ใช้สมองซีกซ้ายมากไป อาจมองตัวเองในแง่ร้าย


มีคนกลุ่มน้อยในโลกที่เป็นโรค "ชอบดูถูก(รูปกาย)ตัวเอง" วันนี้มีผลการศึกษาพบว่า ปัญหาอาจมาจากการทำงานของสมองซีกซ้ายมากเกินไปครับ

คนบนโลกเราส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเอียงไปข้างการหลงตัวเอง หรือเข้าข้างตัวเอง เช่น คิดว่า เราเก่ง เราหล่อ(หรือสวย) เราเท่ ฯลฯ อย่างน้อยก็ตอนฝันกลางวัน

ทว่า... มีคนกลุ่มน้อยในโลกที่เป็นโรค "ชอบดูถูก(รูปกาย)ตัวเอง" วันนี้มีผลการศึกษาพบว่า ปัญหาอาจมาจากการทำงานของสมองซีกซ้ายมากเกินไปครับ

...

ศาสตราจารย์ดอกเตอร์จาร์มี เฟาส์เนอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจิตเวช และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอส แอนเจลิส สหรัฐฯ ทำการศึกษาคนไข้ BDD 12 ราย โดยให้มองดูภาพคนแบบชัดๆ ภาพเบลอๆ และภาพลายเส้น

ผลการตรวจด้วยเครื่องตรวจสนามแม่เหล็ก-วิทยุแบบพิเศษ (functional MRI) พบว่า สมองของคนที่เป็นโรค BDD ใช้สมองซีกซ้ายมากกว่าคนทั่วไป

...

โรค "ชอบดูถูกตัวเอง" หรือ "โรคมองตัวเองในแง่ร้าย (body dysmorphic disorder (BDD)" มีลักษณะสำคัญได้แก่ การมองภาพตัวเองผิดไปในแง่ร้าย และย้ำคิด(คิดซ้ำๆ ซากๆ แบบพายเรือในอ่าง)เกี่ยวกับความบกพร่องของตัวเอง

เจ้าโรค BDD นี่พบประมาณ 1-2% ของประชากรทั่วไป คนที่เป็นโรคนี้ 1 ใน 4 พยายามฆ่าตัวตายอย่างน้อย 1 ครั้ง โรคนี้มักจะพบประวัติคนอื่นในครอบครัวเป็นแบบคล้ายๆ กัน และพบเพิ่มขึ้นในคนไข้ "ย้ำคิด-ย้ำทำ (obsessive-compulsive disorder)"

...

อาการที่พบได้บ่อยได้แก่ ส่องกระจกซ้ำซากวันละนานๆ หรือบ่อยครั้ง ใช้เครื่องสำอางพอกกลบส่วนต่างๆ มากหรือบ่อยครั้ง

คนไข้บางคนก็ไปทำศัลยกรรมหลายครั้ง เช่น คนไข้คนหนึ่งไปผ่าตัดจมูกมา 5 ครั้ง อีกคนหนึ่งเสริมเต้านมด้วย เสริมแก้มด้วย ฯลฯ อาจารย์ที่ทำวิจัยกล่าวว่า บางคนผ่าตัดเสียจนดูไม่เหมือนคนเลยก็มี

...

สมองคนเรามีการทำงานในรูปแบบสมองซีกซ้าย และสมองซีกขวา... สมองซีกซ้ายใช้เหตุผล ระบบตรรกะ คิดคำนวณ วิเคราะห์อะไรออกเป็นส่วนๆ คนที่สมองซีกซ้ายเด่นหน่อยคือ กลุ่มคนที่ทำงานสายวิทยาศาสตร์ คำนวณ บัญชี

สมองซีกขวาใช้อารมณ์ ชอบสังเคราะห์หรือสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ทำงานศิลปะ คนที่สมองซีกขวาเด่นหน่อยคือ กลุ่มคนที่ทำงานสายศิลป์ ศิลปิน นักกีฬา นักดนตรี

...

กล่าวกันว่า คนที่เก่งจริงควรจะเก่งสมองทั้งสองซีก ทว่า... ต้องมันเก่งจริงอย่างน้อยสักซีก หรือสักครึ่งหัว

คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่ได้อยู่กับธรรมชาติ หรือมีโอกาสเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างในวัยเด็ก ทำให้เข้าใจมิติต่างๆ ของชีวิตได้ดี มีความสัมพันธ์กับคนอื่นดี และมีใจกว้าง ยอมรับความคิดเห็นที่ต่างจากของตัวเองได้

...

คนที่สมองซีกซ้ายทำงานเด่นมากเกินเสี่ยงที่จะเป็นคนจริงจัง เครียดง่าย เถนตรง ขาดความยืดหยุ่น เปรียบได้กับ "ไม้บรรทัดน้ำแข็ง" ซึ่งตรงและแข็ง ทว่า... เปราะ หักง่าย คล้ายสำนวนที่ว่า "ยอมหักไม่ยอมงอ"

ตรงกันข้ามคนที่สมองซีกขวาทำงานเดินมากเกินเสี่ยงที่จะเป็นคนช่างฝัน เรื่อยๆ เปื่อยๆ ทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จ หนักไปทางเพ้อ อยู่ในโลกของความฝันมากกว่าโลกของความจริง คล้ายสำนวนที่ว่า "ไม้หลักปักขี้เลน"

...

วิธีที่จะช่วยให้คนเราเก่งการใช้สมองทั้ง 2 ซีกได้แก่

  1. ฝึกใช้มือข้างที่ไม่ถนัดบ่อยๆ เช่น ถ้าถนัดขวาควรหัดใช้มือซ้ายถือช้อนกินข้าว ล้างรถ ฯลฯ อย่างน้อยในวันหยุด
  2. ฝึกดนตรี ซึ่งมีส่วนฝึกมือและแขนข้างที่ไม่ถนัดสูง เนื่องจากทักษะด้านนี้มักจะต้องใช้ 1 สมอง 2 มือ
  3. ออกกำลังและเล่นกีฬาเป็นประจำ โดยเน้นทำอะไรที่ไม่ซ้ำซากบ่อยๆ
  4. ปลูกต้นไม้ หรือดอกไม้
  5. เลี้ยงสัตว์แบบไม่กักขัง หรือให้อาหารสัตว์
  6. ฝึกกิจกรรมสมาธิ เช่น ฝึกกำหนดลมหายใจ ฝึกไทเกก-ไทชิ(ชี่กง) โยคะ ฯลฯ
  7. ฝึกทำอะไรที่ไม่เคยทำบ่อยๆ เช่น เปลี่ยนเส้นทางเดินไปทำงาน(ถ้าไม่รีบ) เปลี่ยนงานอดิเรก ฯลฯ
  8. ยอมรับให้ได้ว่า คนเราเกิดมาไม่สมบูรณ์ (People were born to be imperfect.) อยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบของเราให้ได้
  9. ฝึกมองหาข้อดี หรือการกระทำดีของเราให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 อย่างก่อนนอน
  10. ชมข้อดี หรือการกระทำดีของคนอื่นออกมาเป็นคำพูดให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

ที่มา                                       

  • Thank Reuters > Will Dunham. Maggie Fox & Eric Walsh ed. > Brain misfires in people with self-image disorder > [ Click ] > December 3, 2007. / J Archives of general psychiatry.
  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี > สนับสนุนเทคนิค iT.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 4 ธันวาคม 2550.

 

ข่าวประกาศ                                      

  • ถ้าไม่มีความผิดพลาดทางเทคนิค...
  • ผู้เขียนจะลาปลีกวิเวก > 10-16 ธันวาคม 2550
  • และลาไปอินเดีย-เนปาล > 20 ธันวาคม 2550 - 3 มกราคม 2551
หมายเลขบันทึก: 151319เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2007 13:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • สวัสดีค่ะ คุณหมอหมอ..

อ่านดูแล้ว  ท่าทางสมองซีกซ้ายของต้อมจะทำงานน้อยกว่าซีกขวาเสียแล้ว สิคะ

 ดีนะเนี่ยที่มีวิธีที่ช่วยให้เราได้บริหารสมองทั้งสองซีก

ขอบพระคุณคุณหมอค่ะ

ผมทำงานศิลปะ อยากมีเหตุซะบ้าง ช่วยอะไรได้บ้างครับ

ขอขอบคุณ... คุณเนปาลี

  • ดีใจด้วยครับ... ที่คุณมีโอกาสทำงานด้วยสมองซีกขวา ซึ่งมีโอกาสจะสัมผัสอะไรที่สุนทรีย์
  • หรือถ้าทำงานด้วยสมองซีกซ้าย นี่ก็มีโอกาสสัมผัสอะไรๆ ที่มีสาระ

ขอขอบคุณ salah toon...

  • วิธีฝึกสมองซีกซ้ายมีมากมายทีเดียว
  • ตัวอย่างเช่น ฝึกเรียนรู้เรื่องที่เป็นสาระ ซึ่งชีวิตเรามีโอกาสมากมาย เช่น อ่านหนังสือสารคดี ชมรายการสารคดี ฯลฯ

วิธีอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ

  • เวลาจะตัดสินใจอะไร... ให้ลองเขียนเหตุผลลงบนกระดาษว่า ถ้าตัดสินใจจะทำเรื่องนี้มีข้อดีอย่างไร มีข้อเสียอย่างไร
  • การฝึกใช้เหตุผลมีส่วนเสริมทักษะของสมองซีกซ้ายได้ดีมากๆ

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยฝึกการประสานสมองสองซีกได้ดีมากๆ คือ

  • เวลาพบอะไรรอบตัวเรา เช่น สมมติเราไปพบซุ้มประตูงานลอยกระทง ฯลฯ
  • ให้ฝึกคิดว่า สิ่งที่เป็นอยู่นี้มีดีอย่างไร มีข้อเสียอย่างไร (ฝึกมอง 2 ด้าน ทั้งด้านดีและร้าย)
  • แล้วฝึกต่อไปว่า ถ้าเราทำ... เราจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร (ฝึกประมวลผลชั้นสูง ซึ่งจะต้องวิเคราะห์ด้วยสมองซีกซ้าย และสังเคราะห์สิ่งที่ดีกว่าด้วยสมองซีกขวา)

ถ้าทำได้บ่อยๆ... จะทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นแยะทีเดียว

สวัสดีค่ะคุณหมอ

อยากจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมค่ก  คุณหมอ   ถ้าเปรียบได้  สมองซีกซ้ายของคนเรา  จะเป็นการใช้ทางด้านทักษะ  เทคนิคต่างๆ  ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก  ใช้มากๆ  จะเหมือนกับหุ่นยนต์    แข็งทื่อ

ส่วนสองซีกขวา  จะเป็นเรื่อง  ของทัศนคติ  เป็นเรื่อง  ของอารมณ์ ความรู้สึก  ใช้มาก  จะอ่อนไหว  ไม่เป็นตัวของตัวเอง ใช้ความรู้สึกวัดมากกว่า

...

ขอขอบพระคุณอาจารย์อนงค์ MSU-KM

  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และให้ข้อคิดเห็น...
  • โลกของเราตอนนี้กำลังต้องการคนที่มีทักษะแบบ "สมอง 2 ซีก" มากๆ...
  • ข้อคิดเห็นของอาจารย์คงจะช่วยให้พวกเรามีมุมมองต่อสมองดีขึ้นครับ
  • สวัสดีค่ะคุณหมอ
  • ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ค่ะ
  • คุณหมอค่ะ คนที่ขี้หงุดหงิด หรือคนที่ตัดสินใจอะไรยาก กว่าจะทำอะไรได้คิดแล้วคิดอีก คิดมากกว่าคนอื่น ๆ เค้าเป็นคนที่ใช้สมองซีกไหนมากกว่ากันค่ะ
  • เห็นคุณหมอประกาศว่าจะไปอินเดียและเนปาลช่วงปลายปี โดยส่วนตัวแล้วอินเดียและเนปาลเป็นดินแดนในฝันที่คิดไว้ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปให้ได้
  • คุณหมอไปมาแล้ว กรุณาเขียนเล่าให้ฟังบ้างนะคะอยากทราบเกี่ยวกับประเทศทั้งสองนะคะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

ขอขอบคุณ.. คุณหทัยรัตน์ / Stardust

  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
  • คนที่ใช้สมองซีกขวา หรือซีกซ้ายก็เจ้าอารมณ์ได้ทั้งนั้น

คนประเภทหัวศิลป์ หรือศิลปินที่ใช้สมองซีกซ้ายมีแนวโน้มจะเป็นคนเจ้าอารมณ์มากกว่าคนที่ใช้สมองซีกขวา

  • นี่อาจกล่าวได้ว่า เป็นจุดอ่อน หรือบางทีเป็นจุดดับ(ทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร)ของศิลปิน หรือคนหัวศิลป์ทีเดียว
  • คนที่ใช้สมองซีกขวาเด่นมากๆ จึงควรหากิจกรรมคลายเครียด เช่น ออกแรง-ออกกำลังให้มากกว่าคนทั่วไป
  • ผมเองก็เป็นคนโทสจริต + มักโกรธ... เจ้าอารมณ์มากๆ จึงต้องออกแรง-ออกกำลังมากหน่อย สัปดาห์หนึ่งผมมักจะมีวันเดินทางไกล เดินไปเดินมา เพื่อออกกำลังคราวละ 1 ชั่วโมงขึ้นไป อาการจึงจะทุเลา...

ผมเขียนเรื่องสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาล 2 รอบแล้ว ไม่จบสักรอบ

  • ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาระงานที่ค่อนข้างมาก ไม่มีอินเตอร์เน็ตส่วนตัว อาศัยอินเตอร์เน็ตโรงพยาบาลซึ่งช้ามากๆ ขาดบ่อย แถมไฟลำปางยังดับ + ตก + กระชากบ่อยมากๆ ด้วย
  • ครั้งต่อไปคาดว่า จะนำภาพขึ้นทาง OKnation blog เนื่องจาก upload ภาพได้เร็วกว่า gotoknow มากๆ

ขอแนะนำ...

  • ชุดบทความ "สังเวชนียสถาน" ในบล็อก "บ้านสาระ" > [ Click ]
  • ชุดบทความ "ภาพสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาล" ในบล็อก "บ้านสาระ" > [ Click ]

สวัสดีครับคุณหมอ

จริงอย่างที่คุณหมอบอกทุกประการเลยครับ จึงพยายามฝึกสมองทั้งสองซีกครับผม

ขอบคุณคุณหมอมากๆที่แนะนำในสิ่งที่กำลังบกพร่องอยู่ (สมองข้างขวาพัฒนาการมากกว่าซ้ายมากๆๆ จนถึงได้เข้าไปโรงบาลจิตเวช)ครับ

8/3/56

สวัสดีครับ ผมมีปัญหาคล้ายๆอย่างที่กล่าวไว้เลยครับ คือว่า ตอนนี้ผมอายุ 16 ปี ผมชอบมองตัวเองในแง่ลบ 

บางครั้งเวลามีคนชม ผมกลับโมโหเขาด้วยซ้ำแทนที่จะดีใจ เพราะคิดว่าเขาต้องโกหกและแกล้งชมเป็นแน่ บางครั้งเวลาผมทำอะไรพลาดนิดหน่อยก็ชอบด่าตัวเองว่า"ทำไมกูถึงโง่อย่างนี้ ทำไมถึงไม่ฉลาดเอาเสียเลย เรื่องง่ายๆทำไมถึงพลาดได้" อย่างขาดสติ และมานึกได้ก็ทีหลังว่าด่าตัวเองทำไม  ผมเคยคิดที่จะทำอะไรแปลกๆอย่างที่ว่า แต่ก็ไม่กล้าและตอนนี้ก็คิดได้แล้วว่ามันเป็นเรื่องที่โง่มาก เลยลองมาหาข้อมูลทางเว็บต่างๆดู

กิจกรรมที่ผมทำบ่อย -ผมชอบคิดเลข ชอบอ่านหนังสือ ชอบเล่นกีฬา ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดีใช่มั้ยครับ แต่ทำไมผมถึงชอบคิดกับตัวเองในแง่ลบอย่างนี้ละครับ

ผมควรจะหากิจกรรมอะไรทำเพิ่มดีครับ และผมควรจะไปพบแพทย์หรือไม่

ขอบคุณครับ




ผมชอบจินตนาการ แต่ใช้สมองซีกซ้ายมากกว่า แล้วที่ว่าคิดจะฆ่าตัวตายอย่างน้อย 1 ครั้ง ก็เคยนะ 55555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท