

แต่ที่นั่งหัวเราะคือช่วงนี้ค่ะ

ผมรีบจอดรถข้างทาง แล้ววิ่งไปดูว่ามีใครอยู่ในรถบ้าง เห็นคนขับรถวิ่งออกมาฝั่งตรงข้าม คือเลนที่ผมจอดรถอยู่ แบบตระหนกตกใจมาก เมื่อถามว่ามีใครอยู่ในรถอีกไหมเขาบอกไม่มีแล้ว ผมวิ่งกลับไปที่รถคว้ากล้อง Fuji S7000 ตัวโปรดเดินไปข้างหน้า ผมก็รีบตั้งกล้อง Auto แล้วลองซูมอิน ซูมเอาท์ ดูภาพ แล้วก็กดชัดเตอร์นับไม่ถ้วนเลยครับ !!!!!!!

พี่บางทรายที่รัก เบิร์ดนึกว่าท่านพี่จะวิ่งไปเอาถังดับเพลิงข้างท้ายรถของพี่มาช่วยเค้าซะอีก ^ ^

คำแนะนำทั้ง 13 ข้อของพี่บางทรายเบิร์ดหันไปสำรวจดูพบว่าเบิร์ดมีแค่ 1 - 3 และ 12 เท่านั้นเองค่ะ..เอ..เราควรมีถังดับเพลิงเล็กๆกับขวานไว้จามกระจก ( หรือเวลาอยากเป็นรามสูร ) เวลาติดอยู่ในนั้นบ้างมั้ยคะพี่บางทราย

เข้ามาป่วนๆๆๆ เพราะถูกพาดพิงค่ะ ^ ^

 

  • ขอบคุณมากครับ  ได้รับของที่ท่านบางทรายส่งมาให้แล้วนะครับ  คิดว่าคงเป็น CD  หวังว่าท่านบางทรายคงหยิบไม่ผิดแผ่นให้ผมนะครับ  อิอิ
น่ากลัวจังค่ะพี่ รถหนูอีกคันมีถังดับเพลิงซุกไว้ใต้เบาะ แต่คันที่ใช้อยู่ประจำไม่มี สงสัยต้องไปซื้อมาเพิ่มแล้วล่ะแบบนี้ หวาดเจี๋ยว ไม่กล้าไปติดแก๊สยอมจ่ายแพงก็เพราะกลัวแบบนี้ล่ะค่ะ

พี่เจอลูกแมว เพื่อนหนูเจองูเหลือม เละเป็นโจ๊กเลยง่ะ ตอนเห็นเราจะอ๊อก

สวัสดีค่ะท่านพี่

  • ครูอ้อย กดเจอเรื่องนี้  ต้องกดเข้ามาอ่านอย่างพิจารณา เพราะครูอ้อยก็อยู่กับรถ วันละ 1 ชั่วโมง เช้าเย็น 
  • น่ากลัวจังค่ะ  ต้องให้พ่อบ้านไปเช็ครถดีดี ซะแล้วค่ะ
  • ขอบคุณท่านพี่ ที่นำเรื่องนี้มาเตือนกัน และปลอบใจกัน

ทั้ง 3 น้องๆ  ก็ไม่ต้องเสียใจ ตกใจค่ะ...ครูอ้อยตกใจเอง หุหุ

 

สวัสดีปีใหม่ครับคุณหมูอ้วน

สวัสดีครับ ยินดีที่รู้จักครับ หลายท่านทราบเรื่องนี้ดีอยู่แล้วครับ  ผมเพียงมาย้ำเพิ่มขึ้นเท่านั้นครับ เพราะชีวิตที่รีบเร่งมันช้างประมาทเสียจริงๆ ไม่ว่าท่านว่าผมหละครับ...

ขอบคุณครับ

 

นี่น้องเบิร์ดมาใกล้ๆนี่ จะให้รางวัล เอากาแฟหอมๆยี่ห้อดาวเรืองของลาวไปซดซะหนึ่งแก้วนะ...

ในรถพี่มีทุกอย่างยกเว้นเครื่องมือดับเพลิงครับ ส่วนค้อนเอาไว้ทุบกระจกแวะรถติดข้างในนั้น ของพี่มีกุญแจเลื่อนตัวบักเอิบ อันหนึ่งแล้ว ใช้ได้..  วันนั้นเลยไม่รู้จะไปดับไฟไหม้รถอย่างไร และเร็วมากครับ พนักงานไฟฟ้าส่วนภูมิภาควิ่งเอาถังดับเพลิงใหญ่มาก้ไม่ทันแล้วด้วย

พี่เห็นด้วยว่าควรจะมีเครื่องมือดับเพลิงฉบับกระเป๋าเก็บไว้ในรถ โอยเครื่องไม้เครื่องมือที่เอามาใส่เพิ่มเติมนี่จะเต็มรถแล้วไหมนี่...อิอิ..

รถราคาแพงๆควรมีไว้ครับ  พี่ว่าอนาคตเครื่องมือเหล่านี้ควรจะ Buildin มาเลยนะ ทำไมบริษัทรถไม่คิดหนา...

ที่สำคัญที่พี่อยากจะเสนอแนะคือ เมืองนอก (อย่าว่ายกตัวอย่างเมืองนอกนะ ก็บางอย่างเขาดีก็ต้องชม) เขามีหลักสูตรทั้งในโรงเรียนและพิเศษ คือสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตในปกติที่ใช้ชีวิตในแต่ละวัน เห็นไหมครับเด็กนักเรียนเด็กๆที่มาเที่ยวภูเก็ตกับพ่อแม่ มาเห็นน้ำทะเลงวดอย่างผิดสังเกตเธอตะโกนว่ากำลังจะเกิดสึนามิ  ใครต่อใครไม่เชื่อ แม้ผู้ใหญ่เอง แต่เธอปลอดภัยเพราะหนีไปก่อนแล้ว เธอเล่าว่าเธอเรียนเรื่องนี้มา ฝึกเรื่องนี้มา..????

บ้านเรามีชื่อวิชานี้แต่เรียนเรื่องอื่น (หรือมีก็ไม่รู้นะ)  แต่สำหรับคนทำงาน ก็ควรจะมีวิชาเหล่านี้  เด็กสาวอย่างน้องเบิร์ดอยู่บ้านคนเดียว ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างหากเกิดกรณีต่างๆขึ้นมา พี่ว่าฝรั่งเขาผ่านสังคมนี้มาก่อนเขาเลยมีการ Train เรื่องนี้ ส่วนเราก้าวไปหาเขาแต่ไม่ได้เตรียมเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นเรื่องปัจเจก แก้ไขกันเอง นั่นหมายถึงว่าเกิดการสูญเสียไปบ้างแล้ว

ถามว่าใครควรทำ ครอบครัว หมู่บ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน เทศบาล สถาบันการศึกษาต่างๆ ชมรม มูลนิธิ  หรือแม้แต่กลุ่มคนแซ่เฮก็น่าคิดนา....

ช่วงหนึ่งพี่ทำงานกับฝรั่งออสเตรเลีย ในโครงการหนึ่งในอีสาน เขาเอาฝรั่งทั้งหมดทะยอยไปเข้า Course ชื่อ Cross Cultural Course มีบริษัทธุรกิจจัดทำขึ้นที่กรุงเทพฯ เขาก็เอาพี่เข้าไป train ด้วย เพื่อจะได้เข้าใจเขา มีนักบริหารจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ international company  มาเข้าหลักสูตรนี้กันมาก ทั้งฝรั่งและไทย เพื่อจะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ในทำนองเดียวกัน ในด้านอื่นๆที่เป็นความเสื่ยงในชีวิตประจำวันต่างๆของคนใช้ชีวิตในเมือง ซึ่งนับวันปัจจัยความเสี่ยงมีมากขึ้น เราน่าจะมีหลักสูตรสั้นๆเรื่องทำนองนี้ขึ้นแล้ว เป็นการเตรียมพร้อมประชาชนเพื่อสังคมแบบนี้

นี่คือการไม่ประมาทไงล่ะครับน้องสาวคนเก่งครับ..

เอ..น้องเบิร์ดเรามาเปิดโรงเรียนแบบนี้กันดีไหม อิอิ นักจิตวิทยาเก่งอยู่แล้ว...

   

สวัสดีครับพี่

        มองเห็นยอดเพลิงแล้วเห็นเป็นตัวเลขเลย ฮ่าๆๆๆ ระวังคนมาเจอแล้วตีเป็นหวยนะครับ

        เป็นการลดจำนวนรถในอีกแบบหนึ่งครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ มองเห็นแล้วทำให้คิดอะไรต่ออะไรและมองไปเห็นสภาพความจริงในโลกนี้มากขึ้นครับ 

        ปริมาณรถก็จะเพิ่มขึ้นครับ วันหนึ่งเราน่าจะก้าวไปถึงยอดสิบล้านคันทั่วประเทศไทย หากเอาจำนวนรถมาพล็อตดูน่าจะเห็นอะไรมากขึ้นครับ แล้วเอาปริมาณป่าไม้มาพล็อตดูด้วยในกราฟเดียวกันขึ้นกับเวลา น่าจะเห็นอะไรสนุกๆ บ้างครับ

        ธรรมชาติ และ เทคโนโลยี  เพื่อคู่ซี้ ครับ

ขอให้พี่ชายมีความสุขในการทำงานนะครับ

 

สวัสดีครับคุณหมอคนชอบวิ่ง

หากส่ง CD ผิด ห้ามคุณหมอเก็บไว้นาต้องรีบส่งคืน อิอิ

คุณหมอช่วยกระจายด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

สวัสดีครับ น้องP   Little Jazz \(^o^)/


น่ากลัวจังค่ะพี่ รถหนูอีกคันมีถังดับเพลิงซุกไว้ใต้เบาะ แต่คันที่ใช้อยู่ประจำไม่มี สงสัยต้องไปซื้อมาเพิ่มแล้วล่ะแบบนี้ หวาดเจี๋ยว ไม่กล้าไปติดแก๊สยอมจ่ายแพงก็เพราะกลัวแบบนี้ล่ะค่ะ

การติดถังแก๊สเป็นการประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายดี แต่ร้านที่ติดน่ะ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เจี๋ยว...อย่างว่าแหละน้องทาร์ซาน เอ้ย ซูซาน..แซวเล่นนา.. พี่ยังไม่กล้าเล้ยยย...เหมือนน้องเลย..
พี่เจอลูกแมว เพื่อนหนูเจองูเหลือม เละเป็นโจ๊กเลยง่ะ ตอนเห็นเราจะอ๊อก
ป๊าดดด...งูเหลือม....ใบพัดรถไม่หักรึ...ของพี่นี่ไม่กล้าไปเก็บเศษ ต้องจ้างยามไปเก็บให้ แล้วลากรถเข้าอู่ไปเลย..ไม่ได้เจตนาจริงๆนะ...
ครูอ้อยครับ P  5. สิริพร กุ่ยกระโทก


  • ครูอ้อย กดเจอเรื่องนี้  ต้องกดเข้ามาอ่านอย่างพิจารณา เพราะครูอ้อยก็อยู่กับรถ วันละ 1 ชั่วโมง เช้าเย็น 

ชีวิตในเมืองยิ่งต้องเตรียมตัวมากนะพี่ว่า เพราะมันรีบเร่งไปหมด พื้นที่ที่จะช่อมบำรุงก็ไม่สะดวก ต้องเตรียมพร้อมตลอด

ชีวิตคนกรุง หรือในเมืองจึงต้องเสียเวลาไปกับยานพาหนะนี้อย่างต่ำ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในเรื่องการดูแลรักษานะครับ ยกเว้นว่ามีฐานะจะจ้างคนขับรถและให้เขาดูแลด้วยก็อีกแบบหนึ่ง

