บรรยากาศในรถ จากเชียงใหม่ ถึงปาย เป็นบรรยากาศที่ดี ด้วยมีผู้โดยสารเต็มคันรถ เเต่ก็ไม่มากเพราะเป็น มินิบัส ดังนั้นการเดินทางจึงถ้อยทีถ้อยอาศัย คนแปลกหน้าก็ยิ้มให้กันอย่างมิตรไมตรี...
สาวเจ้าคนเดิมที่ยิ้มให้ตอนขึ้นรถ ...ก่อนที่ผมจะลงรถที่ปาย เธอยังเเซวฝากไว้ก่อนลง "อย่าลืมหยิบกระเป๋า นะค้าาา"
ผมลงรถปากทางมีรถปิคอัพคนรู้จักมาเทียบรับในทันที นี่เป็นน้ำใจคนท้องถิ่นที่น่าประทับ ส่งผมถึงหัวกะไดบ้านเลยทีเดียว
ถึงบ้านเเล้ว...ความรู้สึกอบอุ่นโถมทวี คุณเเม่ไม่อยู่บ้านปิดไว้ เเต่ด้วยความที่เป็นบ้านของตัวเอง สามารถเข้าถึงด้านในบ้านอย่างไม่ยาก (เเม้ไม่มีกุญเเจ)อาการเพลียจากที่ไม่ได้นอนมาหนึ่งคืน เพลียจากการที่นั่งรถติดต่อกันมานานคืนกับอีกครึ่งวัน หายไปราวปลิดทิ้ง
กอดทุ่งนา กอดภูเขา กอดบ้านที่เเสนรัก ...
ข้าวกำลังออกรวง กำลังเหลืองอร่ามได้ที่ กลิ่นใบข้าว กลิ่นดิน กลิ่นที่เราคุ้นชิน...
บ้านของเรา
วิ่งถลาคว้ากล้อง...เก็บบันทึกบรรยากาศบ้านนาอย่างไม่รอช้า..
ดอกหญ้า กับ ฟ้าคราม
วัชพืช เเต่ก็งดงาม
กอดขุนเขา กอดทุ่งนา กอดเมืองปาย
กอดภูเขา
เห็นบ้านผมไหมครับ???
นาที่ใกล้เก็บเกี่ยวเเล้ว...
คืนนี้ผมนอนหลับไหล อย่างมีสุข ที่บ้านของผมที่ปายครับ
ปีใหม่ เเพลน นิ่ง ไว้อีกแล้ว ในรอบ 5 ปี จะไป ปาย...
ผม up บันทึกใหม่ แล้วครับ เรียนเชิญ พี่เอก ด้วยนะครับ
สวัสดีค่ะ
เจอแต่คนฝันปายในหัวใจทั้งนั้น คนเบอร์ ๑ ข้างบนนี่อีกคน เฮ่อ...คนแก่ได้แกชต่อิจฉาคนเด็กวัยหนุ่มสาว
ไม่น่าเชื่อนะว่า แค่ภาพต้นหญ้ากับฟ้าสวย แค่นั้นจะประทับใจคนเราได้ ธรรมชาติมีคุณค่าเสมอ
สาวเจ้าคนนั้นมากับเพื่อนสาวอีก 1 คน
จำได้ว่า สายตาที่หล่อนมองคุณเอก เป็นสายตาแห่งความสนใจ
และเว้าวอนว่า พี่เอกยังโสดอยู่หรือเปล่าค่ะ หนูสมัครไปนั่งในหัวใจพี่ได้ไหมค่ะ อิ อิ
เดิน ๆ อยู่ที่ปาย ระวังบุพเพอาละวาดนะครับ เดี๋ยวต้องไปถ่ายงานแต่งรอบล่ะเนี่ย
หากปายขายความงามเพียงเท่านี้ คงจะดีนะครับ
ไม่อยากให้ปาย มลายลงต่อหน้า ขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่เลย ;)
ต้นกล้าครับ...
ผมจะตามไปอ่านครับผม :)
ปาย...สวยมากค่ะ
มาช้าไปวันนึง คงสุขสันต์วันพิเศษ ณ บ้านปาย นะคะ :)