กรณีศึกษา : โรงเรียนสาธิตของบิลล์ เกตส์


"ความสำเร็จเป็นครูที่แย่มาก เพราะมันทำให้คนเก่ง ๆ คิดว่า เขาล้มเหลวไม่ได้" ... บิลล์ เกตส์

ข้อเขียนเกี่ยวกับการมองดูการศึกษาเชิงมหภาคแบบนี้ น่าสนใจที่ดูเป็นตัวอย่างจากคนที่มีเงินทุนที่เรียกว่า มหาเศรษฐี เขาดูแลสังคมของเขาอย่างไร เอะ ! เหมือนเมืองไทยไหมที่เอาเงินไปแจกคนจน ช่วงใกล้เวลาหาเสียง ... การศึกษาไม่ได้รับการเหลียวแลในรัฐบาลของคนหน้าเหลี่ยมนี้ มีแต่ตีรวนกฎระเบียบ ความเป็นไปให้มันยุ่งมากขึ้น ครู 5 ปี ตีกันสนุ๊กสนุก

คุณหมอกมล แสงทองศรีกมล เขียนข้อเขียนนี้ไว้ในหนังสือ "พลิกเรื่องเรียนรู้สู่อัจฉริยะ" ไว้ อยากถ่ายทอดข้อเขียนให้ท่านทั้งหลายได้อ่านความดู เพื่อนำมาซึ่งจุดเริ่มต้นของความคิดดี ๆ เพื่อวงการการศึกษาไทยให้ดีก็เป็นได้

 

************************************************************************

 

มีผู้สำรวจเด็กเวียดนามว่า เมื่อโตขึ้นเขาอยากเป็นใคร เด็กเวียดนามส่วนใหญ่ตอบว่า อยากเป็น บิลล์ เก็ตส์ เขาน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของบุคคลที่พร้อมทั้ง IQ EQ และ MQ

IQ ดูได้จากอัจฉริยภาพในเรื่องการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของเขาตั้งแต่วัยรุ่น

EQ ดูได้จากความสามารถทางธุรกิจ ในการสร้างไมโครซอฟต์ที่ทำให้เขาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก

MQ ดูได้จากความตั้งใจจริงที่จะคืนกำไรโดยการช่วยเหลือสังคม

 

มูลนิธิ The Bill & Melinda Gates Foundation คือ องค์กรการกุศลที่บิลล์ เก็ตส์ ลงทุนลงแรงสร้างขึ้น และขณะนี้ยังถือว่า เป็นองค์กรการกุศลที่มีเงินกองทุนจำนวนมากที่สุดในโลกอีกด้วย

 

นอกจากบริจาคเงินจำนวนมากเพื่อช่วยในการวิจัยและรักษาผู้ป่วยเอดส์ในแอฟริกาแล้ว ในบรรดากิจกรรมการกุศลทั้งหลายของมูลนิธิ บิลล์ เกตส์ และภรรยา ใส่ใจกับกิจกรรมการศึกษามากที่สุด โดยเฉพาะการศึกษาในระดับมัธยม ซึ่งบิลล์ เกตส์ เห็นว่า กำลังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง โดยดูจากอัตราการไม่เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาของเด็กนักเรียนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้สูงถึง 20 - 30 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มจะเพิ่มต่อไปอีก

 

ประเด็นนี้ บิลล์ เกตส์ เห็นว่าจะทำลายรากฐานอันแข็งแกร่งของสหรัฐอเมริกาในระยะยาว และจะส่งผลถึงพัฒนาการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ในเบื้องต้น บิลล์ เกตส์ เสนอความช่วยเหลือให้กับโรงเรียน 22 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา แต่ละแห่งจะได้รับเงินสนับสนุนแห่งละประมาณหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่บิลล์ เกตส์ และภรรยา จะเดินทางไปร่วมคิดหาวิธีในการปรับปรุงการเรียนการสอน โดยระบบผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาสมัยใหม่ร่วมคณะไปด้วย

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็มีนโยบายในการระมัดระวังไม่ให้เกิดการแทรกแซงการบริหารงานของโรงเรียนมากเกินไป เพียงแต่จะสนับสนุนการทดลองการเปลี่ยนแปลงระบบการเรียนการสอนแบบใหม่ เพื่อศึกษาว่า รูปแบบการบริหารวิธีใดที่ได้ผลดีที่สุด บิลล์ เกตส์ และภรรยาพบว่า นักเรียนอเมริกันยังมี การลับสมอง หรือ ท้าทายสมอง ไม่มากเท่าที่ควร จำนวนนักเรียนในโรงเรียนและในแต่ละชั้นเรียนมีมากเกินไป ทำให้การดูแลไม่ทั่วถึง บรรยากาศในการเรียนไม่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ และความกล้าที่จะฝันในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ บิลล์ เกตส์ ทดลองนโยบายการตั้งโรงเรียนขนาดเล็ก และลดจำนวนนักเรียนในชั้นเรียน โดยใช้เงินอีกกว่า 100  ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสร้างโรงเรียนขนาดเล็ก 150 แห่ง แม้การลงแรงไปในการพัฒนาโตระดับโลกคนนี้ ลงมือเอาจริงเอาจัง และทุ่มเทเวลากับการปฏิรูปการศึกษา ทำให้คนทั้งประเทศในทุกระดับต่างต้องหันมาช่วยกันดูการศึกษาของเยาวชนอเมริกัน ทบทวนสิ่งที่ผ่านมา และสิ่งที่กำลังจะเป็นไป

 

ความตั้งใจจริงของบิลล์ เกตส์ ในเรื่องนี้ ทำให้เกิดแรงศรัทธาในอุดมการณ์ และทำให้มีผู้ร่วมอุดมการณ์เป็นเศรษฐีชาวอเมริกันตามมาอีกมากมาย นอกจาก นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลกรองจากบิลล์ เกตส์ ที่บริจาคเงิน 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.4 แสนล้านบาท ให้แก่มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ ห้าแห่ง โดยห้าในหกของเงินจำนวนนี้จะบริจาคให้กับ The Bill & Melinda Gates Foundation จนเป็นข่าวครึกโครมไปเมื่อปีที่แล้ว

 

ยังมีบรรดาซีอีโอบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น General Electrics, IBM หรือ Sun American Inc. ต่างให้การสนับสนุนด้านการศึกษา และประกาศแน่ชัดว่า ต่อไปนี้จะไม่สักแต่เขียนเช็คให้ แต่จะขอติดตามผลอย่างใกล้ชิด และจะต้องทำให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment) ในรูปแบบของผลสัมฤทธิ์ด้านการศึกษาของเยาวชน การศึกษาเป็นกลไกพื้นฐานที่สำคัญที่สุดต่อการพัฒนาคนและพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้จะยังทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับภาคการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ภาคการศึกษาจะได้ผลิตลูกศิษย์แบบนักวิชาการเป็นศูนย์กลางให้น้อยลง และสามารถตอบสนองความต้องการ และการเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรมได้มากยิ่งขึ้น

 

************************************************************************

 

 

การให้การศึกษาถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอย่างเร่งด่วน เพราะเละเทะมามาก นโยบายไม่ชัดเจน รัฐบาลไหนมาก็ว่า เราจะสนับสนุน ICT โรงเรียนทุกโรงต้องมีคอมพิวเตอร์ เกิดการเปิดซองประมูลคอมฯ เข้าโรงเรียนเป็นการใหญ่ ล็อตหนึ่งก็หลายล้าน ใครได้ ใครเสีย ไม่ทราบเนี่ย

ไม่เชื่อคุณลองไปถาม รมต.ศึกษาฯ คนปัจจุบันสิ มารับตำแหน่งใหม่ ๆ แสดงวิสัยทัศน์อะไรไว้บ้าง ถ้าไม่ใช่โรงเรียนทุกโรงต้องมีคอมพิวเตอร์ มีแต่คอมฯ กะ ค่าคอมมิชชัน ... ซื้อมาแล้วโรงเรียนใหญ่พอมีครูดูแลบ้าง โรงเรียนเล็ก ๆ ก็ให้ร้านซ่อมคอมฯ หน้าโรงเรียนดูแลหรือเปล่า โรงเรียนวัด คงต้องให้เด็กวัดมาดู

 

กำหนดนโยบาย ICT ให้โรงเรียน เอาคอมฯ มาลง พัฒนาคนหรือยังครับ ?

 

บุญรักษา ครับ :)

หมายเลขบันทึก: 183113เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2008 17:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 12:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (39)

อย่าเรียนมากอย่ารู้มากเลยค่ะพี่ ยิ่งรู้ยิ่งทุกข์ใจเปล่าๆ

 

สวัสดี เสือปืนไว เจ้า อ๋อทิงนองนอย  ...

ก็ครูต้องสอนนักเรียนไง ไม่ใช่ สอนหนังสือ อย่างเดียว ครับ

ทำดีก่อนโลกแตก เป็นไรไป ใช่ม่ะ :)

ขอบใจมากจ้า

ตามมาดูโรงเรียนสาธิต อยากพบโรงเรียนที่สอนทั้งศีลธรรมและ IT ซึงหาได้ยากมากมากๆๆ

สวัสดีครับ คุณครูต้นแบบ ขจิต ฝอยทอง  :)

  • โรงเรียนเหล่านั้นรออาจารย์ไปลงวิจัยและพัฒนาอยู่ครับ
  • เราอยู่ในวงการการศึกษามาหลายปี เราจะทราบว่า รัฐบาลไทยเป็นอย่างไรบ้าง ใช่ไหมครับ ...
  • การประเมินผลจาก สมศ. กระทรวงฯ มันดูแปลก ๆ ระบบมันทำให้สถานการณ์ของบ้านเราแย่ลง ครูทำงานหนักมากขึ้น ผลไม่ได้ปรากฎที่ตัวเด็ก
  • เหมือนไปลอกวิธีคิดของฝรั่งมา แต่ไม่ปรับใช้กับครูไทย นักเรียนไทย
  • อาจารย์คิดว่าไงบ้างครับ เขียนบันทึกหน่อยไหมครับ (ยุยง)

ขอบคุณครับอาจารย์ :)

ให้โลกมันแตกๆไปดีกว่า ไม่ใช่โลกของเรานี่นา จะทำดีไปทำไมให้เหนื่อย

สวัสดีครับอาจารย์

  • เสียดานที่ไม่ได้เจอครับ
  • เอาไว้โอกาสหน้าก้แล้วกันครับ
  • ขอบคุณมาก

น้องหมอ อ๋อทิงนองนอย ... เราเกิดมาเพื่อทำความดีนะจ๊ะ ไม่ใช่ เกิดมาเพื่อมีลมหายใจแล้วก็ตายไปตามกาล

ทำดีได้แต่อย่าท้อ ถ้าท้อนัก ก็พักก่อน ไม่ได้มีความผิดอะไร ถ้าเหนื่อยก็พักได้นี่ ไม่เห็นเป็นไรครับ

เรื่องการเมืองก็เหมือนกัน ... เราไม่สามารถจะเปลี่ยนใครได้ไม่ใช่เหรอ แต่เราเลือกที่จะเปลี่ยนใจ วิธีคิดของตัวเองได้ และไม่ใช่ความหมายว่า เราไม่ได้ใส่ใจในสิ่งนั้น

คนเราจะสุขหรือทุกข์ขึ้นอยู่กับ "วิธีคิด" ต่างหาก

จะเอาใจไปฝากไว้ที่คนอื่นทำไม วิ่งหาทุกข์เปล่า ๆ

ในฐานะที่เราเป็นผู้เผยแพร่ความคิดดี ๆ จะไปท้อเพื่ออะไร ท้อเพราะคนไม่เห็นกับเรา ท้อเพราะคนเขาคิดว่า เค้าเป็นกลาง ท้อเพราะว่าคนละขั้ว หรืออย่างไรกันครับ

มีคนเป็นห่วงเราเยอะนะ ดูใจตัวเอง แล้วดูใจกัลยาณมิตรเหล่านั้นด้วยนะครับ

เรากำลังดำเนินชีวิตของเราอยู่นะ สุข หรือ ไม่สุข อยู่ที่ตัวเองทั้งหมดทั้งสิ้นจ๊ะ

พี่อยากให้เรามีความสุข เข้าใจไหมเอ่ย :)

ขอโทษด้วยนะครับ ครู ครูข้างถนน ... ผมเป็นเจ้าบ้านที่ไม่ได้เรื่องเลย :)

อยากหักคะแนน MQ ของท่าน Bill Gate จังเลยครับ

เพระกฏหมายระบุว่า เงินบริจาค สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 100%  เลยครับในโลกทุนนิยม

สวัสดีครับ

แต่ก่อนนักเรียนคอมพิวเตอร์ อยากทำงานกับ Microsoft

ตอนหลังเริ่มอยากทำงานกับ Google บ้างแล้ว

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์

* น่าคิดๆ ค่ะ ..

* ในโลกธุรกิจเมื่อก่อน maximize profit คิด ROI แค่ตัวกำไร ตัวเลขอย่างเดียว แต่ตอนนี้ เป็นนิมิตหมายอันดี ที่หลาย ๆ องค์กรยักษ์ใหญ่ บมจ. ต่างๆ ให้ความสำคัญ กับ หลักธรรมาภิบาล และ การคืนกำไรสู่สังคม social responsibility บ้าง

* แม้เราจะทราบว่า เงินที่บริจาคไปเหล่านั้น แน่นอนว่าสามารถคืนภาษีย้อนหลังได้ทุกหน่วยสตังค์

* แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ยังดีกว่าไม่แม้แต่จะคิดถึง การตอบแทนสังคม ,

การตอบแทนคุณแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา

* ล่าสุด ฟังข่าว (น่าจะกรองแล้ว)** ช่างน่าละอายใจ มหาเศรษฐีไทยคนนั้นคิดจะซื้อเกาะทั้งเกาะ เพื่อลงทุนในเรื่องการพนัน จะตั้ง entertainment complex ... ไปโน่นเลย 5 5 ... ให้ตายสิโรบิ้น คิดไปได้ .. เรื่องการศึกษานะ มีอยู่ในสมองบ้างไหม น่าเสียดายจริงๆ ..

* ในทำนองเดียวกัน ได้ฟังจากปากของน้องบัณฑิตหนุ่มคนนึง เขากลับไม่คิดจะลงทุนในร้านที่มอมเมาเยาวชน อย่างร้านเกมส์ พนันบอล ทั้งๆ ที่เขามีศักยภาพจะทำได้

*... เพราะเขาเข้าใจว่า นี่คือต้นตอหนึ่งในการทำลายเยาวชน

* ว้า บ่นซะยาวเลย แบบติดใจเรื่องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ **

อย่างไรก็ตาม ท่านอาจารย์ทานข้าวให้อิ่มอร่อยนะคะ จะได้มีพลังต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณ ท่านที่ไม่แสดงตน (แสดงดีกว่านะครับ) เพราะว่า ท่านให้ความเห็นดีมาก

ขอบคุณ  ท่าน ธ.วั ช ชั ย  ที่ให้ความคิดเห็นที่ดีเช่นกัน ครับ

ขอบคุณ คุณ poo ... ครับ คราวหน้าของ "บ่น" แบบนี้อีกนะครับ เป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ มาก ๆ ด้วยครับ

:)

อรุณสวัสดิ์วันวิสาขบูชาค่ะ ท่านอาจารย์

*:) ปั่นจักรยานเหนื่อย ๆ แล้วก็มาบ่น ถามต่อคะ

* ท่านอาจารย์พูดถึง โรงเรียนสาธิตของบิลล์ เกตส์ แล้ว

สำหรับในเมืองไทย กรณีโรงเรียนปัญญาภิวัตน์ ของเครือซีพี 7 11

* ท่านอาจารย์มีความคิดว่าอย่างไรคะ ?

* ทานข้าวเข้าให้อร่อยนะคะ

โรงเรียนปัญญาภิวัตน์ เห็นโฆษณาจากทีวีกับหนังสือพิมพ์ ครับ

ไม่กล้าที่จะให้ความคิดเห็น เนื่องจากยังไม่รู้วิธีการคิดของเขา

แต่มองผ่าน ๆ ก็เห็นว่า เขาผลิตบุคลากรของตัวเอง ตรงตามที่บริษัทแม่ต้องการ

ถ้าเราผลิตหุ่นยนต์ออกมา "สวัสดีครับ"

ก็จะ "สวัสดีครับ" กันทั่วประเทศ

ไม่มีวันไหนที่ขี้เกียจครับ 555 เพราะเค้าสอนกันมา

รับ ขนมจีบ ซาลาเปา เพิ่มไหมครับ คุณ poo :)

สวัสดีค่ะ  ท่าน  Wasawat Deemarn

  •  ขออนุญาตร่วมเรียนรู้ด้วยคนนะคะ
  • โรงเรียนดังกล่าว #14  เท่าที่ศึกษา เน้นการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยค่ะ
  • โดยแบ่งสัดส่วน การเรียนกับการทำงาน เช่น ทำงาน 3 วันเรียน 2 วัน
  • เนื่องจากเปิดรับนักเรียนเยอะมาก เพราะเปิดและขยายในช่วงข้ามคืน จึงจำเป็นต้องส่งนักเรียน ออกทำงานตามร้านสะดวกซื้อ สาขาต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล
  • จึงมักได้ยินปัญหาเรื่องจากผู้ปกครองเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง และช่วงเวลาที่ถูกเลือกทำงาน
  • ในความคิดเห็นส่วนตัว  สถานที่ปฎิบัติงานดังกล่าว ไม่มีความหลากหลายของตำแหน่งงาน และองค์ความรู้ พอที่จะฝึกประสบการณ์ที่รอบด้านให้แก่ศึกษาได้
  • สวนทางกับนโยบายของกรมอาชีวศึกษา ที่ต้องการจะพัฒนาผู้เรียน ให้กลายเป็นเจ้าของสถานประกอบการ
  • เพราะผู้ปกครองสนใจนโยบายการเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยเพื่อเป็นการผ่อนปรนภาระมากกว่าความรู้ทางด้านวิชาการ
  • ส่วนโอกาสที่นักเรียนจะพัฒนาเป็นเจ้าของสถานประกอบการ นั้นยังมองไม่เห็นค่ะ 

 

ขอบคุณ คุณ ครูปู มาก ๆ เลยครับที่แวะมาให้ความรู้เรื่องโรงเรียน Seven นี้ ... :) ...

ดูเหมือน คุณ ครูปู จะวิเคราะห์ไว้ได้ชัดเจนแล้วนะครับ ... ทั้งข้อดีและข้อเสีย

สร้าง "หุ่นยนต์" เพื่อไปเป็น "หุ่นยนต์" ถูกต้องเลยใช่ไหมครับเนี่ย 555

สวัสดีค่ะ 

รับบัวลอยสูตรโบราณซักถ้วยไม๊คะ

เอิ๊กซ์

 

มีเรื่องเล่าเพิ่มเติมที่ได้ยินมาคะ

เรื่อง รับ ขนมจีบ ซาลาเปา เพิ่มไหมครับ/ ค่ะ

  • ฉันซื้อ modest (แปลว่า ถ่อมตัวค่ะ อิ อิ ) เนี่ยนะ

ขอบคุณค่ะพี่ครูปู ที่ช่วยเพิ่มความกระจ่าง

  • เพราะผู้ปกครองสนใจนโยบายการเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยเพื่อเป็นการผ่อนปรนภาระมากกว่าความรู้ทางด้านวิชาการ

มุมมองข้างนี้ ทำให้นึกถึงประเด็น สิทธิเด็ก และการศึกษา หากในกรณีเช่นนี้

ดูเหมือนกับว่า น่าเป็นการขายแรงงาน ไปโน่นอีกเพราะมุ่งเน้นด้านตัวเงินเป็นหลัก

หรือท่านอาจารย์ คิดอย่างไรคะ  เพราะปูก็ไม่แน่ใจว่าตีความเช่นนี้ได้หรือไม่ ...

 

...

ฮั่นแน่ ... บัวลอยไข่หวาน น้ำตาลขาว ลูกสาวสวย อิ อิ ... ขออนุญาตชิมข้ามบันทึกนะคะ ท่านอาจารย์

เข้ามาดูความเห็นอาจารย์ใหม่ ว้า ... งั้นนอกจากทำให้ระบบค้าขายเดิมๆ ล่มสลายแล้ว

ยัง เป็นเพิ่มความกังวลในส่วนของจำนวน มนุษย์หุ่นยนต์ ที่มีชีวิตทำงานที่ไม่มีชีวา เพิ่มเป็นเงาตามตัวด้วย หรื้อเปล่าคะ ?  .. ปูคงไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายเกินไป ใช่ไหมคะ ?

 

ขอบคุณครับ คุณ ครูปู :) ... คนทำบัวลอยต้องหน้าโบราณด้วยหรือเปล่า .......... :)

พูดไม่เข้าหู ปิดบริการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

วาว!

คุณ poo ทราบไหมครับว่า คุณ poo มีวิธีการยั่วยุหาคำตอบ หรือ ความคิดเห็นได้เหมือนคุณเบิร์ดเปี๊ยบเลยครับ อิ อิ ไม่เชื่อลองไปถามคุณเบิร์ดดูสิครับว่า ผมเคยบอกคุณเบิร์ดแบบนี้หรือเปล่า อิ อิ

แต่ผมชอบอ่ะ ... วิธีคิดที่ทำให้เกิดประเด็นต่าง ๆ ที่บางครั้งเรายังมองไม่ครบด้านครับ เหมาะกับการใช้ในการประชุมสำคัญ ๆ อย่างยิ่งครับ (แอบชม)

เอาเป็นว่า ... โรงเรียนปัญญาภิวัตน์ ควรที่คุณ poo จะต้องตั้งโจทย์ป้ญหาขึ้นมาครับ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นแรงงานเด็ก แรงงานหุ่นยนต์ ระบบการค้าขาย การเดินทางถอยหลังกลับไปในยุคอุตสาหกรรมเฟื่องฟูที่ต้องการหุ่นยนต์เยอะ ๆ

อยากให้ลองเขียนหัวข้อนี้ดูครับ :)

หุ หุ ... ขอบคุณครับ คุณ ครูปู :) อิ อิ

แง ๆ ครูพี่ปูขา เน็ตยังไม่เป็นใจเลย

ปิดบริการบ่ได้ค่ะ ลูกค้าจะฟ้องศาล

ถึงขั้น อนุญาโตตุลาการเลยด้วยอ้าว

งานนี้ต้อง เลือกเป็นเคสๆ ไปนะเจ้าค่ะ

ปูผูกปิ่นโตแล้ว บ่ยอมๆ. (มารายมาย เป็นลูกค้าเรื่องมาก)

 

ท่านอาจารย์ก็ต้องมาขึ้นศาลด้วยนะค่ะ โทษฐาน จำเลย1

ส่วนเรื่อง หัวข้อ ยั่วยุหาคำตอบ ... ขอคิดดูก่อนนะคะ

เพราะฝีมือยังไม่ถึงขั้นคะ ... นักเรียนมีสิทธิเลือกว่าจะ

เรียนรู้เรื่องไหน ใช่ไหมคะ .. สิทธิตามหลักกฏบัตรข้อ 2

เลยค่ะ best interest for children 5 5

ราตรี

ผมรังเกียจการขึ้นศาลคร้าบ โอ้ม้ายนะ :)

ราตรีสวัสดิ์ครับ คุณ poo

วันนี้พูดคุยกับน้องมุสลิม ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ การศึกษา ที่เป็นเเง่มุมที่น่าสนใจมากครับ

ไว้เขียนบันทึกแลกเปลี่ยนกับอาจารย์นะครับ

-------------------------

วันนี้เช่นกัน จิบ ชาจน "ตาค้าง" ไปเลย

  • สวัสดีค่ะคุณ Wasawat Deemarn
    หัวข้อนี้อยู่ในความสนใจพอดีเลยค่ะ ขอแจมนิดนึงนะคะ
  • คุณบิล เก็ตต์ และ คุณบัฟเฟตต์ ร่ำรวยขึ้นมาจากความสามารุของตนเองอย่างแท้จริง ตอนนี้มั่งมีมากมาย มีมากจนชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด ก็เริ่มคิดถึงเพื่อนมนุษย์ เริ่มได้คิดว่าตายก็เอาไปไม่ได้ คิดเหมือนชาวพุทธเรามั้งคะ เอามาแบ่งปันทำประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์ดีกว่า ดีค่ะ เป็นตัวอย่างที่ดีให้ชาวโลก  และโดยเฉพาะชาวพูทธบ้านเรา
  • เคยอ่านเจอคร่าว ๆ ว่า คุณบัฟเฟตต์นี่บริจาคให้มากถึง 85% ของทรัพย์สินที่มีอยู๋ เอ..ไม่ทราบว่าลูกหลานรับได้หรือเปล่า แต่อย่างว่าแกคงร่ำรวยมากขนาดอีก 25% ที่เหลือลูกหลานก็คงสบายไปทั้งชาติเช่นกัน

ขอบคุณครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ... ตอนนี้หลับหรือยังเนี่ย "จิบชา" :)

ขอบคุณ พี่อักษร ทับแก้ว ด้วยครับที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ ชอบ ๆ อย่าลืมมาเยี่ยมใหม่นะครับ :)

น.พ.กมล แสงทองศรีกมล

ดีใจอย่างยิ่งตามประสานักเขียนคนหนึ่งครับที่มีคุณครูในบลอค เห็นและอ่านหนังสือ พลิกเรื่องเรียนรู้สู่อัจฉริยะ

การศึกษาและการเรียนรู้และครูสำคัญมากครับ

ในเล่มมีเรื่องศักยภาพสมอง ระบบการศึกษาทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาระบบการศึกษาไทยโดย ท่านอดีตนายก อานันท์ ซึ่งดีมาก อยากให้คุณครูอ่านครับ

ผมมีหนังสืออยู่จำนวนหนึ่ง ยินดีส่งหนังสือฟรีไปให้คุณครูที่ไม่สามารถหาหนังสือได้และสนใจจริงๆ กรุณาแจ้งชื่อที่อยู่ ที่ [email protected] หรือที่ blog นี้

เป็นกำลังใจให้ครูดี ทุกคนครับ

น.พ.กมล แสงทองศรีกมล

ผู้เขียนหนังสือ พลิกเรื่องเรียนรู้สู่อัจฉริยะ

เรียนคุณพี่วสวัตพี่ชายที่แสนดี

วันนั้นหนูเหนื่อยและท้อใจมากจริงๆ ด้วยความจริงจังเลยค่ะและหนูไม่ได้ตั้งใจอ้อนแฟนคลับนะคะ  หากมีใครจะคิดไปในแนวทางนั้น หนูก็ต้องชี้แจงไว้ก่อนค่ะ โลกนี้โหดร้ายเกิดกว่าจะมองได้ในมุมเดียว

เมื่อวานเป็นวันหยุดที่หนูพักกายพักใจไม่ได้ทำงานและมักจะถือโอกาสหยุดการใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ใดๆด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ได้อ่านหนังสือหาความรู้เพิ่มเติมหนูมักเรียกว่าวันอ่านหนังสือ แม้บางทีจะเป็นวันที่หนูหนีโลกไปนอนผลาญพลังเงินให้ลูกสาวชาวบ้านเขานวดตัวขัดตัวในสปา หะรู หะรา บ้างก็ตามค่ะ

วันก่อนหนูไปเที่ยวนอกบ้านทิงนองนอย ลอยไปและลอยมาอยู่เท่าที่จะมีเวลาพึงจะลอยไปได้ หนูมีโอกาสได้เเอบมองดูภาพเสมือนที่ปรากฏตรงหน้าซึ่งสะท้อนกลับมากระทบใจบางๆที่เฝ้ามองดูสังคมโลกแห่งความเป็นจริงมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานและจริงจัง

หนูรู้สึกเหมือนเกิดคำตอบและคำถามอย่างสับสนปะปนกันว่า "หรือเพราะผู้คนในสังคม  เป็นเช่นนี้หนอสังคมไทยจึงเป็นเช่นนั้น จริงหรือ???" หนูรู้สึกเหนื่อยและท้อมากๆๆขึ้นมาในทันที แล้วหนูจะทำอย่างไรต่อไปดี แม้หนูทราบดีและหนูเข้าใจว่า ทุกผู้ทุกคนในสังคมมีปัจเจกชุดความคิด ปัจเจกทางเลือกของแต่ละผู้คนนั้นๆด้วยความรับผิดชอบและตระหนักในผลบวกและลบต่อตนเองผู้เป็นเจ้าของชีวิต

ด้วยความสัตย์จริงหนูไม่บังอาจและไม่มีสิทธิแม้แต่จะคิดก้าวล่วงใดๆ ในความคิดเห็นอันอิสระของผู้คนอันหลากหลาย แต่ความรู้สึกขณะนั้น คล้ายมองเห็นความจริงบางสิ่งบางอย่างที่หนูประมวลออกมาจากตรรกะชุดความคิดอันอ่อนด้อยของหนู หนูตกใจ เศร้า อย่างบอกไม่ถูก หนูนึกถึงแรงบันดาลใจที่หนูเคยได้รับจากการอ่านเรื่องราวของ คุณสืบ คุณมดวนิดา การต่อสู้ของสมัชชาคนจน การต่อสู้ที่เขื่อนปากมูล การต่อสู้ของคุณสารี การต่อสู้ของคุณรสนา การต่อสู้ของชาวมุสลิมและเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แม้แต่การอ่านหนังสือหลายๆเล่มของสำนักพิมพ์โกมลคีมทอง

หนูไม่มีสิทธิ์จะกล่าวหาผู้ใดได้ หนูไม่กล้าแม้แต่จะคิด หากหนูจะเรียกร้องสิ่งใดต่อไปนี้ หนูเพียงเรียกร้องให้ผู้คนในสังคมกล้าหาญที่จะแสดงออกต่อสาธารณะ กระทำตนเพื่อสาธารณะ ด้วยจิตอันเป็นสาธารณะ  เพื่อสังคมสาธารณะที่ดีขึ้นและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คนในสังคม

การมีอยู่หรือไม่มีอยู่ของทิงนองนอยไม่มีความสำคัญใดๆเลยแม้แต่น้อยต่อสังคมนี้  เมื่อเทียบเท่ากับสิ่งที่ทุกคนในสังคมนี้ควรจะตระหนักถึงบทบาทของตนเองต่อสังคม

หากหนูบ่นมากไปหรือกล่าวสิ่งใดที่ไม่สมควรต่อสภาวการณ์ในสังคมแห่งนี้  คุณพี่พิจารณาลบทิ้งได้นะคะ

ขอบพระคุณค่ะ พี่วสวัต พี่ชายที่แสนดี

 

เรียน คุณหมอกมล แสงทองศรีกมล

  • ดีใจมากครับที่คุณหมอให้เกียรติเข้ามาในบันทึกนี้
  • ผมนำข้อมูลของคุณหมอมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกัลยาณมิตรหลายท่านทีเดียว
  • แล้วอย่างไรผมจะแจ้งคุณหมอทางเมล์อีกครั้งหนึ่งนะครับ

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับคุณหมอ

เรียน คุณน้องหมอ อ๋อทิงนองนอย ที่น่ารักของพี่

สิ่งที่หนูได้ลงมือกระทำและถ่ายทอดด้วยประสบการณ์ชีวิต มุมมองที่หนูได้กลั่นกรองด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อผู้คน สังคม และประเทศไทยของเรานั่น พี่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งพึงกระทำได้อย่างเปิดเผย

เราทุกคนเป็นเพียงแต่เฟืองตัวเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่แตกต่างกันตามความสามารถ ตามวิชาชีพที่เราแต่ละคนเลือกทำให้กับสังคมและประเทศชาติ

หากมีวันใดเฟืองตัวใดตัวหนึ่งเกิดเสียไป อาจจะมีทำให้สังคมถอยหลังลงไปก็ได้ ถึงแม้จะมีคนบอกว่า เดี๋ยวก็ไปซื้อเฟืองตัวใหม่ก็ได้นี่นา แต่ถ้าเป็นเฟืองจริง ๆ ก็ไม่อยาก แต่นี่เราเป็น "คน" เป็น "มนุษย์" ซึ่งศักยภาพในตัวไม่เหมือนกันแม้แต่นิด หน้าที่ขับดันให้สังคมสงบสุข เดินไปทิศทางที่ถูกต้องย่อมแตกต่างเช่นกัน

ถ้าปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบแล้วไซร์ หัวใจตัวเองจะรับรู้เองว่า ดี หรือ ไม่ดี ... ไม่งั้นเราคงไม่ได้มีคนอย่างคุณสืบ และนักต่อสู้ในสังคมทั้งหลายหรอก จริงไหม

พี่ให้กำลังใจหนู และเชื่อมั่นในตัวหนูว่า หนูกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อคนอื่น

จงใช้ศักยภาพของตัวเองที่มี่อยู่ เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ให้กับคนที่ไม่รู้อีกมากมายสิครับ

ถ้าเขาปิดตา ก็มองไม่เห็น

ถ้าเขาปิดหู ก็ไม่ได้ยิน

ถ้าเขาปิดใจ .... เดินข้ามหัวเขาไปแล้วบอกกับคนที่รอฟังเราอยู่แทนสิครับ

พี่บ่นมากไป เพื่อเลียนแบบหนู จะลบบันทึกของพี่ทิ้งก็ได้ พี่ไม่ว่า (อ้าว บันทึกตัวเองนี่หว่า อิ อิ)

ยกมือขวาที่คลินิคทำฟัน แล้วชูขึ้นมา ร้องจ๊าก ๆ ว่า "สู้เว้ย" :)

ขอบคุณมากค่ะ พี่วสวัต ค่ะ

   สู้เว้ยยยยยยยยยย !!!

ทานไรยังค๊า ก๊อกๆๆๆ

เข้ามาบอกว่า ชอบๆๆบันทึกนี้ค่ะ แต่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวแล้วไม่เพิ่มเติมค่ะ ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณพี่ศศินันท์ Sasinanda  ที่ให้กำลังใจครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท