แลกชีวิตด้วยศรัทธา 1
สัทธานี้จัดเป็นธรรมเบื้องต้น ในอันที่จะทำให้บุคคล ได้ประกอบคุณงามความดี เป็นบุญกุศลขึ้นมา และสัทธาที่จะเกิดขึ้นได้นั้น ย่อมต้องอาศัยวัตถุอันเป็นที่ตั้งแห่งความเชื่อ ได้แก่ พระรัตนตรัย ผลของกรรม เป็นต้น สัทธานั้นเมื่อเกิดขึ้นย่อมทำให้เกิดความผ่องใส ไม่ขุ่นมัว สามารถดำเนินไปจนเข้าถึงปีติได้ http://th.wikipedia.org/( และดูต่อ ศรัทธา 4)
เรื่องนี้มาจากประสบการณ์ตรง บางอย่างก็เคยได้ยินมาก่อน แต่เมื่อมาสัมผัสด้วยตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างกลับเพิ่มขึ้น และบางเรื่องในเหตุการณ์ทำให้ไม่สามารถจะปฎิเสธได้เลยว่า ความเชื่อที่ว่า ชีวิตย่อมมีค่า สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของชีวิตเสมอ นั้น เป็นจริงและวัดได้
ได้มีการไถ่ชีวิตวัวเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามโครงการพระราชดำริฯ โดยจัดขึ้นที่วัดในตัวเมือง เพื่อต้องการให้ได้วัว 9 ตัว พระอาจารย์ที่ครอบครัวเคารพมากได้มาชวนให้ร่วมสร้างกุศลครั้งนี้ด้วย ก็เลยชักชวนบอกเพื่อนสนิทด้วย ...ปกติทั่วไปการไถ่วัวทำได้ โดยไปมอบเงินตามกำลังศรัทธาให้ที่วัด มีกรรมการนั่งประจำเต็นท์ มีกล่องให้ใส่เงิน และออกใบอนุโมทนาบัตรให้ หรืออีกวิธีคือแจ้งความประสงค์ขอไถ่วัวทั้งตัว ก็มีการตั้งราคาไว้ที่ 9,000 บาท ซึ่งราคาจริงๆของวัวจะแพงกว่านี้คือประมาณ ตั้งแต่ 12,000-16,000 บาท แล้วแต่ขนาด น้ำหนักตัว และอายุ
ไม่แน่ใจว่าท่านที่เคยไถ่ชีวิตวัวมาแล้ว เคยทราบ วิธีการที่เขาฆ่าวัวหรือไม่ หากทราบก็จะยังขอเล่า เผื่อคนที่ไม่เคยทราบ :) เพราะนี่เป็นประสบการณ์ตรงส่วนหนึ่ง
........ว่ากันว่า วัวตัวที่จะถูกฆ่าจะต้องให้อดน้ำ อดหญ้าอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้ลำไส้สะอาด และจะขังหรือผูกเอาไว้ตรงไกล้ลานฆ่า เพื่อให้ยืนดูเพื่อนโคถูกฆ่าต่อหน้า ซึ่งการฆ่าเท่าที่รู้มาทำได้ 2 วิธีคือ จับผูกขาตรึงไว้แล้วให้คนอย่างน้อย 2-3 คน ยืนถือไม้ไว้ทุบที่หัว ช่วยกันรุมทุบอย่างเร็ว เพื่อให้ตายโดยเร็วไม่ให้ทรมานมากนัก อีกวิธีคือ ผูกขาโยงเสาขึ้นไปแล้ววัวจะห้อยคอลงมาก็จะเชือดคอได้ง่าย (จริงๆแล้วมีอีกวิธีไว้ตอนต่อไป) โรงฆ่าสัตว์ที่ meepole ไปนี้..... ใช้วิธีที่สอง
การฆ่าเช่นนี้เชื่อว่า คนอ่านไม่มีใครไม่หดหู่เป็นแน่ แล้วลองคิดดูว่า เจ้าวัวที่ต้องยืนดูและฟังเสียงร้องโหยหวนของเพื่อนมันที่ถูกฆ่าถึง 3 วันนั้น ในแต่ละวันมันต้องตื่นตระหนก อยู่ด้วยความกลัว กระวนกระวาย ตลอดจนหาทางเอาชีวิตรอด มันจะทุกข์ขนาดไหน มันคงมีสัญชาติญาณในการรับรู้ถึงความตายที่จะมาถึง ที่มันจะได้รับในรูปแบบเดียวกับเพื่อนมัน
เนื่องจากพระอาจารย์และกลุ่มของ meepole 4 คน แจ้งความประสงค์จะไถ่ 2 ตัว เขาก็แจ้งมาว่ามีวัวแม่ลูกกัน กำลังจะถูกฆ่าตอนค่ำที่โรงฆ่าสัตว์ ก็เลยให้ไปเอา เพื่อนบอกว่าให้หาหญ้าและเอาถังน้ำไปด้วย ก็เดินไปตัดหญ้าแถวในหมู่บ้านได้มาคนละกำมือใหญ่ ไปพร้อมกับพระผู้ใหญ่อีก 2 รูป พอไปถึงสิ่งที่แตะตาครั้งแรกคือ โรงฆ่าสัตว์นี้เป็นบริเวณเล็กๆ สถานที่เก่ามาก กั้นเป็นคอก ไว้กักวัวที่รอเชือด ติดๆกันก็เป็นลานปูนไว้ฆ่า มีเสาขนาดใหญ่ 4 เสา 4 มุม สกปรกพอสมควร ไปถึงก็เห็นวัวถูกผูกอยู่ 2 ตัว เห็นแล้วสงสารมากเพราะรู้ว่าเป็นแม่ลูกกัน ถูกล่ามไว้ที่เสาติดกัน ตอนเดินเข้าไปมันตื่นกลัวมาก ดึงตัวถอยหลังตลอด พระท่านก็ยื่นหญ้าให้กิน สักครู่แม่วัวจึงยอมกินทั้งหญ้าและน้ำ แต่ลูกไม่ยอมกิน มีอาการตื่นกระโดดถอยหลังตลอดเวลา รอครู่ใหญ่มากจนหายตื่นลงบ้าง ก็มีคนมาจูงเพื่อเอาขึ้นรถไปส่งที่วัดที่มีการจัดงานไถ่ชีวิต ทุกคนเดินตามไปทางเดียวกัน meepole ต้วมเตี้ยมเดินตามมาห่างๆ สายตาเหลือบไปเห็นรถกะบะเก่า กั้นเชือกไว้รอบ บนรถมีวัวตัวใหญ่สีครีมยืนอยู่ ก็งงๆ คิดว่าเอ!! มาเมื่อไหร่นะ เมื่อตอนมาก็ไม่เห็น ก็เลยเดินจะแวะไปดูไกล้ ๆ ได้ยินเสียงเพื่อนในกลุ่มตะโกนเรียกชื่อ meepole บอกว่า ออกมา ๆ ..อย่าไป ๆ แต่ช้าไปแล้ว.........ตามอ่านต่อนะคะ พักสายตาก่อนด้วยภาพข้างล่าง วัวที่บ้าน ค่ะ :)
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ศรัทธา 4 พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=181
(:)
โห ตื่นเต้น จะรอดไหมนา เจ้าตัวใหม่นั่น
เอาสวยๆมาฝากครับ
สวัสดีค่ะ คุณโสภณ เปียสนิท
คุณโสภณ ไม่ห่วง meepole เลยหรือคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณธนิตย์ สุวรรณเจริญ
ขอบคุณที่แวะมานะคะ