โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์มักถูกมองว่าถ้าไม่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยก็เป็นครู แต่แท้จริงแล้ว "เราไปได้หลากหลายยิ่งกว่านั้น"
ข้อเสียเปรียบอย่างหนึ่งคือ "คณะวิทยาศาสตร์" ไม่ได้สอนวิชาชีพโดยตรง และชื่อคณะก็มีความหมายค่อนข้างกว้างเกินกว่าจะระบุวิชาชีพลงไปให้แน่ชัด ไม่เหมือนแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ สื่อสารมวลชน บัญชี บริหารธุรกิจ หรือวิชาอื่นๆ ที่ชื่อคณะบ่งบอกวิชาชีพให้ในตัวอยู่แล้ว ใครก็ตามเห็นชื่อคณะก็รู้ได้เลยว่าจบมาสามารถเป็นอะไรได้(แต่ใครจะจบแล้ว เป็นหรือไม่เป็นก็อีกเรื่องหนึ่ง)
ยังมีคณะที่หลัำกๆ แล้วไม่ได้เป็นวิชาชีพโดยตรง แต่เป็นคณะที่สอนตลอดจนวิจัยสร้าง "ความรู้พื้นฐาน" อย่างเช่น สังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญา รัฐศาสตร์ เป็นต้น ซึ่ง "คณะวิทยาศาสตร์" เองก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ คือถ้าไม่ได้ทำความรู้จักอย่างจริงจังอาจจะมึนๆ งงๆ ได้ว่า เอ้ จบมาแล้วไปทำงานอะไรกันน้อ...... (นอกเหนือจากเป็นครู อาจารย์ นักวิทยาศาสตร์)
อย่างไรก็ดี ครูบาอาจารย์ท่านสอนและฝึกให้เราหาความรู้และสร้างความ รู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ส่วนทักษะพวก ทักษะปฏิบัติการในห้องแลบ ทักษะการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เตรียมสารเคมี เตรียมตัวอย่างชิ้นเนื้อเยื่อ เลี้ยงเชื้อ เลี้ยงรา เขียนโปรแกรม เขียนแบบ กลึงเหล็ก เชื่อมโลหะ เขียนลายปรินท์วงจรไฟฟ้า เชื่อมวงจร ตั้งกล้องดูดาว ถ่ายภาพดาวมาทำวิจัย ถ่ายภาพสเปคตรัมดาว เข้าห้องมืดล้างอัดฟิลม์ ประกอบคอมพิวเตอร์ ทำคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ ตำผงคาร์บอน ชงเหล้าให้รุ่นพี่(เอ๊ยไม่ใช่) และอีกจิปาถะนั้น เป็นผลพลอยได้หรือเป็นแนวทางพาเราไปสู่จุดหมาย ทีนี้ที่เหลือเมื่อเรียนจบก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะไปต่อยอดความรู้หาความ รู้เพิ่มเติม โดยอาศัยทักษะการแสวงหาความรู้อย่างที่เราถูกฝึกมา ดังนั้นใครจะได้ทำงานตรง "สายวิชา" ที่จบมามากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่ขยันและรักการเรียนรู้ครับ
ตัวผมเองก็ไม่ได้จบคณะวิทย์ฯกับเขาหรอก แต่มีเพื่อนสงสัย ก็เลยส่งเมลล์ไปถามเพื่อนมาครับพี่น้อง
ได้คำตอบจากฟอร์เวิร์ดเมลล์ว่า
จบฟิสิกส์นี่เขาทำมาหากินอะไรกัน (อาจจะกล่าวถึงภาควิชาอื่นด้วยเล็กน้อย แต่ข้อเน้นฟิสิกส์เป็นหลัก)
อาจารย์ เป็นสิ่งแรกที่หลายๆคนนึกถึงครับใครทำอาชีพนี้ถือว่าได้ใช้วิชาความรู้ตามสายงานได้เกือบตรงที่สุด
ครูมัธยม/ประถม ต้องไปเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพครูก่อน หรือสอบบรรจุเข้ารับราชการนะครับสำหรับโรงเรียนรัฐบาล แต่เอกชนนั้นแล้วแต่นโยบายของโรงเรียน
เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการณ์/นักวิจัย ก็เกือบตรงกับสายงานเช่นกัน อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานศึกษาหรือสถาบันวิจัยของรัฐ ก็ได้ ตัวอย่างเช่น
- สำนักงานมาตรวิทยา มาตรฐานการชั่วตวงวัดพื้นฐาน น้ำหนัก เวลา ความยาว
- สำนักงานปรมณูเพื่อสันติ
- เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
- MTEC สำหรับคนที่เรียนหรือทำวิจัยด้านวัสดุศาสตร์
- NANOTEC (คุณจันทร์คราม-Bluemoon เพิ่มให้)
- สถาบันวิจัยซินโครตรอน
- สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐาน/นิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ/เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ รุ่นพี่จากแลบเดียวกัน มีคนที่จบไปแล้วไปสอบบรรจุเป็นตำรวจ ปัจจุับันทำงานอยู่กองพิสูจน์หลักฐาน (จริงๆ คณะหรือภาควิชาอื่นก็สอบได้นะ) นอกจากนี้ยังหมายรวมถึงนักนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจต้องไปอบรมเพิ่มอีก(ไม่ใช่ปัญหา)
นักบิน หลายคนบอกว่านักบินนี่จบ ป.ตรี สาขาไหนก็สมัครได้นี่ แต่เป็นความเชื่อส่วนตัวของผมว่าถ้ามีความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เครื่องยนต์กลไก จะได้เปรียบกว่าในแง่การทำความเข้าใจหลักการบินและอากาศพลศาสตร์ ซึ่งในหลักสูตรนักบินต้องมีแน่ครับ
นักธรณีฟิสิกส์ สำหรับบางมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรร่วม ฟิสิกส์-ธรณี (เ่ช่น คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ----ผมรู้แค่นี้แหละ) ) นอกจากหลักสูตรฟิสิกส์ล้วนๆแมนแล้ว นักศึกษาฟิิสิกส์สามารถลงหลักสูตรร่วม(Joint Program) (ไม่ใช่วิชาโทนะครับ เด็กฟิสิกส์ต้องลง วิชาโท(minor) คณิตศาสตร์อยู่แล้ว) โดยลงทะเบียนเรียนกระบวนวิชาที่ภาควิชาธรณีวิทยาได้ด้วย ทำให้สามารถทำงานของทางสายธรณีครับ รุ่นน้อง รุ่นพี่หลายคนไปทำงานกับ ปตท. เชฟรอน. เป็นต้น หรือจะต่อโทเอก สายธรณีฟิสิกส์ก็ได้เช่นกัน
นักเคมีฟิสิกส์ โปรแกรมร่วมเคมี-ฟิสิกส์ ต้องไปเรียนและทำแลบเคมีด้วย เมื่อจบแล้ว ทักษะด้านแลบเคมีที่เคยผ่านจะช่วยให้สมัครงานในสายเคมีได้
นักชีวฟิสิกส์ โปรแกรมร่วมชีววิทยา กับฟิิสิกส์ ก็แน่นอนว่าทักษะทางแลบชีว คงช่วยเราหางานสายชีวฯ ได้ด้วย ไม่มากก็น้อย
นักขายอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ พวกกล้องโทรทรรศน์อิเลคตรอน อุปกรณ์ในห้องแลบ ความรู้ทางฟิสิกส์ช่วยให้เราทำความเข้าใจกลไกของเครื่อง สามารถอธิบายโน้มน้าวลูกค้าได้
ฝ่ายวิชาการโรงงานอุตสาหกรรม/อิเลคทรอนิคส์ เพื่อนหลายคนทำงานโรงงานครับอยู่ในสายการวิัจัยและพัฒนา หรือไม่ก็อาจจะเริ่มจากการไลน์ผลิต
ผู้ตรวจสอบความปลอดภัย มีรุ่นพี่ที่ห้องแลบออกไปทำงานด้านการตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ขนส่งทาง ท่อ พวกแท็งค์เก็บน้ำมัน สารเคมี แม้จะไม่ตรงสายนักแต่พื้นฐานวิชาฟิสิกส์ทำให้เรียนรู้ใหม่ได้เร็ว
นักถ่ายภาพมืออาชีพ/ธุรกิจร้านอัดรูป/กล้องถ่ายภาพ อาจจะเป็นความชอบส่วนบุคคลด้วย แต่กล้องถ่ายภาพนี่ ถ้าเข้าใจเรื่องทัศนศาสตร์ด้วย จะีดีมาก อีกทั้งกล้องดิจิตอลสมัยนี้ใช้ ซีซีดี ซึ่่งแต่เดิมถูกพัฒนามาเพื่อใช้งานด้านดาราศาสตร์
นักคณิตศาสตร์ประยุกต์ ฟิิสิกส์เรียนรู้หลักการแก้ปัญหา สร้างแบบจำลองเชิงทฤษฎี แล้วเอาคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ นักศึกษาฟิสิกส์นอกจากวิชาฟิสิกส์แล้ว คณิตศาสตร์ก็สำคัญมากจนกลายเป็นวิชาบังคับ
โปรแกรมเมอร์ หลักสูตรร่วม ฟิสิกส์-คอมพิวเตอร์,รวมทั้งแนวโน้มในการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น Grid หรือ cluster มาคำนวณ ทำให้นักศึกษาฟิสิกส์ต้องเรียนรู้และใช้คอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมเป็น มีเพื่อนผมหลายคนที่หันไปจับงานด้านโปรแกรมเมอร์รวมทั้งเขียนเวบ เขียนโปรแกรม
ธุรกิจส่วนตัว หลายคนออกไปจับธุรกิจส่วนตัว ซึ่งแล้วแต่ความสนใจครับ แม้จะดูไม่ตรงสายงานนักก็ตาม
Edit เ้พิ่ม นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเงินและตลาดหุ้น ในไทยยังไม่ทราบแน่ัชัดว่ามีหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นอเมริกา นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ จะไปทำงานกับบริษัทการเงินการธนาคารเหล่านี้น เพื่อทำแบบจำลองหรือทฤษฎีสำหรับคาดการณ์แนวโน้มของตลาดเงินตลาดทุน
นักเขียน/นักข่าว(คุณจันทร์คราม-Bluemoon แนะนำ) เป็นนักเขียนบทความวิชาการ นักข่าววิทยาศาสตร์ นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ อย่าง Isaac Asimov ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านชีวเคมี กับ Sir Arthur C. Clark จบฟิสิกส์และคณิตศาสตร์)
จริงๆ ก็ยังมีอีกเยอะ แต่ผมเองก็มีประสบการณ์และความรู้จำกัด คงหวังพึ่งทุกคนมาแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม ข้อมูล+ความรู้กัน
หลายคนคาดหวังว่า "มหาวิทยาลัย" คือแหล่งผลิตบัณฑิตออกไปป้อนตลาดแรงงาน ซึ่งก็ถูกต้องส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามหน้าที่ของมหาวิทยาลัยอย่างหนึ่งก็คือ ต้องวิจัยสร้าง "ความรู้" ใหม่ เป็นหัวหอกทะลวงไปในโลกวิชาการ เป็นแหล่งสร้างความรู้เพื่อรับใช้ท้องถิ่นและประเทศ ไม่ใช่โรงเรียนฝึกอาชีพหรือตลาดขายใบปริญญา แต่เพียงอย่างเดียว
ดังนั้นหากนักศึกษาต้องการประสบการณ์ในการทำงานเพิ่มเติมจาก "การเรียนหนังสือ" "ประสบการณ์เชิงวิชาการ" หรือ "ใบปริญญา" อย่างที่มหาวิทยาลัยมอบให้ ก็ควรทำ "กิจกรรม" เพื่อฝึกฝนตนเอง ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาฝึกการทำงาน ผ่านกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาภายในหรือภายนอกมหาวิทยาลัย เช่น สมาคมนักศึกษา สภานักศึกษา พรรคนักศึกษา ชมรมของคณะหรือมหาวิทยาลัย เป็นต้น
อาชีพอิสระสิดีที่สุด เป็นนายตัวเอง เป็นขี้ข่าตัวเองเนอะ
ถูกต้องนะครับ ดีที่สุด สำหรับคำว่า. อิสระ
ลูกสาวจบตรีวทบ.(ฟิสิกส์) กำลังจะจบโท ศึกษาศาสตร์ การสอนวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) กลุ้มใจอยู่เหมือนกันว่าจบแล้วจะไปทำอะไรกิน...ขอบคุณข้อมูลค่ะ
เพิ่งจะเห็นพี่ครูอ้อย ตาลายๆจากการต้อนรับสมาชิกใหม่ งงๆครับ
ยินดีครับ ดีใจด้วยครับ
คุณไปลอกมาจากที่ http://stardustblog.exteen.com/20080813/entry-1
ต้นฉบับโพสต์วันที่ 13 สิงหา 2551
ถึงจะแก้่ต่างว่ามาจาก Forward Mail แต่ก่อนที่จะบอกว่าเอามาจาก Forward Mail ก็เป็น "สำนวน" ของ "ต้นฉบับครับ"
มิหนำซ้ำ ยังมา "สงวนสิทธิ์ทุกประการ" ในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้คิด ไม่ได้เิขียนเอง