เราไม่ได้วิเศษ หากคิดได้ สบายกว่ากันเยอะ !


ผมพอใจตัวเองที่หายบ้าได้ ... มันเบาสบายอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะครับ
   ไปอ่านบันทึกเรื่อง อย่าทำตัวเป็นผู้วิเศษ  ของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ แล้วเกิด อิน เลยเขียนต่อไว้ที่นั่นค่อนข้างยาวเกินพอดี ว่า ...

 โรคนี้ผมก็เคยเป็นครับ ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา  มันก่อตัวอยู่ลึกๆ เหตุเพราะบังเอิญมีเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่าเราเก่ง  คนเขาชื่นชมไปทั่ว ทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ ทั้งอาจารย์ เลยพาลนึกว่าเราเก่งจริง ตัวอย่างเช่น
  • ครั้งหนึ่งอยู่ปี 3 เป็นแต่เป็นคนเดียวที่ต้องลงทะเบียนเรียนร่วมกับพี่ปี 4 แล้วฟลุ้คไปได้ A และเป็นคะแนนสูงสุดในห้อง
  • มีอาจารย์มาถามหาตัวคนจะไปสอนพิเศษลูกผู้ว่าฯที่เป็น หม่อมเจ้า .. ต้องสอนได้ทั้ง อังกฤษ วิทย์ และ คณิต แล้วผมก็ได้รับเลือก .. มีรถรับส่งเข้าออกตำหนักด้วย ... เท่ห์ อย่าบอกใคร
  • เป็นนักร้องประจำวงคนตรีของสถาบันโดยไม่ต้องสมัครแข่งขันให้เมื่อย เพราะดูแลงานโสตฯอยู่ เห็นนักร้องในวงร้องคร่อมจังหวะ ก็แนะเขาว่าต้องร้องอย่างนี้ๆ .. อาจารย์ผู้ควบคุมวงได้ยินบอกว่าเข้าท่านี่ แล้วก็เอาโน้ตเพลง สาวอัมพวา มาให้ลองร้องและก็ได้ไปออกทีวีครั้งแรกด้วยเพลงนั้น ... คนชมกันใหญ่ ... เอาล่ะซีเป็นผู้วิเศษเพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้ว
  • ซ่อม-สร้างวิทยุ ทำเครื่องส่ง ดัดแปลง สร้างสรรค์อุปกรณ์ ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์แปลกๆ ใช้เองบ้าง  ช่วยอาจารย์บ้าง  เพื่อนๆบ้าง หลายชิ้นทำเพื่อโชว์ด้วยใช้ด้วยปนๆกัน พอคนชมกันมากๆ บางทีลึกๆก็แอบนึกว่าเราก็ญาติๆ เอดิสันอยู่นะ

   ฯลฯ

     ตอนนั้นมักจะรู้สึกหลอกตัวเองอยู่ลึกๆว่าตนดูจะเหนือคนอื่นไปเสียหมด มองอะไรที่ใครทำก็คอยจับผิดอยู่เงียบๆ พอได้จังหวะก็แสดงให้คนเห็นว่าอย่างนั้นผิด ที่ถูกต้องเป็นอย่างนี้ พอคนเขายอมรับว่าเราพูดถูก ความอหังการ์ภายในก็เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ
      ผ่านมาหลายปีก็ค่อยๆค้นพบว่าเรานี่ช่าง แอบโง่ อยู่ได้ .. เห็นสัจธรรมว่าที่แท้มันก็แค่เราชอบเรียนรู้และชอบทำอะไรหลายๆอย่าง ทั้งศาสตร์และศิลป์ สนุกกับมันไปเรื่อย ทำอะไรได้หลายอย่าง ซึ่งก็น้อยคนที่จะเป็นได้อย่างนั้น ... จริงๆมันคือ กว้าง แต่ไม่ ลึก ยังมีความรู้ในตัวคนอื่น อีกมากมายนักที่เราจะใช้เติมเต็มให้กับชีวิตเราได้ ถ้าสลายกำแพงอหังการ์ที่เคยมีลงเสียได้ ... ทบทวนมากเข้าก็เลยได้ใช้ Slogan ใหม่ประจำชีวิต 2 ประการคือ

  • ทุกชีวิต ล้วนเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ... และ
  • There is no man on the road from whom you can’t learn something of value.

          ผมพอใจตัวเองที่หายบ้าได้ มันเบาสบายอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะครับ จนผมมีบันทึกหนึ่งชื่อว่า ... ทุกคนล้วนมีค่า แม้คนบ้าก็ไม่เว้น ! 
     
        แท้จริงเราก็แค่ ธุลีหนึ่งของจักรวาล มีหน้าที่สำคัญคือการทำลายความไม่รู้ ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ โดยมี ครู คือทุกสรรพสิ่งที่แวดล้อมตัวเราอยู่ ทั้งที่เป็นคน สัตว์ และสิ่งของ    
        
หมายเลขบันทึก: 49041เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2006 14:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • เห็นด้วยครับ
  • vote ให้หนึ่งคะแนน ผมชอบเป็นขุนอาสา ครับ
  • ขอบคุณครับผม
     ผมชอบใจตั้งแต่อ่านที่บันทึกอาจารย์หมอวิจารณ์แล้วครับ ตามมาเจอ อืม! ไม่ชอบอีกไม่ได้แล้ว
    ขอบคุณครับ ตามมาขอบคุณเมื่อใกล้สิ้นปี ผ่านหลายเดือนมาแล้วนี่ แต่ก็ขอ ขอบคุณ ทั้ง ท่าน Panda  คุณ เมตตา  คุณน้อง ชายขอบ  และ น้องชาย นาย ขจิต ฝอยทอง ..
       Happy New Year ทุกท่านครับ.
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท