เครียดอะไร เขียนระบายออกมาช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้


ท่านอาจารย์แพทย์หญิงแนนซี มอร์แกน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดผ่านการเขียน และคณะ แห่งโปรแกรมศิลปะกับมนุษยศาสตร์ ศูนย์มะเร็งลอมบาร์ดส์ วอชิงตัน ดีซี. สหรัฐฯ ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างคนไข้มะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia / ลูคีเมีย) และมะเร็งเซลล์ต่อมน้ำเหลือง (ลิมโฟมา / lymphoma)

...

กล่าวกันว่า คนเรากลัวและเครียดกับเรื่องที่เรา "ไม่รู้" มากที่สุด วันนี้มีผลการศึกษาที่พบว่า คนเราเปลี่ยนแปลงความรู้สึกไปในทางที่ดีขึ้นได้ด้วยการเขียนออกมาว่า เหตุการณ์ร้ายๆ เปลี่ยนตัวเราอย่างไร และเรารู้สึกกับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ อย่างไร

ท่านอาจารย์แพทย์หญิงแนนซี มอร์แกน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดผ่านการเขียน และคณะ แห่งโปรแกรมศิลปะกับมนุษยศาสตร์ ศูนย์มะเร็งลอมบาร์ดส์ วอชิงตัน ดีซี. สหรัฐฯ ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างคนไข้มะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia / ลูคีเมีย) และมะเร็งเซลล์ต่อมน้ำเหลือง (ลิมโฟมา / lymphoma)

...

กลุ่มตัวอย่างจะได้รับการสุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย กลุ่มหนึ่งให้เขียนระบายความรู้สึกเป็นเวลา 20 นาที อีกกลุ่มหนึ่งไม่ต้องทำอะไร

ผลการศึกษาพบว่า คนไข้ที่ได้รับการบำบัดด้วยการเขียน "ระบายความรู้สึก (expressive writing)" มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์

...

วิธีเขียนนั้นท่านให้แนวทางไว้ 2 อย่างได้แก่

  1. โรคที่เป็นเปลี่ยนแปลงชีวิตไปอย่างไร
  2. คนไข้รู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ

...

ผลที่ได้จากการเขียน ร้อยละ (%)
ทำให้ความคิดเกี่ยวกับโรคเปลี่ยนไปในทางที่ดี 49%
ทำให้ความรู้สึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น 38%

...

ผลในด้านดีนั้นพบว่า คนไข้ที่อายุน้อยได้รับผลดีมากกว่าคนไข้ที่อายุมาก ซึ่งคงจะคล้ายสำนวนไทยที่ว่า "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"

อาจารย์ท่านแนะนำว่า การเขียนแต่ความจริง (fact) เช่น ให้บรรยายว่า โรคที่เป็นชื่ออะไร มีอัตราอยู่รอดเท่าไร อัตราตายเท่าไร รักษาด้วยวิธีใด ฯลฯ ซึ่งใช้สมองซีกซ้าย (เหตุผล ข้อมูล) เป็นหลักไม่ช่วยให้คนไข้รู้สึกดีขึ้น

...

ทว่า... การเขียนบรรยาย หรือระบายความรู้สึกออกมา (expressive writing) เช่น รู้สึกอย่างไรกับโรค โรคนี้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไร ฯลฯ ซึ่งใช้สมองซีกขวา (อารมณ์ ความรู้สึก) เป็นหลักมีส่วนช่วยให้คนไข้รู้สึกดีขึ้น

เรียนเสนอว่า เวลามีวิกฤตอะไรเข้ามาในชีวิต... ให้ลองเขียนระบายความรู้สึกออกมา เขียนแล้วถ้าไม่อยากให้ใครรู้ จะฉีกทิ้งหรือเผาไฟเสียก็ได้

...

บางทีการได้ระบายอะไรออกมาบ้างก็ดีกว่าเก็บ "กัก" เอาไว้ เพราะธรรมชาติของคนเรานั้นกลัว เครียด และกังวลกับอะไรที่เราไม่รู้มากที่สุด

นี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่า ทำไมหมอดูจึงช่วยให้คนจำนวนมากสบายใจขึ้นได้ เพราะหมอดูช่วยบอก "อะไรที่เราไม่รู้" เช่น อนาคต ฯลฯ ส่วนจะเป็นตามที่หมอดูบอกหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

...

ผู้เขียนขอสนับสนุนให้พวกเราหัดเขียน... เพราะชีวิตของเรามีค่าเสมอ อย่างน้อยคนทุกคนคงจะมีคนรัก หรือเป็นที่รักของคนอื่น... อย่างน้อยที่สุดตัวเราก็ต้องรักตัวเราเองให้เป็น จึงจะฟันฝ่าวิกฤตต่างๆ ในชีวิตได้

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

...

ที่มา                                                  

  • Thank BBC > Writing 'eases stress of cancer' > [ Click ] > March 22, 2008. / The Oncologist.
  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี + อาจารย์เบนซ์ iT > สนับสนุนเทคนิค iT.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง > 22 มีนาคม 2551.
หมายเลขบันทึก: 172219เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2008 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2012 12:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบพระคุณ คุณหมอมากครับ ที่ช่วยแนะนำสิ่งดีๆ

ขอขอบคุณ...คุณสิทธิรักษ์

  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจครับ

ขอขอบพระคุณอาจารย์หนึ่ง...

  • ขอขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท