Digital Divide คือ ความเหลื่อมล้ำทางความรู้


เหนือกว่าคำบรรยายใดๆ

ที่มา: http://www.independent.co.uk/news/business/sustainit/closing-the-digital-divide-1640433.html

เราทุกคนใน GotoKnow กำลังช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำด้านความรู้ให้แก่สังคมไทยกันอยู่ค่ะ :)

...

เมื่อวาน ทีมงานนั่งคุยกันอยู่ค่ะว่า เราจะแปลคำว่า digital divide ว่าอย่างไรดี เพราะหาคำแปลที่เป็นมาตรฐานไม่ได้นั่นเองค่ะ

คือ ความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี หรือ ความเหลื่อมล้ำทางความรู้ กันแน่หนอ

คิดไปก็ทำให้นึกถึงว่า คนเดินถนนในเมืองใหญ่ของอเมริกามากมายที่ยังไม่รู้ข้อมูลทั่วๆ ไปดีพอ เช่น ไม่รู้ว่าประเทศจีนอยู่ในทวีปอะไร เป็นต้นค่ะ

ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ก็แสดงว่า Digital divide น่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำทางความรู้ น่าจะถูกต้องกว่า เพราะมีความหมายที่ไกลเกินกว่า การเข้าถึงข้อมูลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ...

 

คำสำคัญ (Tags): #digital divide
หมายเลขบันทึก: 247446เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2009 12:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม 2014 10:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ความแตกต่างหรือเหลื่อมล้ำกันในการเข้าถึงโลกดิจิตัล

รูปแสดงการเปลี่ยนแปลงชีวิตและสังคมได้ดีครับอาจารย์ (สงสัยว่า คนในภาพคุยเรื่องอะไร ครอบครัว แฟน เพื่อน หรือธุรกิจ :)

ขอเพียงให้สิ่งดีๆผ่านโลกดิจิตัลเข้าไปสู่สังคมนั้นๆ แต่มักมีสิ่งที่ไม่ปรารถนามักตามเข้าไปร่วมด้วยเสมอ ถ้าพร้อมและรู้เท่าทันก็เตรียมตัวรับมือได้ดี...

น่าจะแปลว่า ความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร อาจจะดูยาวไปหน่อยครับ

อาจารย์ครับ คุณคงนี้เขาไปชาร์จแบตมือถือที่ไหนครับ สงสัยมีโซลาร์เซลล์

ที่นั่นคงร้อนพอควร ถ้าเลือกได้ผมซื้อตู้เย็นก่อนมือถือครับ

นึกถึงนิเชากับขวดโค้กค่ะ : )

ถ้าแปลตามศัพท์ตรงๆ น่าจะเป็น "การแบ่งแยกทางดิจิตอล" ซึ่งเกิดจากความเหลื่อมล้ำหลายๆ อย่างของสังคมครับ ไม่ว่าจะเป็นระยะทางจากความเจริญ หรือแม้แต่ลักษณะนิสัยคนในเมืองเอง ที่บางคนปิดกั้นตัวเองจากเทคโนโลยี (laggard) จะไม่ยอมใช้ ไม่ยอมรับรู้จนกว่าจะเป็นคนสุดท้าย นี่ก็ถูกแบ่งแยกทางดิจิตอลเหมือนกัน

แล้วถ้าถามว่าเป็นความเหลื่อมล้ำทางความรู้ไหม ผมว่าใช่นะครับ แต่คิดว่า digital devide เป็นแค่ subset เท่านั้นเองหละครับ

สวัสดีครับ อาจารย์จันทวรรณ

ผมก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นักนะครับ

แต่เท่าที่นึกๆ เอา พอเห็นคำว่า "Divide"

น่าจะหมายถึง "แบ่งแยก" 

ทำให้คิดถึงคำว่า "ช่องว่าง" - Gap

ในสมัยหนึ่งเราเคยพูดถึงช่องว่างระหว่างชนชั้น คนจน-คนรวย

อันเป็นช่องว่างที่มาคู่กับเศรษฐกิจทุนนิยม

แต่เดี๋ยวนี้ เรากำลังพูดถึง ช่องว่างระหว่างคนมีความรู้-ไม่มีความรู้

ซึ่งผมมองว่ามันมาคู่กับยุคเศรษฐกิจฐานความรู้

ช่องว่างนี้ เกิดจาก โอกาสการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ไม่เท่าเทียมกัน  คนที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากๆ  (อาจหมายถึงสื่ออินเตอร์เน็ต)  ย่อมได้เปรียบคนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้  นับวันช่องว่างนี้จะขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ 

ในบ้านเรา ผมว่า Digital Divide นั้น ยังคงแนบแน่นอยู่กับเศรษฐกิจทุนนิยมด้วยครับ

การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประชากรส่วนใหญ่ ยังคงถูกจำกัดด้วยราคา ที่สูงเกินกว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศจะยอมรับได้ 

ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลจะเห็นว่า สิ่งนี้คือปัญหา เหมือนกับที่ทีมงานอาจารย์เห็น  และเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง  ควบคุมราคาไฮสปีดเน็ตให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมกว่านี้ ก็น่าจะช่วยลดช่องว่างทางดิจิทัล ได้ระดับหนึ่งเลยครับ

ก็ไม่รู้ว่าผมจะเข้าใจ Digital Divide เหมือนกันกับที่อาจารย์กำลังมองอยู่หรือเปล่านะครับ

สวัสดีค่ะ

ขอเรียนรู้ด้วยค่ะ

อีกไม่นาน g2k ก็จะแก้ปัญหานี้ได้อีกขั้นหนึ่งค่ะ

ขอบคุณค่ะ

เราบูชาโลกดิจิตอลเกินไปไหมครับ หรือการปั่นตลาดด้านดิจิตอลของฝรั่งได้ผลเกินคาด ถ้าอย่างนั้น"ความพอเพียง"ก็คงไกลห่าง หรือ เป็นไปไม่ได้เลย

ไม่ใช่เป็นการบูชาโลกดิจิตอลค่ะ แต่เป็นการสร้างสมดุลของสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับโลกเราเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความรู้ค่ะ

ความพอเพียง จะเกิดขึ้นไม่ได้หากคนทุกหย่อมหญ้าไม่มีโอกาสได้เข้าถึงสารสนเทศในจากทุกมุมมองค่ะ

คนจบปริญญาตรีปริญญาโทยังเชื่อว่าหนอนในปากทำให้ฟันผุแล้วก็ต้องดิ้นรนไปหาหมอยาบ้าน (ปลอมๆ) ให้เอาหนอนออก ...

คนอีกมากมายยังไม่รู้ว่าหนี้นอกระบบคืออะไร ...

หากคนเราได้มีโอกาสเข้าถึงสารสนเทศอย่างทั่วถึง แม้เขาจะไม่ได้อ่าน ก็ขอให้ได้ฟังได้เห็น ไม่ว่าจะจากสื่ออินเตอร์เน็ต สื่อโทรศัพท์ หรือเทคโนโลยีสื่อสารใดๆ ก็ตาม ย่อมจะเป็นลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้คะ

ขอบคุณค่ะ

  • ดิฉันว่า Digital Divide น่าจะรวมความเหลี่อมล้ำทั้ง ๒ มิติ
  • ความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยีก็เป็นตัวเสริมความเหลื่อมล้ำทางความรู้ได้
  • อย่างเวที G2K ก็มีคนเข้าถึงได้ส่วนเดียว ยังมีคนอีกมากที่เข้าไปถึงความรู้ (ดิฉันเองเป็นอีกคนที่บอดเทคโนโลยี)
  • ดิฉันคิดแบบไม่ใช่นักการศึกษาว่า การนิยาม "ความรู้" มีความสำคัญพอๆ กับวิธีลดความเหลื่อมล้ำ
  • ความสนใจ และ ปัจจัยภายในตัวคน เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ก้าวพ้นได้ยาก
  • มีคำใหม่ๆ ที่คนช่างคิดโยนลงมามากมายให้เราคิด  แต่คงหนีไม่พ้น เพราะมันมาเกี่ยวกับเราจนได้ มันสนุกไปอีกแบบ
  • ยกตัวอย่าง คนทำงานโรงพยาบาลแอบนินทา พรพ.ว่า คิดคำใหม่ทุกปี ปีละหลายๆคำ คนทำงานยังไม่ทันเข้าใจถ่องแท้  ยังไม่สามารถแปลความได้ในระดับลงสู่การปฏิบัติ  อ้าวมาใหม่อีกแล้ว  คนทำงานก็ทิ้งเรื่องเก่า วิ่งตามเรื่องใหม่ ที่คนร้อนใจเพราะมันต้องทำ เป็นดาบย้อนคืนเพราะมันทำด้วยใจไม่ได้ มันไม่เข้าใจ ต้องจำใจทำ
  • ตัวอย่าง พรพ. เป็นตัวอย่างความเหลื่อมล้ำที่หน้างาน แต่มีคนอีกกลุ่มเล็กๆ ที่ถ่องแท้จนไร้กระบวนท่าก็จะสรุปว่า  มันไม่มีอะไรใหม่ในโลกนี้ เขาเปลี่ยนชื่อเรียก แต่มันเนื้อเดิม
  • ที่อาจารย์ตอบ (๑๑) ใช่ทั้งหมด และเราจะเหนื่อยอีกนาน  วิกฤติของชาติหนล่าสุดก็มาจาก Digital Divide นี่เอง
  • ดิฉันชอบคำว่า "ความเหลื่อมล้ำ" ค่ะ ไพเราะและให้ความหมายที่เป็นกลางดี
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท