มัทนา
มัทนา (พฤกษาพงษ์) เกษตระทัต

ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ | จะหนีหรือจะทน


เพื่อนถามว่า: เลิกกับแฟนแต่ยังมีเหตุจำเป็นต้องเจอหน้าทุกวันทั้งคู่กรณีและแฟนใหม่ของเขา ทำไงดี พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้หนีปัญหาใช่ไหม ต้องสู้กับมันใช่หรือเปล่า ยังสงสัยตัวเองว่าจะอดทนได้รึเนี่ย อีกฝ่ายไม่ร้อนใจอะไรทั้งนั้น เราร้อนอยู่ฝ่ายเดียวใช่ไหมนี่ เฮ้อ กลุ้มคิดมากอ่ะ

---------------------------------------------------------------------

ตอบเมลเพื่อนไปว่า:

ใช่ ศาสนาพุทธไม่ให้หนีปัญหา แต่ก็ไม่ได้บอกให้ทนทายาทโดยไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน (พระพุทธเจ้าพบแล้วว่าทรมานตัวเองไปก็ไม่พ้นทุกข์)

ศาสนาพุทธสอนให้ดูปัญหาให้แจ่มแจ้ง แล้วหาทางออกอย่างมีสติ ไม่เอาอารมณ์มาแก้ปัญหา

จริงๆเธอถามเองตอบเองได้ถูกต้องแล้วหล่ะ เพียงแต่เธอคงกลัวใจตัวเอง
พระท่านบอกว่า เวลามีปัญหาแบบนี้ ให้ดูว่า มันเป็นปัญหาจริงๆ หรือมันเป็นปัญหาของเราคนเดียว

ถ้าย้ายที่ได้ง่ายก็ย้่่าย แต่ถ้าย้ายลำบากก็ให้ถามตัวเองว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน
อย่าโวยวายไป ไม่ช่วยอะไรขึ้นมา พิจารณาความรู้สีกตัวเองดีๆว่าปัญหามันอยู่ที่เรารับไม่ได้ หรือว่า เพราะเค้ามากลั่นแกล้งซ้ำเติม

คือเราไม่ใช่เธอไงเราก็เลยพูดได้ว่า ตึกมีหลายห้อง แล้วแต่ละห้องนี่มีผนังใช่มั้ย ไม่ได้โดนบังคับให้อยู่ในห้องเดียวกันตลอดหนิ เป็นเราเราไม่แคร์ ช่างมัน มาขนาดนี้แล้ว
แต่เราก็ไม่รู้ว่าแฟนเก่าเธอกับแฟนใหม่เค้าเป็นยังไง เค้าจะมายั่วเธอมั้ย มาแสดงความเป็นเจ้าของขนาดไหน
คือคนเราก็มีหลายแบบไง เธอเองจะรู้ดีมากกว่าเราว่าควรทำอย่างไร

คิดให้ดีว่าเราเป็นบ้าไปคนเดียวรึเปล่า หรือเค้าก็มีส่วนทำให้อะไรมันเลวร้าย
ถ้าเราบ้าไปเอง เราก็ต้องจัดการกับตัวเอง ถ้าเค้ามาแกล้ง ก็คงต้องคุยกัน หรือ หาทางออกอื่น
คิดถึงความเป็นไปได้ในอนาคตว่าถ้าเธอสามารถอยู่ร่วมกับเค้า 2 คนได้อย่างสงบสุข อะไรๆคงดี
พระท่านบอกว่าการมีเมตตาคือ รับให้ได้ก็พอ ไม่ต้องถึงกับไปรักไปชอบคุยถูกคอกับเค้า แต่อยู่ร่วมกันได้บนโลกนี้อย่างสงบก็ดีมากๆแล้ว

แผ่เมตตาให้เค้า แผ่เมตตาให้ตัวเอง ยิ่งดิ้นยิ่งเหนื่อยนะ ยิ่งต้านผลักมันออกยิ่งล้า ลองรับมันดูอย่างเปิดใจว่าเราอยู่ร่วมโลกกันได้

คิดซะว่าอย่างมากคือมันคงทำให้เธอต้องกลับมาพึ่งลมหายใจเข้าออกและเรียกสติมาทำงานบ่อยขึ้นมากๆในแต่ละวัน

ลองดู ถ้าเห็นท่าว่าไม่ไหวจริงๆก็ค่อยหาทางออกใหม่อีกที

มัท
หมายเลขบันทึก: 182248เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2008 14:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 20:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

ขอให้มีสุขมากๆ

มีวิธีฝึกจิต เชิญนะครับ

เลิกกับแฟนแต่ยังมีเหตุจำเป็นต้องเจอหน้าทุกวันทั้งคู่กรณีและแฟนใหม่ของเขา....

ถ้าเป็นตัวเองนะคะ เลิกกันแล้ว คือเลิกกันแล้ว แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้ ถ้ายังมีความจำเป็น ต้องพบกัน ก็ได้ ไม่มีปัญหาค่ะ แต่คงไม่เป็นเพื่อนแบบ ชอบกันมากหรอก แค่รู้จักกัน ก็พอ...

 

  • บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ
  • แก้แค้นสิบปี ไม่สาย
  • จึ๋ย
  • จำมาจากหนังจีนครับ

คุณหมอมัทมีคำแนะนำที่ดีให้เพื่อนแล้ว

พี่เข้ามาเป็นกำลังใจให้เพื่อนคุณหมอมัทนะคะ

  • หนังจีน (ภาค2)
  • อาจารย์ที่สอนวิชาจิตวิทยาเคยสอนว่า การแก้ไขมีปัญหาชีวิต มีทางอยู่ 3 แพร่ง ก็คือ
  • 1.ทางสู้
  • 2.ทางหนี
  • 3.ทางประนีประนอม
  • แต่ผมเห็นว่า จริงๆ แล้ว เส้นทางสามสายนี้ อาจจะซ้อนทับคาบเกี่ยวกันอยู่  ไม่ได้เป็นทางสามแพร่ง ให้เห็นเด่นชัด ก็ได้
  • บางช่วงขณะชีวิต เราต้องสู้...คือสู้กับจิตใจเราเอง...สู้กับปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น..ต้องสู้ ต้องสู้ จึงจะชนะ..เพลงของ...เจินเจิน..
  • ...บางทีจะสู้ หยั่งรู้ดูแล้ว รู้ว่าสู้ไม่ไหว...ก็ต้อง.. หนี...ห่าง..จากต้นตอแห่งปัญหา..แต่แบบว่าการถอยหนี นี้ก็ต้องถอยแบบมี ศักดิ์ศรี...มีชั้นเชิง...การถอยหนีไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการถอยหนีเพื่อที่จะหาจังหวะเอาชนะในภายหลัง หรือจะถอยหนีเพื่อตั้งหลักรักษาแผลใจ หรืออาจจะเป็นการถอยหนีเพื่อการก้าวกระโดดไปข้างหน้าให้ได้ไกลกว่าเดิม
  • แต่ถ้าสู้ก็ไม่ดี หนีก็ไม่ได้ ก็ต้อง ประนีประนอมกับสภาวะบีบคั้น
  • มาชี้ทาง(สว่าง) ครับ
  • ซึ่งตัวผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเดินทางไหน..
  • หา GPS แห่งธรรมพกติดตัวไว้ด้วยก็จะไม่หลงทาง
  • แต่ถ้าหลงเดินทางผิด ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ลอง กลับทางเดิมนะครับ
  • ทุกข์สุขนั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ที่จิตของเรานี่เอง
  • พุทธองค์ตรัสว่า อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย ชนะตนนั่นแหละเป็นดี ...

ไม่ต้องหนี และไม่ต้องทนค่ะ ^ ^ เจอกับไม่เจอไม่ต่างกัน

ขอบคุณทุกท่านมากๆค่ะ

ความคิดเห็นของทุกท่านน่าจะเป็นแรงช่วยอย่างดีให้คนที่ตกอยู่ในสภาวะปัญหานี้

ให้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างมีสติ : )

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์  มัทนา
  • เห็นด้วยกับ ท่านอาจารย์ กมลวัลย์ ค่ะ  "ไม่ต้องหนี และไม่ต้องทนค่ะ ^ ^ เจอกับไม่เจอไม่ต่างกัน"

ขอบคุณคุณหมอจริยาและอ.ศิริพรมากค่ะ

ใช่เลยค่ะ

"ไม่ต้องหนีและไม่ต้องทน" แต่ต้อง "เข้าใจ"

เขาต้องต่อสู้กับความรู้สึกภายในของตนเอง และต่อสู้กับสิ่งที่ไม่คาดคิด...จากผู้อื่น.... ยากนะค่ะ ...แต่ก็ต้องทำ ...เพื่อเอาชนะตัวเองก่อนแล้วอย่างอื่น ก็จิบจ้อยแล้ว

สมมุติ ถ้าสร้างนี้แล้วถามต่อทุกๆท่านนะค่ะ ว่า .....ถ้าบังเอิญ เขาทั้งสองคน มีลูกเป็นพยานรักละค่ะ และยังต้องพบเจอ ทำงานร่วมกันตลอด..... จะทำอย่างไรค่ะ

ถ้าบังเอิญ เขาทั้งสองคน มีลูกเป็นพยานรักละค่ะ และยังต้องพบเจอ ทำงานร่วมกันตลอด..... จะทำอย่างไรค่ะ

คิดทางบวกนะคะ

ลูกจะมีพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ที่รักเขา สองคู่

อย่างไรก็ตาม คงขึ้นอยู่กับคีย์แมน ตัวละครหลัก

และคนที่สำคัญสุด คือคนที่เป็นผู้ดูแลเด็ก ค่ะ

ยากค่ะ

ต้องคิดบวก คิดทะลุล่วง คิดแต่ประโยชน์และคิดให้ถึงแก่น ว่า ความรัก ที่เราวิ่งไขว่คว้า เพื่อตัวเรา ให้เขารักเรา หรือแผ่ออกไปเฉย ๆ ไม่มีเงื่อนไข

รักเพื่อรัก

รักเพื่อความสุขแบบที่ได้เกิดมาพบคนที่เรารัก คนที่ใช่เลย แม้เขาไม่ได้เป็นคนหรือ ของ ที่อยู่กับเราตลอดเวลา

รักเพื่อรัก

ดู ๆ ไม่มีเหตุผล แต่ มันเป็นอย่างนั้นได้จริง ต้องลอง คิด คิด และ ลองทำให้ได้

สวัสดีค่ะคุณครูเอและคุณphusupa

เรื่องนี้ต้องดูเหตุปัจจัยให้ทั่ว และมันยากตรงที่บุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องมีความต้องการไม่เหมือนกัน

นอกจากคนสองคนแล้วยังมีญาติมาเกี่ยวข้อง

นอกจากเราต้องรู้ว่าเราจะคิดอย่างไรแล้ว มันก็ไม่แน่ว่าไอ้ที่เราคิดเราเห็นเราอยากให้เป็นมันจะเป็นไปตามนั้นไหม

ทางแคนาดาทำวิจัยว่า เด็กที่ถูกเลี้ยงมาด้วยพ่อหรือแม่คนเดียว หรือ พ่อแม่หย่ากันแต่ช่วยกันเลี้ยงอย่างราบรื่น แบ่งเวลาและหน้าที่กันได้ลงตัว ไม่มีปัญหามากเท่าเด็กที่ถูกเลี้ยงมาในบ้านที่พ่อแม่ทะเลาะกันตลอดเวลา

แต่ทั้งนี้ก็เนื่องมากจากว่าที่นี่มีโครงสร้างทางสังคมที่รองรับทั้งคู่(เคย)ที่มีปัญหา และตัวเด็กเอง

"it is better to come from a broken home than a home that is broken"

อย่างไรก็ดีถ้าพ่อแม่ไม่รักกันแล้วแต่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ไม่ทะเลาะรุนแรงให้ลูกเห็น แล้วค่อยเลิกกันตอนลูกโตพอ แบบนี้เค้าก็ว่าดีเหมือนกัน (เพราะมีงานวิจัยมากมายที่สรุปผลว่าเด็กเพศไหนอายุเท่าไรจะมีปัญหาเรื่องไหนถ้าพ่อแม่แยกกัน) แต่แบบนี้ต้องใช้สติและธรรมะมากๆที่จะสามารถทำให้สำเร็จได

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ พ่อแม่เลิกกันแล้ว ไม่พูดกันแต่ให้ลูกเป็นพนักงานส่งสาร แถมให้ลูกไปสืบว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร แบบนี้ลูกเครียดค่ะ

ชอบที่คุณphusupaตอบค่ะ คิดแต่ประโยชน์และคิดให้ถึงแก่น

ว่าการกระทำเราจะมีผลอย่างไร ทำแล้วมีประโยชน์หรือไม่

มัทเพิ่งเขียนอนุทินไปว่า พระพุทธสอนว่าจะทำอะไรถ้าคิดว่าถูกหรือผิดมันตอบยาก แต่ให้เห็นว่าทำไปแล้วผลมันคืออะไรได้บ้าง มีประโยชน์หรือไม่

อย่างเวลามีคนมาถามท่าน ถ้าท่านเห็นว่าตอบไปก็ไม่มีประโยชน์ท่านจะตอบว่า "โอม"

อย่างที่ครูเอเขียนค่ะ ต้องเริ่มจาก เอาชนะตัวเองก่อน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท