อาหารอินทรีย์ ปลอดภัยจริงหรือ


อาหารปลอดสารพิษรวมถึงผักผลไม้ มีการใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ที่ได้มาจากการย่อยสลายของซากพืช ซากสัตว์ และมูลสัตว์ ไม่ใช่ปุ๋ยเคมี ฟังดูแล้วดี แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกๆลงไป ปุ๋ยธรรมชาติทั้งหลาย ก็เป็นพาหะของเชื้อ ที่ก่อให้เกิดโรคหลายๆชนิดในคน

Trend ของเรื่องการบริโภคอาาหารของหลายภาคส่วนในโลก เช่นในสหรัฐอเมริกา ในช่วง 20 ปี  เริ่มตั้งแต่ปี 1990  จนถึงปัจจุบัน  เป็นไปในแนวที่ พยายามให้อาหารมาจากธรรมชาติหรือ เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ที่เรียกว่า เกษตรอินทรีย์ เป็นระบบการเกษตรที่เน้นหลักที่การปรับปรุงบำรุงดิน  หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และ เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์
แต่กลับไปพยายามประยุกต์กลไกและวัฐจักรธรรมชาติในการเพิ่มผลผลิต   และพัฒนาความต้านทานต่อโรคของพืชและสัตว์เลี้ยง 
ตัวอย่างที่ี่ สหรัฐอเมริกา
  การเกษตรแบบนี้  มีการเติบโตที่เร็วมาก ประมาณเกือบร้อยละ 20%ต่อปี ในช่วงปี 1997-2007  และจากปี 2007-2010 ก็จะโต 18%ต่อปี   ส่วนยอดขายปลีกอาหารอินทรีย์ทุกชนิดรวมกัน ในปี 2007 ก็ขึ้นถึง 20 พันล้านดอลล่าร์ต่อปี  ข้อมูลจาก
Organic Trade Association's 2007 Manufacturer Survey





ที่มีการเติบโตมากเช่นนี้ เพราะผู้บริโภค มีความเชื่อมั่นว่าทั้งปลอดภัย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และอร่อยกว่า รวมทั้งวิธีการผลิตไม่ทำลาย หรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับการผลิตแบบดั้งเดิม เหตุผลหลักที่มีผู้นิยม อาหารเกษตรอินทรีย์มากขึ้น เพราะต้องการหลีกเลี่ยงยาฆ่าแมลง

แต่บางครั้ง ก่อนปลูกพืชผักผลไม้ 
ชาวไร่จะพรวนดินแล้วทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน ซึ่งช่วงนี้ ชาวไร่บางคน  จะให้หญ้าขึ้น จากนั้นจึงใช้ยากำจัดวัชพืชฉีดลงไป เมื่อวัชพืชตายจะกลายเป็นปุ๋ยไปในตัว จากนั้นจึงโรยเมล็ดพันธุ์ผัก เมื่อพันธุ์ผักเจริญเติบโตจะไม่มีปัญหาเรื่องวัชพืชขึ้นมาแย่งอาหาร

พอมาถึงการใช้ปุ๋ย อาหารปลอดสารพิษรวมถึงผักผลไม้ จะมีการใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ที่ได้มาจากการย่อยสลายของซากพืช ซากสัตว์ และมูลสัตว์ ไม่ใช่ปุ๋ยเคมี  บางทีก็ใช้ Rotenone ยาฆ่าแมลง ที่ทำมาจากพืช ซึ่งก็มีฤทธิ์แรงเหมือนกัน.....recent study linking rotenone - a pesticide with a ‘natural' image, commonly used in organic farming and gardening - to Parkinson's .

นอกจากนี้   ถ้าพิจารณาให้ลึกๆลงไป ปุ๋ยธรรมชาติทั้งหลาย ก็เป็นพาหะของเชื้อ  ที่ก่อให้เกิดโรคหลายๆชนิดในคน ซึ่งปกติแล้ว เชื้อเหล่านี้ จะอยู่ในทางเดินอาหารของสัตว์ เช่น วัว ควาย เป็ด ไก่ เป็นต้น เชื้อเหล่านี้ ไม่ก่อให้เกิดโรคในสัตว์ แต่จะเกิดโรคในคน ที่กินผักและผลไม้ที่ปนเปื้อนเหล่านี้เข้าไป ที่เรียกว่า อาหารเป็นพิษ โดยความรุนแรงจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคและภูมิต้านทานของผู้บริโภค เชื้อโรคบางชนิด มีความรุนแรงมาก ก่อให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด (severe bloody diarrhea ) บางที ทำให้เสียชีวิตได้

นอกจากนี้ มูลสัตว์เหล่านี้ ยังจะกระจายไปในแหล่งอื่นๆอีก เช่น แหล่งน้ำที่ใช้ปลูกพืชผัก หรือ สัตว์ป่าเป็นตัวช่วยกระจายเชื้อโรคจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ตลอดจนน้ำที่ใช้ล้างผัก และกระบวนการขั้นตอนการผลิต การเก็บ ที่มีคนเป็นผู้ดำเนินการ จะแน่ใจได้อย่างไรว่า จะมีสุขลักษณะที่ดี ในการผลิต

ส่วนผักผลไม้สดบรรจุถุง แม้จะมีการล้างก่อนทำการบรรจุ แต่จุลินทรีย์บางชนิดก็ไม่สามารถถูกกำจัดออกไปได้ หรือถูกกำจัดออกไปได้น้อยมาก ด้วยขั้นตอนดังกล่าว แถมบางชนิดยังสามารถเพิ่มปริมาณและเติบโตได้อีกด้วย ดังนั้น การล้างและถูผักผลไม้มากๆ ก่อนรับประทานจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง      ตัวอย่างผักที่ ต้องมีการล้างให้สะอาดเป็นพิเศษ เช่น ถั่วงอกของอัลฟาฟา ผักกาดเขียว ผักกาดขาว ผักชี มะเขือเทศ เป็นต้น
ที่สหรัฐอเมริกา คนชอบกินผักสดผลไม้สดบรรจุถุงมาก แต่เคยมีรายงานว่า มีคนเสียชีวิตจากการรับประทานผักสดผลไม้ที่บรรจุถุงดังกล่าว  แต่สาเหตุที่แท้จริง ยังไม่สามารถเจาะลงไปในรายละเอียดได้ในขณะนี้ แม้จะสงสัยว่า เชื้อโรคมาจากน้ำ ที่เป็นแหล่งน้ำปลูกผักผลไม้นั่นเอง

พออาหารธรรมชาติ อาหารสดๆ เป็นที่นิยมมากขึ้น คนก็เลยละเลย หลักการด้าน food technology  และมองว่า เป็นการมาทำให้คุณค่าอาหารดีๆตามธรรมชาติ ต้องสูญเสียไป
แม้กระทั่งทางFDA ที่อเมริกาเองก็ มุ่งเน้นเรื่อง อาหารธรรมชาติเช่นกัน ไม่ได้เข้มกับความปลอดภัยของอาหารเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซึ่ง ข้อดีของขั้นตอนการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อ จะสามารถทำลายได้ทั้งเชื้อ E.coli O157:H7 ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่จะสร้างสารพิษที่มีผลทำให้เกิดการระคายเคืองที่เยื่อบุผนังลำไส้      และ Salmonella spp   เชื้อ Salmonella มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะความเป็นอยู่หรีอการดำรงชีวิตที่ต่างกันไป  เช่น เชื้อ  typhi เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารที่เรียกว่า ไข้ไทฟอยด์   
ในอุณหภูมิที่ 72 องศาเซลเซียส ก็จะทำลายเชื้อทั้งสองนี้ได้   ซึ่งเชื้อทั้งสองชนิดนี้ สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 90 วันในฟาร์มและในผักผลไม้  ถ้าจะให้ปลอดภัยจากเชื้อทั้งสองนี้ ก็ต้องรอการเก็บเกี่ยวหลัง 90 วันนับจากวันที่มีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ แต่เราก็ไม่สามารถจะตามไปดูได้ ว่า เขาเก็บมาก่อน 90 วัน หรือเปล่า



ซึ่งแม้แต่ที่สหรัฐอเมริกา  Organic Trade Association  ซึ่งดูแลเรื่อง การทำเกษตรอินทรีย์อยู่ ก็ยังไม่สามารถจะรับประกันได้อย่างแน่อนว่า อาหารเกษตรอินทรีย์ทั้งหลาย  จะปลอดสารพิษอย่างแน่นอนโดยสิ้นเชิง
Organic agriculture practices cannot ensure that products are completely free of residues; however, methods are used to minimize pollution from air, soil and water.

หมายเลขบันทึก: 271122เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2009 23:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (62)

การกินผักสดๆ ในปริมาณที่พอดี  เป็นของดีต่อสุขภาพแน่นอน ผักสดๆ หลายๆชนิด เมื่อกินดิบๆ อาจมีสารที่ไม่พึงประสงค์บางตัว อยู่ในผักเอง เช่น แครอท แครอท นี่ ต้องลวกก่อน ไม่ควรกินดิบๆ เพราะมีสารชนิดหนึ่ง เรียกว่า Carotatoxin ที่ถ้ากินบ่อยๆ และมากๆ จะมีผลไม่ดีต่อระบบประสาท..
A substance has been isolated from extracts of the common carrot, Daucus carota, which is toxic to the bioassay organism Daphnia magna and to mice.
ไม่เหมือนผลไม้สุก กินมากไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ควรมากเกิน เพราะจะมีน้ำตาล มากไปหน่อย ดังนั้น การกินผักดิบ กับการกินผลไม้ ในปริมาณมากๆ จึงไม่เหมือนกัน

 แต่สำหรับเรื่องผักปลอดสารพิษ อาจจะไม่ปลอดสารพิษจริงๆ เพราะมิใช่มีแต่สารเคมีเท่านั้น  ที่เราควรระวัง แต่มีเชื้อโรคที่ร้ายแรง ที่มาจากดิน หรือสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ติดมาด้วย ต้องล้างให้สะอาดมากๆ
และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องของโรคลำไส้ การกินผักดิบยิ่งต้องระวัง ต้องล้างผักให้สะอาดจริงๆ  หรือ ลวกเสียหน่อยก็ได้

สวัสดีค่ะ

การทานผักสด ๆ ทำให้ย่อยยากค่ะ ก็เลยชอบลวกน้ำร้อน ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไปเยี่ยมคุณแม่ ปัจจุบันท่านอายุ 70 ปี แล้วค่ะ ได้พูดคุยกันถึงเรื่องการทานผักเยอะจะมีประโยชน์ แต่ท่านก็ได้บอกว่าผักสดมีประโยชน์ แต่ก็มีเชื้อโรคน่ะ ต้องล้างหรือแช่น้ำให้สะอาด และท่านก็บอกว่าควรลวกน้ำร้อนก่อนดีกว่าค่ะ ปัจจุบันท่านก็แข็งแรงดีค่ะ ชอบปลูกผักสวนครัวที่บ้าน และได้แจกจ่ายบ้าง และบางครั้งก็มีคนมาขอซื้อที่บ้านค่ะ

ทำไมอะไรๆ ดูเป็นพิษไปหมดนะคะ น่ากลัวจัง แล้วถ้าเราหลีกเลี่ยงสารพิษทั้งสองอย่างนี้ไม่ได้อย่างไหนปลอดภัยกว่ากันคะ

  • อรุณสวัสดิ์ค่ะ
  • แวะมารับความรู้ดี ๆ ยามเช้าค่ะ
  • ครูอิงเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานผักสดค่ะ
  • แต่พยายามทานผักสดที่ปลอดสารพิษค่ะ หรือเป็นผักสดที่ปลูกเอง
  • ผักริมรั้วอย่าง กะถิน  ชะอม  สะตอ  ยอดมะม่วงหิมพานต์
  • ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ เช่นนี้ค่ะ
  • มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ

สวัสดีค่ะ

  • ครูคิมชอบทานผักสดค่ะ
  • ผักสดปลอดสารพิษ  มีความปลอดภัย
  • พยายามปลูกเองข้างรั้วนอกบ้าน และให้เด็ก ๆนักเรียนปลูกที่โรงเรียนค่ะ
  • มีเพื่อนชอบทานแครอทดิบ ๆ เขาบอกว่าอร่อย  วันนี้จะแนะนำให้เขาเข้ามาอ่านค่ะ
  • หน้านี้ที่บ้านนอกมีผักสดเยอะค่ะ  เช่นยอดฟักทอง ยอดมะระ ยอดผักไห่ หน่อไม้และเห็ด
  • สำหรับหน่อไม้และไม่ชอบทาน เพราะเคยมีคนบอกว่าทานแล้วไม่ให้ประโยชน์อะไร  ส่วนเห็ดชอบทานเฉพาะเห้ดโคน เห็ดอย่างอื่นไม่กล้าทานค่ะ
  • ขอขอบพระคุณกับสาระดีมีประโยชน์ค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์

ชอบบันทึกนี้เป็นพิเศษค่ะ...^_^...

อาจเป็นเพราะน้องชอบทานผักสด ผลไม้ และยิ่งในปัจจุบันกระแสการรับประทานผักสด ของสดต่าง ๆ กลายเป็น "เทรนด์" ที่ใครไม่ทำตามก็จะกลายเป็นตกสมัยไปเลยค่ะ

อ่านแล้ว ทำให้ต้องคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งด้านดีและด้านด้อย และจะทำอะไร ต้องอยู่ในทางสายกลางพร้อมทั้งใช้สติปัญญาในการเลือกบริโภคด้วย  เพราะคนกทม.อาจไม่สามารถปลูกพืชผักเองได้ จึงต้องมีวิธีการในการระมัดระวัง ดังที่พี่ได้ให้ข้อมูลไว้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

น้องเพียงชอบทานผัก เป็นเด็กน้อย อายุ 2 ปี ครึ่งที่ทานผัก เก่งมาก ทานผักทุกอย่าง สด นึ่ง ลวก แบบว่าคงทาน เผื่อ พี่พอ เจ้า

สบายดี เน้อ เจ้า

ในวัย 3 พ.แรกไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากนัก  พอเข้าสู่ พ.ที่4  สิ่งเหล่าจะมีอิทธิพลกับสุขภาพร่างกายอย่างชัดเจน  ขอบพระคุณท่านที่มีสิ่งดีดีที่งดงามมาฝากพวกเราเสมอ ขอให้ท่านและครอบครัวมีความสุขครับ

Pagddde

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้ว รู้สึกว่า อะไรๆก็ไม่สมบูรณ์แบบนะคะ ต่อไปต้องระวังให้มากขึ้น ตอนนี้ ใช้โซดาทำขนมล้างผักอยู่ค่ะ

สวัสดีค่ะ

คุณกฤษณา แนะนำมาค่ะ เป็นคนชอบทานผักมาก แต่ไม่ได้ปลูกเอง เป็นผักตามตลาด คงต้องอาศัยล้างให้สะอาดมากๆ อยากให้แนะนำให้มากๆเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณสุนันทา
แสดงว่า คุณแม่ท่านเป็นคนทันสมัย และรอบคอบมากนะคะ

การกินผักสด เป็นของดี แต่ต้องล้างอย่างสะอาดมากๆค่ะ เพราะเชื้อโรคที่อาจติดมา อาจจะทำให้เราเป็นโรคได้ค่ะ อย่างอ่อนๆ คือ ท้องเสีย อย่างแรงหน่อยคือ ท้องร่วง อาหารเป็นพิษไปเลย  เชื้อที่ร้ายแรง คือ Salmonella spp เชื้อ Salmonella มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะความเป็นอยู่หรือการดำรงชีวิตที่ต่างกันไป เช่น เชื้อ typhi เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารที่เรียกว่า ไข้ไทฟอยด์
คนจะรับเชื้อนี้ จากการกินอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
คนที่เป็นโรคจะขับถ่ายเชื้ออกทางอุจาระ เชื้อนี้อาจจะปนเปื้อนในน้ำตามธรรมชาติ หรืออาจจะปนเปื้อนอาหารค่ะ

ข้อมูลจากกองควบคุมโรคติดต่อ บอกอาการคร่าวๆคือ....

หลัง จากได้รับเชื้อนี้1-2 สัปดาห์ผู้ป่วยจะเริ่มเกิดอาการเบื่ออาหาร ปวดศีรษะ ปวดตามตัว มีไข้สูง 40.5 องศา มีอาการท้องร่วง บางรายอาจจะมีผื่นขึ้นตามตัว บางรายอาจจะมีอาการแน่นท้อง หากไม่รักษาผู้ป่วยบางรายหายเองได้ใน3-4 สัปดาห์

การวินิจฉัย

สามารถเพาะเชื้อจากเลือดในสัปดาห์แรก การวินิจฉัยอย่างอื่นไม่บ่งจำเพาะ

การรักษา

ก่อน ที่จะมียาปฏิชีวนะอัตราการตายประมาณร้อยละ 10 แต่หลังจากมียาปฏิชีวนะอัตราการตายลดลงผู้ป่วยอาจจะตายจากปอดบวม ลำไส้ทะลุถ้าผู้ป่วยเพลียมากก็ให้น้ำเกลือ และยาปฏิชีวนะ

โรคแทรกซ้อน

* เลือดออกทางเดินอาหาร
* ลำไส้ทะลุ
* ไตวาย
* ช่องท้องอักเสบ

การป้องกัน

1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเชื้อโรค

* ให้ดื่นน้ำต้มสุกทุกครั้ง
* น้ำขวดจะมีความปลอดภัยสูงกว่าน้ำดื่มทั่วไป
* เวลาดื่มน้ำไม่ต้องใส่น้ำแข็ง
* รับประทานอาหารที่ทำให้สุกใหม่ๆ
* ผักหรือผลไม่ต้องล้างให้สะอาดจริงๆเพราะปนเปื้อนเชื้อได้ง่าย
* ผลไม้ที่มีเปลือกให้ปลอกเปลือกออก
* ล้างมือก่นรับประทานอาหารทุกครั้ง
* หลีกเลี่ยงอาหารจากร้านค้าข้างถนน

2. การได้รับวัคซีน

สวัสดีค่ะ  คุณpeang
ดีใจจริงที่มาเยี่ยมนะคะ
เรื่องผักผลไม้ จะให้ปลูกด้วยวิธีที่ดีอย่างไร ก็ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่า จะสะอาด ไม่ไม่อะไรมาปนเปื้อนเลย อาจจะมีบ้าง ในบางขั้นตอน แต่อย่างไรก็ยังดีกว่า พืชผักที่ใส่ปุ๋ยเคมี และใช้ยาฆ่าแมลง ชนิดที่เป็นสารเคมีล้วนๆ และแถมบางที คนเก็บๆมาก่อนเวลาที่กำหนดว่า จะให้เก็บได้ด้วยนะคะ

พวก ผลไม้สดหรือผักสดที่ใช้ปุ๋ยอุจจาระรด หรือนมและผลิตภัณฑ์นมที่มีการปนเปื้อน(โดยทั่วไปจะปนเปื้อนเชื้อโรคมาจากมือ ของคนที่เป็นพาหะ)
ตลอดจนแมลงวันอาจทำให้อาหารอาหารปน เปื้อนเชื้อโรคแล้วเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนถึงขนาดที่ทำให้เกิดโรคได้ค่ะ

ทราบจากแพทย์ค่ะว่า   คนทั่วไปมีความไวต่อเชื้อนี้ และจะรับเชื้อได้ง่ายในคนที่ไม่มีกรดในกระเพาะอาหาร (gastric achlorhydria) หรือ ภูมิต้านทานที่ค่อนข้างต่ำ แพทย์พบว่า ไข้ทัยฟอยด์มักจะเป็นกับเด็กก่อนวัยเรียนเรียนและเด็กวัยเรียนค่ะ เคยเห็นเด็กๆ เป็นโรคนี้ด้วยค่ะ

มีการใช้วัคซีนนะคะ  แต่อาจไม่ป้องกันไข้ทัยฟอยด์ได้ ถ้าได้รับวัคซีนหลังจากได้รับเชื้อเป็นจำนวนมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครู . อิงจันทร์
พี่ก็ชอบทานผักสดๆค่ะ สลัดงี้ ชอบมาก เราคงไม่กลัวการปนเปื้อนจนกลัวไปหมดนะคะ เพียงแต่ควรระวังหน่อยเท่านั้น
แม้แต่ ผักสวนครัว ที่เราปลูกเอง ก็ต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุงอาหาร เพราะเราก็ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักที่ทำเอง และอาจจะใช้น้ำคลองรดด้วยค่ะ

ที่ประเทศอเมริกา คนเขานิยมพวกอาหารอินทรีย์กันมาก โดยเฉพาะพวกผัก ผลไม้ เกือบ หนึ่งในสาม ของพลเมืองที่ยอมเสียเงินมากขึ้นอีกนิด แต่ได้ซื้อ ผักผลไม้อินทรีย์ไปกินกัน เพื่อความปลอดภัย ความสด รสชาติที่ดีกว่า
จากการวิจัยของ The Hartman Group... a market research firm และข้อมูลจาก  Food Navigator อาหาร อินทรีย์ ที่คนชอบซื้อกันมากที่สุดคือ ผัก ตามด้วย ผลไม้ และพวกธัญญพืช ตามลำดับค่ะ ถึงแม้ว่า ราคา จะต่างจาก ผักผลไม้ธรรมดาถึง 50%

สวัสดีค่ะ ภูมิใจที่ประเทศไทยมีอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งพืชผัก ผลไม้ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ ครูคิม 

จริงๆ แล้ว ผักเป็นอาหารที่มีประโยชน์มากสำหรับเราค่ะ ผักผลไม้ให้สารเส้นใยที่ให้ประโยน์แก่ร่างกาย มากกว่าที่เราเคยคิดกันเสียอีกนะคะ สารเส้นใยจากพืช มีทั้งละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ที่ไม่ละลายน้ำ  มันจะอุ้มน้ำไว้เฉยๆ ทำให้เราไม่ท้องผูก แต่ที่ละลายน้ำ เช่น เปกติน กัมและมิวซิเลจ จะพบในผัก ผลไม้ ข้าวโอ๊ตเป็นต้น ช่วยลดไขมันในเลือด และน้ำตาลในเลือดได้ดีค่ะ

ส่วนแครอท ก็อย่างที่ได้ศึกษามา ควรกินสุกมากกว่าค่ะ  และแครอท  หากกินมากเกินไป ร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอไม่ทัน จนสะสมตามชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเป็นสีเหลือง เรียกว่า "โรคแคโรทีนีเมีย"  แต่ก็ไม่เป็นอะไร หยุดสักพัก ก็จะกลับมาเป็นปกติค่ะควรหยุดกินแครอทสักพัก สีผิวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ที่บ้านปลูกสวนครัวหลายอย่างค่ะ อย่างช่วงนี้ ไม่น่าเชื่อว่า ผักบุ้งจีนจะงามมากๆ กินไม่ทันเลย  ตอนนี้ก็ปลูกผักกวางตุ้งด้วย เอามาผัดน้ำมันหอยอร่อยนัก แต่ผักกวางตุ้งนี้ เวลาถูกความร้อน ไม่ว่าต้มหรือผัด จะเกิดสารพิษอ่อนๆชนิดหนึ่งคือ ไทโอไซยาเนต (ไทโอไซยาเนต (Thiocyanate) เป็นสารประกอบที่มีไทโอไซยาเนตไอออน, SCN- เกี่ยวข้องกับ ไทโอไซยาโนเจน)(thiocyanogen-SCN)2.

 อาจทำให้ท้อง เสีย เวียนหัว ได้ ดังนั้น ควรกินกวางตุ้งสด ถ้าจะผัดหรือแกง ต้องเปิดฝาหม้อทิ้งไว้ ให้สารนี้ระเหยออกไปก่อน คนโบราณก็ทำอย่างนี้ค่ะ

แต่อย่าคิดมาก พี่เองกินกวางตุ้ง เป็นประจำค่ะ แต่ถ้าจะกินผักกวางตุ้งสด ก็ต้องแน่ใจว่า ปลอดสารพิษด้วย..

สวัสดีค่ะ

*** ตามมาดูยามดึกค่ะ ได้ความรู้และเพลิดเพลิน

*** ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ

อาหารอินทรีย์เกิดขึ้นจากผู้บริโภคตระหนักถึงภัยจากสารเคมี แต่ "อาหารอินทรีย์" ไม่หมายความว่าจะปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อน หรือสิ่งตกค้างในผลผลิต

รวมถึงอาหารอินทรีย์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากองค์กรต่างๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าผลผลิตอินทรีย์นั้นจะปลอดภัย เพราะว่าเป็นการรับรองเฉพาะ "กระบวนการผลิต" ตั้งแต่เริ่มปลูก ดูแลรักษาจนกระทั่งถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว เก็บรักษาผลผลิตและการขนส่ง

ทำให้วางใจ-เชื่อได้ว่าอาหารอินทรีย์มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง การปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ก็มีความเป็นไปได้ตลอดเวลา แม้แต่ขณะเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะครับ

ขอบคุณครับ 

สวัสดีค่ะครูใหม่ บ้านน้ำจุน  7
ดี จังนะคะ ที่เด็กรู้จักกินผักกันดี แสดงว่า คุณครู ดูแลลูกๆดีมากค่ะ เพราะเด็กๆกส่วนใหญ่ ก็ยังชอบของหวานๆ ของกรุบกรอบ ยิ่งกว่าผักอยู่เสมอค่ะ
เคยมีงานวิจัยค่ะ ว่า ถ้าคนเรา ไม่กินผักผลไม้ ภายใน 20 ปี มักเป็นโรคมะเร็งค่ะ คือ ความเสื่อมอย่างใด อย่างหนึ่ง จะเกิดกับคนๆนั้น อย่างใด อย่างหนึ่งเสมอ เนื่องจาก เซลล์ร่างกาย ไม่มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินซี คอยป้องกันอนุมูลอิสระค่ะ
วิตามินซี  เป็นวิตามิน ที่คนเรารู็จักกันมาเก่าแก่มาก รู้สึกจะเป็นตัวแรกเลย
ส้ม เป็นผลไม้ที่เราคุ้นเคยกันมาก เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีมาก แต่ไร่ส้มในปัจจุบันนี้ มีการฉีดยา ฆ่าแมลงกันมากเหลือเกิน เวลาจะให้ลูกกินส้ม ควร ล้าง  ขัด  เปลือกอย่างดีเลยนะคะ และอย่าให้ลูกเอาปากไปกัด ที่เปลือกส้ม เพราะจะอันตรายค่ะ เราไม่แน่ใจว่า จะมีสารเคมีหลงเหลืออยู่ที่เปลือกหรือเปล่า
เดี๋ยวนี้ ผักผลไม้อะไรๆ ก็โฆษณาว่า ปลอดสารพิษกันหมด จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง  หรือแม้แต่ ยี่ห้อที่ได้รับการรับประกัน ก็ยังมั่นใจเต็มที่ไม่ได้  แต่ก็ยังดีกว่า การไม่มีการควบคุมดูแล
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย พวกผลไม้ พี่จะให้เด็กๆกินผลไม้มีเปลือกหนา เป็นส่วนใหญ่ค่ะ แต่ถ้าพวกเปลือกบางๆ ก็จะลอกเปลือกออกก่อน เพื่อความปลอดภัย

สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์

ไม่ได้มาทักทายพี่หลายวัน....คิดถึงจังค่ะ...ไม่ทราบทำไม...^_^...

ไม่ได้มาทักทายพี่เพราะมัวฉุกละหุกกับการกำหนดเวลาที่ใช้ใน G2K ค่ะ รีบอ่าน รีบตอบ รีบออกเกรงจะผิดกฏที่ให้ไว้กับตัวเอง เพราะต้องใช้เวลาในงานอื่นที่เร่งด่วนมากค่ะ

วันนี้ไม่มีเวลาอ่านคอมเม้นท์อื่น ๆ อ่านแต่ที่พี่ตอบเท่านั้น...

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ที่ช่วยให้ตระหนักและระมัดระวังค่ะ

ทุกอย่างเมื่อมีคุณอนันต์มักมีโทษมหันต์...ด้วย

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะน้อง คนไม่มีราก

ขอบคุณที่ให้กำลังใจ   จริงค่ะ ที่่ในปัจจุบันกระแสการรับประทานผักสด ของสดต่าง ๆ กลายเป็น "เทรนด์" ที่ใครไม่ทำตามก็จะกลายเป็นตกสมัยไปเลยค่ะ
แต่ทุกอย่างมีทั้งด้านดีและ ด้านด้อย และจะทำอะไร ต้องอยู่ในทางสายกลางพร้อมทั้งใช้สติปัญญาในการเลือกบริโภคด้วย นั่นคือ สิ่งที่ดีที่สุดค่ะ
อย่างพวก กะหล่ำปลี บรอกโคลี ก็มีสารกอยโทรเจน (goitrogen) ขัดขวางการทำงานของต่อไทรอยด์  ทำให้ร่างกายนำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยและเกิดโรคคอพอกได้ ถ้าทานในปริมาณมากๆ และต่อเนื่อง  แต่ผลระยะสั้น การกินกะหล่ำปลีดิบบ่อยๆ อาจทำให้ท้องอืดเพราะอาหารไม่ย่อยได้

ส่วนเมื่อเราซื้อผักที่มีกาบซ้อนๆ กันหลายชั้นมาจากตลาด ก่อนจะทำอาหารคงต้องแกะกาบออกล้างให้ดี เผื่อมียาฆ่าแมลง หรือ ปุ๋ยสด หลงเหลืออยู่ในกาบต่างๆค่ะ
แต่ข้อดีมากๆของผักตระกูลกะหล่ำคือ มีสารต้านมะเร็ง และสารเสริมภูมิต้านทานอยู่มากค่ะ เช่น อินดอล โพลีฟีนอล  ไดไทโอไทโอน เป็นต้น (ข่าวกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (2550)

นอกจากผัก  ก็มีผลไม้ ซึ่งเราจำเป็นต้องกินทุกวัน เพราะเราจะได้ธาตุอาหารที่สำคัญๆ เช่น   Vitamin C ซึ่งจำเป็นต่อผิวพรรณและเนื้อเยื่อต่างๆ และยังช่วยในการ ดูดซึมธาตุเหล็กด้วย
Carotenes / Folate / Fibre / Carbohydrate และPhytochemicals เป็นต้น
 
ผู้ใหญ่ควรรับประทานใยอาหาร ปริมาณ 20-35 กรัมต่อวัน  เราก็ทราบกันอยู่ ว่า ปกติแพทย์จะแนะนำให้ ดื่มน้ำผลไม้  ดื่มน้ำผัก  ผลไม้บางชนิดมีใยอาหารสูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ พีช พลัม แตงกวา ก้านคะน้า เป็นต้น จึงควรรับประทานทั้งเปลือก เพราะนอกจากอาหารที่มีเส้นใยสูงจะช่วยในการลดน้ำหนักแล้วยังช่วยควบคุมโรค เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองตีบอีกด้วย

แต่พี่เอง ทำใจไม่ได้ค่ะ ต้องปอกเปลือกก่อนทุกทีเลย ยอมเสียประโยชน์บางอย่าง แลกกับการที่ลดความเสี่ยงด้าน สารแปลกปลอมต่างๆค่ะ

สำหรับผลไม้สดๆ ที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่งคือ แอปเปิ้ล สมาคมโภชนาการอังกฤษกล่าวว่า  การดื่มน้ำแอปเปิ้ลข้นๆ  จะได้สารต้านอนุมูลอิสระมากเป็น 2 เท่า แต่ถ้าทานแอปเปิ้ลสดๆ จะได้โพลีฟีนอลแล้วยังได้ไฟเบอร์อีกด้วย  แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เราอยู่ทางเมืองไทย คงไม่ได้ของสดเท่าใด มัก เป็นแอปเปิ้ล ที่เขาแช่เย็นอยู่แล้วนานพอควร ไม่แน่ใจว่า คุณค่าอาหารจะลดไปเท่าใด

จึงคิดว่า แม้แอปเปิ้ล จะมีประโยชน์เพียงใด แต่เราคงไม่ได้แอปเปิ้ลสดๆ แบบที่เรากินผลไม้สดๆจากบ้านเราเอง ดังนั้น  เราจึงน่าจะ เน้นการกินผลไม้ของเมืองเราดีกว่านะคะ

  • เมื่อก่อนไม่ค่อยจะทานผักเท่าไหร่ครับ
  • เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่แค่ทานผักอย่างเดียวครับ
  • ยังออกกำลังกาย
  • ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูงครับ
  • สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
  • สุขกายสบายใจนะครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์นายประจักษ์~natadee  8

ใช่เลยค่ะ  คนเราเมื่ออยู่ในวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพ หรือความปลอดภัยของอาหารมากนัก 
แต่พอย่างเข้าสู่  วัยกลางคน  พวกอาหารการกิน การปฏิบัติตัวเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ มีอิทธิพลกับเรามากขึ้นค่ะ

สำหรับเด็กๆ ได้พยายามหัดให้ชอบกินผักและผลไม้ตั้งแต่เพิ่งเริ่มกินอาหารได้ ปัจจุบัน ไม่มีปัญหาเรื่องการไม่กินผักค่ะ
และสำหรับอาหารว่าง ก็ยังพยายามให้เป็น ผลไม้สดหรือผลไม้แห้งด้วย และจะไม่กินผักหรือผลไม้ชนิดเดียวกันต่อเนื่องทุกๆวันค่ะ
 ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขเช่นกันค่ะ

สวัสดีค่ะคุณกฤษณา 9
ค่ะ อะไรๆทุกสิ่ง ก็มีทั้งด้านดี และด้านด้อย เราคงต้องเลือกเอาแต่ส่วนดีๆค่ะ
ส่วนที่ดีและเด่นอีกอย่าง ของ organic produce คือ
ผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ออร์แกนนิค จะมีการปลูกตามฤดูกาลเสมอ ไม่มีผลไม้นอกฤดู เช่น ส้ม ถ้าไม่ใช่ฟดูกาลของมัน ส้มที่ออกมา มักไม่ใช่ส้มออร์แกนนิคค่ะ คือ ทุกอย่าง จะเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าเราอยากจะซื้อ ผลไม้ออร์แกนนิค ควรซื้อผลไม้ ที่ไม่ไมีความยุ่งยากในการปลูกนัก ราคาจะไม่แตกต่างกันมากนักกับผลไม้อื่นๆ เช่น แอปเปิ้ล ส้ม ผักบรอโคลี่ ถั่วต่างๆ แตงกวา และมะเขือเทศ เป็นต้น

กำลังฝึกหลานม่อนทานผักสด ผลไม้อยู่ครับ พยายามหลีกห่างๆขนมถุง ขอบพระคุณที่นำสิ่งดีดีมาฝากเสมอๆ

สวัสดีค่ะคุณ ณัฐทิชา 10
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่าน ถ้าซื้อผักตามตลาด คงต้องอาศัยล้างให้สะอาดมากๆนะคะ
สินค้าเดี๋ยวนี้ ที่โฆษณาว่า เป็น Organic  แต่จริงๆ ไม่ใช่  ก็มีค่ะ ต้องดูดีๆเหมือนกัน
 ถ้าจะซื้อ  ต้องดูสินค้าที่ได้การรับรองว่าเป็น "certified organic" ค่ะ    เรื่องนี้ อยู่ที่ ความน่าเชื่อถือ และแม้เป็นเกษตรอินทรีย์จริงๆ ก็ยังต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย อยู่นั่นเอง แต่ก็เชื่อใจได้ ในระดับหนึ่งแล้วค่ะ
หน่วยงานที่เป็นผู้ออกใบรับรองคือ สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์  ภายใต้ "มูลนิธิมาตรฐานเกษตรอินทรีย์" ซึ่งจดทะเบียนมูลนิธิเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ.2544
ทำหน้าที่ตรวจสอบและให้การรับรอง ผลิตผล/ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ตามมาตรฐานของ มกท.

เรื่อง สินค้าเกษตรอินทรีย์  มีข่าวว่า เมื่อ 07-02-2552  ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผลักดันสินค้าเกษตรอินทรีย์ส่งออกขายต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น แคนาดา สหภาพยุโรป และตะวันออกกลางค่ะ

ปัจจุบัน คนหันมาตื่นตัวดูแลสุขภาพมากขึ้น แม้พืชผักปลอดสารพิษ (ออร์แกนนิค)จะมัราคาสูงกว่าสินค้าเกษตรทั่วไปถึง 10-20% แต่คนก็ยังซื้อค่ะ
ทางกระทรวง พาณิชย์ตั้งเป้าว่า ปีนี้จะเพิ่มมูลค่าการค้าเกษตรอินทรีย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 10-20% จากปีก่อนที่มีมูลค่า 1,200 ล้านบาท
โดยประเทศที่จะเข้าไปทำ ตลาดอันดับแรก คือ ญี่ปุ่นเพราะ กระแสบริโภค พืชผักปลอดสารพิษแรงมาก โดยผลสำรวจพฤติ กรรมการบริโภคชาวญี่ปุ่นระบุว่า 2 ใน 3 ของประชากรพร้อมจะจ่ายเงินมากขึ้น 10-20% เพื่อซื้อสินค้าออร์แกนนิค
ต่อไปจะร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ จัด ทำฐานข้อมูลสินค้าอินทรีย์ และเว็บไซต์กลางใช้เป็นศูนย์รวมประชาสัมพันธ์สินค้าออแกนิคของไทยเพิ่มความ น่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคทั่วโลกรับทราบ

โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารเกษตรอินทรีย์ที่ยังส่งออกได้ดี เพราะเป็นสินค้าจำเป็นและยังเกี่ยวข้องกระแสสิ่งแวดล้อมด้วย
ปัญหาสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยขณะนี้     อยู่ที่ปริมาณผลผลิตที่มีปริมาณน้อย แค่ 0.1% ของพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรทั้งหมด
ดัง นั้นรัฐบาลจึงจะ หาทางส่งเสริมให้เกษตรกรไทยหันมาปลูกเกษตรอินทรีย์มากขึ้น เพราะสินค้าไทยยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก

สวัสดีค่ะคุณ วันเพ็ญ  14
ดีจังที่คุณบอกว่า ชอบกินผัก เรื่อง ผัก นี้ ตามตลาดมีผัก
ปลอดสารพิษ ไร้สาร ขายนะคะ

แต่มีคนจำนวนไม่น้อย ที่เข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่างคำว่าปลอดสารพิษ ไร้สาร และเกษตรอินทรีย์
บางคนเข้าใจว่า ปลอดภัยจากสารพิษดีที่สุด ซึ่งในความเป็นจริง คำว่า
"ปลอดสาร" หรือ "ไร้สาร" เป็นเพียงการไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แต่ในกระบวนการปลูกยังคงใช้ปุ๋ยเคมีอยู่

ประเทศเรา มีการทำเกษตรอินทรีย์ออกมา จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยสัดส่วนการส่งออกจะสูงกว่าการขายในประเทศ คือส่งออก ๘๐% ขายในประเทศ ๒๐% ตลาดในต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและโตเร็วกว่าการเกษตรทั่วไป ยกเว้นปีนี้ 2552 ที่กำลังซื้อลดลงเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ
แต่ตอนนี้  คนไทยนิยมบริโภคผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์มากขึ้น

มีข่าวว่า กองนโยบายและแผนงานสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ก็ให้ความสำคัญต่อเกษตรอินทรีย์ในแง่ที่เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ "Green" ของกรุงเทพมหานคร
ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับเกษตรอินทรีย์ได้ ผ่านโครงการสิ่งแวดล้อมและสุขภาพหลายโครงการ อาทิ
สวนลอยฟ้า ที่มีการปลูกพืชผักสวนครัวโดยใช้ปุ๋ยหมักจากขยะ ซึ่งเติบโตดีมากจนสามารถส่งขายให้เลมอนฟาร์มได้

ซึ่งข่าวนี้ ทำให้ดิฉัน รู้สึกไม่สบายใจ กับการใช้ปุ๋ยหมักจากขยะ จินตนาการไปไกล ว่า
ไม่ทราบจะมีสิ่งปนเปื้อนมาจากขยะหรือไม่
ดังนั้น ถึงแม้เกษตรอินทรีย์จะดีมาก แต่ประเด็นเรื่องเชื้อโรคที่มาจากขยะแบบนี้ ยังเป็นสิ่งที่เราต้องระวังนะคะ

สวัสดีค่ะคุณกิติยา เตชะวรรณวุฒิ 16
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมนะคะ

เรื่องอาหารออร์แกนนิคนี่ ส่วนใหญ่คนคิดถึงแต่ พวกผัก ผลไม้นะ คะ จริงๆแล้ว ยังมีอาหารชนิดอื่นๆอีกค่ะ เช่น พวกอาหารเส้นๆ pastas   ซอส  น้ำผลไม้แช่แข็ง  อาหารแช่แข็ง พวกcereals  ซุป ช็อกโกแล็ต คุกกี้ อาหารเนื้อสัตว์ ไก่ อาหารนม แม้กระทั่งไวน์ค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างระหว่าง คำว่า  "organic" และ "natural"

คำว่า "Natural" มักจะถูกโยงกับ ความมีสุขภาพดี  หรือกินแล้วจะมีสุขภาพดี  แต่จริงๆแล้ว คำว่า "natural" มีขอบเขตของความหมายอยู่ที่ เป็นอาหารที่มีกระบวนการปรุงแต่งน้อยที่สุด หรือเท่าที่จำเป็น เช่น การใช้ความร้อน  การแช่แข็ง  การบีบ การคั้น  แต่จะไม่ใช้กระบวนการที่ซับซ้อน หรือใช้เคมีอาหารมาช่วย
อาหารธรรมชาติ จะไม่ได้ผ่านการรับรองหรือผ่านระบบตรวจสอบ และคำว่า  "natural" ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องผูกโยงไปกับวิธีการปลูกหรือการใช้หรือไม่ใช้วิธีการถนอมอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะคณ คุณพิทักษ์ 17
 ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาให้ความกระจ่าง ในเรื่องความปลอดภัย ของอาหารอินทรีย์  ที่บอกว่า...
อาหารอินทรีย์เกิดขึ้นจากผู้บริโภคตระหนักถึงภัยจากสารเคมี แต่ "อาหารอินทรีย์" ไม่หมายความว่าจะปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อน หรือสิ่งตกค้างในผลผลิต

รวมถึงอาหารอินทรีย์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากองค์กรต่างๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าผลผลิตอินทรีย์นั้นจะปลอดภัย เพราะว่าเป็นการรับรองเฉพาะ "กระบวนการผลิต" ตั้งแต่เริ่มปลูก ดูแลรักษาจนกระทั่งถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว เก็บรักษาผลผลิตและการขนส่ง

ทำให้วางใจ-เชื่อได้ว่าอาหารอินทรีย์มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง การปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ก็มีความเป็นไปได้ตลอดเวลา แม้แต่ขณะเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะ
นี่ล่ะค่ะ เป็นประเด็นที่อยากจะสื่อสารว่า แม้แต่อาหารอินทรีย์ ก็ยังมีความปลอดภัย ในระดับหนึ่ง ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ อาหารที่เรากินเข้าไป จะเกิดการปนเปื้อนได้ตลอดเวลา เราจึงต้องมีความระมัดระวังพอควร ต่อสิ่งที่เราจะบริโภคเข้าไป อย่าไปเชื่อว่า ถ้าเป็นอาหารอินทรีย์แล้ว ปลอดภัย สบายใจได้ 100%

สวัสดีค่ะน้อง คนไม่มีราก  19

พี่ตอนนี้ ก็ยุ่งมากๆค่ะ ทั้งวันเลย ไม่ค่อยได้เข้ามาใน G2K ค่ะ แต่คิดถึงน้องเช่นกันค่ะ ยังคิดว่า จะต้องไปเยี่ยมที่บันทึกน้องแล้ว

เรื่องการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ที่ทำให้เรามั่นใจยิ่งขึ้น พี่ไปดูมา ก็น่าเชื่อถือค่ะ คือ..
เมื่อ * ปี 2540 IFOAM จัดทำเกณฑ์การรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์ (IFOAM Accreditation Criteria) โดยอิงกับ ISO Guide 65 เพื่อประกันคุณภาพว่าองค์กรรับรองดังกล่าวมีการทำงานที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และน่าเชื่อถือ
* และมีองค์กรรับรองเอกชน 32 องค์กร ในหลายประเทศ ที่ได้รับการรับรองจาก IFOAM (ACBs - Accredited Certification Bodies) รวมทั้ง มกท.
* สินค้าอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองโดย ACBs จะได้รับการยอมรับจาก ACBs ด้วยกัน ซึ่งช่วยให้ส่งออกสินค้าไปขายโดยใช้ฉลากของ ACBs ในประเทศนั้นๆ ได้ง่ายขึ้น
คือ สรุปว่า มีการประสานงานกันทั่วโลก ในการรับรองสินค้าอาหารอินทรีย์ เพื่อ ความมีมาตรฐานเหมือนๆกันค่ะ

นอกจากเรื่องผักผลไม้และอาหารต่างๆแล้ว ตอนนี้ ยังมีเรื่องการปลูกสมุนไพรเกษตรอินทรีย์ ตามจังหวัดต่างๆ เช่น สิงห์บุรี อยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี สุพรรณบุรี
สมุนไพรที่ปลูก เช่น ตะไคร้ ฟ้าทะลายโจร บัวบก กระชายดำหม่อน พริกไทย และชุมเห็ดเทศ เป็นต้นค่ะ ก็ดีนะคะ กระแส ความปลอดภัยในด้านอาหารมาแรง ซึ่งดีกับผู้บริโภคมากๆค่ะ

สวัสดีค่ะคุณคนพลัดถิ่น~ต้นตอ-natachoei(หน้าตาเฉย)  21

ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ เป็นเรื่องที่ดีที่คุณหันมาทานผักมากขึ้น ดีกับสุขภาพค่ะ
นอกจาก  เรื่องผัก ผลไม้แล้ว ก็ยังมีพวก Organic livestock คือพวกเป็ดไก่อีกค่ะ ที่เขาเลี้ยงแบบที่ ไม่ใช้  synthetic growth hormones เช่น  rBGH  หรือการใช้พวก antibiotics ทุกๆวัน
เขาจะเลี้ยงอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่สัตว์เหล่านี้ชอบ และคุ้นเคย โดยจะมีการให้อาหารที่เป็น organic ด้วยค่ะ นอกจากนี้ กรรมวิธีและขั้นตอนการเอามาทำเป็นอาหาร ก็จะต้องให้อยู่ในมาตรฐานแบบ organic  เช่นกันค่ะ

ก็ดีนะคะ ต่อไปนี้ ผู้บริโภคคงจะกินอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลมายังสุขภาพ ให้ผู้บริโภคอาหารออร์แกนนิค แข็งแรงสมบูรณ์กันทุกคน

สวัสดีค่ะอาจารย์ นายประจักษ์~natadee  24

หลานม่อนดูแข็งแรง สดชื่น น่้ารักมากนะคะ คงเป็นเพราะอยู่ในที่ๆอากาศดี อาหารสดๆ และแวดล้อมด้วยความรัก ความอบอุ่นนะคะ
ตัว ดิฉันเองชอบทานผลไม้มากค่ะ แต่ระยะหลังๆนี่ ระวังผลไม้เปลือกบางมากขึ้นมาก เพราะกลัวเรื่องยาฆ่าแมลง เคยอ่านข่าวจากต่างประเทศว่า มีผักผลไม้ 12 อย่างที่มียาฆ่าแมลงตกค้างมาก และเราต้องระวังคือ....
1.ลูกพีช 2.แอปเปิ้ล 3.พริกหวาน 4.ขึ้นช่ายฝรั่ง 5.สตรอเบอรรี่ 6.เชอร์รี่ 7.แพร์ 8.องุ่น 9.ผักขม 10.ต้นหอม 11.ผักกาดหอม 12.มันฝรั่ง สงสัย ดีที่สุด ต้องปลูกผักกินเอง แต่เราก็ปลูกได้ไม่หมดทุกอย่าง เลือกแต่ที่ใช้บ่อยๆดีกว่า

คือ เขาแนะนำว่า ถ้าจะซื้อ ให้ซื้อที่เป็นผักอินทรีย์ ถ้าเป็นนม ควรเป็นนมถั่วเหลือง หรือ นมจากวัว ที่เขาเลี้ยงแบบธรรมชาติๆ
เรียกว่า อาหารที่เราจะบริโภคตอนนี้ คงต้องเลือกมากกว่าแต่ก่อนแยะเลยนะคะ

เคยมีคำถามว่า ชาวไร่ ชาวนาที่ปลูกข้าว ปลูกผักผลไม้ปลอดสารพิษ   เคยใช้ยาฆ่าแมลงไหม คำตอบ...อยู่ที่นี่ อยากให้อาจารย์อ่านค่ะ....
บางคนเข้าใจว่าผักปลอดสารพิษ ต้องไม่ใช้สารพิษใด ๆ ในการบำรุงดูแลให้เจริญเติบโต ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด
เพราะแม้ว่าผักปลอดสารพิษจะปลอดภัยอย่างแน่นอน แต่กระบวนการและขั้นตอนจำเป็นต้องมีสารพิษเข้ามาเกี่ยวข้อง

การปลูกผักปลอดสารพิษ  ต้องมีการเตรียมดินในขั้นแรกเหมือนกับการเกษตรประเภทอื่น คือ ยกแปลงดินกว้างประมาณ 1.50-2.00 เมตร  ความยาวประมาณ 10-15 เมตร จากนั้นพรวนดินให้ทั่วแปลง แล้วจึงหว่านเมล็ดพันธุ์ผัก พันธุ์ผักส่วนใหญ่ที่เกษตรกรนิยมนำ
มาปลูกได้แก่ คะน้า, ผักกาดขาว, กวางตุ้ง, กวางตุ้งไต้หวัน, ผักบุ้งจีน และผักขมจีน เป็นต้น หลังจากหว่านเมล็ดพันธุ์ผักแล้ว
โปรยฟางคลุมดินอีกชั้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าดิน แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
ขั้นตอนดังกล่าวนี้เกษตรกรบางรายอาจยังไม่โรยเมล็ดพันธุ์ แต่ใช้วิธีเมื่อเสร็จสิ้นการพรวนดินแล้วทิ้งไว้ประมาณ 7 วันให้หญ้าขึ้นจากนั้นจึงใช้ยากำจัดวัชพืชฉีดลงไป เมื่อวัชพืชตายจะกลายเป็นปุ๋ยไปในตัว
จากนั้นจึงโรยเมล็ดพันธุ์ผัก เมื่อพันธุ์ผักเจริญเติบโตจะไม่มีปัญหาเรื่องวัชพืชขึ้นมาแย่งอาหาร

สรุปว่า ผักผลไม้ที่ว่า ปลอดสารพิษ ก็ยังไม่ปลอดภัย 100%  พึ่งตนเองดีที่สุด   สิ่งไหนทำเองปลูกเองได้ก็ควรทำ จะไว้ใจใครได้มากกว่าตัวเราเอง

อะไรคือความแตกต่างระหว่างผลิตผลแบบ organic และกึ่ง organic หรือ อยู่ในขั้นตอนการปรับเปลี่ยน

พวกที่อยู่กึ่งๆ คือ ยังไม่ใช่ออร์แกนนิคสมบูรณ์แบบเนื่องจาก ยังปล่อยดินให้ไม่มียาฆ่าแมลงหรือสารเคมี ไม่ถึง 36 เดือน หรือ ยังไม่ได้รับการรับรองว่า ได้มีการเปลี่ยนวิธีการปลูกจาก conventional farming มาเป็น  organic methods เรียบร้อยแล้ว จึงยังได้แค่การรับรองว่า กำลังอยู่ในขั้นตอน ปรับเปลี่ยน หรือ "transitional"

ถ้าจะให้เป็น organic อย่างสมบูรณ์ ปลอดจากสารเคมีเต็มที่

ขั้น ตอนการปรับปรุงดินให้อุดมสมบูรณ์จะสำคัญมาก และไม่ต้องไปจัดระเบียบผักที่เราจะปลูกมากมายอะไร ให้ปลูกผักหลายๆอย่างสลับๆกันไป แมลงที่จะมารบกวน มันจะงงไปหมด ยิ่งมาเจอผักอย่างตะไคร้ สะระแหน่เข้า จะเป็นการป้องกันแมลงไปในตัว
ส่วนการป้องกันถัดมา ก็เป็นพวก มุ้ง พวกแมลงที่กินไข่ของแมลงศัตรูพืชอีกที สุดท้าย เอาไม่อยู่จริงๆ จุึงจะใช้ยาฆ่าแมลงที่ทำมาจากพืชด้วยกัน

ส่วนพวกเนื้อสัตว์ และไก่ วิธี ที่ทำกันอยู่ คือ เป็นฟาร์มปิด และใช้อาหารสัตว์ที่เป็นออร์แกนนิค ไม่มีการให้ยา antibiotics, hormones, หรือ ยาอื่นใด โดยไม่จำเป็น แต่ใช้การฉีดวัคซีนหรือระบบการป้องกันอย่างอื่นๆแทน

สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์

ไม่ได้มาทักทายหลายวันค่ะ มัววุ่น ๆ กับภารกิจใหม่ ๆ ค่ะ

วันอาสาฬหบูชา พี่ได้ไปทำบุญที่ไหนคะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ ฝนตกหนักเมื่อวาน อากาศเย็นสบายเลยค่ะ

ส่งดอกของผลไม้ชื่อ เสาวรส (กะทกรก) มาให้พี่ชมค่ะ

(^___^)

Olax1

สวัสดีค่ะ

แวะเข้ามาดูคำตอบค่ะ พอได้อ่านแล้วได้ความรู้มากเลย จากสิ่งที่ไม่เคยทราบก็ทราบ และมีประโยชน์มาก อย่างนั้นที่ว่าปลูกพืชปลอดสารพิษนั้นคงจะเชื่อไม่ได้ สู้เราปลูกพืชสวนครัวไว้ทานเองจะดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ

 สวัสดีค่ะน้อง คนไม่มีราก  34
 2 วันมานี้ ฝนตกหนัก ทำเอาโทรศัพท์  สัญญาณ Internet กับระบบไฟบางจุดที่บ้านเสียไป แต่อากาศเย็นสบายค่ะ   ดอกของผลไม้ชื่อ เสาวรส (กะทกรก)  ก็สวยนะคะ ลูกเสารรส นี่พี่ชอบค่ะ เปรี้ยวหววานๆอร่อยดี ชอบทั้งแบบสีเหลือง สีม่วงเลย

พอดีพี่มีข้อมูลเรื่องจำนวน organic farmers ในอเมริกา ที่ปลูกพืช ออร์แกนนิคอยู่  ในปี 2007 มีประมาณ  13,000 certified organic producers ค่ะ และ กำลังเพิ่มขึ้น ในเมืองไทย ก็คงมีตัวเลข อยู่ แต่พี่ไม่มีข้อมููลแน่ชัด ที่แน่ๆคือ อาหารอินทรีย์ โดยเฉพาะผักผลไม้ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกทีค่ะ  แต่ยังไง เราก็ต้องนำมาล้างให้สะอาดก่อนรับประทานเสมอนะคะ

อาหารออร์แกนนิก นับว่าเป็นเทรนด์อาหารที่ "โตเร็ว" ที่สุดในตลาดก็ว่าได้ อาจด้วยเพราะภาพลักษณ์ของ "อาหารออร์แกนิก" (Organic Food) นั้นดูสุขภาพจริงๆ...
นอกจากนี้ ยังมีผลวิจัยเกี่ยวกับ "อาหารออร์แกนิก" ออกมามากมาย อย่างทั้งสนับสนุน และทั้งกระตุกให้คิด  เช่น ผลวิจัยที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ความว่า
"อาหารออร์แกนิก" มีวิตามินซีสูงกว่าอาหารทั่วไปถึง 27 เปอร์เซ็นต์ มีธาตุเหล็กสูงกว่า 21 เปอร์เซ็นต์ และมีสารแมงกานีสสูงกว่าถึง 29 เปอร์เซ็นต์"

แต่มิอาจการันตีได้ว่า "อาหารออร์แกนิก" จะปราศจากสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพ 100 เปอร์เซ็นต์  เพียงแต่มีคุณค่าทางอาหารและกากใยมากกว่าอาหารทั่วไป
 
ผักผลไม้ออร์แกนนิค บางทีใช้ Rotenone ต้องระวังเหมือนกัน แต่ระวังยังไง ก็ไม่มีทางรู้ได้ ว่าเกษตรกรใช้ยาฆ่าแมลงแบบไหน ต่อให้ทำมาจากพืชเถอะ
recent study linking rotenone - a pesticide with a ‘natural' image, commonly used in organic farming and gardening - to Parkinson's .

สวัสดีค่ะอาจารย์ นายประจักษ์~natadee 35

ในโอกาสเข้าพรรษานี้ ก็ขอให้อาจารย์และครอบครัว มีความสุขเช่นกันค่ะ ขอบคุณมากที่นึกถึงค่ะ
มีคนเอาแครอทที่เขาปลูกเองบนเขาแห่งหนึ่งมาฝาก กำลังน่าทานเชียวค่ะ เลยขอนำมาฝากอาจารย์ด้วยค่ะ

  • ไม่ได้มาเยี่ยมนาน
  • เลยเข้ามาทักทายในวันเข้าพรรษา
  • โชคดีได้อ่านบทความดีๆ
  • เอ...แล้วเราจะทำไงดี
  • ขนาดเกษตรอินทรีย์
  • ยังน่ากลัว  อิอิ
  • เอาภาพน่ารักๆมาฝากค่ะ

คุณกฤษณาคะ 36 ขอบคุณมาก ที่แวะมาอีกรอบ

ทำสวนครัวเอง ดีที่สุดค่ะ แต่ก็จะมีปัญหา เวลาฝนตกทุกวัน ทำให้หญ้าในแปลงผักขึ้นยาว  ต้องเป็็นภาระถอนออกทุกเช้า
นี่แค่ทำผักสวนครัวในบ้าน ถ้าทำเป็นอุตสาหกรรม  คงยุ่งค่ะ ถ้าในอเมริกา เขาจะมีรถแทร็คเตอร์คอยไถหญ้า
ค่าแรง เป็นต้นทุนที่สำคัญอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ใช้ตัวช่วยอย่างอื่นๆ เช่น ยาฆ่าหญ้า ดังนั้น ผักออร์แกนนิค จึงแพงกว่าผักธรรมดาแน่ๆ

ดังนั้น อาจมีข้อให้คิดอยู่ว่า มิอาจการันตีได้ว่า "อาหารออร์แกนิก" จะปราศจากสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเราก็ไม่ไปเห็นว่า คนปลูกที่เขาปลูกมาขายเรา เขาถอนหญ้าเอง หรือใช่ตัวช่วย

แต่ยังไง ก็มีคุณค่าทางอาหารและกากใยมากกว่าอาหารทั่วไปละนะคะ ดังนั้น ต้องมีการทำความสะอาดอย่างดีมากๆทุกครั้งก่อนกิน และเป็นสัจธรรมว่า  ไม่มีของดีในโลก ที่ดีเลิศ จนไม่มีที่ติหรอกนะคะ

สวัสดีค่ะคุณมนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)  39
ดีใจที่มาเยี่ยมค่ะ และที่คุณบอกว่า
เอ...แล้วเราจะทำไงดี ขนาดเกษตรอินทรีย์ ยังน่ากลัว  อิอิ

ก็อยากจะบอกว่า จริงๆ คงไม่น่ากลัวมากนัก เพราะทางการของเรา ก็มีการควบคุมและมีการออกใบรับรองให้อยู่ค่ะ และเป็นสากลด้วยอาหารอินทรีย์เกิดขึ้นจากผู้บริโภคตระหนักถึงภัยจากสารเคมี แต่ ก็ ไม่หมายความว่าจะปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อน หรือสิ่งตกค้างทั้งหลาย ที่อาจจะเกิดขึ้นในขั้นตอนต่างๆค่ะ

และการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากองค์กรต่างๆ  ก็เป็นการรับรองเฉพาะ "กระบวนการผลิต" ตั้งแต่เริ่มปลูก ดูแลรักษาจนกระทั่งถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว เก็บรักษาผลผลิตและการขนส่งค่ะ
แต่ก็ทำให้เราเกิดความวางใจได้ว่าอาหารอินทรีย์มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง
การปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ก็ยังมีความเป็นไปได้ตลอดเวลานะคะ  แม้แต่ในขณะการเก็บในตู้เย็นที่อาจไม่เย็นพอ ตลอดจนการเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะค่ะ 

มีข่าวจาก ว่า ผู้บริโภคชาวอังกฤษ ที่เคยชื่นชอบและยอมจ่ายแพงกว่าเพือซื้ออาหาร organic นั้น ปัจจุบัน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยำาแย่ ก็หันไปหาอาหารที่ราคาถูกกว่า แต่ไม่เป็นorganic แล้ว

มีรายงานจาก Cohn & Wolfe กล่าวว่า ทุกๆ 3 ใน 5 คน หรือ 69% ที่บอกว่า จะยังไม่ซื้ออาหาร  organic food ในช่วงนี้แล้ว

 แม้ลูกค้าประจำของแบรนด์ดัง ประมาณThree-quarters (73%)ก็บอกว่า ต่อไปจะไม่ซื้ออาหารแพงๆมากๆอีก
 survey จาก  specialist marketing consultancy Cohn & Wolfe, ก็แสดงให้เห็นว่า organic food salesในปี  2008 โตช้าลง หลัง จากที่มีการเติบโตมาอย่างตลอดในช่วง 2 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ เนื่องมาจากการเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นนั่นเอง  ที่ ทำให้ความคิดของคนเปลี่ยนไป  มีคนไม่น้อย ที่หันไปซื้อของธรรมดาๆ ที่ราคาไม่แพงอีกครั้ง
แต่อย่างไร ก็ตาม คนก็ยังชอบของที่สดๆ มีคุณภาพอยู่ดี แม้ว่าจะไม่ใช่ organic ก็ตาม

ตอนนี้ในมหาวิทยาลัยฯ  มีตลาดผักปลอดสารพิษให้ชาวบ้านมาวางขาย  เช่นเดียวกับปีที่แล้ว  ผมพยายามหาทุนให้นิสิตมากู้ยืมไปปลูกผักปลอดสารพิษโดยไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อนำผลผลิตนั้นมาจำหน่ายให้กับหน่วยโภชนบริการในมหาวิทยาลัยฯ  ซึ่งไม่เกี่ยงงอนว่ากิจกรรมนั้นจะเป็นงาน/โปรเจควิชาเรียนหรือไม่ก็ได้ ..หรือจะรวมกลุ่มกันทำขึ้นเอง ก็ได้เช่นกัน

ส่วนอาหารอินทรีย์นั้นเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ผมเองก็เคยได้เปิดเวทีคุยกับผู้เกี่ยวข้องมาแล้วยกใหญ่ๆ ...

 

Dsc_9

ภาพนี้เป็นสวนครัวเล็กๆ ที่แม่ปลูกไว้ที่บ้าน

ขณะนี้หมู่บ้าน มีตลาดสดให้ชาวบ้านเอาผลผลิตมาวางจำหน่ายกันบ้างแล้ว  ลูกๆ ไปอยู่ที่บ้านก็กลับมาเล่าให้ฟังว่า "แม่ย่าพาไปขายของ"...

สิ่งที่แม่นำไปวางขายนั้น ไม่มีอะไรมากมายก่ายกองเลยก็ว่าได้..ทุกอย่างแม่เก็บไปจากรั้วบ้านทั้งสิ้น  - ฟังดูไม่เหมือนจำหน่ายขายของเลยสักนิด  เพราะราคาที่บอกไปนั้น เหมือนการแลกเปลี่ยนกันธรรมดาๆ เท่านั้นแหละ 

ผมยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะกลับไปใช้ชีวิตเป็นชาวนาที่บ้านเกิด...อยากปลูกผักกินเอง เลี้ยงปลากินเอง...มันเป็นความฝันที่ผมชัดเจนแล้วว่า  ...มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมเอง ตอนนี้ รอเพียงการวางแผนระยะยาวสำหรับลูกๆ เท่านั้นเอง

....

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณกิติยา เตชะวรรณวุฒิ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

ที่เขียนเรื่องนี้ เพราะกระแสอาหาร โดยเฉพาะพืช ผัก ออร์แกนนิคมาแรงมาก จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่เราควรจะทราบถึงข้อดี ข้อเด่น ข้อด้อย ให้ครบด้านมากที่สุดด้วยนะคะ

ในประเทศอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป ตะวันตก ก็นิยมเป็นอย่างมาก ขายดีค่ะ เพิ่งจะมาปีนี้ ยอดขายตกลง เพราะปัญหาเศรษฐกิจ
มีคนถามกันมากว่า อาหารออร์แกนนิคดีจริงแค่ไหน

ก็มีคำตอบ แบบไม่ฟันธงลงไป ทั้งในแง่ ดีกับสิ่งแวดล้อมหรือในแง่สุขภาพ
แต่อย่างไรก็ตาม อาหารออร์แกนนิค ก็ดีกับสุขภาพ มากกว่า อาหารที่ใช้สารเคมีปกติ แน่นอนค่ะ
 เช่น นมออร์แกนนิค จะมี โอเมก้า 3 มากกว่านมธรรมดาถึง 68%
แต่ก็มีการวิจัย จากหลายแหล่ง ที่สงสัยว่า นมออร์แกนนิค มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ Parkinson's disease หรือเปล่า และที่ว่า พืชผักธรรมดา มีสารพิษตกค้าง จากยาฆ่าแมลง  ก็ขึ้นอยู่กับว่า กินมากและนานเท่าใดด้วย
มีหน่วยงาน  Pesticide Action Network (PAN) UK  ได้แจ้งให้ทราบทั่วกันว่า มีอาหารอยู่ 10 ชนิดด้วยกัน ที่มีสารพิษตกค้าง จากยาฆ่าแมลงสูง บ่อยๆ  มี...
 flour, potatoes, bread, apples, pears, grapes, strawberries, speciality green beans, tomatoes and cucumber.

สวัสดีค่ะคุณพนัส  แผ่นดิน
เห็นด้วยกับความฝัน ความตั้งใจและแผนชีวิตของคุณค่ะ
คนเราควรมีแผนระยะยาว แต่อย่าสร้างภาระให้ตนเองมากเกินไป 
เพราะหากสร้างภาระมาก  อาจจะเกิดความเครียดและไม่มีความสุข  ไม่ต้องตั้งเป้าหมายว่าจะต้องมีทุกอย่างครบบริบูรณ์ในเวลาเท่านี้เท่านั้นปี 
สำหรับพี่เอง วางแผนไว้นานแล้วว่า เมื่ออายุเท่าใด ควรทำงานเท่าใด และมีงานที่รัก ที่ชอบ ทำแบบสบายๆเท่าใด ทำให้ชีวิตช้าลง แต่สมดุลย์ขึ้นค่ะ
การทำสวนครัว ของเราเอง เป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เราไม่ข้องแวะกับสารเคมีมากเกินไป เราควบคุมเองก็ได้ สบายมากค่ะ

มี บทความหนึ่ง เขียนว่า ...11 reasons to choose organic

1. เพื่อความมีสุขภาพดี

2. หลีกเลี่ยงยาฆ่าแมลง
3. อาหาร Organic  มีความหมายว่า ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ จากองค์กรที่เชื่อถือได้

4.พวกสัตว์ จะได้รับการเลี้ยงดูอย่าง เป็นอิสระ ตามธรรมชาติ
5. GM-free (Genetically modified (GM) crops )

6. ไม่มีการใช้ Routine use of antibiotics

7.ไม่มีการใช้สารปรุงแต่งใดๆ

8.เป็นวิธีที่รักษาความสมดุลย์ทางธรรมชาติอย่างมาก

9.เพิ่มอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน

10.เป็นอาหารที่มีคุณภาพดี และรสชาติที่
11.ช่วยลดภาวะโลกร้อนไม่มีการปล่อย  greenhouse gas ออกมา 

โอโฮ..ความรู้ทั้งนั้นดีครับเป็นการเปิดโลกทัศน์

ทำสวนครัวเอง ดีที่สุดค่ะ

It is the best way to live, have good heath, and take less toxic substance.

Thanks very much for your kindness with this knowledge.   

สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์

นำภาพ ข้าวโพดบนดาดฟ้า ที่พี่สาวปลูกไว้ค่ะ ได้ 32 ฝัก ใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือนค่ะ

ฝักโตพอควร เป็นพันธุ์ข้าวเหนียวดำ ค่ะ

อร่อยและหวานเป็นพิเศษเพราะปลูกเองบนดาดฟ้าค่ะ

(6___^)

สวัสดีค่ะคุณ อาจารย์กู้เกียรติ ญาติเสมอ 47

ยินดีค่ะ ที่ได้มิตรใหม่ ดีใจที่มาเยี่ยมนะคะ

คำว่า  "organic" หมาย ถึง วิธีการและกระบวนการ ที่เกษตรกรปลูกหรือเลี้ยงพืชและสัตว์ ทางการเกษตร เช่น ผัก  ผลไม้ ข้าว ผลิตผลที่ได้จากสัตว์ นม ไข่ เนื้อไก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ใส่ยาฆ่าแมลง  ฆ่าหญ้า ปุ๋ยเคมี  หรือยาอื่นใด ที่ใช้ป้องกันโรคในสัตว์
แต่ในทางกลับกัน การเกษตรแบบนี้ เขาจะใช้ปุ๋ยหมักธรรมชาติ แทนปุ๋ยเคมี   เขาจะใช้พวก นก แมลง มากินหนอนหรือศัตรูพืชกันเอง   ส่วนเรื่องการกำจัดหญ้า แทนที่จะใช้ chemical herbicides  ก็จะใช้การปลูกพืชหมุนเวียน  หรือการถอนหญ้าด้วยคนบ้าง เพื่อกำจัดหญ้า

ส่วนเรื่องการเลี้ยงสัตว์ แทนที่จะให้ยา  antibiotics, growth hormones หรือ medications อื่นใด เพื่อป้องกันและรักษาโรคให้สัตว์ เขาก็จะให้อาหาร ที่เป็น organic feed และปล่อยให้สัตว์ออกมาวิ่งเล่น ตามธรรมชาติให้แข็งแรง ให้อาหารถูกส่วน และรักษาความสะอาดคอกสัตว์ เป็นอย่างดี ไม่ให้เกิดโรค เป็นต้นค่ะ

จริงๆ ดูแล้ว ก็ดีมากค่ะ อย่างน้อย ก็ดีกว่า การทำการเกษตรแบบเก่ามากนะคะ แต่ต้นทุนจะสูงกว่า
ดิฉัน จึงรู้สึกว่า เราคงต้องปลูกสวนครัวกันเองบ้าง เพื่อการประหยัด และให้แน่ใจ ว่า เราได้ของสดๆ และไม่มีอะไรปนเปื้อนมากินเองบ้าง ส่วนหนึ่ง ก็ยังดีค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ ภูสุภา48
ดีใจจัง ที่อุตส่าห์เข้ามาเยี่ยม แม้จะอยู่ไกลกันมากๆนะคะ
ที่ญี่ปุ่น คงต้องมีอาหารออร์แกนนิค อยู่แล้วค่ะ

ของไทยเรา ก็ต้องมีตรารับรอง เหมือนกัน ไม่ใช่ ใครมาบอกว่า ออร์แกนนิคแล้ว เราจะเชื่อ
ถ้า ที่อเมริกา เขาจะมีตรารับรองเช่นกัน รับรองว่า เป็นผลผลิตจากกรรมวิธีและกระบวนการ ที่ทางการให้การรับรองแล้ว  ซึ่งถ้าเป็นอาหารที่มีส่วนผสมมากกว่า 2 อย่าง เช่น  breakfast cereal ก็ได้รับการรับรองได้ ถ้า
มีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนนิค 95%ขึ้นไป
แต่ถ้าเป็นผลผลิตอย่างเดียว เช่น ผัก ผลไม้ ไข่
  หรือที่เป็น single-ingredient foods ก็จะได้รับรองว่า เป็น100 percent organic

ขอยกตัวอย่าง ของ FDA นะคะ
100 percent organic  = Products that are completely organic or made of all organic ingredients.

Organic =  Products that are at least 95 percent organic.

Made with organic ingredients. These are products that contain at least 70 percent organic ingredients. The organic seal can't be used on these packages.

คือ สรุปว่า อาหารที่มีส่วนผสม ที่เป็นออร์แกนนิคน้อยกว่า 70% ไม่สามารถใช้ตรา รับรอง ของทางFDA ได้ค่ะ
และถ้าเราเห็นอาหารที่มีคำว่า "all-natural," "free-range" or "hormone-free." ก็อย่าสับสน เพราะไม่ใช่Organic ค่ะ

  • ศิลาเคยดูรายการหนึ่งค่ะ น่าจะของ PBS ไม่มีผักผลไม้ได้ที่ปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังไม่ได้สะดุดใจเท่ากับอ่านบันทึกนี้ที่มีข้อมูลรายละเอียดมาก ๆ เห็นภาพตามเลย
  • ยืนยันความคิดเดิมของตนเองว่าสงสัยต้องเปลี่ยนจากสนามหญ้าน้อย ๆ ข้างบ้านเป็นแปลงเกษตรเล็ก ๆ ค่ะ ...อืม สำคัญอย่างแรกคือหาจอบกับเสียมค่ะ ...
  • ไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จไหม หากคนที่บ้านไม่ให้ความร่วมมือค่ะ 555 (งานเธอยุ่งกันมากเหลือเกิน จนลืมชีวิตที่สำคัญยิ่งกว่า)
  • ขอบพระคุณค่ะสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่กัลยาณมิตรมากมาย

สวัสดีค่ะน้อง  คนไม่มีราก 49

ขอบ คุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนนะคะ ข้าวโพดงามมากจนน่าทึ่งค่ะ นี่ขนาดปลูกบนดาดฟ้า คงปลูกในกระถางใช่ไหมคะ ที่ดาดฟ้า ร้อนไหมคะ แต่ข้าวโพด ทนร้อนได้  ปลูกเอง เรียกว่า ปลอดภัย 100% ค่ะ

อากาศตอนเช้าที่บ้านพี่ วันนี้ สบายดีมากๆ แต่พอช่วงเที่ยงมานี้ ร้อนจริงๆ แต่ก็ดีกว่า ฝนตกมากๆช่วงนี้นะคะ
ถ้าอากาศไม่ชื้นแฉะมากนัก โรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 น่าจะทุเลาลง บวกกับการเพิ่มมาตรการการป้องกันอย่างเข้ม ...ใช้เอสเอ็มเอสแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะๆ
และประชาชนต้องระวังตัวเองให้มากขึ้น พักผ่อนให้พอ อาหารมีประโยชน์ ออกกำลังพอเหมาะ อย่าให้อ้วน
คนอ้วน เวลาเป็นหวัดสายพันธุ์ใหม่นี้ จะเสี่ยงกว่าปกติ
เพราะว่าคนอ้วนมีลักษณะใช้ออกซิเจนมาก ปอดทำงานหนัก การเดินของลมหายใจไม่ค่อยคล่อง ทำให้มีความเสี่ยง
จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีคนที่เป็นโรคอ้วนเสียชีวิตไปแล้ว 2-3 คน ดังนั้นคนกลุ่มนี้ก็ต้องระวังตัวเองด้วย

เรื่องการซื้ออาหาร  ในความเห็นของพี่นะคะ ไม่ว่า เราจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของออร์แกนนิค หรือไม่ก็ตาม พี่ว่า  สำหรับตัวเองแล้ว คงเลือกซื้ออาหารดังนี้ค่ะ

1.ซื้อผักผลไม้ ที่เป็นฤดูกาลของมัน เราจะได้ของสดและใหม่
2.ดูฉลากให้ดีก่อน เพราะไม่จำเป็นที่อาหารออร์แกนนิคจะดีที่สุดเสมอไป บางที ก็จะหวานไป มันไป เค็มไปหรือ ไขมันสูงไปด้วยซ้ำ
3.
 คำว่า natural foods  กับ organic foods ไม่เหมือนกัน

4.อาหารออร์แกนนิคแท้จริง  จะมีตรารับรอง
5.จะต้องล้างผัก ผลไม้อย่างดีก่อนรับ ประทานก่อนเสมอ เพื่อเอาความสกปรกและแบคทีเรียที่อาจติดมาออกก่อน โดยเฉพาะ พวกที่เราบางคน กินทั้งเปลือกเป็นบางครั้ง เช่น มันฝรั่ง แอปเปิ้ล แตงกวา
6.แต่ถ้าเรากลัวสารพิษ ก็ควรปอกเปลือกออกก่อน
7.ถ้าเป็นพวกเนื้อปลา เนื้อไก่ ก็ต้องลอกหนังออกด้วย เพราะพวกสารพิษ จะตกค้างอยู่ที่ไขมัน ที่ผิวหนังสัตว์ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ Sila Phu-Chaya  52

คุณศิลาบอกว่า เคยดูรายการหนึ่ง  น่าจะของ PBS บอกว่า ไม่มีผักผลไม้ใดที่ปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์  ...ต้องขอเติมว่า  ถ้าเราซื้อที่ตลาดค่ะ...เพราะ ถ้าเราปลูกเอง ก็ปลอดสารพิษ 100%ค่ะ แต่คงปลูกไม่ได้มาก เพราะใช้เวลา และแรงงานสูงเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงฝนตก ขณะที่พิมพ์นี้ แม่บ้านกำลังออกไปถอนหญ้าอยู่ค่ะ เพราะเราจะไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าหรือสารเคมีอื่นใด

เมื่อวานเย็น ล้อมวงทานถั่วงอกผัดกับเต้าหู้ จานเบ้อเริ่ม หมดในชั่ว 15 นาที ถั่วงอกปลูกเองสดๆ อร่อยมากค่ะ
สำหรับสินค้า ออร์แกนนิค ในตลาด โดยภาพรวมยังมีส่วนแบ่งตลาดไม่มากนัก คงเป็นเพราะ ราคายังสูงอยู่ค่ะ

สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา คนอายุกลางคนขึ้นไป  จะสนใจซื้อสินค้าออร์แกนนิคมากกว่า กลุ่มอายุอื่น และที่ซื้อมากที่สุดคือ Organic fresh fruit 27% / organic fresh vegetables  26%

/organic dairy products --- eggs and milk  18% and 17% ตามลำดับ  แต่ถ้าเป็น Frozen organic products - vegetables, fruit and ice cream - จะซื้อแค่ 5% - 6%.

พวก Meat ต่างๆ ก็มี แต่จะเท่าๆกันกับนม และไข่ 
คือสรุปว่า จริงๆแล้ว คนทั่วไปยังกินอาหารออร์แกนนิคกันไม่มากเป็นที่น่าพอใจค่ะ ที่แจ้งตัวเลขว่า มีคนนิยมมากๆ ก็มักมาจาก พวกผักผลไม้ ที่มียอดขายดี เป็นตัวเลขที่นำมานำเสนอเป็นหลัก
เห็นได้ชัดว่า ถ้าเศรษฐกิจยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ ที่คนมีเงินอยู่ในมือมากๆ คนก็คงยังต้องซื้ออาหารที่ไม่ใช่ออร์แกนนิคอยู่ด้วย ไม่ใช่จะเลือกแต่อาหารออร์แกนนิคอย่างเดียว
ส่วนตัว ก็เป็นดังที่กล่าวไว้เหมือนกัน แต่สำหรับผักผลไม้ จะพยายามเลือกที่เป็นออร์แกนนิค และทำสวนครัวเองค่ะ

 

พาหลานม่อนมาเรียนรู้เรื่องผัก ผลไม้ และกำลังฝึกให้กินด้วย ขอบพระคุณ

Dsc0129999

สวัสดีค่ะอาจารย์ นายประจักษ์~natadee 
เห็นหลานม่อน เอาผ้าอนามัยปิดปาก คงกลัว จะหายใจเอาเชื้อหวัดเข้าไปนะคะ 
ช่วงนี้ คงต้องกินอาหารที่ให้วิตามินซีมากหน่อยค่ะ

อาหารต้านหวัดที่ดี คือ "วิตามินซี" ที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเรา ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายดายนัก
วิตามินซีนั้นพบในผลไม้หลายชนิด เช่น ฝรั่ง ส้ม มะละกอ มะขาม ซึ่งให้วิตามินซีสูง 
พวก เครื่องดื่ม "สมุนไพรรสร้อน" สำหรับผู้ใหญ่ ก็ดีค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยป้องกันหวัด.....พวกแกงป่าหรือแกงเลียง หรือ อาหารที่ใส่เครื่องเทศมากหน่อย เช่น พริกไทย ขิง กะเพรา โหระพา กระชาย กานพลู อบเชย เป็นต้น พวกนี้ เราปลูกเองได้ค่ะ

ถ้า เริ่มมีอากาหวัด "ซุปไก่ตุ๋นร้อนๆ" จะช่วยลดน้ำมูก ลดอาการไอ ลดอาการคัดจมูก ทำให้หายใจคล่องขึ้น รวมทั้งช่วยลดอาการอักเสบจากการติดเชื้อได้บ้าง

ตอนนี้ ทราบข่าวว่า ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรีกล่าวว่า หลังจากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวสมุนไพรฟ้าทะลายโจรสามารถป้องกัน และรักษาอาการไข้หวัดใหญ่ได้

พบ ว่าวันนี้ประชาชนหลั่งไหลซื้อสมุนไพรฟ้าทะลายโจรหมดไปหลายพันกระปุกจนหมด สต๊อกของ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร คาดว่าต้องใช้เวลาอีกกว่า 1 อาทิตย์จะผลิตออกมาจำหน่ายได้เพิ่มอีกตามความต้องการ

"สำหรับฟ้าทะลายโจรนี้ ทั้งอินเดีย จีน และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย  ใช้เป็นยาในการรักษาไข้หวัด เป็นยาที่สามารถป้องกันหวัดได้ผล เป็นข้อมูลว่าสมุนไพรไทยฟ้าทะลายโจร สามารถเป็นที่พึงแก่ประชาชนได้ทั้งที่ประชาชนจะนำต้นมาต้มดื่มกิน หรือเลือกซื้อจาก ทุก รพ. หรือร้านขายยาต่าง ๆ ที่ปัจจุบันเป็นยาสมุนไพรบัญชียาหลักแห่งชาติด้วย"ดร.ภญ.สุภาภรณ์กล่าว

  • เข้ามาเยี่ยม...

ไม่เห็นคุณโยมนานแล้ว นึกว่าจะเป็นอะไร ดีใจที่ยังคงสบายดี...

เจริญพร

นมัสการค่ะ ท่าน BM.chaiwut 57

ขอบพระคุณท่านมากค่ะ ที่มาเยี่ยม เพราะเห็นว่า หายไป
จริงๆ ก็เข้ามาที่โกทูโนบ่อย แต่ครั้งละไม่นานนัก เพราะมีภาระกิจมากขึ้นค่ะ สุขภาพยังดีค่ะ
และ ตอนนี้ ก็ยังเห่อสวนครัวที่ทำใหม่ค่ะ ประมาณ 4 แปลงยาวๆ ไม่รวมของเก่า เลยเข้าไปดูแลมากหน่อย มะเขือเทศกำลังออกใหม่ ดังในรูปค่ะ ปลอดภัย 100%


สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์

ไม่ได้มาทักทายหลายวันเลยค่ะ

ระยะนี้น้องมีเวลาน้อยลงไปอีกค่ะ กำลังสำรวจสนามที่จะทำวิจัย ก่อนส่งโครงร่างวิทยานิพนธ์ค่ะ

แวะมาส่งความรักและความคิดถึงเหมือนเดิมค่ะ

พี่สบายดีนะคะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ส่งภาพนี้ ให้พี่ทายว่าใบอะไรค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ น้องคนไม่มีราก
ต้นไม้นี้ ที่บ้านพี่มีค่ะ แต่ลืมชื่อไป ยังถ่ายรูปไว้เลย แต่หารูปไม่เจอ เพราะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ใหม่ เลยcopy รูปลงแผ่นดิสก์ค่ะ ยังไม่ได้จัดเลย ถ้าน้องบอกชื่อ พี่จะร้อง อ๋อ เลย ถามคนที่นำมาปลูกให้ จดไว้แล้ว แต่กระดาษหายไป

ตอนนี้ เห่อปลูกสวนครัวเพิ่มค่ะ  ต้นมะเขือเทศที่ปลูกไว้ กำลังออกลูกหลายลูก สีแดงสด เหลืองอมส้ม และสีเขียวๆที่ยังเล็กอยู่ ทะยอยเก็บมา จะทำสลัดทาน
วันนี้อยู่บ้านทั้งวัน มีอะไรๆรอให้ทำเยอะแบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ ตอนเย็นก็ได้ไปออกกำลังกายแถวๆบ้านด้วยค่ะ
มีรูป เขาปลูกสวนครัวกันที่ต่างประเทศ ทำเป็นกะบะก็มี สำหรับครัวเรือนเท่านั้น ดูไม่เลวนะคะ กระทัดรัดดี และดูไม่เป็นงานหนักนักด้วย สมาชิกในครอบครัว ช่วยๆกันได้ สำคัญที่สุด คือ เป็นผักปลอดสารพิษ ที่แท้จริงค่ะ
คราวนี้ เชื่อมั่นได้ %ค่ะ

สวัสดค่ะพี่ศศินันท์

มาเฉลยค่ะ...

เป็นภาพของยอดมันเทศที่เลื้อยขึ้นบนลูกกรงดาดฟ้าค่ะ

พี่สาวชอบและรักมาก ทั้งที่ได้ขุดหัวมันเพียงปีละครั้ง ได้ไม่กี่หัว เนื่องจากเป็นกะบะดินไม่ใหญ่นักค่ะ

ยอดอ่อนมันเทศนี้ สีจะออกแดง ๆ ชมพู ๆ สวยงามมากค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะน้อง คนไม่มีราก
อ้าว ถ้ัางั้น ไม่ใช่ค่ะ ที่พี่นึกถึง เป็นไม้ประดับ แต่ใบอ่อนเหมือนกันมากๆค่ะ สวยดีนะคะ เหมือนไม้ประดับเลย


ในเรื่องที่เกี่ยวกับอาหาาร  พี่เห็นว่า น้องเป็นคนรักษาสุขภาพมากคนหนึ่ง ก็คล้ายกับพี่ค่ะ
พวกอาหารออร์แกนนิค จึงต้องใจเรามากที่สุดนะคะ
แต่ในด้านNutrition ไม่ว่า จะเป็นใคร แม้กระทั่ง USDA ที่เป็นหน่วยงานที่ให้การรับรอง organic food ก็ยังไม่เคยบอกว่า อาหารในกลุ่มนี้จะปลอดภัยหรือ ให้ประโยชน์มากที่สุด


ในด้านคุณภาพและหน้าตาของอาหาร
ทั้งออร์แกนนิคกับไม่ออร์แกนนิค ก็ไม่ค่อยแตกต่างกัน จะแตกต่างกันที่วิธีการปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยว จริงๆแล้วพวก organic fruits และ vegetables  จะเน่าเสียได้ง่ายกว่าเพราะไม่มีพวก  waxes หรือ preservativesใดๆ และแถมบางที พวกออร์แกนนิค ก็หน้ตาไม่ค่อยสวยและขนาดเล็กกว่า

ในด้านยาฆ่าแมลง แน่นอนค่ะ คราวนี้ ออร์แกนนิคดีกว่่าแน่
และที่ดีกว่าอีกอย่างคืือ พืชผัก และฟาร์มต่างๆที่เป็นออร์แกนนิคไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

แต่ที่เสียเปรียบคือ ราคา ซึ่งสูงกว่า เนื่องมาจากการใช้ต้นทุที่สูงกว่า ต้องทำตามกฏระเบียบของการปลูกพืชผักออร์แกนนิคและ ยังได้ผลผลิตน้อยกว่าอีก


เรื่องรสชาติ ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล บางคนว่า อาหารที่ทำจากผลิตภัณฑ์ออร์กนนิคอร่อยกว่า บางคนบอก พอๆกัน หรือ บางคนแยกไม่่ออก
คือ สรุปว่า สิ่งที่เหนือกว่าชัดๆคือเรื่องการไม่ใช้ยาฆ่าแมลง และเรื่องการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งยังไม่ได้ลงลึกถึง สิ่งปนเปื้อนต่า
งๆ ที่อาจมีในขั้นตอนต่างๆได้ค่ะ  แต่แค่นี้ เราก็พอใจมากแล้วนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท