... ถ้าถามว่า วิธีทำให้เด็กยิ้มง่ายๆ ทำอย่างไร คำตอบคงจะเป็นการให้ขนมอร่อยๆ ทีนี้ถ้าถามว่า วิธีทำให้คนพม่ายิ้มง่ายๆ ทำอย่างไร คำตอบคงจะเป็นการให้ขนมที่ทำจากถั่ว เพราะคนพม่าชอบอาหารและขนมที่ทำจากถั่วมากเป็นพิเศษ นิตยสารสรรสาระตีพิมพ์เรื่อง "ทำไมถั่วจึงดีมีคุณค่า" ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ... ทุกวันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้คนเรากินผักผลไม้ให้ได้วันละ 5 ส่วนบริโภค (1 ส่วนบริโภคมีขนาดประมาณ 1 ฝ่ามือไม่นับรวมนิ้วมือ หรือขนาดประมาณ 1 แผ่น CD) 5 สี ข่าวดีคือ ถ้ากินถั่วจะช่วยให้ได้ผักผลไม้ไปแล้ว 1 ส่วน ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการยังไม่แนะนำให้กินถั่วเกิน 1 ส่วนบริโภคต่อวัน เนื่องจากถั่วมีน้ำมันค่อนข้างสูง ... แน่นอนว่า ของที่ดีนั้นจะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดถ้ามีความพอดีอยู่ด้วย และจะออกฤทธิ์ได้ดีน้อยลงหรือบางครั้งจะก่อผลร้ายทันทีที่ขาดความพอดี อาจารย์นีนา เฮอร์วี นักโภชนาการแนะนำว่า ขนาดที่ค่อนข้างพอดีของถั่วคือ ครั้งละ 30 กรัม สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ... ผู้เขียนทดลองวัดปริมาณช้อนกินข้าวไทยพบว่า ช้อนเล็กหน่อยมีขนาด 7 มิลลิลิตร ช้อนใหญ่หน่อยมีขนาด 9 มิลลิลิตร ขนาด 30 กรัมที่ว่าจะมีค่าน้อยกว่า 30 มิลลิลิตรเล็กน้อย นั่นคือ ประมาณ 4 ช้อนกินข้าวขนาดเล็ก (7 x 4 = 28) หรือ 3 ช้อนกินข้าวขนาดใหญ่ (9 x 3 = 27) ... คุณค่าของถั่วอย่างแรกคือ มีน้ำมันพืชไม่อิ่มตัวชนิดดี ซึ่งมีส่วนช่วยลดโคเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดชนิดร้าย (LDL) และถั่วหลายชนิด เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง ฯลฯ ยังมีไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว ซึ่งช่วยเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ได้ในคนบางคน วิธีกินถั่วให้ได้น้ำมันพืชชนิดดีนั้น... คล้ายกับการกินปลาทะเลให้ได้ดี คือ ควรปรุงด้วยวิธีที่ไม่ผ่านการทอด เช่น นึ่ง คั่ว ต้ม ฯลฯ เนื่องจากถ้านำไปทอด... น้ำมันชนิดดีจะซึมออก น้ำมันที่ใช้ทอดจะซึมเข้าไปแทน ... ถั่วมีเส้นใย (ไฟเบอร์) ชนิดละลายน้ำค่อนข้างสูง เส้นใยชนิดนี้ทำให้อิ่มนาน ไม่หิวง่าย การกินอาหารชนิดอื่นพร้อมกับถั่วจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นช้า (ลดค่าดัชนีน้ำตาลหรือ glycemic index) ถั่วจึงเป็นอาหารที่ดีมากสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน หรือภาวะก่อนเบาหวาน (น้ำตาลในเลือดสูง แต่ยังไม่ถึงกับเป็นเบาหวาน) และคนที่ต้องการ "ชะลอ(ความ)ชรา" เนื่องจากน้ำตาลในเลือดที่สูงหลังอาหารนั้นเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเราแก่เร็ว ... เหตุผลสำคัญๆ 5 ประการที่คนเราควรกินถั่วได้แก่ ... (1). ลดโคเลสเตอรอล หรือไขมันในเลือด
... (2). ป้องกันโรคหัวใจ
...
... (3). ป้องกันเบาหวาน
... (4). ป้องกันมะเร็ง
... (5). ป้องกันโรคอ้วน
... ผู้เขียนขอเรียนเสนอว่า ลำพังเหตุข้อ (3) กับข้อ (5) นี่ก็มากพอที่จะกล่าวได้ว่า "ไม่กินถั่วไม่ได้อีกแล้ว" ข้อควรระวังในการกินถั่วก็มีเหมือนกัน ที่สำคัญคือ ถั่วเป็นอาหารที่มีโอกาสขึ้นรา ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง (อะฟลาทอกซิน) ได้ ... ทีนี้เราจะกินถั่วอย่างไรให้ปลอดภัย...
...
...
... ถั่วในรูปโปรตีนเกษตร หรือเต้าหู้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง กินได้ทุกวัน โดยเฉพาะเต้าหู้เป็นอาหารที่มีการใช้แคลเซียม หรือแมกนีเซียมในการตกตะกอนโปรตีนให้จับเป็นก้อน ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้น เต้าหู้ที่มีแคลเซียมสูงส่วนใหญ่จะมีความแข็งตัวสูงกว่าเต้าหู้ที่มีแคลเซียมต่ำ ... ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ...
ที่มา
|
ไม่มีความเห็น