เพราะมองลบทำให้ไม่รู้


    ผมเองได้มานั่งตรึกตรองดูว่า เพราะการมองโลกในแง่ลบนั่นเองที่ทำให้ผมเองไม่ได้ความรู้ เหตุเพราะการมองโลกในแง่ลบ ทำให้เราปิดใจตนเอง

     การมองในแง่ลบอาจเกิดเพราะ รัก โลภ โกรธ หลง วิตกกังวล ฟุ้งซ่าน ต่างๆ นานา ตามสภาวะอารมณ์ เมื่อจิตไม่ตอบสนองต่อความต้องการ มักจะสิ่งนั้นเป็นลบเสมอทำให้ใจประตูหัวใจของเราถูกปิดลง...

"เอี๊ยด...ปัง"

"เสียงอะไร"

   พี่ๆ นักเรียนรู้ที่อ่านอย่าตกใจนะครับ เป็นเสียงของประตูหัวใจที่ถูกปิดลงเพราะความมีตัวตนที่ทำให้เราเกิดทุกข์ นั่นคือ การมองในแง่ลบหรืออคติครับ

     ผมเองเคยมีเรื่องหนึ่งที่ผมเองก็อคติ นั่นคือการที่ได้รับการไปอบรมโครงการหนึ่ง ตอนนั้นเราเองไม่มีความรู้เลย ก็ลองเปิดใจไปเรียนรู้บ้าง...

พอไปแล้ว...สักพักเริ่มรู้ตนเองว่า คนละทาง ก็ปิดใจ เริ่มเล่น เริ่มง่วงนอน

ผลสุดท้าย เพื่อไม่ให้น่าเกลียดก็ออกไปข้างนอกครับ...

แต่พอกลับเข้ามา พบว่า สาระและประโยชน์ อยู่ตรงที่เราออกไปนั่นเอง

พอไปถามคนอื่นๆ เขาก็ตอบแบบผ่านๆ บางคนก็ไม่ยอมตอบก็มี ผลคือผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

พอทำแบบทดสอบเพื่อนผมเขาได้ดีๆ กันทั้งนั้น...

ใจผมจากที่ปิดใจจากความรู้ก็เลยมาปิดใจกับเพื่อนอีก เริ่มมองคนอื่นในแง่ลบ ประมาณว่า

"ทำอย่างไรดี ..เขาเก่งกว่าเรา จะทำอย่างไร เก่งนักใช่ไหม ?"

สุดท้ายลงเอยที่ว่า "ในเมื่อเก่งกว่าเราดีนัก ต้องแกล้งมัน"

เริ่มจากพูดจากระทบกระเทียบ เป็นวิธีการแบบ "บ้านๆ" เพื่อความสะใจ

แต่เพื่อนคนนั้นไม่โกรธผม...ทั้งๆ ที่รู้ กลับเฉยเสียจนเพื่อนคนอื่นโกรธแทน โกรธเพราะเพื่อนไม่โกรธ แต่ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

ครั้นต่อมาพอมาดีกัน ผมเลยถามเขาตอนหลังว่า "ทำไมถึงไม่โกรธผม"

   กับคำพูดที่ผมแทบยอมก้มหัวให้เลยที่ว่า "ก็เพราะเรารู้ว่านายเป็นคนแบบนี้จากที่เราได้คบกับนาย ถึงจะไม่รู้มากเท่าไหร่ แต่เราอยู่ด้วยทำกิจกรรมด้วยกันหลายปี นั่นทำให้เรารู้นิสัยใจคอนายมากขึ้น นายจำได้ไหม ครั้งหนึ่งนายเคยทำแบบนี้กับเรา แล้วเราโกรธกันตั้งนานกว่าจะคืนดีกัน มาครั้งนี้ หากเราโกรธไปแล้ว ด่าว่ากระทบกระเทียบนาย มันก็คงเหมือนแบบเดิมอีก ก็เลยต้ิองเข้าใจนายบ้าง ก็ต้องยอมรับฟังนายบ้าง

     เพราะหากฉันไปโกรธนายก็แสดงว่าฉันมีความไม่รู้อยู่ในใจ เพราะนอกจากคิดลบกับนายแล้ว ยังไม่ได้เรียนรู้ในตัวตนของนายอีกด้วย เมื่อไม่รู้ต่อไปการจะเข้าใจนาย และมาคบกับนายก็คงยาก เพราะเราไม่เข้าใจซึ่งกันแล้ว

     การที่นายว่ากระทบเรา ใช่ว่าเราจะไม่รู้นะ แต่เพราะหากต่อไปแล้ว ก็จะทำให้โกรธกันเปล่าๆ เราเองก็ยอมรับในตัวนายจากคำพูดของนายว่านายรู้แค่นี้ เท่านี้ เพราะนายไม่รู้ในบางช่วง นายก็พูดกระทบเราตามความคิดของนาย เราเลยคิดว่าน่าจะยอมตามนายดูบ้าง จะเรียนรู้และเข้าใจในตัวนายไม่ดีกว่าหรือ ?

   แต่นายอาจจะบอกว่าฉันก็รู้ จริง นายรู้ในความรู้ของนาย มันมีเท่าไหร่ก็นั่นแหละคือความรู้ของนาย จะว่าไม่รู้หรือรู้ไม่จริงไม่ได้ นายมีความรู้แต่นายยังขาดการเรียนรู้ เพราะนายยึดติดกับความรู้นั้น ไม่ได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจ เรียนรู้ที่จะคบกับเรา เรียนรู้ว่าเราเป็นอย่างไรรู้สึกอย่างไรในขณะนั้น เรียนรู้ที่จะเข้าใจเรา ยอมรับเราเป็นเพื่อนในตอนนั้น เพราะอารมณ์ที่นายมีอคติ มองโลกในแง่ลบนั่นแหละที่ทำให้นายไม่ได้ความรู้จากการยอมรับในตัวของเรา เพราะต่อให้พูดไปถึงดีแค่ไหนก็ตาม นายก็ไม่ฟังเรา แต่พอนายนึกขึ้นมาได้ถึงข้อดีของเพื่อนคือนายคิดบวกแล้ว นายจะเห็นว่าเรามีอะไรที่เรียนรู้ร่วมกันอีกมาก บางสิ่งมาเสริม มาเติม ที่ขาดหายไป แต่นั่นขึ้นอยู่กับใจของนายนะ

   แต่การที่จะทำแบบนี้ได้มันยากนะ ถ้านายโกรธเราแล้วเราโกรธนายด้วยแล้ว คุยกันไม่รู้เรื่อง ถ้าโกรธทั้งสองคนก็ต้องมาเจอกันคนละครึ่งทาง เปิดใจด้วยกันพูดคุยถึงปัญหาที่ไปในแนวทางเดียวกันได้ มองในภาพรวมด้วยเหตุและผลเท่านั้น

   ก็เหมือนครั้งนี้ที่นายโกรธนั่นแหละ นายชวนทะเลาะกับเรา สักพักพอนายหายโกรธ นายจะนึกขึ้นมาได้ว่า เราเป็นเพื่อนนาย เราจะทะเลาะกันทำไม ? พอนายนึกได้ นายก็อยากคืนดีกับเราเพราะนายเห็นเราเป็นเพื่อน เห็นคุณค่าของคำว่าเพื่อนนั่นเอง"

    จากข้อคิดที่ได้จากเพื่อนนี้ ทำให้ผมคิดได้อะไรหลายๆ อย่าง ที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานได้ดี นั่นคือ เพราะมองลบทำให้ไม่รู้คือไม่รู้วิชาและไม่เข้าใจเพื่อนด้วย ดังนั้นการคิดบวกหรือมองโลกในแง่ดี  การไม่เบียดเบียนผู้อื่น และจิตใจจะเป็นสุข การคิดลบหรือไม่เปิดใจแล้ว เบียดเบียนผู้อื่น จะทำให้เกิดทุกข์ เมื่อยังยึดในความมีตัวตนอยู่ก็ยากที่จะเข้าใจกัน ยากที่จะเข้าถึงคบสนิทสนมกัน และการพัฒนาสัมพันธภาพต่อไปก็คงยากครับ

"มิตรภาพสำคัญเสมอ"

ขอบพระคุณครับ

23 มีนาคม 2553

หมายเลขบันทึก: 346589เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2010 23:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 14:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจนะ
  • ใจเป็นผู้กำหนด
  • มิใช่อยู่ที่คนอื่นใด
  • เป็นกำลังใจให้เสมอ
  • ยืนหยัดให้ยั่งยืนนะน้องชาย
  • ทำให้ได้นะ

ขอบพระคุณ พี่ kk มากครับ

  • คุ้นๆ นะครับ kk
  • จริงครับทุกสิ่งใจกำหนด มิใช่อยู่ที่คนอื่นใด อยู่ที่ใจของเราเอง
  • ขอบพระคุณนะครับ

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านเรื่องราว

มองโลกในแง่ดีทำให้มีความสุขค่ะ

ขอบคุณนะคะ

หลับฝันดีค่ะ^__^

ขอบใจมากนะครับ น้องPต้นเฟิร์นที่แวะมาเยี่ยมเยือน

  • หลับฝันดีเช่นกันนะครับ

สวัสดีค่ะ

  • คนเราทุกคนอยากเป็นคนมีความรู้ ความชำนาญ และอยากให้มีการยอมรับ
  • นั่นคือการได้เป็นผู้ชนะ
  • แต่การชนะมาจากการแข่งขัน บางคนชนะในเกม บางคนชนะใจตนเอง
  • เมื่อมีชนะก็ต้องมีฝ่ายแพ้ บางคนแพ้ในเกม ในการแข่งขัน โลกย่อมยกย่อง
  • แต่ที่สำคัญบางคนแพ้เพื่อให้สังคมชนะ...น่ายกย่องมากกว่าไหมคะ?????

ขอบพระคุณครับ พี่Pครูคิม

  • ขอบพระคุณในความคิดเห็นนะครับ
  • เห็นด้วยครับกับคำว่า "คนเราทุกคนอยากเป็นคนมีความรู้ ความชำนาญ และอยากให้มีการยอมรับ" แต่หากใจของตนเองไปติดกับความมีตัวตนคือ การได้เป็นผู้ชนะแล้ว สังคมแห่งกิเลสก็งอกงามขึ้น คนเป็นผู้ชนะก็ย่อมอยากเป็นผู้ชนะต่อไป ส่วนคนแพ้ก็คงอยากจะเป็นผู้ชนะบ้าง เป็นธรรมดา
  • เหมือนดั่งเพลงกราวกีฬานะครับ แต่ถ้าดีที่สุดคือ ไม่มีแ้พ้ไม่มีชนะ มีแต่หันหน้าเข้าหากันด้วยมิตรภาพ แต่นั่นแหละจิตใจของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน บางคนชอบการแข่งขัน เพราะึ"ความอยากมี อยากเป็น"ผู้ชนะเกิดขึ้นมานั่นเอง
  • ละความมีตัวตนลงได้ จะมีแต่ความสุขครับ

ขอบพระคุณครับ ท่านP เบดูอิน

  • มีความสุขมากๆ นะครับ

เพื่อนน้องนัฐน่ารักนะคะ มีเพื่อนดีอย่างนี้วิเศษยิ่ง

เวลาเพื่อนโกรธถ้าคุยบอกกันก็ดีไปจะได้แก้ไข แต่อีกกรณีเฉยๆเงียบแล้วหายไปนี่สิ

ยิ่งงงไปกันใหญ่ ทิ้งไว้เป็นปรัศนีย์ ปุจฉาไร้วิสัชฉา ค้างคากันไว้เป็น ปริศนานิรันดร

๕ ๕ ...  "เอี๊ยด...ปึง "  เสียงผลักประตูเปิดค่ะ ;) 

ขอบพระคุณครับ พี่P poo

  • ผมเองก็เคยเจอเงียบๆ หายไปเลย แบบนี้คือโกรธ แต่ไม่อยากบอกให้เราทุกข์ แต่ใจเขาก็เป็นทุกข์เพราะโกรธเรา แบบนี้้ต้องใช้ระยะเวลา และสร้างความศรัทธาเชื่อมั่นคือสร้างการยอมรับกลับคืนมาครับ อาจจะนานช่วงหนึ่ง แต่พอเขาเริ่มไว้ใจ ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นครับ

ขอบพระคุณครับ ท่านP ฺBy Jan

  • ขอบพระคุณสำหรับคำชมเชยนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท