.......................................................
ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบล็อกเพื่อเผยแพร่ความรู้
ไม่ว่าจะเป็นการอบรมให้เกษตรกรเข้าถึงความรู้อย่างกว้างขวาง
ไม่ว่าจะเป็นการทำวารสารเบาหวานแจกฟรีให้ผู้ป่วยและญาติ
ไม่ว่าจะเป็นการจัดค่ายอาสาภาษาอังกฤษเพื่อเด็ก
ไม่ว่าจะเป็นการอบรมคนพิการทางสายตาให้ใช้ ICT
ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำวิทยุและวีดีโอออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์ตกรุ่นให้เยาวชนในชนบท
ไม่ว่าจะเป็นการสอนสั่งให้เยาวชนรู้จักใช้ ICT ให้เกิดประโยชน์
ไม่จะเป็นการร่วมให้มุมมองการทำกฎหมายสื่อ
และอีกมากมายที่คุณได้ร่วมลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้อยู่แล้วในชีวิตประจำวันอย่างคาดไม่ถึง!
.......................................................
มาร่วมกันเถอะค่ะ มาร่วมกันบอกเล่าและแลกเปลี่ยนมุมมองประสบการณ์ระหว่างสมาขิก GotoKnow ด้วยกัน เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้รับรู้กันว่า คุณได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง และเขาจะสามารถทำอะไรเพื่อคนอื่นๆ ได้อีกบ้างในการลดความสาหัสของปัญหาความเหลื่อมล้ำทางความรู้ในประเทศเรา
.........................................................
โปรดอย่าปล่อยให้คนไทยในชนบทไม่มีโอกาสเข้าถึงความรู้
โปรดอย่าปล่อยให้เยาวชนไทยในเมืองใหญ่ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด
โปรดอย่าปล่อยให้เยาวชนไทยอ่านหนังสือเพียงแค่ไม่กี่บรรทัดต่อปี
โปรดอย่าปล่อยให้การละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาเป็นเรื่องธรรมดาของคนไทย
โปรดอย่าปล่อยให้ตัวคุณเองยังคงไม่รู้ว่าคุณได้ช่วยประเทศไทยไปแล้วอย่างไรบ้าง
.......................................................
เรื่องเล่าจากคนตัวเล็กๆ คนธรรมดาๆ แต่เป็นคนไทยจำนวนหนึ่งที่มารวมตัวกันจะถูกรวบรวมถ่ายทอดลงสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือ ไฟล์วีดีโอ และไฟล์เสียง เพื่อบอกเล่าให้คนไทยทั้งประเทศได้รับรู้เป็นตัวอย่างว่า คุณสามารถช่วยประเทศไทยลดการเหลื่อมล้ำทางความรู้กันได้อย่างง่ายดาย!
.......................................................
ชอบสำนวนการเขียนเชิญชวนของอาจารย์ในบันทึกนี้ครับ :)
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับอาจารย์ ไม่บอกไม่รู้ว่าได้มีส่วนช่วยลดการเหลื่อมล้ำทางความรู้ด้วย ที่คิดที่เขียนเพราะอยากสื่อครับอาจารย์
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่
* ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
*สุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีค่ะ
ครูต้อยทำตามจิตอาสาในG2k ที่เสียสละสร้างสรรค์และแบ่งปันความรู้ ความคิด ให้ได้คิด ให้ได้รู้ แต่เลือกที่จะเดินตามสไตล์การเรียนรู้แบบไร้ระเบียบของตัวเองค่ะ
ขอบคุณที่แบ่งปันโอกาสที่ดี และสิ่งสวยงาม
ขอบคุณที่ได้ให้โอกาสเทน้ำในแก้วลงแปลงผัก
ขอบคุณที่ได้ฝนใหม่มาใส่แก้วเดิม
ขอบคุณที่มีวิตามินเสริม เติมเต็มให้จิตสำนึก
ขอบคุณที่ทำให้รู้จักให้ความสุขกับตัวเองและแบ่งปัน
ขอกุศลบุญนี้เป็นของอ.และทีมงานทุกคนค่ะ
มาร่วม Share and Learn เพลินพัฒนา ใน G2K นะครับ
มาชม
เห็นมุมความคิดคมจังเลยละนี่...
ยินดีมากเลยค่ะคุณ มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย) ผู้เข้าร่วมงานสามารถเบิกค่าที่พักและค่าเดินทางได้จากต้นสังกัดตามงบพัฒนาบุคลากร และไม่ถือเป็นการลาราชการอีกด้วยนะค่ะ เนื่องจากเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ค่ะ
ลงทะเบียนและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่นะค่ะ http://portal.in.th/gotoknowforum/pages/2331/ เป็นเว็บศูนย์รวมของ GotoKnow Forum ค่ะ
น่าสนใจ และน่าเข้าร่วม คมทั้งความคิด และการกระทำ ด้วยเจตนาที่บริสุทธ์
สวัสดีค่ะ
*** ตั้งใจจะทำตรงนี้ให้เต็มที่เพื่อลดปัญหา
*** เยาวชนไทยในเมืองใหญ่ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด
*** และเยาวชนไทยอ่านหนังสือเพียงแค่ไม่กี่บรรทัดต่อปี
ดิฉันเริ่มส่งเสริมเยาวชนไทยให้อ่านหนังสืมาตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน แม้จะพบความสำเร็จในบางส่วน และความสำเร็จนั้นไม่ปรากฏชัดในสายตาใครๆ แต่ปรากฏชัดเป็นความสุขในใจเสมอมาค่ะ และคงจะช่วยเป็นกำลังตรงนี้ตลอดไปค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์
เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง
ที่ตัวเองได้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้กับเขาด้วย
แต่การเขียนบันทึกโดยเฉพาะงานวิชาการ เรื่องของทองคำ
เป็นการปฏิบัติงานที่ตัวเองต้องคอยตอบปัญหาแก่ประชาชนทางโทรศัพท์บ่อยมาก
การเขียนบันทึกบอกเล่าเพื่อแก้ไขปัญหา จึงน่าจะเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยตอบปัญหาให้แก่ผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจทองคำ และเป็นการแบ่งเบาภาระการทำงานของตัวเองไปได้บ้าง
คิดนอกกรอบนะคะ
ระหว่างคนใส่เสื้อเหลืองกับคนใส่เสื้อแดงมีการเหลื่อมล้ำทางความรู้กันนะคะ
คือคนใส่เสื้อเหลืองมักเป็นคนมีความรู้ ชอบอ่าน ติดตามข่าวสาร ไปร่วมชุมนุมนั่งฟังเรื่องทางวิชาการจากนักวิชาการ อาจารย์ นักคิดและนักการเมือง
คนใส่เสื้อแดงมักเป็นคนชบบทไกลแหล่งข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต้นทุนทางการเมืองไม่มี
มาชุมนุมก็ไม่มีนักวิชาการมาพูด มีแต่นักการเมือง
การเหลื่อมล้ำความรู้ที่เห็นชัดๆใช่ไหมคะ
สวัสดีครับ เมื่อได้อ่านทำให้ทราบว่าเราก็มีส่วนช่วยประเทศชาติ แม้จะเล็กน้อยก็ตาม
สวัสดีค่ะ อาจารย์จัน ดร. จันทวรรณ ปิยะวัฒน์
และอีกมากมายที่คุณได้ร่วมลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้อยู่แล้วในชีวิตประจำวันอย่างคาดไม่ถึง!......................................................."
"โปรดอย่าปล่อยให้....ความรู้ด้านวิสัญญีจากประสบการณ์การทำงานของวิสัญญีพยาบาล หายไปกับตัวท่าน..." ฝากถึงชาววิสัญญีพยาบาลทุกท่านด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับแนวคิดที่ดีนี้ค่ะ
ครอบครัวชาว มอ.ทุกท่านสบายดีนะคะ ฝากความรักและคิดถึงถึงคนคุณภาพ มอ.ทุกท่าน รวมถึงทุกคนในครอบครัวอาจารย์จันด้วยค่ะ
ด้วยรักและคิดถึงเสมอ
จากชาว มข.
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณในความมุ่งมั่นและแนวคิดที่งดงามเพื่อชาติบ้านเมืองของอาจารย์ค่ะ
สำหรับตัวเองก็ตั้งใจไว้เช่นนี้เหมือนกันค่ะ ..แม้เป็นเพียงเสียงเล็กๆก็ตาม
ชื่นชมจากใจค่ะ..
อยากไปมากครับ แต่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ตอนนี้ครับ เนื่องจากกำหนดของงานที่รับผิดชอบยังไม่ลงตัวครับ
ขอบคุณครับ ที่ได้ให้ความหมาย ความเหลื่อมล่ำทางความรู้ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ดีใจค่ะ ที่คนไทยเป็นห่วงความเหลื่อมล้ำทางความรู้ระหว่างชุมชนเมืองกับชนบท แม้จะผ่านมากี่สมัย กี่ยุค กี่รัฐบาล ความเหลื่อมล้ำทางความรู้ก็ยังคมีอยู่ เพราะโลกเราหมุนอยู่ตลอดเวลาไม่หยุด ฉะนั้น เทคโนโลยีทางการศึกษาไปไกลเสียเหลือเกิน แต่ก็ดีใจค่ะอาจารย์ มีแนวคิดที่ดีค่ะ
คิดนอกกรอบ(น.ส.วลัยลักษณ์ หญิง งามวิไล)
คิดอะไรนอกกรอบนะดีค่ะ แต่มองโลกแคบไปหน่อยนะค่ะคุณวลัยลักษณ์ เสื้อแดงมิใช่คนชนบทนะค่ะ และก็ไม่ได้หมายความว่าเสื้อเหลืองมักจะเป็นคนมีความรู้ ชอบข่าวสาร เอาอะไรมาวัด ไม่ว่าจะใส่เสื้อเหลืองหรือใส่เสื้อแดง ความคิดเห็นแตกต่าง แต่ก็รักสถาบันพระมหากษัตรย์เช่นกันค่ะ
ความล้ำเหลื่อมทางความรู้นะคงไม่ใช่ แต่การรับข้อมูลข่าวสารนี่ซิใช่ เพราะใจกว้างพอที่จะรับฟัข้อมูลทั้งสองด้านแล้วมาคิดวิเคราะห์หรือเปล่า รับด้านเดียวแล้วก็เชื่อในสิ่งที่ฟัง แล้วสาเหตุมาจากอะไร?อย่าลืมเขาเหล่านั้นเป็รเพื่อนรักกันมาก่อน และอะไรเป็นสาเหตุของความแตกแยก อะไรเป็นปัจจัยทำให้ต้องล้างกัน...(เงิน)
ฉะนั้น...ความรู้นะไม่ต่างแต่ความคิดต่างหากที่ต่างนะค่ะ ...คุณวลัยลักษณ์ และโปรดเข้าใจใหม่ด้วยนะค่ะว่าคนใส่เสื้อแดงเป็นคนชนบทห่างไกลแหล่งงข้อมูลข่าวสาร ไม่มีนักวิชาการ บางสิ่งเราไม่ต้องแสดงตัว อวดตัว หรือโชว์ตัว...การขับเคลื่อนก็ไปได้จริงไหม?เหมือนระบบอำมาตย์เนี่ยไง?
มาขอบคุณอ.จันทวรรณค่ะ สำหรับบันทึกดีๆนี้
ผมชื่นชมวิธีคิด และรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณโกทูโนเรื่อยมา...
และยังบอกเล่าในเรื่องเหล่านี้ไปสู่คนอื่นๆ อย่างไม่หยุดยั้ง..
ขอบคุณสิ่งดีๆ..พื้นที่ดีๆ ..ที่ช่วยให้หลายๆ ชีวิตเติบโตอย่างมีตัวตน นะครับ
เชิญชมงานศิลป์สวยๆ http://huttasilp.blogspot.com
สวัสดีครับอาจารย์
อยากไปร่วมด้วยครับ
วันก่อนแอบจีบน้องมะปรางขอตั๋วกับที่พักฟรี
แต่ไม่สำเร็จเลยอดเลย T_T
ถ้ามีให้ขอทุนจะ ยกมือขึ้น... ขอไปด้วยคนครับ
ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่นะครับว่าการเขียนบล๊อกเป็นการช่วยลดการเหลื่อมล้ำทางความรู้หรือ digital divide ได้มากสักเท่าไหร่ เพราะเช่นเดียวกับการเขียนหนังสือออกมาหนึ่งเล่มหรือการผลิตงานวิจัยหนึ่งชิ้น ก็ใช่ว่าจะสร้างองค์ความรู้ใหม่ได้เสมอไป หนังสือบางเล่มอาจจะไมไ่ด้ contribute อะไรเลยในแง่ขององค์ความรู้ใหม่หรืออยา่างน้อยก็ในแง่ของมุมมองใหม่ มันขึ้นกับ content และคุณภาพของ content ด้วยนะครับ ถ้าสักแต่ผลิตออกมาโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ มันก็อาจจะทำให้ขยะเพิ่มมากขึ้นเปล่า ๆ และทำให้แยกข้อมูลที่ดีออกจากขยะได้ยากขึ้นด้วยอีกตะหาก
แต่ก็เข้าใจนะว่า เรื่องคุณภาพของข้อเขียนมันก็แล้วแต่มุมมองของใครของมัน
อีกอย่างหนึ่งสำหรับคนที่อยากเสพความรู้แล้ว ผมว่าน่าจะมีแหล่งความรู้ทั้งบน Internet และเป็นสิ่งพิมพ์กระดาษ ให้อ่านให้เรียนรู้กันอยู่จนเกินกว่าที่จะอ่านได้หมดในชั่วชีวิตของคน ๆ หนึ่งหลายหมื่นเท่าแล้วละ
ดูเหมือน Percy Barnevick จะเคยพูดไว้ว่า "We don’t need any more bright ideas. In business success is 90% execution, 10% planning." ผมเองเห็นด้วยเป็นอย่างมากว่าความคิดความรู้ดี ๆ นะ มีอยู่มากแล้ว ขาดแต่คนลงมือทำซะมากกว่า
ที่อยาก comment อีกอย่างก็คือผมดีใจที่เห็น คห. 14 และ 22 ออกมาเถียงกันเรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดง อยากเห็นแบบนี้บ่อย ๆ ผมเองออกจะสีเหลืองนิด ๆ แต่ก็เห็นด้วยกะ คห. 22 เป็นอย่างมากถึงแม้แกออกจะแดงก็ตาม
ผมชอบการถกเถียงที่เข้มข้น ที่สามารถนำไปสู่ข้อสรุปใหม่ ๆ ที่ไม่เฝือ (trite) แต่เท่าที่ตามอ่าน G2K ไม่มากมายนัก พบว่าที่นี่มีแต่ความเบาโหวง คนที่ตอบกระทู้มักจะมีแต่ออกมาขานรับและชมกันเอง อย่างส่วนใหญ่ในกระทู้นี้เป็นต้น ซึ่งทำให้ผมสึกถึงหนังสือเรื่อง The Unbearable Lightness of Being (Here)- ความเบาโหวงอันเหลือทนของการมีชีวิตอยู่(ที่นี่). คำว่า Here นั้น ผมเติมลงไปเอาเองนะครับ ผมจึงไม่ใช่แฟนของ G2K เพราะที่ผมเขียนมานี่ก็ very untypical ของคนในนี้มาก ๆ แล้วละครับ
ขออภัยหากที่เขียนมาทำให้แฟน ๆ ของที่นี่บางท่านไม่พอใจ ผมขอย้ำว่าผมไม่ไ่ด้มีเจตนาตำหนิหรือบริภาษณ์ใครดอกนะ แค่อยากวิจารณ์วัฒนธรรมของชุมชนแห่งนี้ ยินดีน้อมรับคำวิจารณ์กลับ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้เข้ามาอ่านอีกเมื่อไหร่นะครับ
เห็นด้วยกับความเห็นที่ 14 ครับ
คิดนอกกรอบนะคะ
ระหว่างคนใส่เสื้อเหลืองกับคนใส่เสื้อแดงมีการเหลื่อมล้ำทางความรู้กันนะคะ
คือคนใส่เสื้อเหลืองมักเป็นคนมีความรู้ ชอบอ่าน ติดตามข่าวสาร ไปร่วมชุมนุมนั่งฟังเรื่องทางวิชาการจากนักวิชาการ อาจารย์ นักคิดและนักการเมือง
คนใส่เสื้อแดงมักเป็นคนชบบทไกลแหล่งข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต้นทุนทางการเมืองไม่มี
มาชุมนุมก็ไม่มีนักวิชาการมาพูด มีแต่นักการเมือง
การเหลื่อมล้ำความรู้ที่เห็นชัดๆใช่ไหมคะ
ผมขีดเส้นใต้คำว่ามักไว้
เธอมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเช่นนั้น เพราะเธออาจอยู่ใกล้ข้อมูลข่าวสารมากกว่า คห. 22
เธอจึงมั่นใจเช่นนั้น
ผมเองมั่นใจว่ารับรู้ข่าวสารมากกว่า คห. 22 ผมยืนยันได้
จากการลงมติรับร่าง รัฐธรรมนูญ ปี 50 ก็ดี ผลการเลือกตั้ง 2 ครั้งหลังก็ดี จะเห็นได้ว่าชุมชนเมืองทั่วประเทศ เขตอำเภอเมืองเป็นเขตของคนที่ไม่เอาคนเสื้อแดงอย่างเห็นเด่นชัด
เขตปริมณฑลรอบๆ กทม. ไม่มีคะแนนของคนเสื้อแดง
คนที่เอาเสื้อแดงจะไปอยุ๋แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือโดยเฉพาะในเขตชนบท ซึ่งมีข้อสังเกตุเป็นเขตที่ซื้อเสียงกันมากที่สุด ฯลฯ
ผมแสดงความเห็นในพันทิพย์มานาน
ผมแสดงความเห็นในเวบประชาไทก่อนที่จะถูกกลุ่มเสื้อแดงครอบงำเสียอีก
ผมทราบดีมาก่อนใครๆว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่รักสถาบัน หลักฐานผมมีมาก
ผมว่าเรื่องการเมือง
คห. 22 ยังอ่อนหัดครับ เป็นนักวิชาการก็แค่มองโลกทัศน์แคบๆ
อ๋อ...หมายถึง.. เหลื่อมล้ำทางความรู้ระหว่างชุมชนเมืองกับคนชนบท ใช่ป่ะคะ? และก็น่าจะระหว่างบุคคลได้
ขอบคุณคะ....ยิ้มมมมมม
แหะ..ๆ ... เขียนไม่เก่ง แต่อยากมีส่วนร่วมในงานค่ะ...
เธอมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเช่นนั้น เพราะเธออาจอยู่ใกล้ข้อมูลข่าวสารมากกว่า คห. 22 เธอจึงมั่นใจเช่นนั้น ผมเองมั่นใจว่ารับรู้ข่าวสารมากกว่า คห. 22 ผมยืนยันได้
อ่านที่ 2-3 ท่านแสดงความคิดเห็นแล้ว ชักไม่มั่นใจว่าตัวเองรับรู้ข่าวสารน้อยไปหรือเปล่า..ยังอ่อนหัดเจ้าค่ะ
เพียงแต่อยากแลกเปลี่ยนแบบ สุน-ทะ-รี-ยะ-สน-ทะ-นา อย่าด่วนสรุป