เยาวชนมุสลิมกับการใช้โทรศัพท์


โทรศัพท์

เยาวชนมุสลิมกับการใช้โทรศัพท์

                เราสามารถที่จะไปโทษโทรศัพท์ได้หรือไม่ ในฐานะที่เป็นตัวนำพาเราไปสู่การกระทำที่ไม่ดี?"

                คำถามข้างต้นเป็นคำถามที่เยาวชนมุสลิมควรที่จะเอามาคิดไตร่ตรอง  ใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งละเอียดถี่ถ้วน

                สำหรับโทรศัพท์นั้นก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่ใช้ในการสื่อสาร  จุดประสงค์ของผู้ผลิตเครื่องมือดังกล่าวนี้ก็เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร   แต่เดิมนักธุรกิจคือกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ผลิตต้องการ  เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจในการติดต่อซื้อขาย  ประชาชนธรรมดาไม่สามารถที่จะใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ได้  เนื่องจากว่ามีราคาข้อนข้างสูงถึงห้าหลัก

                ภายในเวลาไม่กี่ปีกลุ่มเป้าหมายของการผลิตโทรศัพท์นั้นไม่เฉพาะกลุ่มนักธุรกิจเท่านั้น  แต่ได้แพร่หลายไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นประชาชนธรรมดา , นักศึกษา   ฯลฯ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชน  ยิ่งเพิ่มกลุ่มเป้าหมายก็ยิ่งทำให้อัตราอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว   แม้กระทั่งเด็กอนุบาล/ประถมก็ยังมีใช้  นั่นแสดงให้เห็นว่าโลกของเรากำลังมุ่งหน้าสู่ความเจริญในด้านเทคโนโลยี      

                ปัญหาอาชญากรรม , ข่มขืน , อนาจาร , โสเภณี , ขายผู้หญิงข้ามแดนเพื่อกระทำผิดประเวณี  เหล่านี้เกิดขึ้นในโลกของเราเกือบทุกวัน   สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นนั่นก็คือ  โทรศัพท์  เครื่องมืออุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีทั้งหลายเปรียบดังดาบสองคม   ล้วนแล้วมีทั้งที่ยังประโยชน์และให้โทษแก่ผู้ใช้  ถ้าหากผู้ใช้ใช้ไปในทางที่ดี  เครื่องมือเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์   แต่ทางกลับกันถ้าหากผู้ใช้ใช้ไปในทางที่ไม่ดี  เครื่องมือเหล่านี้ก็จะเปรียบเสมือนยาพิษที่จะนำซึ่งอันตรายที่ใหญ่หลวงแก่ผู้ใช้ 

            ปัจจุบัน  โทรศัพท์ได้เข้ามามีบทบาทต่อเยาวชนมุสลิมในการที่จะนำมาซึ่งความหายนะต่ออิสลามเป็นอย่างมาก  เยาวชนมุสลิมส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์ไปในทางที่ผิด   ใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารกับฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ใช่มัฮฺรอม(ผู้ที่แต่งงานไม่ได้)  ทั้งๆที่อิสลามได้ห้ามไม่ให้ผู้ชายคบหรือติดต่อกับเพศหญิงเว้นแต่จำเป็น   ซึ่งเยาวชนเหล่านี้จะใช้โทรศัพท์เป็นเครื่องล่อให้ได้มาซึ่งการร่วมเพศสัมพันธ์เพื่อตอบสนองอารมณ์ใฝ่ต่ำหรือตัณหา  ซึ่งอิสลามก็ได้ห้ามเรื่องดังกล่าวกว่า 1400 ปีมาแล้ว   ดังที่พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในอัล-กุรอานว่า

ولا تقربوا الزنا إنه كان فاحشة ومقتا وساء سبيلا

ความว่า

                " และพวกเจ้าจงอย่าใกล้ชิดซินา  แท้ที่จริงแล้วมันเป็นสิ่งลามกและจะนำพาไปสู่หนทางที่ไม่ดี"

                จากอายะฮฺอัล-กุรอานดังกล่าว  อัลลอฮฺไม่ได้ห้ามการกระทำซินาอย่างเดียว  แต่พระองค์ได้ห้ามการกระทำการใดๆที่นำไปสู่การกระทำซินา   ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอิสลามได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  อิสลามได้ห้ามตั้งแต่ต้นเหตุที่จะนำไปสู่การกระทำที่ไม่ดี

                เป็นที่ชัดแจ้งสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น  ทั้งหมดไม่ได้เกิดมาจากวัตถุใดวัตถุหนึ่ง  เราไม่สามารถที่จะไปโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่าเป็นต้นเหตุ   แต่เราควรหันมาดูที่ผู้ใช้ว่าเขานั้นใช้ไปในทางไหนซะมากกว่า

" เราเป็นผู้ควบคุมโทรศัพท์ อย่าปล่อยให้โทรศัพท์มาควบคุมตัวเรา"  

 

 

หมายเลขบันทึก: 221933เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2008 13:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 14:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

อัสลามมุอลัยกมค่ะ..

ทุกอย่างขึ้นกับตัวเรา

ทุกอย่าง เวลาเกิดความผิดพลาดก้จะไปโทเทคโนโลยี

แต่ไม่เคยโทษตัวเราเอง

จะอย่างไรก้ตาม จงพอเพียงในการคุย เอาที่จำเป็น เพราะการคุยโทรฯมากไปก้ไม่ดีต่อตนเองและผู้อื่น

ไม่ดีต่อสุขภาพหู

ถ้าทุกอย่างขี้นกับตัวเราทั้งหมด คงไม่ต้องมีศาสนามาควบคุมความประพฤติ คิดดี แต่ไม่ทำ ทำแต่ไม่คิด มนุษย์นั้นอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ อ่อนแอ การอยู่ในร่องรอย หนทางของศาสนาีดีที่สุด เทคโนโลยีคือปัจจัย แต่สาเหตุคือตัวเรา เพราะเราไม่อยู่ในร่อยในรอย อิสลามบอกอย่าเข้าใกล้การซินา แม้ว่าจะเป็นแค่การคุยโทรศัพท์ศาสนาก็ไม่อนุมัติถ้าเกินขอบเขต วัสสาลาม

جزاكم الله خيرا

1. ณ.ปัตตานี

2. ตักวา

ที่ได้แสดงความคิดเห็น

ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนในคุณงามความดี

หากใครก็ตามที่ต้องการอยากจะใช้ข้อความนี้ในการดะวะฮฺพี่น้อง

ทางเราอนุญาตให้ท่านคัดลอกได้

หวังว่าด้วยข้อความนี้จะเป็นสิ่งที่คอยตักเตือนมุสลิม

เพื่อมุสลิมจะได้ถึงอิสลามที่แท้จริง

หากเป็นไปได้ อย่าปล่อยให้อีกด้านของความสามารถเลือนหายตามกาลเวลาอีก...นะน้องชาย

สำหรับเสียงเล็กๆ

ครับผม อินชาอัลลอฮฺ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท