วิชาใหม่ที่ควรรีบใส่เข้าไปในหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ


... และถามตัวเองกันให้อื้ออึง ด้วยความงุนงงว่า " บรรพบุรุษไทยของพวกเรา ในอดีตกาลเมื่อปี พศ. 2551 ทำไมถึงเป็นกันได้ ทำกันได้ถึงเพียงนั้น "

    การพิพากษา พิจารณาคดีความสำคัญเพิ่งผ่านไปเมื่อ 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมา  ผู้คนมากมายต่างก็มีความรู้สึกไม่ปกติเกิดขึ้นในใจ  ที่ดีใจจนกรีดร้องด้วยความยินดี ก็ไม่ปกติไปแบบหนึ่ง  ที่หน้าละห้อย คอตกเสียอกเสียใจ ก็เป็นความไม่ปกติอีกรูปแบบหนึ่ง 

    ทั้งสองด้านล้วนเป็นภาวะไม่ธรรมดาของจิต  คือมีอาการ ฟู และ แฟบ โดยที่สภาวะของจิตที่พึงปรารถนาของมนุษย์นั้นน่าจะได้แก่ ความสุข สงบ เย็น และนิ่ง

    เมื่อจิตมันแกว่งไปมากๆ ไม่ว่าทางด้านใด พฤติกรรม การแสดงออกก็จะแกว่งตาม  ออกมาเป็นพฤติกรรมทั้งทางกาย ทางวาจาที่ไม่ธรรมดา  หากสองฝ่ายมีความเชื่อ และจุดยืนที่ตรงกันข้ามกันด้วยแล้ว  พฤติกรรมทั้งทางกาย ทางวาจา ที่ล้วนเกิดจาก ใจ สั่งมา ก็จะยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรง  ไม่ว่าดีใจรุนแรง  หรือเสียใจรุนแรง 

    ความรุนแรงดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มช่องว่างระหว่างสองฝ่าย ให้ห่างกันออกไปเรื่อยๆ  พร้อมๆกับการสั่งสมความขุ่นเคือง คับแค้นใจ อาฆาต พยาบาท  จองเวรกันหนักยิ่งขึ้น เกิดเป็นกระแสหมุนวนไม่รู้จบ  สุดท้ายก็คงไม่พ้นการระเบิดออกมาเป็นความรุนแรง  ที่หลายครั้งรุนแรงจนไม่น่าเชื่อว่าสัตว์ประเสริฐ ผู้มีโครงสร้างของสมองแสนวิจิตร ที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์จะกระทำเยี่ยงนั้นได้ .. หลายครั้งมันหนักกว่าที่สัตว์เดรัจฉานที่กระทำต่อกัน ด้วยสัญชาตญาณด้วยซ้ำไป

Edcrisis-01

    ผมบ่นด้วยความปรารถนาดีมาหลายบรรทัดแล้ว เพื่อที่จะชี้ชวนให้ทุกท่านลองคิดต่อว่า ...

  • ทำไมคนผู้ที่ผ่านระบบการศึกษาออกมาอยู่ในสังคมนี้ จึงไม่สามารถคิดและประจักษ์แจ้งในความจริงดังกล่าวมาแล้วข้างต้นได้ 
  • เขาเรียนเขาสอนอะไรกันในสถานศึกษา
  • หลักสูตรขาดรายวิชา หรือชุดวิชาอะไร ที่จำเป็นต้องเรียนรู้ไปหรือไม่
  • ฯลฯ .. ลองคิดกันต่อได้ตามอัธยาศัยครับ

     มาถึงบรรทัดนี้  ผมมีคำตอบชัดเจนแล้วครับว่า  หลักสูตรการศึกษาภาคบังคับของเราขาดวิชาสำคัญไปจริงๆ  เป็นวิชาที่ไม่เคยเห็นที่ไหนเขาเปิดการเรียนการสอนกันเลย  และเพราะไม่เคยมีมาก่อน ผมจึงต้องตั้งชื่อวิชาดังกล่าวเองครับ

     วิชาบังคับที่ทุกคนต้องเรียนนั้นมีชื่อว่า " ศาสตร์และศิลป์ ของการเป็นมนุษย์ " ครับ 

     ครั้นมาคิดต่อว่าใครจะเป็นผู้สอน  ก็ให้หนักใจเหลือประมาณครับ  หนักใจที่ว่า จะมีครูผู้สอนสักกี่คน ที่สอบผ่านวิชาดังกล่าว  ครั้นจะหันไปพึ่งพาผลผลิตเก่าๆของระบบการศึกษา คือผู้คนในสังคม ที่จะทำตัวให้ได้เห็นเป็นแบบอย่าง เป็นบรรทัดฐานให้ลูกหลานได้เห็น ได้เรียนรู้  ก็ได้คำตอบที่ยังวังเวงคล้ายๆกัน

     แต่สมควรละหรือที่จะท้อแท้แล้วปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปเหมือนเดิม .. หากไม่เริ่มต้นแล้วเมื่อไรความสำเร็จจะบังเกิดมีเล่าครับ .. จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้อง ทำจริงในเรื่องที่ผมนำเสนอ .. จัดการร่างหลักสูตร  จัดอบรมพัฒนาครูผู้สอน  ให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง และผู้คนในสังคมว่า วิชา " ศาสตร์และศิลป์ ของการเป็นมนุษย์ " นั้นสำคัญยิ่งยวดอย่างไร  และที่สำคัญครูผู้สอนทุกวิชาก็ต้องได้รับการอบรม พัฒนา จนเห็นคุณค่าของวิชาบังคับดังกล่าว  และยังต้องจัดเวที สัมมนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างจริงจังในหมู่ครูผู้สอน เพื่อให้สามารถบูรณาการ " ศาสตร์และศิลป์ ของการเป็นมนุษย์ " เข้าไปกับทุกวิชาและทุกระดับชั้น ผสมผสานจนเป็นเนื้อเดียวกัน  เป็นวิถีชีวิต เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด

    หากได้เริ่มทำ  ผมเชื่อของผมว่า  สังคมไทยในวันข้างหน้า จะเป็นสังคมอุดมปัญญา ที่คนรู้จักแสวงหาสุขจากการให้ และรู้จัก รักผู้อื่น กันมากขึ้น ... และเมื่อถึงวันหนึ่ง  จะอีกนานแค่ไหนผมไม่ทราบ  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้  จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่คนไทยในอนาคตเหล่านั้น  อ่านแล้วต้องตกใจ  และถามตัวเองกันให้อื้ออึง ด้วยความงุนงงว่า " บรรพบุรุษไทยของพวกเรา ในอดีตกาลเมื่อปี พศ. 2551 ทำไมถึงเป็นกันได้ ทำกันได้ถึงเพียงนั้น "

    ก่อนจบขอแถลงว่า ..  หากเห็นว่าความคิดนี้ผิดเพี้ยน เพ้อเจ้อ เลอะเลือน ผมยินดีรับไว้ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งขอมอบความผิดให้ ท่านผู้นี้ ในฐานะที่ท่านเขียน บันทึกนี้  จนทำให้ผม อิน กระทั่งทนไม่ได้ ต้องมาระบายมาเป็นบันทึกนี้มาตั้งแต่ต้นครับ

หมายเลขบันทึก: 218022เขียนเมื่อ 21 ตุลาคม 2008 18:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวสดีค่ะ ท่านอาจารย์ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ " ศาสตร์และศิลป์ ของการเป็นมนุษย์ "

ว่าแต่ว่าของท่านอาจารย์มีกรอบอย่างไร หาอ่านได้ที่ไหนคะ ขอบคุณค่ะ

  • ตามมาดูพี่บ่าว
  • บ้านเรามีอะไรแปลกเสมอ
  • แต่เชื่อว่าเรื่องการทำให้คนดีมีศีลธรรม
  • บ้านเราจำเป็นต้องมีในหลักสูตร
  • อย่างเร่งด่วนครับ

สวัสดีครับ

  • นั่งเขียนหน้าคณะ ยุงกัดหลายตัวแล้ว  กำลังจะกลับบ้านครับ
  • krutoi ... มีกรอบอย่างไร หาอ่านได้ที่ไหน .. คงต้องช่วยกันคิดต่อครับ
  • น้องบ่าว ขจิต ฝอยทองที่ปรึกษา~natadee  ... เห็นด้วยก็รวมพลังกันช่วยต่อนะน้องบ่าว .. พันธมิตรแซ่เฮ ทั้งที่เปิดเผย และเป็นโดยไม่เปิดเผย ผนวกกับค่าย natadee คงทำอะไรได้ไม่น้อยเลย
  • พี่บ่าว
  • มีคนมาฟ้อง
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
  • 39. กัญจนา
    เมื่อ จ. 20 ต.ค. 2551 @ 19:22
    890063 [ลบ]

    เรียน อ.ขจิต

    อยากบอกอาจารย์ว่า ขอบคุณมากค่ะ ที่เผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษในการถ่ายทอดแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น (กาญจนบุรี ) เพราะตัวเองกำลังมืดแปดด้านกับการเริ่มต้นงานวิจัยในขณะนี้ ปัญหาคือนักเรียนไม่สามารถถ่ายทอดแหล่งเรียนรู้เขื่อนรัชชประภาเป็นภาษาอังกฤษได้ ตัวเองก็เลยเปิดวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มเติมชื่อวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวให้กับนักเรียนระดับชั้น ม.5 เพื่อพัฒนาทักษะการพูด

    เพื่อการสื่อสาร แต่ไม่มีความรู้เรื่องงานวิจัยเลยค่ะ คิดและทำในการแก้ปัญหาให้กับนักเรียนมาตลอดแต่ไม่เคยรวบรวมเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ค่อนข้างเครียดแต่ตอนนี้เริ่มเห็นแสงสว่างจากการอ่าน วิจัยของอาจารย์แล้วค่ะ ขอทำความเข้าใจอีกนิดแล้วจะขออนุญาตถามอีกหลายๆครั้งนะคะ (โปรดให้อภัยในความไม่ฉลาด)

    จริงๆแล้วรู้จักอาจารย์จากblog ที่อาจารย์โต้ตอบกับน้า(พินิจ พันธ์ชื่น )มานานแล้วค่ะ พอเกริ่นจะถามเค้าก็ได้รับคำแนะนำมาว่าให้มานี่เลย รู้สึกน้าจะไม่ค่อยมีเวลาให้คุณหลานเลยค่ะ ที่สำคัญคุณหลานอยู่ที่เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานีค่ะ

    ขออนุญาตทำความรู้จักอาจารย์เพียงแค่นี้ก่อนนะคะ

    ขอให้อาจารย์มีความสุขกับการเดินทางค่ะ

    กัญจนา

  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

น้องบ่าวครับ

  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
  • อิ อิ อิ
  • เขินอ่ะ

สวัสดีครับท่านพี่Handy

  • หลักสูตรสถานศึกษาของโคกเพชร  ตามผังมโนทัศน์ที่กระผมแนบมานี้  พอจะอนุมานเป็นหลักสูตรหรือวิชาว่าด้วย "ศาสตร์และศิลป์ ของการเป็นมนุษย์" ตามแนวคิดของพี่ท่านได้ไหมครับ
  • ที่ลิงค์นี้http://gotoknow.org/file/kruwoot/bestHuman.doc  และ http://gotoknow.org/file/kruwoot/lifeskillModel.doc ครับ
  • ผมว่าเราต้องเรียนเพื่อให้รู้จักตนเอง  และเข้าอกเข้าใจคนอื่นก่อนเป็นอันดับแรกๆ  เพราะไม่งั้นเราจะหลงตัวเองและไม่ยอมให้เกียรติใครเลยอย่างที่เห็นและเป็นอยู่ ในลักษณะข้าเก่ง ข้าแน่ เอ็งแย่ เอ็งเลว(ที่สุดด้วย)
  • สวัสดีครับ

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์คะ

  • พักนี้เข้าใจและลึกซึ้งกับคำว่า คุรุ มากเลยค่ะ
  • โดยส่วนตัวเชื่อว่า เป็นทางรอดถาวร ทางเดียวเลยหล่ะค่ะ
  • เห็นสถานการณ์แล้ว  ทำไมชอบคิดว่า มันเป็นการบ้านของตัวเอง ไม่ทราบค่ะ
  • ท่านอาจารย์สบายดีนะคะ
  • ด้วยความระลึกถึงค่ะ

สวัสดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท