"พระรักเกียรติ" เปิดใจการเมืองอุปถัมภ์ลุ่มหลงกิเลส เป็นเส้นทางเสี่ยงต่อทุกข์ จากรมต.รวย 100 ล้าน ต้องหลบซ่อน ใช้เงินวันละ 100 บาท ประกาศไม่ขอหวนกลับถนนการเมือง มั่นใจมาตรฐานศาลไทยตัดสินตามกฎหมายที่โหวตเห็นชอบโดยนักการเมือง (9ม.ค.) เจเอสเอล โกลบอลมีเดีย พระรักเกียรติ สุขธนะ หรือฉายารักขิตะ ธัมโม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาออกรายการเจาะใจ ตอนเจาะใจอดีตรมต.ติดคุก คดีทุจริตสินบนยา 5 ล้านบาท โดยมีนายสัญญา คุณากร และนายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ เป็นพิธีกร โดยจะออกอากาศในวันที่ 14 ม.ค.ที่จะถึงนี้
โดยพระรักเกีรยติ เปิดใจว่า หลังรับการพักโทษหรือปล่อยตัวก่อนกำหนด 2 ปี 6 เดือน ก็บวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดสิรินธราวาส อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี และหากไม่มีปัญหาต้องลาสิกขาบทก็อยากบวชตลอดชีวิตและไม่คิดหวนกลับมาสู่เส้น ทางการเมืองอีกต่อไป
พระรักเกียรติ ได้กล่าวให้สติถึงการใช้ชีวิตว่า ระหว่างที่ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ ก็ได้ทบทวนความผิดในอดีตของตนพบว่า เมื่อมีตำแหน่งการเมืองสูงขึ้น ได้ใช้ชีวิตประมาทขาดศีลธรรม เพราะลุ่มหลงอยู่ในลาภ ยศ สรรเสริญ ผิดศีล ทั้งดื่มสุรา นารี และพนัน ตอนแรกเล่นการพนันแต่น้อย ช่วงหลังถึงกับบินไปเล่นในคาสิโนต่างประเทศได้เสียครั้งละเป็น 10 ล้าน เคยเล่นเสียหนัก 20-30 ล้านบาท และเคยเล่นได้สูงสุด 109 ล้านบาท ตอนนั้นคิดว่า เป็นทางนำมาซึ่งความสุข ไม่เคยทราบว่าเป็นสุขไม่ยั่งยืนและต้องกลายมาเป็นความทุกข์ นักการเมืองที่ไปเล่นไม่ได้ชวนกัน ต่างคนต่างไปเล่น เพราะไปทำความผิด จึงไม่ชวนกันไป ส่วนครอบครัวเมื่อรู้ว่าตนเล่นการพนันก็ห้ามปราม แต่ก็ไม่ฟัง เพราะลุ่มหลงในกิเลส
"แต่อาตมาตั้งใจดูแลตัวเอง ไม่ให้ป่วย ไม่ให้ตาย เพราะไม่ต้องการตกเป็นข่าวประวัติศาสตร์ว่าเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ตายในคุก และยังต้องรักษาจิตใจไม่ให้เป็นบ้า โดยใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้าซึ่งเรือนจำได้จัดให้มีการสอนศาสนาของทุกศาสนา จึงเป็นครั้งแรกที่ทำให้อาตมารู้จักธรรม ตอนเป็นรัฐมนตรีไปทำบุญเป็นชาวพุทธ แต่ไม่เคยรู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ไม่รู้จัก คำว่า ทาน ศีล ภาวนา เมื่อถูกกิเลสเข้าครอบงำ ทำบุญแทนที่จะได้บุญก็ได้บาป พอบุญหมด กรรมตามทันจึงต้องตกนรกบนดิน ซึ่งอาตมาคิดว่า คดีนี้เป็นคดีแรกจึงถูกลงโทษเต็มที่ 15 ปี แตกต่างจากคดีหวยบนดินซึ่งลงโทษเพียง 2 ปี ระหว่างติดคุกอาตมาก็ทำใจอยู่เป็นปี แต่เห็นว่านักโทษหลายคดีโดนหนักกว่าเรา เช่น พล.ต.ท.ชะลอ เกิดเทศ อายุ 72 ปีแล้ว สุขภาพไม่ดี แต่ยังมีความหวังจะได้กลับบ้าน แต่กลายเป็นต้องมาเก็บของจากเรือนคลองเปรมเพื่อไปรอรับโทษประหารที่เรือนจำ กลางบางขวาง ของเราจึงดีกว่าเขา ถ้าทำดี มีโอกาสกลับบ้านก่อน 15 ปี "
พิธีกรถามว่า หลังจากติดคุกชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไร พระรักเกียรติ กล่าวว่า ทำให้ได้คิดว่าทำผิดแล้วต้องแก้ไข เพราะคนส่วนใหญ่คิดแต่แก้ตัวว่าไม่ได้รับความยุติธรรมและไม่ยอมรับโทษ ส่วนอาตมาทำใจยอมรับและพยายามแก้ไข โดยไม่ขอกลับไปสู่ส้นทางการเมืองทั้งที่ยังมีอายุเพียง 56 ปี เนื่องจากเส้นทางเก่าถ้าย้อนกลับไปจะพบกับความทุกข์อีก และชีวิตหลังจากนี้ขอแก้ไขด้วยการทำสิ่งใหม่ คือ ศึกษา ปฏิบัติและเผยแพร่ธรรมของพระพุทธเจ้า แต่ถ้าสึกออกมาก็จะขอทำงานเลี้ยงครอบครัวในอาชีพที่ปรึกษากฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเล่นการเมืองเคยเป็นทนายความ
พระรักเกียรติ ยังเปิดใจถึงครอบครัวว่า ขณะนี้ไม่มีสิ่งใดน่าห่วง ไปขอลาบวชครั้งแรกภรรยาก็อนุโมทนา ส่วนลูกเรียนจบและเป็นอา จารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งไปแล้ว ในงานบวชเพื่อนๆมากันพร้อมหน้าแม้แต่ข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุขและผู้ที่ เคยร้องเรียนในคดีทุจริตยาก็มาอโหสิกรรมให้ จึงต้องขอบคุณคนที่โทรศัพท์ไปแจ้งให้มาจับ เพราะถ้ายังหนีต่อไป วันนี้คงไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แต่นี่ใช้เวลาเพียง 5 ปีก็สามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ ตนจึงเห็นสัจธรรมของชีวิตครบถ้วน
"ทุกวันนี้ไปเทศนาให้ชาวบ้าน นักเรียนและนักโทษฟัง ปกติคนเคยติดคุกแล้วจะอาย แต่สำหรับอาตมา อยากยกชีวิตที่มีหลายรสชาติมาสอนผู้คน และเยาวชนกลุ่มเสี่ยงให้รู้ว่าไม่มีใครหนีกรรมได้ แม้แต่คนเป็นรัฐมนตรีก็เสื่อมยศ เสื่อมวาสนาได้" พระรักเกียรติ กล่าว
พิธีกรได้ถามคำถามสุดท้ายว่า หากมีสิ่งวิเศษสามารถย้อนเวลาได้จะกลับไปบอกรัฐมนตรีรักเกียรติว่าอย่างไร พระรักเกียรติ กล่าวว่า ถ้าวันนั้นรู้ธรรม จะไม่ทำผิด จะไม่ใช้ชีวิตประมาทและไม่ยอมให้กิเลสครอบงำ จะบอกเขาว่า เส้นทางนั้นเป็นความสุขชั่วครั้ง ชั่วคราวทำให้เกิดความทุกข์และเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อาตมาจะไม่ทำผิด
นมัสการค่ะ
อ่านแล้ว...ร้องอนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบขอบพระคุณท่านที่นำมาเป็นบันทึกให้ได้อ่าน เรื่องราวของผู้พบธรรมะ
สาธุค่ะ
กลับมาอ่านและน้อมนำธรรมะสู่ชีวิตค่ะ
"...ออกมาจาก "ห้องขัง" ได้แล้ว โดยย้ายเข้ามาสู่ "ห้องธรรม" ซึ่งเป็น "ห้องแห่งสติ" ที่อุดม และอบอวนไปด้วยการ "รู้ ตื่น และเบิกบานด้วยสายธารแห่งธรรม"
สาธุค่ะ
กราบนมัสการครับ พระธรรมะหรรษา
โยมคนไม่มีราก
ครูจ่อย
นมัสการพระคุณเจ้า
ก็ได้แต่เก็บเอาไปเตือนตนเองครับ เอาความผิดพลาดคนอื่นมาเป็นสิ่งเตือนใจตนเอง
ท่านผอ. พรชัย
กราบนมัสการ พระอาจารย์
ได้อ่านบทสัมภาษณ์ด้วยค่ะ ก็ขอให้บุญกุศลที่เคยทำมาช่วยดลจิตดลใจให้ตนเองและครอบครัวทำแต่สิ่งดีๆๆค่ะ สาธุ
เจริญพร โยมธรรมทิพย์
กราบนมัสการค่ะ ท่านอาจารย์ธรรมะหรรษา
Moon smiles on Venus&Jupiter และ นีนานันท์ กราบนมัสการท่าน ธรรมะหรรษา ในโอกาสปีใหม่ 2553 ค่ะ
ครูนก
โยมมีนานันท์
นมัสารพระคุณเจ้า
เมื่อคืนนี้ได้ดูรายการนี้เจ้าค่ะ
สรรเสริญท่านเจ้าค่ะ ที่นำเอาบทเรียนจากความประมาทของท่านเอง มาสอนเยาวชนกลุ่มเสี่ยง
น่าจะได้ผลดีนะเจ้าคะ
เลยทราบว่าท่านสอบนักธรรมโทได้ก่อนที่จะบวช
อยากทราบเรื่องฆราวาสสอบนักธรรมเหมือนกันเจ้าค่ะ
นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ
มาน้อมรับธรรมะยามเช้า ชื่นชม ธรรมะควบคู่กับการเรียนรู้ ช่วยกล่อมเกลาและสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน ดีจังค่ะ
ฆราวาสสามารถสอบนักธรรมได้ด้วยรึเจ้าคะ ขอบพระคุณค่ะ
เจริญโยม ณัฐรดา และโยมปู
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
ออกจากห้องขัง..เข้าห้องธรรม..สาธุนะเจ้าค่ะ
ก้อนหินยิ้ม ลงบทความภาษิตธรรมบทเรื่องนางยักษ์ แล้วนะเจ้าค่ะ
ก็วาดรูปประกอบด้วยนะเจ้าค่ะ
พระอาจารย์...แวะไปเป็นกำลังใจก้อนหินยิ้ม ด้วยนะเจ้าค่ะ...
บ้านพระธรรม ภาษิตธรรมบท..เรื่องนางยักษ์เจ้าค่ะ
Permalink : http://www.oknation.net/blog/sarattatham/2010/01/18
เณรน้อย
ไปดูแล้ว และพยายามจะแสดงความเห็น เค้าบอกว่า ต้องล๊อคอิน เลยพูดไม่ออก
นมัสการครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ
นมัสการคะท่าน
อยากให้นักการเมืองสำนึกผิดบ้าง ท่านคงเตือนสติเขาได้บ้างนะคะ
มานมัสการพระคุณเจ้าครับ
พร้อมนำเรื่องที่เคยบันทึกไว้มาถวาย อ่านได้ที่นี่ครับ