เข้าไปเยี่ยมชม ตามลิ๊งค์ http://www.oknation.net/blog/smallwife/2010/04/11/entry-1 เป็นคลิ๊ปจุดปะทะ ที่นำเสนอทางสื่อต่างประเทศ คุณหนูซู่ซ่า เป็นผู้บันทึกและสำเนามาแบ่งปัน
เที่ยงวันนี้ ( ๑๑ เม.ย.๒๕๕๓ ) ได้เข้าไปเยี่ยมชม เป็นรายงานข่าวต่างประเทศและคลิ๊ปที่น่าสนใจ ได้รับรู้ว่าเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่ค่อยมีใครฟังกัน ( ชุลมุน ) เมื่อเกิดการสูญเสีย ตามธรรมเนียนต้องสอบสวน
ความรู้สึกลึกในหัวใจ ไม่สบายใจเลยกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ทีเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมชาติต้องบาดเจ็บ ล้มตาย ทรัพย์สินเสียหาย หลายประเทศเตือนพลเมืองเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย ยังไม่หายเศร้าโศกและตื่นตกใจกัน
มีคำถามตามมาว่า ที่มีการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการให้ความรู้ทางการเมืองภาคพลเมือง มีการกระจายอำนาจกันไปใช้งบประมาณไปไม่น้อย ตกลง ณ วันนี้ประเทศไทยได้อะไรกัน เมื่อไม่พอใจผู้บริหารประเทศต้องไปรวมตัวที่เมืองกรุง แสดงพลังชุมนุมกดดัน แล้วกระจายอำนาจกันไปทำไม
สวัสดีค่ะ
นานาจิตตังนะค่ะ
หลายคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชีวิตต้องดำเนินต่อไปค่ะ
ขอแสดงความเห็นในกระทู้นี้หน่อยนึงครับ คำถามที่ตามมาอีกคือ การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นนั้น กระจายจริงหรือ กระจายตามแนวทางที่ควรเป็นหรือไม่ เพราะก็รู้กันอยู่ว่าโครงการหรืองบประมาณต่างๆ ในยุคนี้ล้วนเป็นการตัดสินใจจากส่วนกลาง เช่น เงิน อสม ผู้สูงอายุ เอาไปฝากไว้ที่หน่วยงานท้องถิ่นเท่านั้น ส่วนแบ่งจากเงินอุดหนุนก็กระท่อนกระแท่น หากมีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริงที่มากกว่าการสร้างภาพแล้ว พี่น้องประชาชนคงไม่ต้องไปบาดเจ็บล้มตาย เพราะเรียกร้องประชาธิปไตยหรอกครับ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์นะครับ ขออภัยหากคิดเห็นต่างจากเจ้าของเรื่องครับ
ติดใจหัวข้อนี้มากครับ กับหัวข้อ "แล้วเรากระจายอำนาจกันไปทำไม?"
เป็นคำถามเสมือนว่า กระจายอำนาจไปก็เท่านั้นหรือไม่ แต่เมื่อดูบรรยายขยายความแล้ว "ความรู้สึกลึกในหัวใจ ไม่สบายใจเลยกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ทีเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมชาติต้องบาดเจ็บ ล้มตาย ทรัพย์สินเสียหาย หลายประเทศเตือนพลเมืองเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย ยังไม่หายเศร้าโศกและตื่นตกใจกัน" สะท้อนถึงความรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เขาไม่ไว้วางใจอย่างยิ่ง
ก็ต้องตอกย้ำแหละครับว่า "มีเหตุก็ต้องมีผล" เหตุการ(ชุลมุน)ที่ว่านั้น ฃุลมุนด้วยเรื่องอะไร ฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน อันเนื่องมาจากความต้องการในเรื่อง "กระจายอำนาจ" ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นฝ่ายถืออำนาจทางการเมืองอยู่ในมือ ก็ปฏิเสธที่จะยุบสภา เพราะเกรงว่าหาก "กระจายอำนาจ" กลับคืนไปให้แล้ว อาจเกรงว่าจะไม่ได้อำนาจนั้นกลับคืนมา แต่ในข้อกล่าวอ้างคือเมื่อคืนอำนาจด้วยการยุบสภาให้แล้ว กลับไม่เชื่อใจว่าประชาชนจะใช้อำนาจนั้นเป็น...
รัฐธรรมนูญเมืองไทยหลายฉบับมักอ้างว่า ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยเนื้อหาของคำว่า "ประชาธิปไตย" ก็คือ อำนาจเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน แต่ก็มีหลายครั้งที่ประชาชนไม่ว่าจะสีเสื้อไหนๆ มักลุกขึ้นมาทวงถามหาการกระจายอำนาจในรูปแบบต่างๆให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง มากกว่าเขียนไว้เป็นแค่ตัวอักษรตราไว้ในตัวบทกฎหมายเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ในฐานะที่ท่านเจ้าของเรื่องในกระทู้นี้เองก็เป็นนักกฎหมาย คงทราบนะครับว่ากฎหมายใดเขียนขึ้นมาแล้วไ ม่สามารถสร้างความสงบสุขให้กับผู้ถูกบังคับใช้ กฎหมายนั้นย่อมไม่ได้รับการยอมรับ
มีตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ครับ กรณีชาวน่านทำมาหากินในป่า โดยมีเหตุผลคือสืบทอดทำอาชีพอยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่กฎหมายที่ขีดเขียนกันบนโต๊ะกำหนดให้พื้นที่ทำกินเหล่านั้นเป็นอุทยาน ป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใช้กฎหมายจึงต้องทะเลาะกับผู้ทำกินต่างๆอยู่เนืองๆ และเมื่อวกกลับมาที่กรณีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นในเรื่องนี้ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าไม้และที่ดินก็ยังยึดถือกฎกันคนละภาษา ฝ่ายรัฐใช้กฎหมายที่เชื่อกันว่าวาดแผนที่กันบนโต๊ะ ขณะที่ฝ่ายชาวบ้านยังยึดถือกฎจากประเพณีที่สืบทอดกันมา
เห็นด้วยครับกับประโยคที่ว่า "พายเรือในอ่าง" เพราะอำนาจในการปกครองที่กล่าวอ้างกันนั้นยังกระจายกันไปไม่ถึงไหน "กระจายให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการให้ความรู้ทางการเมืองภาคพลเมือง มีการกระจายอำนาจกันไปใช้งบประมาณไปไม่น้อย ตกลง ณ วันนี้ประเทศไทยได้อะไรกัน" จึงขอเสริมครับว่า ประชาธิปไตยได้อะเรกับคำพูดสวยหรูเหล่านี้
เห็นด้วยกับคนน่านครับ ว่า "..... ประชาธิปไตยได้อะเรกับคำพูดสวยหรูเหล่านี้"