หลังจากพักและเล่นเกมส์กันหนึ่งสนุก เพื่อความผ่อน..คลาย
เราแบ่งน้องบัณฑิตอาสาเป็นสามกลุ่มๆละ ๗-๘ คน แล้วแยกย้ายกันไปหามุมเหมาะๆ ที่เสียงไม่รบกวนกัน เพื่อให้แต่ละคนได้เล่าเรื่องของตนเองในกลุ่มเล็กๆ ซึ่งในครั้งนี้ผมได้เตรียมผู้ประสานงานประจำกลุ่มไว้แล้วล่วงหน้า ผู้ประสานงานจะทำหน้าที่คอยจัดคิวผู้พูดซึ่งเล่าเรื่องของตนเองสั้นๆ คอยกระตุ้นให้กลุ่มมีส่วนร่วม ตั้งคำถาม ชวนคิดและให้กำลังใจ กันและกัน
นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าจากปากของน้อง บอ. มอ.
ทีมงานในหมู่บ้านและชาวบ้านพร้อมใจกันจัดงานเลี้ยงส่งเรา ทำข้าวเหนียว ปลาแห้ง กินกันอร่อยมาก แล้วให้แต่ละคนพูดถึงเราตอนมาที่นี่ใหม่ๆ และจนถึงวันนี้ และชาวบ้านก็ให้เรากล่าวคำอำลาแก่ทีมงานและชาวบ้านที่นั่น พอเดินไปอยู่ด้านหน้าทุกคน พูดอะไรไม่ออกเลย อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหล พูดอะไรไม่ออกเลย พอน้ำตามันไหล ชาวบ้านและทีมงานตาเริ่มแดง ก็ได้กล่าวกับชาวบ้านและให้สัญญาว่า ที่นี่จะเป็นเครือญาติของเราอีกที่หนึ่ง แล้วพวกเราจะไม่ตัดสัมพันธภาพที่พวกเราสร้างกันมาอย่างแน่นอน (อิ่มใจ) ชาวบ้านและทีมงานมอบของที่ระทึก (ระลึก) เป็นพัดลมตัวสูงใหญ่ แล้วพี่เขาก็บอกว่า “ เวลายะห์มีปัญหาร้อนใจอะไร ก็ให้เปิดพัดลมที่พี่ๆให้ มันจะได้ทำให้ใจของน้องยะห์เย็นลงได้บ้าง ”
น.ส สะดีเยาะ จาหลง
ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา
สิ่งที่ภูมิใจที่สุดจากการที่ได้ลงไปทำงานในพื้นที่บ้านเกาะมุกด์ ไม่ใช่ความสำเร็จที่สามารถผลักดันให้เกิดศูนย์เรียนรู้พืชพื้นบ้านขึ้นที่ โรงเรียนบ้านเกาะมุกด์ แต่สิ่งที่ภูมิใจคือการที่สามารถผลักดันให้เกิดกลุ่มเยาวชนขึ้นมาทำอะไรดีๆให้กับชุมชนและสามารถผลักดันให้เยาวชน ชาวบ้าน ผู้นำหมู่บ้าน โรงเรียนมัสยิด และผู้นำหมู่บ้านใกล้เคียง มีความขัดแย้ง สามารถหันมาร่วมมือกันทำอะไรดีๆให้กับชุมชนได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่บอ.มอ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้วก็ตาม
น.ส อารีย์ คงรอด
บ้านเกาะมุกด์ ม.6 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
ช่วงแรกที่ลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่บ้านศาลาแม็ง รู้สึกเหงามาก เพราะไม่รู้จักใครเลย เป็นคนแปลกหน้าที่เข้าไปอยู่ในชุมชนของเขา แต่ชาวบ้านก็ ไว้ใจ มีไมตรี กระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่นั่งอยู่หน้าบ้าน ชาวบ้านคนหนึ่งก็พาเด็กๆ 3-4 ขวบ มาให้ช่วยสอนหนังสือ (คัมภีร์อัล- กุรอ่าน) ซึ่ง บอ.มอ. ก็เคยใฝ่ฝันว่าอยากสอนหนังสือเด็กๆ ไม่เคยคิดเลยว่า จะสอนให้เด็กอ่านได้ แต่วันนั้นก็ทำได้ เพราะความไว้วางใจจากชาวบ้าน ทำให้มีกำลังใจและมั่นใจว่าต้องทำได้
น.ส อามีเน๊าะ บาระตายะ บ้านศาสาแม็ง ม. 3 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง
<< ถอดบทเรียนบัณฑิตอาสา ๓ : เรื่องเล่าเร้าพลัง เขียนก่อนหรือเล่าสด
ช่วงแบ่งกลุ่มย่อย ...ทุกคนได้เล่าเรื่องประทับใจอย่างสนุกสนาน เพราะเล่ามาจากประสบการณ์จริง...โดยเฉพาะ ของน้องยะห์ (กลุ่มที่ 2 น้องเสื้อสีฟ้า) เล่าจนนำตาคลอ ด้วยความปลื้ม..
แต่อาจารย์ได้สังเกตไหมค่ะว่า...ช่วงนั้น...กลุ่มของอานัติ ไม่รู้ทำไม .หน้าตาเครียดมาก ไม่รู้ทำไม..เห็นกลุ่มอื่นๆ หัวเราดังลั่น..แต่ไฉนเลย กลุ่มท่านจึงหน้าตาเศร้าอย่างนี้...
ชะห์ครับ
อาจารย์ค่ะ
ตอนนี้อานัติยังไม่ทราบว่าอาจารย์ลงบันทึกใน blog ของอาจารย์แล้ว ...
เรื่องของน้องยะห์ น้องเล่าให้ฟังว่า "เขาประทับใจตอนที่จะอำลาชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ รพ.รามัน ทุกคนกล่าวขอบใจน้องที่มาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานชุมชนและร่วมกิจกรรมของ รพ. และชุมชน ในวันอำลามีชาวบ้านนำของมาให้เยอะมาก ต่างคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่าลืมมาเยี่ยมที่นี่อีก..พูดแบบเศร้าๆๆ และมี พี่เจ้าหน้าที่ ให้พัดลม เอาไว้เปิดตอนตอนมีปัญหา ร้อนใจ จะได้เย็นลง เหมือนพัดลม คือ พวกพี่ ๆๆ ที่อยู่ข้าง ๆ "
ทุกคนฟังน้องยะห์พูดปลื้มใจแทน..และแอบอิจฉานิดๆๆ
มาชี้แจงครับ
ยังแปลกใจ ทำไมกลุ่มตัวเองเครียดจัง อาจจะมาจากหน้าตาตัวเองเครียดเลยทำให้วงเครียดไปด้วยบวกกับแปลกใจทำไมกลุ่มอื่นฮากันจัง เลยกดดันกลุ่มตัวเองเข้าไปอีก แถมกลุ่มเราต้องต่อเวลาพิเศษอีกเกือบสิบนาทีกว่าจะลงตัวโดยดี
ขอบคุณครับ อานัติ
สวัดดีอาจารย์ และพี่ บอ.มอ.ค่ะ
ประทับใจและดีใจมากค่ะที่เห็นเรื่องที่ได้เล่าในวันถอดบทเรียนพาดหัวเป็นเรื่องแรก(อ่านแล้วขนลุกเลยค่ะ) อยากบอกว่าตอนนี้พัดลมตัวนี้ช่วยยะห์ได้เยอะเลยค่ะ ช่วยให้ยะห์คิดอะไรเป็นขั้นตอนมากขึ้น คิดแบบมีเหตุมีผลมากขึ้น
และอยากบอกทุกว่าไม่ว่าGIKจะทำอะไรขอให้ทำด้วยใจไม่หวังสิ่งตอบแทน แล้วท่านจะมีความสุขในสิ่งที่ได้ทำ ขอให้สิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งดีๆก็เพียงพอ
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะที่ยกเรื่องพัดลมมาพาดหัวค่ะ
น้องอานัติ ครับ
น้องยะห์ ครับ
สวัสดีคะอาจารย์
ทราบข่าวจากพี่ชะว่าอาจารย์ลงตอนใหม่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้อ่าน วันนี้ได้มาอ่านรู้สึกดีใจมากที่เรื่องของตัวเองได้หยิบมาลงด้วย เพราะหลังจากวันนั้น ชะเป็นคนที่มีหน้าที่บันทึกทุกอย่างให้พี่ชะ ก็เลยได้มีโอกาสได้อ่านทุกข้อความที่เพื่อนๆเขียน รู้สึกประทับใจและแอบเก็บบทเรียนต่างๆที่เพื่อนๆเขียนนำไปใช้ และแอบชื่นชมเพื่อนๆอยู่ในใจ โดยไม่ได้สนใจเรื่องที่ตัวเองเขียนเลย แต่พอเห็นอาจารย์เอามาลงก็งงๆคะ.....