อย่าประมาทครับ

ไม่งั้น เข้าตำรา เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย

ที่สำคัญเสียเวลานี่ซิ คนเมืองนี่เวลาเป็นสิ่งมีค่าที่สุด

หากคุณผู้ชายเป็นคนรักรถละก็เรื่องเหล่านี้ไม่ต้องบอกเขา เขาเก่งอยู่แล้ว ส่วนคุณสุภาพสตรีแบบคนที่บ้าน เธอบอกว่า เธอใช้เป็นอย่างเดียว อิอิ ส่วนเรื่องดูแลนั้น บางทรายไปดูแลหน่อย

วันหนึ่งยางรถแบน เธอยังไม่รู้สึกเลย ขับบดจนมาถึงบ้าน แล้วมาถามว่ารถเป็นอะไร ..หุ..หุ...

ครูอ้อย ยังนี้ต้องทำโทษหอมแก้มสองข้างเน๊าะ... 

สวัสดีน้องเม้งครับ

        มองเห็นยอดเพลิงแล้วเห็นเป็นตัวเลขเลย ฮ่าๆๆๆ ระวังคนมาเจอแล้วตีเป็นหวยนะครับ

 

พูดถึงตัวเลข ครั้งหนึ่งนานมาแล้วพี่ขับ Toyota jeep ไปทำงานที่มหาสารคาม ยางเกิดแบนขึ้นมา ต้องให้ช่างอู่เล็กๆปะให้ เมื่อเสร็จธุระก็กลับขอนแก่นทางเชียงยืน ออกจากมหาสารคามได้หน่อยถึงโค้งหนึ่งล้อหน้าซ้านมันหลุดวิ่งแซงรถออกไปข้างถนน ซึ่งเป็นทุ่งนา วิ่งต่อไปชนคันนากระดอนสูงมากเกือบไปตกลงบนหลังคาบ้านคน  เมื่อล้อหน้าหลุด ตัวรถก็ทรุดลงฮวบ เอยงข้าง กะทะล้อก็สีกับถนนด้วยแรงความเร็วรถ เป็นสะเก็ดไฟกระเด็นออกมาเต็มไปหมด ชาวบ้านข้างทางร้องวี๊ดว้าย...แล้ววิ่งกันมา พี่กับพี่ชายอีกคนที่นั่งไปด้วยก็ยังคุยกันขณะตกใจว่าเออชาวบ้านคงออกมาช่วยเรานะ ใจดีจังเลย พอบังคับรถหยุด ชาวบ้านก็มาถึงกันหลายคน  .......เขามาออกันเต็มท้ายรถครับ แทนที่จะวิ่งมาถามเราว่าเป็นไงบ้าง...เขาไปดูเลขทะเบีนรถครับ...อิอิ..เรางี้...ขำไม่ออก  แต่ก็มาอยู่ หลังจากเขาทราบเลขทะเบียนแล้วก็เข้มาถามไถ่ มาจากไหนจะไปไหนทำไมล้อหลุดได้ ......งวดนั้นถูกหรือไม่ไม่ได้ตามครับ.... 

        เป็นการลดจำนวนรถในอีกแบบหนึ่งครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ มองเห็นแล้วทำให้คิดอะไรต่ออะไรและมองไปเห็นสภาพความจริงในโลกนี้มากขึ้นครับ 

        ปริมาณรถก็จะเพิ่มขึ้นครับ วันหนึ่งเราน่าจะก้าวไปถึงยอดสิบล้านคันทั่วประเทศไทย หากเอาจำนวนรถมาพล็อตดูน่าจะเห็นอะไรมากขึ้นครับ แล้วเอาปริมาณป่าไม้มาพล็อตดูด้วยในกราฟเดียวกันขึ้นกับเวลา น่าจะเห็นอะไรสนุกๆ บ้างครับ

        ธรรมชาติ และ เทคโนโลยี  เพื่อนคู่ซี้ ครับ

เมื่อกลางวันยังคุยกับท่านอาจารย์ท่านหนึ่งเรื่องการพึ่งพาเทคโนโลยี่ของคนยุคนี้และยุคหน้าของประเทศลาว และของเราเอง ว่าเราเป็นสังคมบริโภค มีแต่ซื้อเขา ที่ผลิตเองมีน้อย หรือมีก็เป็นร่วมทุน..สิ่งที่เราบริโภคนั้นพึ่งพาเทคโนโลยี่เขาหมดและเป็นแบบสำเร็จรูปมากขึ้นเรื่อยๆ คนทำงานมุ่งแต่หาเงินเพื่อไปบริโภค ไม่สามารถพึ่งตัวเองได้เลย  แม้พื้นฐาน คอยดูซิต่อไปเป็นอย่างไรเมื่อทรัพยากรลดลงมากจนไม่สามารถเอามาผลิตอะไรได้เพียงพอต่อไปแล้ว  แล้วคนที่บริโภคจนเป็นวิถีไปแล้วจะมีชีวิตอย่างไรเมื่อพึ่งตัวเองก็ไม่ได้ แม้พื้นฐาน พี่งเทคโนโลยี่ก็หมดแล้ว ไม่มีวัตถุดิบมาทำแล้ว โลกจะเกิดสงครามใหญ่

สังคมจะแยกเป็นส่วนๆ ส่วนหนึ่งย้อนกลับไปเป็น primitive life อีกส่วนหนึ่งก็พยายามพึ่งวิทยาศาสตร์มากขึ้นไปอีก และเชื่อมั่นว่ามีทางออก ซึ่งแนวทางนี้ควบคู่มากับระบบธุรกิจ แบบ multinational company คนใน generation หน้าจะเผชิญภาวะบีบคั้นมากขึ้น นักจิตวิทยาแบบน้องเบิร์ดจะทำงานหนักขึ้นเป็นสิบเท่าตัว  ไม่มีเวลามาเขียน g2k อีกแล้ว  แม้ว่าแควนๆ จะเรียกร้องสักเท่าใดก็ตาม เพราะเธอเสียสละเวลาให้คนป่วยมากกว่า อิอิ..

น้องเม้งว่ามั๊ย....

สวัสดีครับพี่บางทราย

        ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับประสบการณ์ดีๆ ที่เล่าให้รับรู้ครับ ผมจินตนาการตามเลยครับ ตอนรถกำลังเคลื่อนที่ ล้อกำลังกระดอนข้า้มคันนา แต่คนไม่เป็นอะไร ก็คนดีครับ ธรรมชาติจะอุ้มไว้ครับ

        สำหรับเรื่องโลกนี้ในยุคหน้า น่าจะเิกิดได้สองอย่างครับ คืออย่างแรกระบบจะวิ่งสู่วิกฤตอย่างที่พี่ว่า แล้วธรรมชาติมาช่วยเอาไว้ มาช่วยปัดเป่า ล้างคราบที่ชั่วร้ายทิ้งไป

        กับกรณีที่สองคือ ธรรมชาติมาช่วยล้างก่อนระบบจะตกถึงหุบเหวครับ ธรรมชาติจัดสรรนะครับ เหมือนที่หาดทรายต่างๆ ที่ภูเก็ตหาดป่าตองไงครับ ก่อนหน้านี้ภาวะเปลี่ยนไป พอสึนามิมาทำความสะอาดหาดทรายก็ขาวขึ้น ดีขึ้น  น้ำทะเลที่เกาะพีพีก็ใสขึ้น มองได้ดีลึกสวยขึ้น  นี่คือธรรมชาติจัดสรรครับ

        ดังนั้นตรงไหนที่หนักหนามากก็จะมีการจัดสรรเสียก่อนจะเกิดหนัก ตรงไหนพัฒนามากก็จัดการเีสียก่อน ตรงไหนคนมากก็หยุดเสียก่อน เหมือนแผนที่ปลาไงครับ โยนก้อนหนมปังลงไปที่ กทม. ปลาิ่ว่ายกันไปเกรียวเลยครับ ตอนแรกอาจจะเป็นหนมปังบริสุทธิ์ หลังๆ มาอาจจะหนมปังพิษครับ

        ผมถึงไม่ค่อยจะเห็นด้วยในการพัฒนาเพียงแค่รวมศูนย์ แต่พูดอะไรมากไม่ได้ครับ หากระบบขาดความสมดุลแล้วคนผู้ได้ชื่อว่าสัตว์ประเสริฐที่ฝึกได้ คิดได้ ระลึกได้นั้นไม่ทำกันก่อน ผมเชื่อว่าคำตอบสุดท้ายคือ พระธรรมชาติจะช่วย และเชื่อว่าพระธรรมชาตินั้นจัดการให้ทุกอย่างสมดุลดังเดิมได้ครับ

        ต่อไปคนอาจจะเข้ากรุงน้อยลงครับ กทม.แผ่นดินยุบลงปีละนิดสองนิดครับ หลายๆ ปีรวมๆ กันใครจะไปรู้พี่ว่าไหม ตึกสูงๆ ที่รับน้ำหนัก ก็พื้นที่ กทม.เป็นพื้นที่นามาก่อน ไม่ใช่โครงสร้างภูเขาครับ ประกอบกับการกัดเซาะหรือน้ำรุกชายฝั่งอีกครับ เรายังต้องสร้างอะไรลงไปใน กทม.อีกเยอะครับ ไม่ว่าจะใต้ดินที่มีแผนจะทำเป็นเครือข่ายใต้ดิน บนดินอาจจะเต็มแล้วหรือทุบแล้วสร้างใหม่ครับ ส่วนเหนือพื้นดินก็จะสร้างกันต่อไปครับ รับน้ำหนักได้แค่ไหน ไม่อยากจะพูดมากด้วยครับ และไม่อยากจะจินตนาการด้วยครับ หากแผ่นดินไหวจะเกิดอะไรขึ้น ใต้ดินยังมีโครงสร้างดินหินที่เชื่อมโยงกันอยู่อีกครับ สั่นที่ อินโดฯ  ส่งถึงหาดใหญ่ ส่งถึง กทม. ส่งถึง เชียงใหม่  ดั่งภูเขาสองยอดในทะเล จริงๆ คือสิ่งเดียวกัน เพียงแค่มีม่านน้ำทะเลมากัดไว้หลอกตาเราแค่นั้นเอง

        หากมนุษย์ผู้เชื่อมั่นในตัวตนสูง และหาญกล้าจะท้าธรรมชาติเพื่อเอาชนะนั้น วันหนึ่งก็น่าหนักใจครับ หากคิดไ่ม่ได้คิดไม่ทันเพื่อจะอยู่ร่วมอย่างเข้าใจและเกื้อกูลอย่างเป็นธรรม

        หากพี่คิดว่าภูเขาแต่ละลูกมีหัวใจ มีจิตอาศัยอยู่ได้ ผืนน้ำ คลองแสนแสบ ก็คงมีจิตอาศัยอยู่เช่นกัน ถามว่า น้ำดี ดินดี อากาศดี ก็ย่อมมีจิตดีๆ อาศัยอยู่ แต่หากกลับกันก็ย่อมมีจิตอีกแบบหนึ่งอยู่เช่นกัน

        คนที่น่าจะรับกรรมหนักก็คือ คนที่สร้างสิ่งแปลกปลอมให้กับธรรมชาตินี้ล่ะครับ เราก็เป็นส่วนหนึ่ง สภาวะที่บีบคั้นก็คงเป็นไปตามแบบที่พี่ว่านะครับ สรุปหลักๆ ตามจินตนาการคือ เราแพ้ภัยตัวเองนะครับ

อิๆๆ... แต่เชื่อว่าิ่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งดีๆ จะกลับคืนมาครับ ถามว่าใครจะมีโอกาสได้พบกับสิ่งดีๆ เหล่านั้นในโอกาสต่อไปครับ

ขอบคุณมากๆ นะครับ 

น้องเม้งครับ

         พี่เชื่อในการปรับสมดุลทางธรรมชาติครับ ซึ่งมีตัวอย่าง กรณีสึนามิที่น้องเม้งกล่าวก็ใช่เลย  กรณีนี้หลังการปรับใหม่แล้วกลายเป็นดี สวยกว่าเดิม ...

          แต่ก็จะต้องมีการปรับสมดุลใหม่ทางธรรมชาติที่สภาพใหม่นั้นไม่เหมาะสมกับการดำรงอยู่ของชีวิตในหลาย phylum และหลาย spicies ก็เป็นได้ และหนึ่งในนั้นก็อาจจะเป็น Homosapian ด้วย  เพราะการปรับตัวของเราต้องใช้เวลานับล้านๆปี  แต่การปรับสมดุลทางธรรมชาติอาจจะเพียงแค่ข้ามคืนน่ะครับ ภาวะนามิให้เป็นเช่นนั้น

          เค้าแห่งความยุ่งเหยิง (Chaos) มาจากการที่คนห่างไกลธรรม พอกพูนกิเลส แสวงหาอำนาจจากฐานต่างๆไม่ว่าเศรษฐกิจ การเมือง ระบบต่างๆ เพื่อตอบสนองกิเลส ตัณหาตัวเองจนศีลธรรมเป็นเพียงลมที่พัดผ่านชั่ววูบเท่านั้น ไม่สามารถกล่อมเกลาสำนึกแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ ศาสนาเรียกยุคหลง ยุคมืด  เมื่อโลกของธรรมชาติปรับตัวใหม่ ความสมดุลใหม่จึงล้างสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติใหม่ไปด้วย...

          ทำไมศาสนาจึงเรียกยุคนี้ว่ายุคหลง หรือยุคมืด เพราะความสว่างไสวได้เกิดขึ้นแล้วคือการประกาศสัจจธรรมของศาสนาทั้งหมด คำประกาศของท่านศาสดาทั้งหลายคือทางออก ทางไปที่มนุษย์พึงสำเหนียก แล้วปฏิบัติตาม แต่ไม่สนใจ แต่กลับฝืนกฎแห่งธรรมชาติด้วย เมื่อเป็น ultimate curve ช่วงต่อไปก็ย่อมลง

          พี่เชื่อเรื่องการปรับตัว  การปรับสมดุลใหม่ ของธรรมชาติครับ

  • ปกติขับสองล้อ แต่พอมีครอบครัวต้องมาขับสี่ล้อเพราะกลัวเมียสาวเป็นหม้าย ลูกชายก็กำลังน่ารัก อันนี้ต้องถนอมรักชีวิตมากขึ้น
  • ขอบคุณสำหรับข้อมูลความปลอดภัย ตั้งสติก่อนสตาร์ทอาจจะไม่พอ ต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆเผื่อฉุกเฉินด้วย อย่างที่พี่แนะนำนี่ดีมากครับ
  • ขอบคุณแทนผู้โดยสารทุกคนของผมด้วยนะครับ ที่ทำให้เราเดินทางอย่างมั่นใจมากขึ้น

น้องยอดดอยครับ

  • ฝรั่งเขามีมาตรฐานตรงนี้สูงกว่าเรา ช่วงที่มีทำงานกับเขานะ หากไม่มีรายการสำคัญๆ โดยเฉพาะ first aid เขาไม่ให้ออกรถเลย ต้องมีครบ  และพนักงานขับรถต้องตรวจสอบ first aid ทุกสัปดาห์ เผื่อใครใช้ยาลม ยาดม ยาหม่อง ฯลฯ หมด จะจัดหามาเติมให้พร้อม พี่ว่าดีมากเลยและได้ใช้ประโยชน์จริงๆ หากไม่ได้ใช้กับคนในรถเรา กับคนอื่นๆ ชาวบ้าน รถคันอื่น ได้ใช้แน่ครับ
  • first aid เป็นแค่เบื้องต้น หากครอบครัวไหนใครไม่สบายเป็นอะไรบ่อยๆ ก็เตรียมไว้ก่อน พวก ท้องเสีย ยาแดง ผ้าพันแผล หากเราไม่ได้ใช้ก็ช่วยเพื่อมนุษย์เมื่อเราพบอุบัติเหตุครับ
  • ของพวกนี้เราไม่คุ้นกับการเตรียมน่ะครับ หากได้ทำแล้วจะรู้สึกดีขึ้น ยิ่งเรามีลูกหลาน เตรียมไว้เถอะ ได้ใช้แน่  ไม่ต้องไปวิ่งหาร้านขายยา 

สวัสดีค่ะ อาจารย์บางทราย

  • เป็นข้อเตือนสติ  ที่ดีมาก เห็นรายการเพื่อความปลอดภัย
  • รถหนู มีแค่ 6 รายการ อิอิ
  • ฆ้อน ก็ไม่ได้มีนะคะ มีแต่มีดอีเหน็บ
  • ถ้ามีเหตุด่วนเหตร้าย เหมือนในรูป 
  • คงหอบกันหนีได้แค่หอยโข่ง ตัวเดียวค่ะ
  • เพิ่มเติมอีกนิด ว่าน้ำก็อย่าให้ขาดรถค่ะ
  • ขอบคุณมากนะคะ

 

สวัสดีครับน้อง P 19. coffee_mania

เออ..ใช้ พี่ก็นึกอยู่ว่าขาดอะไรไปน้า....น้ำนี่เอง

ปกติพี่จะเอาน้ำขวดใหญ่ใส่ไว้อย่างน้อยสองขวดครับ ทั้งเอาไว้เผื่อเหลือเผื่อขาดสำหรับดื่ม และสำหรับเติมน้ำให้รถหากน้ำพร่องลงไป

น้องคุกี้รุฝากความคิดถึงมาให้น้องหอยโข่งนะ

  • สวัสดีครับพี่บางทราบย
  • ขอบพระคุณมากครับ ที่นำมาช่วยเตือนให้เตรียมพร้อม  บางอย่างผมก็คิดไม่ถึงแต่ก็มีความจำเป็นจริงๆ นะครับ
  • ผมได้รับ CD เรียบร้อยแล้วครับ และจะส่งต่อให้พี่ประสิทธิ์และพี่วาดต่อครับ
  • ขอบพระคุณอีกครั้งครับ

สวัสดีครับน้องสิงห์

 เรื่องรถบางทีก็เป็นหญ้าปากคอก เพราะงานเรายุ่งเลยไม่มีเวลาดูแลว่าอะไรขาดตกบกพร่อง  บางทีคิดได้แต่ไม่ได้ทำน่ะครับ  บางทีก็คิดไม่ถึงอย่างว่า  โดยเฉพาะเดินทางไกลนี่จะต้องเตรียมตัวดีดีหน่อย เพราะเกิดอะไรกลางทางมานี่ลำบากเพราะไม่ใช่ถิ่นเราครับ ดังนั้นเตรียมไว้ก่อนดีกว่า

ได้รับ CD แล้วนะครับ

ทำไมไม่เข้าไปช่วยดับล่ะครับ

ท่านผู้ชม.0....

เหตุผล เจ้าของรถเองบอกว่า

1. พี่ มันไม่สามารถดับได้เพราะเราไม่มีเครื่องมือดับเพลิง

2. และแม้เจ้าของรถเองยังบอกว่า กลัวมันระเบิด

3. ประกอบกับ  เจ้า หน้าที่การไฟฟ้าสองสามคนออกมาดูแล้วก็แบกถังดับเพลิงมาพยายามจะไปดับ แต่ไฟไหม้รถรวดเร็วมากครับ เพียงไม่กี่นาทีก็ลุกท่วมคันเสียแล้วหากดับไฟก็หมดสภาพรถแล้ว เพียงแต่พยายามดับเพราะไม่ต้องการให้มันระเบิด.....


ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท