จัดการกับการรักการอ่าน..ให้ได้


หลายวันแล้วที่ได้จัดการตัวเองเกี่ยวกับการอ่านอย่างมีหลักการเล็กน้อย  หลักการนั้น  ไม่ใช่ของใครอื่น  นอกจากของตัวเอง ที่ได้กำหนดบทบาทของตนไว้ อย่างชัดเจน  เพื่อขจัดความโง่ของตน.....ด้วยการอ่าน 

เนื่องจากต้องการบูรณาการ การอ่าน ให้เกิดประโยชน์หลายทาง  จึงจัดการหลักการด้วยว่า....อ่านเพื่อการวิจัย

จากการที่ได้มีโอกาสมากกว่า ท่านอื่น ในการไปศึกษาระดับปริญญาเอก  ได้ฟังเพื่อนนักศึกษา รุ่นพี่ รุ่นเพื่อน และรุ่นน้อง  ได้ขึ้นสอบ แต่ละครั้ง  จะมีหนังสือ  แจกให้ไปศึกษาด้วย

ครูอ้อย ก็จะเก็บไว้  ถึงแม้ว่า...จะยังเชื่อถือไม่ได้เท่าไรนัก   เพราะเป็นงานที่ขึ้นสอบ ให้ผู้เชี่ยวชาญ หรือ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้อ่านก่อน  พิจารณาก่อนว่า...ถูกต้อง หรือไม่

 

Search1

*****

บางเล่มจะมีข้อมูลที่เป็นวรรณกรรม ที่ต้องค้นคว้า ศึกษา ดีมากทีเดียว 

อ่านมากรู้มากจริงๆ 

เมื่อไรหนอ  จะมีเพื่อนมาอ่านเป็นเพื่อนบ้าง...เหงาจริงๆๆ

*****

Readd11

*****

หนังสือเหล่านี้ ยังมีที่บ้านอีกมาก  ครูอ้อยก็จะทยอย  นำมาเก็บไว้ที่นี่  ให้ได้อ่านกัน ครูอ้อย อ่านแล้ว  ก็จะลงนามว่า  ได้อ่านแล้ว  ตรงไหนบ้างที่สำคัญ  ก็จะขีดเส้นไว้เป็น  ร่องรอยให้เพื่อนครูได้นำไปใช้อีก 

ขณะนี้ก็กำลังคิดว่า.....จะทำอย่างไร ให้รักการอ่านได้ เพราะตัวครูอ้อยเอง  ก็ต้อง  ฝึกการอ่านพอสมควร  ให้เวลากับการอ่าน เริ่มจาก เวลาน้อยๆๆ  และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ....

คาดว่า  ตัวครูอ้อยเอง  จะฝึกให้รักการอ่านได้

แต่ เพื่อนครูนี่สิ...อืมมมม  จะทำอย่างไรดีคะ

*****

วันนี้  จะลองเขียนบันทึก ถึงฝ่ายบริหารว่า...จะดำเนินการนิเทศ โครงการวิจัย ด้วยการเปิดห้องสมุดเพื่อการวิจัย...ที่นี่

*****

บันทึกอ้างอิง..... บันทึกรัก...การอ่าน .....

เพื่อนช่วยเพื่อน : โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

 

หมายเลขบันทึก: 211641เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2008 09:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีครับ

      การส่งเสริมการรักการอ่าน

      "เริ่มที่ตัวเอง"

      ถูกต้องแล้วคร้าบบบบบ

      จะให้คนอื่นอ่าน   ก็คงต้องปล่อยไปตามบุญตามกรรมครับ

     (ไม่ใช่พูดประชดนะครับ  แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ)

      ยังไม่ถึงเวลา  เขาก็ไม่อ่านหรอกครับ

                           ขอบคุณครับ

แวะเข้ามาอ่านแล้วดีครับ หากคนอื่นไม่อ่านแม้จะไปฉุดไปลากเขาก็ไม่อ่านครับ เราอ่านเองแล้วก็รอผู้ที่สนใจจริงๆดีกว่าครับ <<<<<อันนี้ความคิดผมนะครับ แบบเคยชวนแล้วไม่ได้ผลครับ ต้องรอคนที่ชอบอ่านเหมือนกันจริงๆ

สวัสดีค่ะ  ท่านผอ... small man~natadee

  • หมายความว่า  ที่ครูอ้อย  ตั้งความหวังไว้ว่า  จะมีเพื่อนมานั่งอ่านเป็นเพื่อน  คงหมดหวังแล้วใช่ไหมคะ
  • ทำไม เขาต้องคิดว่า ยังไม่ถึงเวลา  แล้ว  พวกเขาเอาเวลาไปไหนหมด  เขาอยากได้ เขาอยากรู้  ทำไมเขาไม่อ่าน  ไม่เขียน ไม่เพียรพยายาม

งง เง็งเง็ง...ห้องสมุดเป็นหมัน

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องชาย.... 2. คนพลัดถิ่น

  • ยังไม่มีใครมาอ่านเป็นเพื่อนเลยค่ะ  ที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน
  • มีแต่ครู ผู้ประสานงาน บริษัท โรงเรียนฝรั่งที่มาสอนที่โรงเรียน  มานั่งอ่าน ตั้ง 2 ชั่วโมงน่ะค่ะ
  • อย่างน้อย ครูอ้อย ก็มีเพื่อนอ่านน่ะคะ
  • ถึงจะมีน้อย แต่ก็มีบ้าง พอทำยาค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับครูอ้อย

การอ่าน เป็นการแทรกซึม

เหมือนเรากินอาหาร ค่อยๆเคี้ยวให้ละเอียด ค่อยๆกลืน มันจะซึมทางเส้นเลือด ไปบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง(ผมคิดว่าน่ะครับ)

และอ่านแล้วเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง กระตุ้นให้เกิดการอ่าน

พอเขาอยากอ่าน เราก็ให้เขายืมหนังสือ

ผลที่ได้รับคือ......หนังสือหายไปพร้อมกับคำแนะนำ

เจริญพร โยมครูอ้อย

อาตมาเห็นว่าการอ่านหนังสือได้อรรถรส

แต่ไม่ชอบอ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์นานๆ

อาตมาอ่านประจำทั้งรายสัปดาห์,รายเดือน

 

เจริญพร

สวัสดีครับ ครูอ้อย

    เรื่องการอ่าน  

    ผมว่าคนเราจะอ่านในสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับเขาครับ

    อ่านแล้วเขาได้ประโยชน์จริงๆ  เขาก็จะอ่าน

   และต้องดูว่าที่จะได้ประโยชน์จริงๆ  ต้องดูว่าแต่ละคน "ขาด" อะไร

   และ "ต้องการอะไร"

      ต้องวิเคราะห์คนให้ได้ก่อนครับ  แล้วเอาสิ่งที่เขาต้องการหรือสิ่งที่เขาขาด  ไปให้เขาอ่าน

    รับรองเขาอ่านแน่ๆครับ

                          

ดีแล้วที่ครูอ้อยรักการอ่าน ทำอย่างไรจะให้นิสัยที่ดีอย่างนี้ถ่ายทอดไปถึงเด็กๆได้เพียง๑ใน๔ก็ยังดี มีครูดีอย่างครูอ้อยเด็กๆท่านต้องได้ดีแน่

๕๕๕๕๕๕๕ เมืองไทย ต้องมีครูอย่างนี้ จึงจะเป็นสำเภาใหญ่ที่สามารถไปได้ทุกมหาสมุทร

  • การอ่านหนังสือที่เหมาะกับกับวัย
  • ย่อมทำให้เกิดการพัฒนาทางความคิด
  • และจะเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างดี
  • อาตมาอ่านหนังสือไม่มากแต่ต่อไป
  • จะพยายามอ่านให้มากขึ้นๆ
  • เพราะอาตมายึดหลักในการศึกษาของตนเอง
  • คือ ๑.การอ่านหนังสือ
  • ๒.การฟังวิทยุ
  • ๓.การดูทีวี
  • ๔.อินเตอร์เนท
  • ทั้งสี่อย่างนี้การอ่านจะมากที่สุดเพราะสะดวก
  • ทุกที่ทุกทางทุกเวลา..อนุโมทนาสาธุ
  • เอารูปที่ลองแต่งมาให้ดู..ธรรมสวัสดีโยมคุณครู

กราบนมัสการพระคุณเจ้า .... พระปลัด

  • ท่านไม่ชอบอ่านหน้าจอมอนิเตอร์นานๆ เพราะท่านเริ่ม สว.แล้วกระมังคะ
  • สงสัยต้องสวมแว่นตา หนึ่งเลนส์ ที่มองได้ทั่วทิศ แบบครูอ้อยแล้วเจ้าค่ะ
  • ลองไปตัดแว่นที่ร้านที่มีการวัดสายตาสินะเจ้าคะ
  • จะได้อ่านได้นานๆ ไงเจ้าคะ

กราบขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ

สวัสดีค่ะ ท่าน ผอ... small man~natadee

  • ท่านกล่าวมาถูกต้อง  หากไม่มีความจำเป็น ไม่มีประโยชน์สำหรับผู้อ่าน เขาก็จะไม่อ่าน   ประมาณว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา
  • แต่ในความเป็นจริง การที่จะได้ปริมาณงานอะไรสักอย่าง สักครั้ง ต้องมีทุนรอนเกี่ยวเนื้อหา เป็นที่ตั้ง  การอ่านมาก ก็จะมีส่วนที่จะช่วย ตรงนี้ได้นะคะ
  • ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องอ่านมากๆ  ครูอ้อยใช้การอ่าน และนำมาเล่า จะได้มี...ความคงทนในการเรียนรู้มากๆยิ่งขึ้นค่ะ
  • ขอบคุณมากนะคะในการแสดงความคิดเห็นเป็นการเชิงแนะนำ ให้ประโยชน์แก่ครูอ้อยมากเลยค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

สวัสดีค่ะท่าน ... Todsapol

  • ท่านเพื่อนครูหลายคน  ก็มีนิสัยรักการอ่านค่ะ   แต่ละท่าน  ก็จะมีความสนใจในเนื้อเรื่องที่ต่างกัน  ตามความสนใจและ ความจำเป็น
  • อย่างครูอ้อย  ก็ต้องหมั่นเพียรอ่านที่เกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษ  การวิจัย  ความรู้ที่เกี่ยวกับการเรียนปริญญาเอก  และความสนใจในเรื่องธรรมะ
  • ขณะนี้  โครงการรักการอ่าน ขยายกว้างออกไป  น้องในกลุ่มสาระฯ มายืมหนังสือไปอ่าน และไม่นำมาคืน  นี่ก็ต้องตามให้ทุกคนรู้จักคุณค่าของหนังสือและ นำขยายให้ผู้อื่นได้อ่านด้วย  ไม่ควรเก็บเป็นสมบัติของตนแต่เพียงผู้เดียว

ขอบคุณมากนะคะที่ชื่นชม  ครูอ้อยจะเก็บคำชมนี้ไว้ในคลังแห่งกำลังใจ  ในการปฏิบัติงานต่อไป

กราบนมัสการพระคุณเจ้า .... tukkatummo

  • ครูอ้อยได้อ่านการแสดงความคิดเห็นของท่านแล้ว  ทำให้นึกถึง  นักศึกษาคนหนึ่งที่สัมภาษณ์ครูอ้อยว่า....ทำอย่างไร  จึงได้เป็นครูดีเด่น
  • ครูอ้อย  ไม่ได้เตรียมตัวในการให้สัมภาษณ์เลย  แต่ครูอ้อย ได้ใช้  ความหมั่นเพียรที่มีอยู่ในตัวตน พูด ขยายความให้ทุกคนได้รู้ ว่า ครูอ้อย กำลังทำอะไร 
  • จากการอ่านมาก ฟังมาก  เป็นเรื่องที่ดีนะเจ้าคะ  ครูอ้อยกำลังเรียนปริญญาเอก  ยังเดินทางไม่ถึงร้อยละ 20 ของความสำเร็จเลย หากครูอ้อยเรียนไม่จบ  ครูอ้อยก็ยังภาคภูมิใจในตัวเอง  ที่ได้เรียนรู้มากมาย  กว้างขวางเหลือเกิน
  • การได้อ่านได้เรียน  ได้นำมาใช้กับการเรียนการสอน  นับว่า เป็นคุณค่ายิ่งนะเจ้าคะ  บางคนได้อ่าน ก็จะมีความรู้คงทนเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นเอง  ควรอ่าน และสอนให้ผู้อื่นทำได้แบบเรา  จะมีความรู้ที่คงทนถึง ร้อยละ 95 เชียวนะเจ้าคะ

กราบนมัสการขอบพระคุณเจ้าค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ ... บังหีม

  • อ่านการแสดงความคิดเห็นของท่านแล้ว  แบบเห็นแจ้งเห็นจริงเชียว
  • การที่ได้ให้แล้ว  ได้หายไปด้วยนี่ เจ็บปวดมาก เมื่อต้องการข้อมูลนั้นอีกครั้ง   นั่นคือ  ท่านที่ยืมหนังสือเราไปนั้น  ไม่เห็นคุณค่าของหนังสือ
  • หนังสือจะมีคุณค่ามากเมื่อ ตกไปอยู่ในมือของคนหลายๆคน ได้อ่าน  ไม่ใช่ไปจัดวางในตู้เฉยๆ
  • ครูอ้อย เตรียมหนังสือ และเอกสารประจำ  อ่านแล้ว จัดหมวดหมู่  จนรู้ว่าหนังสืออะไร อยู่ที่ไหน  ในตู้
  • แต่ระยะนี้ เอกสารมากมายเหลือเกิน ครูอ้อย อ่านไม่หมด ไม่สิ้น  มีเพื่อนรัก มิตรรัก ส่งมาให้มากมาย จนต้องจัดหมวดหมู่ไว้  ให้สะดวกในการยืมอ่าน
  • หากเพื่อน ยืมไปจนลืม  ก็ขอให้คิดว่า สสารไม่ได้หายไปจากโลก เพียงแต่เปลี่ยนเจ้าของเท่านั้นค่ะ....อย่าคิดมาก  มันไปได้  มันก็กลับมาได้นะคะ

ขอบคุณมากที่แวะมาเยี่ยมบันทึกครูอ้อยค่ะ  รักษาสุขภาพนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท