ตั้งแต่เช้าวันที่ 2 พค. 51 ที่ผมเดินทางมาถึงและใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดแม่ จนถึงขณะนี้ก็เป็นวันที่สามแล้ว หลายคนถามว่าผมจะกลับเมื่อไร ใจผมนั้นยังไม่อยากกลับกทม. ตั้งใจว่าจะอยู่ใกล้แม่ไปเรื่อยๆ แต่เมื่อพิจารณาถึงหน้าที่การงานสำคัญที่รออยู่ก็คิดว่าหากอาการของแม่ยังทรงๆอยู่ก็จะกลับไปเพื่อทำงานเสียสักช่วงหนึ่ง ระหว่าง 9-14 พค. 51 ซึ่งมี 3 เรื่องสำคัญได้แก่
พูดถึงการเต้นของสาวรุ่น ที่เป็นหางเครื่องบนเวที ของดนตรีภูธรทั้งหลาย ผมรู้สึกเสียดายที่ท่าเต้นหลายท่า ไม่น่าดูเอามากๆ พยายามจะคิดให้เป็นศิลปะอย่างไรก็คิดไม่ออก การเต้นให้สนุก เร่าร้อน หรือนุ่มนวล หากมีความเป็นศิลป์อยู่ก็ OK แต่บางท่านั้นเรียกว่า "หยาบ" ได้เต็มปากเลยทีเดียว
ขอไม่อธิบายรายละเอียดในที่นี้นะครับ .. และผมยืนยันว่าเคยพบเห็นมาหลายครั้งแล้วเมื่อไปร่วมงานในต่างจังหวัด ไม่เว้นแม้แต่งานบวช ซึ่งมี "พ่อนาค" ชมอยู่ด้วย
ผมกลับถึงบ้านพบ "น้าทองมาก" ซึ่งเป็นเสมือนน้องคลานตามกันมาของแม่ และพ่อคนที่สองของผม .. น้ามานอนเฝ้าแม่ด้วย ร่วมกับญาติคนอื่นๆ ราวสี่ทุ่มครึ่ง "หลานติ๋ม" จากตาขุนก็ยังมาไม่ถึง เธอบอกว่าเสร็จภารกิจเป็นวิทยากรอบรมครูแล้ว จะรีบกลับไปบ้าน ยอมปิดร้าน Minimart ยกครอบครัวมานอนเฝ้ายายด้วย ผมโทรถามด้วยความห่วงใยก็ได้คำตอบว่าอยู่แถวๆสนามบิน อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็คงถึง เธอบอกว่าแวะซื้อเต้าหู้นมสด มาฝากญาติๆ
ไม่ถึง 5 ทุ่มผมก็ได้พบหลาน หลานเขย และลูกทั้งสองของเธอ .. ก่อนนอนก็ยังได้ฝากแง่คิดในการทำงาน ไม่ว่าการเป็นวิทยากร หรือการจะทำผลงานวิชาการ ครอบครัวของเธอนอนค้างคืนและใช้เวลาวันนี้เกือบทั้งวันอยู่กับยายของเธอ เพิ่งขับรถยกทีม 4 คนออกไปเมื่อใกล้ 17.30 น. เมื่อสักครู่นี้เอง ก่อนไปเธอชวนแม่คุย ถามอะไรหลายอย่างให้แม่ตอบ ก็ตอบได้ถูกต้องแม่นยำ เธอป้อนอาหารเหลวให้แม่ คะยั้นคะยอขอให้ครบสามคำ โดยอ้างว่าเพื่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ แม่ก็ตามใจเธอ แม้ว่าจะกลืนได้ลำบาก
หลานคนนี้รักยายมาก เมื่อตอนบ่ายก็ขับรถฝ่าฝนออกไปหามุ้งมาครอบให้แม่ เพราะเห็นแมลงวันหลายตัวมารบกวน ต้องคอยพัดไล่กันอยู่เรื่อยๆ .. แม่ก็เลยได้นอนมุ้งปลอดแมลงมารบกวน อย่างที่เห็นในภาพ
หลานติ๋มเข้าบ้านมาพร้อมมุ้งหลังใหญ่
กำลังป้อนน้ำ ป้อนยา ไม่ใช่ใคร แม่ของหลานติ๋ม พี่สาวคนโตของผมเอง
แล้วเพื่อนที่มาเฝ้าก็พลอยสบายกายใจ ไม่ต้องคอยปัดไล่แมลง
ช่วงบ่ายวันนี้ ผมคิดว่าจะหาทางทำไฟล์ บทสวดมนต์ทำวัตรเช้า และ ทำวัตรเย็น ให้เป็น MP-3 และ Load ใส่เครื่อง MP-3 Player แล้วเสียบต่อเข้ากับลำโพงขยายเสียงตัวเล็ก ตัวเดิมโดยไม่ต้อง รับ-ส่ง ด้วยคลื่น FM อีกต่อไป .. แปลงไฟล์ด้วยวิธีค่อนข้างโบราณ คือเปิดเสียงสวดมนต์เดิมด้วย Winamp แล้วบันทึกเสียงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ตัวเดียวกันด้วย Audiorecorder โดยสั่ง Save File เป็น MP-3 และผมไม่ลืมที่จะ Disable ไมโครโฟนออกจากระบบ เพื่อไม่ให้เสียงรบกวนภายนอกเข้ามาปะปน ทำเสร็จ ทั้งสองไฟล์ โดยเร่งระดับความดังตอนบันทึกให้ได้มาตรฐาน เนื่องจากของเดิมที่ Load มาจาก Internet นั้นเสียงค่อนข้างเบา .. ทดสอบดูก็ได้ผลน่าพอใจ .. เสียงดังฟังชัดกว่าของเดิม แต่มาตกม้า แต่ไม่ถึงตายก็ตรงที่ .. ขณะที่บันทึกเสียง ผมอาศัยความที่คอมพิวเตอร์มันทำหลายอย่างพร้อมกันได้ (Multi-tasking) ใช้เครื่องทำอย่างอื่นไปด้วย ปรากฏว่าได้เสียงคลิ้ก ตอนเปิดไฟล์ ตอนย่อ ขยายจอ แถมไว้ในบทสวดมนต์ด้วย แต่ก็ไม่ถึงกับรบกวน นำไปใช้ได้ครับ แต่ผมไม่ยอมหรอก พรุ่งนี้ หรือไม่แน่อาจเป็นคืนนี้ ผมต้องทำใหม่ เอาชนิดที่ไม่มีเสียงรบกวนใดๆเข้าหูแม่ให้จงได้ .. ไม่เชื่อโปรดคอยติดตาม
ความจริงผมมีเครื่องเล่น MP-3 รุ่นเก่าๆที่ยังใช้ได้ดีอยู่บ้าง แต่ไม่ได้พกมาด้วย เพราะ N-73 ก็เล่น MP-3 ได้ .. แต่ไม่เหมาะให้แม่ใช้ เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาว่า ขณะแม่ฟังบทสวดมนต์อยู่ดีๆ เดี๋ยวก็มีโทรเข้า เดี๋ยวก็มี Message เข้า ไม่สมควรใช้ ผมถามหลานถึงร้านที่ขายอุปกรณ์ดังกล่าว ด้วยหวังจะไปหาซื้อมาให้แม่ใช้สักชุด เดี๋ยวนี้ MP-3 Player ชนิด Noname .. Made in China มีอยู่ทั่วไปราคาไม่ถึง 1000 บาท แต่โชคดีที่หลานชาย นายนันธชัยบอกว่าเขามี OKER 512 MB. ที่ไม่ค่อยได้ใช้อยู่เครื่องหนึ่ง .. เรียบร้อยครับ ทดสอบแล้วใช้ได้ดี เสียงชัดเจน ผมรีบ Load ไฟล์บทสวดมนต์ทั้งสองไฟล์เข้าไป และนำลำโพงขยายเสียงตัวเล็กของผม มาเสียบต่อเข้าช่อง Phones ของเครื่องเล่น MP-3 ของหลาน ในที่สุดอุปกรณ์ 2 ชิ้น ของน้าและหลานก็ร่วมมือกันทำงาน ให้ยาย/แม่ ของเราได้ฟังบทสวดทำวัตรเย็น อย่างสะดวกและชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าที่เคยทำมา
นี่ไงครับหลักฐาน
เป็นความพยายามที่ให้คุณยายได้รับฟังธรรมจากบทสวดที่ชื่นชมครับ คุณแม่ผมก่อนเสียก็ทำเช่นกันครับ ท่านสงบดี
ขอให้คุณยายมีสติ สงบ สามารถซึมซับธรรมได้ และด้วยพลังใจที่เข้มแข็งขอให้คุณยายมีสุขภาพที่ดีวันดีคืนนะครับ
ท่าน บางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)
ตามมาติด ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจให้ท่านอาจารย์ค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เฝ้าคนไข้ทุกท่านค่ะ อบอุ่นจริงๆ เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นใหม่ค่ะ
มาชื่นชมคุณลูกและคุณหลานชาย หลานสาวและญาติพี่น้องทุกๆท่านเลยค่ะ คุณแม่ท่านสะสมกรรมดีมามากมายแน่ๆที่ทำให้ท่านสงบเย็นและอบอุ่นแวดล้อมไปด้วยคนที่ท่านรักและรักท่านในยามนี้นะคะ เชื่อมั่นว่าท่านคงจะให้โอกาสพี่ชายได้กลับไปทำงานที่มีประโยชน์ทั้งหลายแน่ๆค่ะ รีบไปรีบมานะคะ
ขอใพ้คุณลุงพักผ่อนบ้างนะคะ
ขอบคุณ คุณน้องในดวงใจ "โอ๋-อโณ" มากครับ
นับแม้เศษนาที คอยวันที่กลับมาเจอ ไม่เห็นยังห่วงเสมอ...
----------------------
ไม่มีอะไรครับ คืนดึกๆคืนนี้ผมนั่งฟังเพลงเพราะๆซึ้งๆก็เลยขอมอบให้อาจารย์ด้วยครับ
อ่านบันทึกด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบ ธรรมะเป็นทิพยโอสถที่มีคุณค่า เห็นความพยายามของลูกหลานแล้ว มีความสุขครับ
ขอนำวิธีของอาจารย์ไปใช้กับแม่บ้าง
แต่ลำดวนคงต้องใช้วิธีไปหาCDบทสวดมนต์ มาใช้กับเครื่องเล่น
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