อ่านข่าวสุขภาพของรอยเตอร์ข่าวนี้แล้ว อยากจะเอามารีบบอกต่อ เพราะเห็นว่าคนไทยมักจะดื่มเรื่องดื่มชูกำลังกันโดยไม่ทันคิด โดยเฉพาะเด็กนักศึกษาที่อาจจะทำงานกิจกรรมหนัก แล้วต้องตื่นมาเข้าห้องเรียนหรือทำงานอะไรต่อ เป็นผลการศึกษาของนักวิจัยชาวออสเตรเลียที่พบว่า หลังดื่มเครื่องดื่มนี้แล้วเลือดจะหนืดเหมือนที่พบในคนที่เป็นโรคของหลอดเลือดหัวใจ เพราะฉะนั้นก็เป็นโอกาสเสี่ยงต่ออาการ stroke (อาการหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองอุดตัน) ด้วย
สำหรับเครื่องดื่มชูกำลังที่เขาศึกษานี้เป็นชนิดที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศออสเตรียและสูตรที่ผลิตก็คล้ายกับเครื่องดื่มชูกำลังของไทยเรานี่แหละค่ะ ส่วนโฆษกของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังชนิดนี้ก็ออกมาบอกว่าผลที่เกิดจากการดื่มนี้ยังคงจะอยู่ในสภาวะปกติทางกายภาพของคน แต่ยังไงก็ตามมีหลายประเทศอย่างนอร์เวย์ อุรุกวัย เดนมาร์กไม่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มชนิดนี้ (ยี่ห้อนี้...พูดไปใครๆก็รู้จักค่ะ) แต่อีกแง่หนึ่งโฆษกของบริษัทนี้ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ให้การแข่งขันแข่งรถฟอร์มูล่าวัน แล้วก็งานกีฬาดังๆด้วยก็บอกว่า เขามียอดขายไปทั่วโลก ที่เป็นเครื่องยืนยันว่าหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพของหลายๆประเทศก็ไม่เห็นว่ามีอันตรายต่อสุขภาพถึงขนาดที่ต้องห้ามจำหน่าย แต่ก็มีคำเตือนเอาไว้แล้วว่าไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 กระป๋อง (500 มิลลิลิตร)
สำหรับ Dr. Scott Willoughby จากโรงพยาบาล The Royal Adelaide Hospital ผู้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องนี้เพราะนักศึกษาของท่านสงสัยเนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่ฮิตในหมู่พวกเขา ท่านแนะนำไว้ว่า การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังชนิดนี้อาจมีอันตรายถึงชีวิตในคนที่มีอาการเครียด มีความดันโลหิตสูง หรือมีระบบการทำงานของระบบหลอดเลือดบกพร่องอยู่แล้ว ท่านบอกไว้เลยว่า ถ้าใครมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจอยู่แล้วนี่ ต้องคิดให้หนักก่อนที่คิดจะดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้ มีข่าวนี้รายงานในหนังสือพิมพ์ The Australian ของออสเตรเลียด้วย
ของไทยเราไม่ทราบว่ามีรายงานการศึกษาบ้างหรือไม่ แต่ยังไงใครๆที่เห็นคนอื่นดื่ม หรือคิดจะดื่มเองก็อย่าลืมเตือนกันให้คิดถึงสิ่งที่ต้องระวังกันด้วยนะคะ
มาขอบคุณสำหรับคำเตือนและข้อมูลที่ไม่สนับสนุนให้ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังค่ะ
เปลี่ยนเป็นดื่มเครื่องดื่มชูใจแทนได้ไหมคะ อิ..อิ..
ขอให้คุณโอ๋กายแข็งแรง จิตเบิกบานนะคะ ..^__^..