เราต้องหัดให้รางวัลตัวเองเสียบ้าง ให้รู้สึกมีดอกไม้บานที่ตัวเรา


เราเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดของตัวเอง ถ้าสุขภาพจิตดี อะไรๆก็ดีหมด

                   

ราสามารถสร้างความสุขให้เก่ตนเองอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องไปคอยของขวัญหรือรางวัลจากคนอื่น วันหยุดสุดสัปดาห์ ไปshoppingและหาของอร่อยๆทาน เป็นรางวัลที่เราขยันทำงานมาตลอด 5 วันโดยไม่ไปทำงานสายเลย หรือวันเกิด แทนที่จะคอยของขวัญใคร ก็ซื้ออะไรที่ถูกใจให้แก่ตัวเองเสีย ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยอีกโข

    เราเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดของตัวเอง คือ รู้จักวิธีบำรุงขวัญ บำรุงร่างกายให้ดี ทำใจร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส มองโลกในแง่ดี  ไม่ทุกข์อะไรจนเกินไป สุขภาพจิตก็จะดี เข้มแข็ง ไม่ท้อถอยอะไรง่ายๆ เมื่อมีอุปสรรคมาก็หาทางแก้ไขได้ ความทุกข์ ความไม่สบายใจกาย เป็นฤดูกาลของชีวิต ไม่อยู่กับเรานานนักหรอก ถ้าเราควบคุมตัวเองได้ เราก็มีความสุข

หมายเลขบันทึก: 83844เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2007 00:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 08:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (48)
   เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ บางครั้งเวลาเครียดๆ อยู่คนเดียวบ้าง ก็สงบดี  แต่ไปกินของอร่อยมากๆ จะอ้วนซีคะ
จะให้รางวัลในการทำความดีของตัวเองซักครั้ง อยากทานอะไร ก็ทานเถอะ นานๆที ไม่อ้วนหรอก ทานแล้ว ก็ไปเดินย่อยสัก 1ช.ม. ฟังเพลงไปด้วยขณะเดิน และอย่าทานหวานๆซ้ำเติมไปบ่อยๆ ก็o.k.ค่ะ
กำลังเหงาๆ อ่านแล้ว เป็กำลังใจดีค่ะ
  • อืม คิดเหมือนกันเลยครับ
  • ผมเคยเขียนที่นี่ครับ
  • บางทีการคาดหวังจากผู้อื่น แล้วไม่ได้ อาจจะกลายเป็นลบครับ

 ขอบคุณอ.จ. ที่comment มา ดิฉันชอบให้รางวัลตัวเองเป็นครั้งคราว ชื่นชมตัวเองเงียบๆ ถ้าเราได้ทำอะไรดีๆ และประสบผลสำเร็จ บางทีคนอื่นไม่รู้หรอกว่า เรามีจุดมุ่งหมายอะไรในการทำอะไรบางอย่าง

อ่านแล้วรู้สึกดีครับ....

รางวัลเล็ก ๆ น้อยที่เราให้กับตัวเอง สร้างพลังให้เรามากกว่ารางวัลใหญ่ ๆ จากคนอื่นครับ...

ขอบคุณครับ...

ดิฉันก็รู้สึกดีค่ะ
คนทำงานไม่ค่อยหยุด แต่งานไม่เด่น กับคนหยุดปกติ งานเด่น ใครดีกว่ากัน

ขอบคุณค่ะ Mr.Direct ที่comment เพิ่ม จริงๆแล้วทุกคนต้องการกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรดีๆที่เราตั้งใจทำ และเมื่อได้ผล ก็อยากให้คนอื่นชื่นชม แต่บางครั้ง ไปเล่าให้เขาฟังบ่อยๆ เขาอาจรำคาญ ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับส่วนรวมหรือไม่ใช่เป็นงานที่ทุกคนมีส่วนร่วม ชื่นชมในใจจะเหมาะกว่า บางทีล้นทะลักออกมาทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จนหลายคนทัก ก็ช่วยไม่ได้ อาจต้องเล่าเหมือนกัน แต่ดูคนที่จะฟังเหมือนกัน บางทีก็เฉยๆดีกว่า

 น่าจะเป็นว่า คนทำงานเด่น มีผลงานดี ตั้งใจเวลางาน พองานเสร็จก็หยุดได้เป็นปกติ  จะได้รับการชื่นชมมากกว่านะ
 บางทีทำดีมาตั้งนาน ทั้งปี สู้คนรู้ใจนายไม่ได้
  • ขอบคุณมากค่ะที่กรุณาแวะไปเยี่ยม blog ของดิฉันค่ะ
  • ได้อ่านประวัติคุณแล้ว เป็นผู้หญิงที่เก่งมากคนหนึ่งเลยนะคะ
  • ใช่แล้วค่ะ ความสุขหาได้จากใจเราเอง ไม่คิดมาก ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี และขยันให้กำลังใจและรางวัลแก่ตัวเอง แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ
  • แล้วจะคอยอ่านบันทึกต่อไปนะคะ
เราต้องหัดให้รางวัลตัวเองเสียบ้าง ให้รู้สึกมีดอกไม้บานที่ตัวเรา จะมีความสุขสดชื่นขึ้นทันตา   ขอบคุณค่ะอาจารย์...ปกติไม่เคยให้รางวัลแก่ตัวเองซักเท่าไหร่...ชอบให้คนอื่นๆมากกว่าค่ะต่อไปนี้จะให้รางวัลตัวเองบ้างแล้วค่ะ
  • ใช่ค่ะบางครั้งเราต้องรู้จักปลอบใจตัวเอง
  • กำลังใจจากตัวเองหาง่ายกว่าการรอให้คนอื่นหาให้ซะอีกนะค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นค่ะ
ไม่มีรูป
กฤษณา
อย่าคิดอย่างนั้นค่ะ ทำให้จิตใจไม่สบายเปล่าๆ

สวัสดีค่ะ

ตอนนี้ ให้กำลังใจตัวเอง จนต้องลดน้ำหนักแล้วค่ะ

ขอขอบคุณในกำลังใจที่มีให้ค่ะ.... สุขภาพจิตดี สุขภาพกายดี ชีวีมีสุข  วันใดใจทุกข์ท้อแท้ รู้สึกแย่ไม่มีแรงเดินทางชีวิตเลยค่ะ  ตลอดมามีแต่ปล่อยวางเรื่องทุกข์ ห่างไกลเรื่องวุ่นวายใจ  อยากให้คนไทยสุขภาพจิตดีสู้ภัยสังคมต่อไปค่ะ  ขอบคุณมากๆ นะคะที่กรุณาเยี่ยมเยียนblogของหนู  หนูขอเป็นอีกหนึ่งแรง หลีกหนีความทุกข์ สรรหาเวลาสุขให้กับตนเองบ้างเป็นรางวัลชีวิต...

ช่วงเวลาเสาร์ - อาทิตย์ เป็นวันที่สบายได้พักผ่อนอยู่กับบ้าน และครอบครัว  ช่วงเวลาทำงานก็ทำงานเต็ม นี่แหละรางวัลให้กับตนเองค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ กฤษณา

ค่ะช่วงเวลาเสาร์ - อาทิตย์ เป็นช่วง วันที่พักผ่อน  คุณจัดเวลาได้เหมะสมแล้วค่ะ งานก็ดี ครอบครัวก็ดีค่ะ
และการที่คนเรา มีวิถี ชีวิต ที่คล้อยตามธรรมชาติ อยู่กับอากาศดีๆ สายลม แสงแดด  มีอนามัยแบบธรรมชาติ   จะทำให้มีสุขภาพดี  แข็งแรง  ก็เป็นการให้รางวัล ตัวเองส่วนหนึ่งค่ะ
แต่ที่สำคัญ ต้องอย่าเครียดมากๆ เป็นประจำ...เรื่องเครียดของคนเรา คงต้องมีมั่ง แต่อย่าให้ติดค้างอยู่นานๆ ต้องใช้หลักธรรมะเข้าข่มบ้าง...
การชื่นชมกับ ดอกไม้...ใบหญ้า ทำให้จิตใจสดชื่น ..ไปทั้งวันค่ะ

เราเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดของตัวเอง สุขภาพจิตดี อะไรๆก็ดีหมด จริงมาก ๆ เลยนะคะพี่คะ เพียงแค่

+เปลี่ยนมุมมองความคิดของตัวเอง
+คิดบวก ไม่ คิดลบ
+ให้อภัย ทั้งต่อผู้อื่นและตัวเอง
+....มีอีกนะคะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ จริยา
ขอบคุณที่มาเยี่ยม จริงๆ นี่เป็นบันทึกเก่ามากของพี่เลยค่ะ เขียนเป็นข้อคิดสั้นๆค่ะ
คนเราสามารถ เป็นคนเอาการเอางาน พร้อมๆกับเป็นคนรื่นเริงได้ด้วยนะคะ
คนที่มีบุคลิกอย่างนี้ จะเป็นคนไม่เครียดง่าย ทำอะไรเป็นะรรมชาติและดูดีด้วยค่ะ
อย่างคุณหมอเอง ก็เป็นคนหนึ่ง ที่มีบุคลิกนี้ค่ะ ไม่ได้ยอ ...ก็ดูสิคะ เป็นทั้งแพทย์ที่มีงานหนัก แต่ก็ยังมีอารมณ์สุนทรีย์ เขียนกลอน ถ่ายรูป และทำกับข้าวเก่งอีกด้วยค่ะ 
พี่ขอมอบ ช็อกโคแล็ตหวานหอม เป็นรางวัลเลยค่ะ นานๆ กินที ไม่อ้วนค่ะ...

 

สวัสดีค่ะคุณ ภารดี เทศชารี

ดีใจที่คุณมาเยี่ยมค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน รวมทั้งตัวเองด้วย ตอนนี้อะไรๆก็ไม่ค่อยจะน่าสุขมาก ก็ปล่อยๆบ้างดีกว่าค่ะ บอกตัวเอง อิๆๆๆ...

คนที่มีสุขภาพจิตดี เข้มแข็ง ส่วนใหญ่มักจะมาจากพื้นฐานทางครอบครัว ที่มีความอบอุ่น มีความรัก เอื้ออาทรกัน
พร้อมทั้ง มีการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่ถุกต้องมาตั้งแต่ในวัยเด็ก เด็กจะมีภูมิคุ้มกันดี เมื่อโตขึ้น ก็สามารถเผชิญโลกกว้างได้อย่างมีสติค่ะ
วันนี้ มีsuper food มาฝากค่ะ เพื่อให้ เกิดความผ่อนคลายและให้พลัง ด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ Bright Lily

ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ
ดิฉันไปเยี่ยมคุณที่บล็อก รู้สึกประทับใจค่ะ ที่เห็นรอยยิ้มอย่างมิตรไมตรี ฉายอยู่ทั่วบล็อก
คนเรา ในชั่วนาทีแรกที่เจอกันต่อหน้าๆ จะเป็นช่วงที่สำคัญมาก ที่จะรู้สึกอย่างไรต่อกัน
บางคนไม่ยิ้มแย้มกันเลย  เชื่อว่า การปฎิสัมพันธ์ทั้งหลาย คงจะหยุดลงอีกไม่นาน
แต่สำหรับคุณแล้ว คนเข้าไปเยี่ยมที่บล็อก จะเห็นรอยยิ้มพิมพ์ใจ คอยต้อนรับอยู่ตลอดเลยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ

P

เราทุกคน ต้องการกำลังใจ แต่ถ้ายังไม่มีใครให้ เราก็ต้องสามารถให้ตัวเองได้ง่ายๆ   และเราก็ไม่ติดอยู่ในคุณงามความดีเล็กๆน้อยนี้หรอก เราต้องทำดีต่อไปอีก ด้วยความร่าเริงใจนะคะ


สวัสดีค่ะคุณ โก๊ะ
คิดถูกแล้วค่ะ ไม่ต้องรอให้ใครมาให้รางวัลเรา เราให้ตัวเองก็ได้
เพราะเรารู้อยู่กับตัวเอง ว่า เราได้ทำอะไรดีๆ ให้กับสังคมและโลกบ้าง

สวัสดีค่ะคุณสารี
คุณถามว่า...คนทำงานไม่ค่อยหยุด แต่งานไม่เด่น กับคนหยุดปกติ งานเด่น ใครดีกว่ากัน
ดิฉันว่า...น่าจะเป็น คนหยุดปกติ งานเด่น ดีกว่า นะคะ

ดิฉันเคยทำงานกับองค์กรแห่งหนึ่งมาก่อน เคยมีคำถามเหมือนกันว่า เราก็ทำงานขยันขันแข็งมาก ผลงานก็มี แต่เจ้านาย ไม่ค่อยปลื้ม เลยหันมาดุตัวเอง...
เริ่มปรับปรุงตัวค่ะ รู้เลยว่า เป็นเพราะ เรามีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นๆ น้อยไปนั่นเอง
ต่อมา ดิฉัน ก็เริ่มเห็นผลว่า งานเก่งอย่างเดียว ไม่พอ ต้องเก่งคนด้วยค่ะ
เป็นคำแนะนำ เผื่อได้ประโยชน์นะคะ

พี่ศศิ คะ ดูสิคะ น้องลองเปิดหน้าสารบัญในบันทึก ของพี่ศศิ ที่น้องเคารพ และนับถือ แล้วก็จินตนาการว่า ถ้าน้องกำลังคุยอยู่กับพี่ศศิ น้องอยากคุยเรื่องอะไรมากที่สุด

โดยที่เราก็ไม่รู้ตัวเราว่า เราเคยคุยกับพี่ศศิมาแล้ว...ที่นี่

ดังนี้

P
20. ภูสุภา
เมื่อ ศ. 11 ก.ค. 2551 @ 00:43
737204 [ลบ] [แจ้งลบ]

เราเป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุดของตัวเอง สุขภาพจิตดี อะไรๆก็ดีหมด จริงมาก ๆ เลยนะคะพี่คะ เพียงแค่

+เปลี่ยนมุมมองความคิดของตัวเอง
+คิดบวก ไม่ คิดลบ
+ให้อภัย ทั้งต่อผู้อื่นและตัวเอง
+....มีอีกนะคะ

P
21. Sasinand
เมื่อ ศ. 11 ก.ค. 2551 @ 14:31
737747 [ลบ] [แจ้งลบ]

สวัสดีค่ะคุณหมอ จริยา
ขอบคุณที่มาเยี่ยม จริงๆ นี่เป็นบันทึกเก่ามากของพี่เลยค่ะ เขียนเป็นข้อคิดสั้นๆค่ะ
คนเราสามารถ เป็นคนเอาการเอางาน พร้อมๆกับเป็นคนรื่นเริงได้ด้วยนะคะ
คนที่มีบุคลิกอย่างนี้ จะเป็นคนไม่เครียดง่าย ทำอะไรเป็นะรรมชาติและดูดีด้วยค่ะ
อย่างคุณหมอเอง ก็เป็นคนหนึ่ง ที่มีบุคลิกนี้ค่ะ ไม่ได้ยอ ...ก็ดูสิคะ เป็นทั้งแพทย์ที่มีงานหนัก แต่ก็ยังมีอารมณ์สุนทรีย์ เขียนกลอน ถ่ายรูป และทำกับข้าวเก่งอีกด้วยค่ะ 
พี่ขอมอบ ช็อกโคแล็ตหวานหอม เป็นรางวัลเลยค่ะ นานๆ กินที ไม่อ้วนค่ะ...

 

แล้วก็จำได้ว่า ในระยะเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก  เรา(น้อง)ก็ไปหาซื้อ ช็อคโกเเล็ต โดยเฉพาะช็อคโกแล็ตนมแบบที่คล้ายในภาพ มากินกับกาแฟหอม ขม กลมกล่อมเข้ากันดี๊ดี

จึงมาเรียนเชิญไปคุยกันที่บล็อก สนทนาวิสาสะ ต่อค่ะ

กติกาซึ่งน้องขออนุญาตตั้งมาเอง คือ อยากคุยเพื่อเก็บเกี่ยวความคิด ของแขกรับเชิญ พี่จะคุยอะไรต่อยอดก็ได้ ค่ะ

 

หวังใจว่าไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ นะคะ ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณบันทึกดีๆ มีกำลังใจเพิ่มเติมขึ้นค่ะ

ปีนี้ให้รางวัลกับตัวเองด้วยการหยุดพักผ่อนเต็มที่เต็มๆ ไปอยู่กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ มองให้เห็นมุมมองใหม่ๆ แล้วค่อยกลับมาสรรค์สร้างงานใหม่ต่อไปค่ะ

พี่ชายคนหนึ่ง คอยทำหน้าที่เป็นจิตแพทย์ประจำตัวบอกอยู่ 7 คำ "แล้ว ทุก สิ่ง จะ ดี ขึ้น เอง" (ก็เลยยังไม่ได้เป็นจิตแพทย์ให้ตัวเองค่ะ)

28. ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

สวัสดีค่ะ ที่มาเยี่ยมบันทึกสั้นๆ บันทึกนี้ค่ะ
จริงๆ เป็นบันทึกที่ให้กำลังใจตัวเอง ในการที่เราได้ทำอะไรดีๆไป แม้ไม่ได้บอกใคร หรือ ไม่มีใครรู้ แต่เราก็รู้สึกดีกับตัวเอง และอยากให้รางวัลเล็กๆๆน้อยๆ กับตัวเองบ้าง พอให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวย  จิตใจร่าเริงแจ่มใสค่ะ

เพราะโดยส่วนตัว ค่อนข้างเป็นคนชอบกังวลใจมากไป เช่น งานคั่งค้าง ก็ ไม่อยากทำอะไรแล้ว อยากแต่จะวุ่นทำงานให้เสร็จไปก่อน ทั้งๆที่ เราน่าจะเบรกและพักผ่อนบ้างเสียก่อนระยะหนึ่ง  และแถมบางที ยังชอบวิตก อะไรล่วงหน้าไปก่อนบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น

ไปดูพจนานุกรม   คำว่า กังวล กับ วิตก มีความหมายคล้ายกันนะคะ

คำว่า กังวล หมายความว่า ไม่สบายใจเพราะเกรงไปล่วงหน้า เช่น วันนี้ฝนตก สมาชิก ยังกลับบ้านมาไม่ครบ กังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า หรือ วันรุ่งขึ้นมีนัดตอนเช้ามาก กังวลว่า นาฬิกาจะไม่ปลุก

แต่คำว่า วิตก หมายความว่า นึกกลัว, เป็นทุกข์, กังวลมาก เช่น เขาวิตกว่า ไปตรวจร่างกายแล้ว ผลอาจออกมาว่า  จะพบโรคร้ายแรง  ข่าวเรื่องปัญหาความไม่สงบ อาจทำให้การค้าขายตกต่ำกว่าที่ควรมาก 

คำว่า กังวล เป็นคำยืมจากภาษาเขมร ส่วนคำว่า วิตก เป็นคำยืมจากภาษาบาลี
ณ เวลานี้ ได้ปรับปรุงตัวเอง ให้เป็นคนมองโลกในแง่บวกมากขึ้นมากแล้วค่ะ  ถึงได้มีบันทึกนี้ค่ะ เป็นการให้รางวัลตัวเองค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์

ขอบคุณพี่ที่ลิงก์มาให้อ่านบันทึกดี ๆ แม้จะสั้น ๆ แต่มีสาระที่อัดแน่นให้ได้คิดค่ะ

น้องคิดว่า...เรามักจะรู้ว่าสิ่งใด ควรทำ ...แต่ปัญหามักจะอยุ่ที่ว่า...เราไม่ทำเสียที...ค่ะ

บางคนก็ยังชอบที่จะ "หลอกตัวเอง"...อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ การที่เราจะ "เปลี่ยนแปลง" ได้ เราต้อง ซื่อสัตย์ที่จะยอมรับ "ความเป็นตัวเรา" เอง เสียก่อน

การได้รู้จักพี่และกัลยาณมิตรใน G2K นี้ ทำให้น้องได้เรียนรู้และรู้จักที่จะยอมรับตัวเองค่ะ

ขอบคุณค่ะ  

(^___^)

กลับมาอีกครั้งค่ะ...

ลืมบอกว่าชอบข้อความที่พี่กล่าวไว้ค่ะ...

"ให้รู้สึกมีดอกไม้บานในตัวเรา"

แค่อ่านก็รู้สึกดี และยิ้มในหัวใจได้แล้วค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ

ดิฉันก็ให้รางวัลตัวเองบ่อยๆ...การซื้อดอกไม้มาปลูก

การไป เดิน shop...การหาของอร่อยๆทาน

สวัสดีค่ะ

  • ความสุขเราสามารถสร้างได้ด้วยตัวเองค่ะ
  • เราต้องดูแลสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ
  • เห็นด้วยค่ะกับการให้รางวัลกับตัวเองเมื่อเราประสบความสำเร็จ
  • ในการทำงาน หรือดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นค่ะ

 

 

สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์

ตามพี่หญิงใหญ่ ตามร่วมหน้าบาน อิ อิ หัวใจบานๆ

กับ ความรู้สึกที่มีดอกไม้บานในใจ ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีๆ

คิดถึงสวนดอกไม้ กะ สายน้ำไหลซอกหิน ที่สวนบ้านคุณพี่นะคะ

... ยินเสียงนกร้อง ต้องสายลมเบาๆ เฝ้ามองใบไม้ ฟังเสียงน้ำไหล ...

มีความสุขนะคะ ก่อนที่ปูจะเพ้อไปกว่านี้ .. อิ อิ ...

 สวัสดีค่ะน้อง  คนไม่มีราก  30
พอเข้าไปเยี่ยมบันทึกของน้องแล้ว ไปโพสความเห็นที่อาจจะมุ่งตรงมาที่ตัวเองไปนิด ทำให้รู้สึกว่า ไม่ทราบน้องจะไม่พอใจไหม ...แต่ก็โล่งใจค่ะ ที่น้องเข้าใจ

พี่คิดอย่างที่เขียนจริงๆ คือ เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ถ้าอยากเปลี่ยน และแน่ใจว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น ดีกับเรา คนรอบข้าง และสังคม
แต่ก็จะมีบางส่วนลึกๆ ที่ยาก ต่อการเปลี่ยนแปลง ต้องค่อยๆเปลี่ยน บางที ชาตินี้ อาจไม่สำเร็จด้วยซ้ำ โดยเฉพาะ สิ่งที่เป็นธรรมชาติ โดยเนื้อแท้ของตัวเราเอง
พี่อ่านหนังสือ ของท่านพุทธทาส ท่านเขียนกลอนไว้ดังนี้ค่ะ...
จงรู้จัก          ตัวเอง          คำนี้หมาย
ว่าค้นพบ       แล้วได้         ในตัวท่าน
หานอกตัว     ทำไม          ให้ป่วยการ
ดอกบัวบาน   อยู่ในเรา      อย่าเขลาไป
ในดอกบัว      มีมณี          ที่เอกอุตม์
เพื่อมนุษย์      ค้นหา          มาให้ได้
การตรัสรู้       หรือรู้           สิ่งใดใด
ล้วนมาจาก     ความรู้         ตัวสูเอง

สวัสดีค่ะคุณ. แดง  32
การทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้เรามีความสุข พบกับ ต่อมสุขใจของเราได้  ชื่นชมและรักตัวเองโดยไม่มีเงื่อนไข ก็เหมือนเราพบบ่อน้ำพุ ที่ผุดขึ้นจากภายในตัวเราเองนะคะ

สวัสดีค่ะคุณ สุนันทา  33
คนเรา ไม่สามารถเปรียบความสุขกันได้ เพราะเรามีมุมมอง ของความสุขที่แตกต่างกัน คนที่มีความสุขง่าย จะได้เปรียบ คนที่มีความสุขยากๆ  ที่อะไรๆ มันดูเหมือนจะมีเงื่อนไขไปหมดนะคะ
สำหรับตัวเอง แค่เห็นสนามกว้างๆ เห็นหญ้าเขียวๆ ก็มีความสุขแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง  poo  34
ดีใจจัง ที่ยังนึกถึงค่ะ
ธรรมชาติสร้างวงจรไว้อย่างสมบูรณ์นะคะ มีกลางวัน มีกลางคืน มีเครียด มีปลอดโปร่งใจ เราคงต้องมองทุกอย่างๆเข้าใจ และพยายามให้เข้าไปใกล้ สิ่งที่เรียกว่า ความสุข ความสบายใจ มากที่สุดค่ะ


เหนือคำบรรยายจริงๆ

สวัสดีค่ะคุณ จอมารเฒ่าทารก
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ มีดอกป้อบปี้ มาฝากค่ะ เป็นดอกไม้ที่น่ารักมาก เป็น California poppies  ที่เวลาบาน จะบานกันทั้งท้องทุ่งกว้างเลย  California เป็นมลรัฐที่มีดอกป็อบปี้มากที่สุดค่ะ มักเป็นดอกสีครีมออกเหลือง และสีส้มๆ ทองๆ
เวลาไปเที่ยวตามแหล่งเที่ยวธรรมชาติคล้ายๆอย่างนี้  ซึ่งที่เมืองไทยเรา ก็มีมากมายหลายแห่ง จะรู้สึกมีความสุขมาก และนั่นคือ การให้รางวัลตัวเองอย่างหนึ่งค่ะ เป็นความสุขทางใจจริงๆ

ไปอ่านที่บล็อกคุณสุทธิชัย หยุ่น เขียนถึง "สูตรแห่งชีวิตประจำวัน" ที่มีเพื่อนส่งมาให้ และบอกว่า ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก, ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...

ไปอ่านแล้ว ดูน่าสนใจ จึงได้ขอคัดลอกมาดังนี้ 
๑. ดื่มน้ำให้มาก
๒. กินอาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น, ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน
๓. กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
๔. ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
๕. หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
๖. เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียดกันนักเลย
๗. อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
๘. นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
๙. นอนวันละ 7 ชั่วโมง
๑๐.เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะดวก, ไม่ต้องเครียดกับมัน, วันไหนไม่ได้เดิน, ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
๑๑.ระหว่างเดิน, อย่าลืมยิ้ม

นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ, หากทำเป็นกิจวัตร, ชีวิตก็จะแจ่มใส, แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้
สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพ...คือ 

๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓. อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔. อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕. อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖. จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

ส่วนทัศนคติต่อชุมชนและคนรอบข้างเราคือ...

๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก หน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ
ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด

ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์, จงทิ้งไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุกจากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงานด้วย...get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?
 

พี่sasinad

มาที่บันทึกนี้ เพื่อให้รางวัลกับชีวิต บ้าง

กับกาแฟถ้วยอุ่น ๆ ถ้วยนี้

นำมาฝาก พี่ ครับ

ขอบพระคุณ ครับ

 

สวัสดีค่ะคุณ แสงแห่งความดี

ตื่นมาตอนเช้าวันนี้ อากาศดี สุขใจ สุขกาย ตามอัตภาพของตัวเองนะคะวันนี้ พี่ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...เต็มที่ นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ ครบค่ะ เดี๋ยวจะต้องออกไปมีกิจกรรมที่ทั้งสนุกและมีความสุขตลอดทั้งวันแล้วค่ะ
ถ้าส่วนลึก ๆ ในใจของเรานั้นมีความสุข...ดังนั้น  ส่วนนอกจะไม่สบายไปมั่ง ก็ไม่เป็นไรนะคะ

คุณบอกว่า มาที่บันทึกนี้ เพื่อให้รางวัลกับชีวิต บ้าง กับกาแฟถ้วยอุ่น ๆ ถ้วยนี้
อยากเล่าเรื่องของ Ivy Bean จาก BRADFORD, England (CNN) -- ที่ให้รางวัลแก่ชีวิตของเธอ จนเป็นสิ่งที่น่าทึ่งไปทั่วโลกค่ะ
Ivy Bean อายุครบ 104ปีแล้ว เป็น Twitter user และอาจเป็นคนใน the social networking site ที่อายุมากที่สุด มีTwitter followers 27,000 คน เธอtweetมาจาก care home ที่ Bradford ประเทศอังกฤษ
คนคงอยากรู้ว่า ในอายุแค่นี้ วันๆทำอะไรบ้าง เธอก็ยังทำผม ดูพวก game show "Deal or No Deal" และยังtweetแสดงความเสียใจ ที่เพื่อนรุ่นเดียวได้ตายลง แถมที่ Facebook ยังมีเพื่อนอีก 5,000 แต่ชอบ Twitter มากกว่า เพราะง่ายกว่า แต่สามารถ linked accounts ทั้งคู่มาพร้อมๆกันได้
คนแก่ที่มีความรู้พอควรและยังช่วยตัวเองได้ มีเงินทองเข้าไปอยู่ในhome careได้ คุณภาพชีวิตก็ไม่ด้อยนักหรอก
เป็นคนแก่  ที่ไม่มีภาระต้องเลี้ยงหลาน เพราะเมื่อลูกโต ก็ถือว่า หมดหน้าที่แล้ว เป็นวัฒนธรรมตะวันตก ที่ค่อนข้างคนละแบบกับวัฒนธรรมตะวันออก แต่คนแก่แบบนี้ จะมีชีวิตที่มีคุณภาพได้ระดับนี้ ต้องมีเงินของตัวเองที่สะสมมานาน จนเลี้ยงตัวเองได้ยามแก่เท่านั้น ผสมกับเงินช่วยจากลูกหลาน เพราะชีวิตในhome care ไม่ถูกเลย ยิ่งดี ก็ยิ่งแพง
คือ สรุปว่า จะเป็นคนแก่อย่างคุณยายคนนี้ได้ ต้องทำงานหนัก ต้องทำอะไรมามากมายในชีวิตที่ผ่านมา บัดนี้ ก็ถึงเวลา ได้รับผลของความสุขแล้ว ใช้ชีวิตให้มีความสุข จะละโลกไปเมื่อไร ไม่มีใครทราบค่ะ

พี่ sasinad ครับ

อ่านบันทึกนี้ แล้ว มีความสุข นะครับ

เอาดอกไม้มาประดับไว้ด้วยครับ

ขอบคุณดอกไม้แสนสวยค่ะ ไม่เจาะจงสีใด เป็นดอกไม้หลากสี ที่ให้ความงามไปคนละแบบ แต่เมื่อมารวมกันเป็นช่อใหญ่ ก็ยิ่งมีความงามสะดุดตามากขึ้นนะคะ
ชีวิตที่ไม่เครียด ไม่ยึดติด ทำใจยอมรับความเป็นจริง มีปัญหาก็แก้ไขไปทีละเปลาะ อะไรแก้ไขไม่ได้ ก็ยอมรับ และปรับตัวปรับใจอยู่กันไป หรือพยายามหาแนวทางใหม่ นอกกรอบออกไป ปรับแต่งให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่ตัวเราเองและคนรอบข้าง รับได้ ก็น่าจะดีที่สุดค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท