มัทนา
มัทนา (พฤกษาพงษ์) เกษตระทัต

เผชิญความตายอย่างสงบ (ตอบบันทึก อ. สกล และ อ. เต็มศักดิ์ค่ะ )


บันทึกนี้เขียนขึ้นมาเพราะไปอ่านบันทึกของ

อาจารย์สกล และ อ. เต็มศักดิ์ มาค่ะ

โจทย์
๑. เวลาพบคนแก่ คนเจ็บ คนตาย เรารู้สึกและตอบสนองอย่างไร เพราะเหตุไร (ขอแปลงโจทย์นิดหน่อยค่ะ ตัดคำว่า คนแก่ ออกเหลือแค่ คนเจ็บ คนใกล้ตายนะคะ)

  • ตอนแรกที่ทำงานที่บ้านพักคนชรา/extended care unit ที่ ร.พ. รู้สึกหงอยๆ และ ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร
  • พยายามคิดว่า มันคือธรรมชาติ
  • รู้สึกลำบากใจที่จะ "พูด" จะตอบสนองด้วยภาษากายมากกว่า
  • ตอนนี้รู้สึกจริงๆว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เฉยๆได้ (neutral empathy)
  • แต่ก็ยังรู้สึกลำบากใจทุกครั้งที่จะ "พูด" ยังคงตอบสนองด้วยภาษากายมากกว่า หรือไม่ก็เขียนการ์ด (research participants งาน thesis เสียไป 4 คนแล้วด้วยค่ะ)
  • เห็นด้วยกับอ.สกลว่าขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ บางรายรู้สึกว่า เค้าหมดทุกข์แล้ว ทรมานมานานเหลือเกิน บางรายก็รู้สึกว่าทำใจลำบากเพราะนึกไม่ถึง ต้องเตือนตัวเองว่า อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน
  • เห็นด้วยกับอ.สกลอีกว่า"บางทีก็รู้สึกสังเวชในทุกขเวทนาของผู้กำลังจะตาย หรือของคนรอบๆข้างทีปลงไม่ตก" ยิ่งในสังคมตะวันตก รู้สึกอยากให้เค้ามาศึกษาพุทธศาสนาบ้างจัง
  • ที่กล่าวมาคือ กรณีคนไกลตัวค่ะ ส่วนกรณีคนใกล้ตัวเสียชีวิต เช่นญาติสนิท เชื่อไม๊ค่ะว่าไม่เคยร้องไห้เมื่อทราบว่า่ญาติเสีย แต่กลับร้องไห้เมื่อได้ฟังต่อว่าคนรอบข้างร้องไห้มีปฏิกริยาอย่างไร เสียใจอย่างไร แต่เป็นซักพักก็หายค่ะ เพราะคนรอบข้างก็ดีขึ้นทุกคน สรุปคือเศร้าเพราะคนที่อยู่ข้างหลังมากกว่าค่ะ

---------------------------------------------------------------------
๒. ถ้าความตายมาถึงตรงหน้าในเร็ววัน เราจะรู้สึกอย่างไร เพราะเหตุใด

  • รู้สึกพร้อมค่ะ  ยิ่งตอนนี้ตายได้เลยค่ะ ขี้เกียจเขียน thesis ๕๕๕๕๕๕ ล้อเล่นค่ะ : P
  • แต่จริงๆนะคะตายได้ค่ะ รู้สึกไม่กลัวตาย เพราะใช้ชีวิตแบบที่คิดว่าตายพรุ่งนี้ก็ได้
  • จะกลัวก็แต่ความเจ็บปวดก่อนตายนี่แหละค่ะ แล้วก็เกรงตัวเองว่าถ้าเจ็บมากๆจะบอกญาติบอกหมอให้ถอดปลั๊ก จะทำให้คนอื่นตัดสินใจลำบากเปล่าๆ (แต่ตั้งใจไว้ว่ายังไงซะจะพยายามไปเอง ไม่ว่าจะปวดเจ็บแค่ไหน)
  • แล้วก็คิดว่าถ้าตายเร็วๆนี้คนรอบข้างคงตกใจและเสียใจน่าดูเหมือนกันค่ะ

---------------------------------------------------------------------

๓. ถ้าก่อนตาย เรามีเวลาทำเรื่อง ๑ อย่างในชีวิต เราอยากทำอะไร

  • ได้อย่างเดียวเลยเหรอค่ะ งั้นคงเลือกที่จะบอกให้คนที่รัก ครอบครัว และเพื่อนทราบว่าเราพร้อมที่จะตาย ไม่ต้องห่วง

--------------------------------------------------------------------- 

๔. ชั่วโมงสุดท้ายก่อนตาย เราอยากทำอะไร

  • เคยดูสารคดีเรื่อง what is life เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของ Francisco Varela รวมทั้งคำสัมภาษณ์เค้าช่วงที่ป่วยเป็นมะเร็ง เค้าบอกว่าเวลาเจ็บมากๆ เค้าจะนั่งสมาธิ ให้ภรรยามานั่งด้านหลังให้เค้าพิง แล้วเค้าจะเข้าสมาธิถึงจุดๆหนึ่งจนรู้สึกว่าเจ็บน้อยลง มีการรวมเป็นหนึ่งของจิตเค้า เค้าจะรู้สึกนิ่ง ถึงเจ็บก็ไม่ทรมาน
  • ชม. สุดท้ายคงนั่งหรือนอนสมาธิค่ะ ให้นิ่งและเข้าถึงจุดๆนั้นบ้างก็จะดี อยากไปแบบสงบค่ะ

---------------------------------------------------------------------

"แล้วความตายก็จบลง" 

One short sleepe past, wee wake eternally,

And death shall be no more,

death thou shalt die.

โดย John Donne 1572-1631

 

หมายเลขบันทึก: 88861เขียนเมื่อ 6 เมษายน 2007 13:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ตามมาอ่านครับ อาจารย์มัทนา

  • น้องเขาชื่อ อาจารย์สกล  นะครับ รีบแก้เร็วก่อนเจ้าตัวจะมา
  • ความคิดของเราแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆนะครับ บันทึกไว้แล้วติดตาม ความเปลี่ยนแปลง
  • อาจารย์เอาบทกวีสุดโปรดของผมมาแสดงไว้ ชอบมากเลยครับ ตอนดูหนังเรื่อง Wit
  • แต่มีคนชอบมากกว่าผม = สกล ท่านนั้นทั้งสั่งซื้อ DVD  และหนังสือบทละครเรื่องนี้มาอ่านเลย

ตกไปประโยคหนึ่ง

  • ในหนังเรื่อง Wit พูดถึงวิธีการตีพิมพ์บทกวีของ John Dunn ไว้อย่างน่าสนใจว่า

การตีพิมพ์หลังๆ ชอบไปใส่เครื่องหมายตกใจ อักษรตัวใหญ่ เพื่อให้ข้อความดู..ไม่ธรรมดา


แต่ความตายเป็นเรื่องธรรมดา และเป็น comma ไม่ใช่ fullstop. 

ขอบคุณมากๆนะคะ แก้แล้วค่ะ ก่อนเจ้าตัวจะมา : P [พอดีมีเพื่อนรุ่นพี่ชื่อ ถกล เลยเผลอไป] 

มัทซื้อ DVD Wit ไว้เหมือนกันค่ะ เพิ่งได้ดูเมื่อปีที่แล้วนี้เอง เคยบันทึกไว้ด้วยค่ะ 

ใช่แล้วค่ะ  ลึกซึ้งมาก สงสัยต้องรบกวนอ.สกลดูหนังสือบทละครนี้ให้ที

ค้น internet แล้วไม่แน่ใจว่าแบบไหนถูกค่ะ

เห็นเขียนได้ 3 แบบคือ

  1. And death shall be no more; Death, thou shalt die.
  2. And death shall be no more; death, thou shalt die.
  3. and death shall be no more, death thou shalt die

แบบที่ 1 ผิดแน่ๆ แต่ไม่ทราบแบบที่ 2 หรือ 3 ถูก

ถ้าตามภาพยนต์เรื่องนี้ ตอนที่ Professor ท่านพูดกับ Barring (Emma Thompson) ก็คงเป็นอย่างที่สามครับ รู้สึก John Donne จะไม่ได้ใช้ semi-colon แต่ใช้ comma แทน

ภาพยนต์เรื่อง WIT เป็นละครเวทีที่นิวยอร์คมาก่อน และเน้นที่คำพูดอย่างแรง พอเป็นภาพยนต์ จากเท่าที่ชมมาเป็นสิบครั้งแล้ว (เราเอามาสอนงานปฐมนิเทศแพทย์ใช้ทุนเกือบทุกรุ่น ปีละ 2 รอบ และผมก็ยังนั่งดูด้วยเกือบทุกรอบตอนกลางคืน และเช้าถอดมาวิเคราะห์ทีละ chapterๆ) แทบจะไม่ได้เปลี่ยนจาก original script เลย

พอจะหาหนังสือเล่มนี้ ก็พบว่ายังไม่สามารถทำได้ขณะนี้ครับ เพราะเล่มเล็กบางมาก และหนังสือกองอยู่ทุกหย่อมหญ้า จะภามภรรยาว่าเธอเห็นไหม ก็ดูจะไม่ใช่วาระที่จะพูดเรื่องระเบียบของบ้าน (แฮ่ะๆ) เท่าไหร่

อันนี้ claim เป็นฉบับของที่ Helen Gardner รวบรวม และในภาพยนต์ (ละคร) เรื่อง WIT ใช้ครับ

Holy Sonnet 6, “Death be not proud”

Death be not proud, though some have callèd thee
Mighty and dreadfull, for, thou art not soe,
For, those, whom thou think’st, thou dost overthrow,
Die not, poore death, nor yet canst thou kill mee;
From rest and sleepe, which but thy pictures bee,
Much pleasure, then from thee, much more must flow,
And soonest our best men with thee doe goe,
Rest of their bones, and soules deliverie.
Thou’art slave to Fate, chance, kings, and desperate men,
And dost with poyson, warre, and sicknesse dwell,
And poppie,’or charmes can make us sleepe as well,
And better then thy stroake; why swell’st thou then?
One short sleepe past, wee wake eternally,
And death shall be no more, Death thou shalt die.

ขอบพระคุณอ.สกลมากๆเลยค่ะ ดีใจจริงๆที่มีคนชอบเรื่อง Wit แบบนี้

เสริมนิดว่า บันทึกนี้เขียนไว้ตอนที่ ยังไม่มีลูก ค่ะ

นอนคิดเมื่อคืนว่า ถ้ามีลูกแล้วลูกยังเล็ก บันทึกนี้อาจไม่ออกมาเป็นแบบนี้ก็ได้

เพราะฉะนั้น อ. เต็มศักดิ์ พูดอีกก็ถูกอีกค่ะ

"ความคิดของเราแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆนะครับ บันทึกไว้แล้วติดตาม ความเปลี่ยนแปลง"

: ) 

 

สุดท้ายหลังความตาย กรรมจะนำพาเราไป จะเกิดใหม่ในภพภูมิใด หรือตกนรกขุมใด ผมจะอธิบายแบบง่ายนะครับ คนเราเมื่อตายจิตจะออกจากร่างแล้วทำการปฎิสนธิจิต ยกตัวอย่าง ลูกมะม่วงลูกไหนที่ได้หล่นลงมาใต้โคนต้นเมื่อเจอกับดิน น้ำ ที่เหมาะสม ก็จะเกิดเป็นหน่อ ตามมาคือราก แล้วก็ใบ หากอยู่รอดก็จะเป็นต้นมะม่วงที่ร่มเงาและมีลูกเต็มต้น เพื่อรอสืบพันธุ์ไงครับ ก็เหมือนดังคนเกิดใหม่เพื่อสืบกรรมไงครับ

๑. เวลาพบคนแก่ คนเจ็บ คนตาย เรารู้สึกและตอบสนองอย่างไร เพราะเหตุไร (ขอแปลงโจทย์นิดหน่อยค่ะ ตัดคำว่า คนแก่ ออกเหลือแค่ คนเจ็บ คนใกล้ตายนะคะ)

ข้อนี้ตอบยากแต่พอตอบได้ เพราะ"ไม่ใช่ตัวเรา"

คิดว่าควรอยู่ร่วมในเหตุการณ์ รับรู้และตั้งมั่นว่าเรามีความปรารถนาดีต่อเขาอย่างจริงใจ อื่น ๆ ต้องดูตามเหตุการณ์ กาละเทศะ

ส่วนมากคงเป็นคนไข้ ส่วนกลางและน้อยเป็นเพื่อน

เขา(หรือญาติ)คงต้องการเพื่อน

ข้อ๒,๓และ๔ตอบยากมาก ๆ ต้องขอเวลาเรียบเรียง

ก่อนอื่นต้อง "ฝึกตน สะสมภูมิปัญญา..ต้นทุน.."

มีใครช่วยตอบได้ไหมค่เกี่ยวกับ death be not proud

1.To whom does the poet speak?

2.What is the poet's attude toward death?

3.What is death comparedto? In what way they are aalike?

4.In your own words, explain how death is"slave"to fate?

5.What does line 13 show about the poet's belief in human soul after death?

6.What does the poet mean when he says:

"And death shall be more;Death,thou shall die."?

มีใครช่วยตอบได้ไหมค่เกี่ยวกับ death be not proud

ถ้ามีใครช่วยหนูตอบได้หนูจะขอบคุณมากค่ะเพราะนี่เป็นรายงานส่งอาจารย์ยังไงช่วยหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ นี่คือ Email หนูค่ะ

[email protected]

ดีใจที่มีอ.คนไทยให้การบ้านแบบนี้ค่ะ เดาว่าเรียนเอกอังกฤษรึเปล่าค่ะ

ขอไม่ช่วยนะคะ เพราะอ.คงอยากให้หนูคิดมากๆหน่อยค่ะ ลองถกกับเพื่อนๆดูว่าเข้าใจเหมือนกันมั้ย ถ้าในห้องไม่มีใครเข้าใจเลย ลองถามอาจารย์ขอให้มี สัมมนาซัก 1 ชม. คุยเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพราะคำถามแบบนี้มักไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดหรอกค่ะ วิเคราะห์ได้หลายแง่ แล้วแต่คนอ่าน แปลกันออกไปได้ต่างกันก็มีค่ะ อยู่ที่ว่าเรามีเหตุผลของเราอย่างไร

ใบ้ว่า sonnet นี้หาใน WWW มีคนเขียนวิจารณ์ไว้เพียบเลยค่ะ

มีใครช่วยตอบได้ไหมค่เกี่ยวกับ death be not proud

พอดีว่าเป็นงานคู่น่ะค่ะ

แล้วหนูไม่เข้าใจคำถามเลยค่ะ แล้วอาจารย์แปลให้เร็วมากจดไม่ทันค่ะและก็อีกอย่าหนึ่งก็ไม่รู้จะตอบยังไงให้ตรงกับคำถาม หนูกับเพื่อนช่วยกันคิดแล้วค่ะแต่มันก็ยังคิดไม่ออกว่าจะตอบยังไงดี ยังไงช่วยหนูหน่อยนะค่ะ

ถ้าอาจารย์แปลให้แล้วด้วยยิ่งดีสิคะ แปลว่าในห้องต้องมีเพื่อนที่จดทันแน่ๆเลยค่ะ

ถ้าจะให้ช่วยแปลคำถามให้ก็คงไม่เป็นประโยชน์เท่าไหร่เพราะว่า

1. ถามเพื่อนคนอื่นในห้องได้

2. ถามอ.ได้ เพราะอ.ก็แปลให้แล้ว

3. เปิด dictionary เอาก็ได้ จะได้เรียนและจำได้แม่นกว่ามีคนบอกค่ะ

แล้วนี้เรียนเอกอะไรค่ะเนี่ยะ

งานวิเคราะห์ sonnet แบบนี้ไม่ง่ายเลยค่ะ หวังว่าอ.ให้งานตรงกับระดับความพร้อมของผู้เรียนนะคะ นี่ระดับมหาวิทยาลัยรึเปล่าค่ะ

ถ้าเป็นพี่พี่จะ google แล้วก็อ่านว่าคนอื่นเขียนวิจารณ์ sonnet นี่ไว้ว่าอย่างไรบ้าง เช่น

http://www.eliteskills.com/c/2198

http://people.stu.ca/~hunt/10060405/deathrep.htm

ใน WWW มีให้อ่านอีกเยอะมากกกกกกกค่ะ เพราะว่าเป็นการบ้าน classic ของนร. ป. ตรี เอกอังกฤษ ทั่วโลก

ไม่ง่ายค่ะ แต่ต้องขยัน จะได้เรียนรู้มากๆนะคะ การบ้านมีไว้ให้เราหัด ทำเสร็จแต่ไม่ได้เรียนก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ โชคดีนะคะ แค่ 2 links ที่ให้ไปก็มีคำตอบเพียบเลยค่ะ

๓. ถ้าก่อนตาย เรามีเวลาทำเรื่อง ๑ อย่างในชีวิต เราอยากทำอะไร

 น้องมัท

รู้มั้ยคะเรื่องนี้พี่คิดไว้ตั้งแต่วันที่ให้กำเนิดลูก

พี่ตั้งใจว่า จะเขียนเล่าประวัติ ชีวิต การงาน แนวความคิดฯลฯ ทั้งของเราและคุณพ่อขายาว โดยไม่จำกัดหัวข้อเรื่อง ไม่จำกัดว่าเขา..หมายถึงลูกของเราจะต้องยึด หรือเอาเรา(พ่อ+แม่)เป็นต้นแบบหรือ อะไรต่อมิอะไร..เพียงแต่คงมีบทคำนำไว้ว่า..อ่านหน่อยนะลูก..ฮา

ถึงทุกวันนี้ได้อย่างมากสุดคือจดเป็นไดอารี่ จดหมายพูดคุย ก็ยังไม่ใช่ mile stone ที่ตั้งไว้ รออีกนิดครับ..ลูก

มัทว่า 10 ปีนี้ น้องภูได้รับรู้ แนวคิดของพ่อและแม่ไปมากโขเลยค่ะ ทั้งเป็นจม.หรือแค่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พี่หมอเล็กกะเขียนเป็นเล่มเลยเปล่าค่ะ? จะขออ่านด้วยคน : P

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท