ข่าวการระบาด จากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทวีคูณ และพบมีผู้เสียชีวิต แล้ววันนี้อยู่ที่ 15 รายใกล้ตัวเราเข้าไปทุกวัน
ผู้คนแตกตื่น เข้ามารับการตรวจวินิจฉัยแต่ละโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเช่นกัน ขณะที่โรงพยาบาลต่างๆ จัดช่องทางพิเศษรับตรวจคัดกรองผู้ป่วยไข้หวัดใหม่สายพันธุ์ใหม่ 2009
มีรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มอีก 1 รายที่จังหวัดสมุทรปราการ และพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ในไทย วันนี้เพิ่มอีก 157 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 28 เมษายน ถึง 11 กรกฎาคม 2552 มีถึง 3,308 ราย ติดตามสถานการณ์รายวันได้ที่
อาการไข้หวัด 2009
ไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดยังไม่หยุด ลักษณะอาการไม่รุนแรง ใกล้เคียงกันกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดิมที่เกิดขึ้นตามปกติ อัตราตายต่ำ อาการป่วยคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล อาการ ไข้หวัดใหญ่ 2009
การติดต่อเหมือนกัน คือมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยเนื้อตัว
ที่ที่พบว่าทำให้ติดเชื้อได้มากที่สุด คือบ้านและโรงเรียน เพราะการติดเชื้อมีปัจจัยสำคัญคือ ต้องใกล้ชิดและสัมผัสกันประมาณ 8 ชั่วโมง หากแค่เดินผ่านกันหรืออยู่ในสถานที่ปลอดโปร่ง โอกาสติดเชื้อมีน้อยมาก
ที่สำคัญพบว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีอาการน้อย บางรายมีอาการน้อยมากจนไม่รู้ว่าป่วย ร้อยละ 95 สามารถจัดการเชื้อโรคได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นไม่ควรตื่นตระหนกและปฏิบัติตามคำแนะนำ
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำแนะนำ ดังนี้
หากป่วยเล็กน้อย ควรหยุดพักเพื่อรักษาตัวที่บ้าน พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ อาการจะหายเองได้ภายใน 2-3 วัน
สวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ปิดปากและจมูกเวลาไอหรือจามด้วยกระดาษทิชชูหรือแขนเสื้อของตนเอง
ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ แยกห้องจากผู้อื่น ไม่ใช้ของร่วมกัน
สำหรับสถานศึกษา หากพบเด็กป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ต่อเนื่อง ตั้งแต่ 3 คนในห้องเรียนเดียว ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและควบคุมสถานการณ์
สำหรับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ควรติดตามอาการของตนเอง 7 วัน
โดยในระยะ 3 วันแรกควรพักอยู่ที่บ้านก่อนไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือสถานศึกษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
ผู้ป่วยรับประทานยาลดไข้ เช่นพาราเซตามอล (ห้ามใช้ยาแอสไพริน) และยารักษาตามอาการ เช่น ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ยกเว้นพบเชื้อแบคทีเรียและแพทย์สั่ง
ให้เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำสะอาดที่ไม่เย็น ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มากๆ งดดื่มน้ำเย็นจัด พยายามรับประทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก และผลไม้ให้พอเพียง
นอนพักผ่อนมากๆ ในห้องที่อากาศไม่เย็นเกินไป และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
หากอาการป่วยรุนแรงขึ้น เช่น หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที แจ้งประวัติการเดินทางหรือบุคคลใกล้ชิดให้แพทย์ทราบ
ข้อควรระวัง คือกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว จะมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากกว่าปกติ
ต้องหมั่นคอยสังเกตอาการไว้ตลอด
จาก http://women.mthai.com/views_health_11_47_38006_1.women?page=1&
จากสมุดปกเขียว ป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 http://hilight.kapook.com/view/38246
เอ อาการเล็กน้อยที่ว่า คืออย่างไร และจะทราบได้อย่างไรว่าใช่ไข้หวัดใหญ่ 2009
สวัสดีค่ะ pa_daeng
สวัสดีค่ะพี่ ใบบุญ
ผลcbcมีอะไรผิคปกติบ้างครับ(ดูได้จากอะไรบ้าง)
CBC มีค่าเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ แสดงว่ามีการติดเชื้อ
ติดเชื้ออะไร ก็ใช้วิธีเพราะเชื้อสิ่งคัดหลั่งก่อนว่าเป็นเชื้อแบคทีเรีย หรือ ไวรัสอีกครั้งก่อน
ขอบคุณครับแล้ว PLT จะต่ำเหมือนไข้เลือดออกไหมครับ