เป็นการกำหนดโครงร่างวิจัย สำหรับได้แนวคิด +การตัดสินใจของครูที่จะทำวิจัยในชั้นเรียนนะครับ
แบบฟอร์มโครงร่างการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน/โรงเรียน (โครงการโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ฐานวิจัย: 2550)
1. ชื่อเรื่องที่วิจัย
2. ชื่อผู้วิจัย
3. ที่มาของโครงการ (สภาพบริบทโรงเรียน ปัญหานักเรียนในห้อง ผู้ปกครอง การเรียนรู้ของ
นักเรียน สอดคล้องมาตรฐานการเรียนรู้ สมศ. หรือ พ.ร.บ. การศึกษา นำมาเขียนด้วย )
4. วัตถุประสงค์ของการวิจัย (ถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ ต้องรู้อะไรก่อนจึงจะแก้ปัญหาได้)
5. ขอบเขตของการวิจัย
5.1 กลุ่มเป้าหมาย/ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน วิธีเลือก (อย่าหลบห้องเรียนเด็กอ่อน)
5.2 พื้นที่ในการดำเนินงาน ( 1 ผู้สอน : 1 ห้องเรียน : 1 สาระการเรียนรู้)
5.3 เนื้อหา
6. กรอบแนวคิดในการดำเนินการ (การเชื่อมโยงความรู้ จากการอ่าน หลักการทฤษฎี มาสร้าง
หลอมรวมเป็นกรอบแนวคิดของตนเอง)
7. วิธีดำเนินงานวิจัย
7.1 แผนวิธีดำเนินกิจกรรม (แผนการจัดการเรียนรู้/แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้)
7.2 เครื่องมือช่วยในการรวบรวมความรู้
(1) แผนการจัดการเรียนรู้ ควรมีลักษณะสำคัญดังนี้
- มีกิจกรรมที่หลากหลาย
- เน้นกระบวนการคิด
- นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน
- สอดแทรกคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่โรงเรียนต้องการวัด
- ครอบคลุมทั้ง ความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคติ
- ครูผู้สอนคนอื่นสามารถสอนได้ ในกรณีที่เราไม่อยู่
- ควรมีส่วนประกอบดังนี้
(1.1) บันทึกหลังสอน เป็นการเขียนบันทึกแบบบรรยายเหตุการณ์
การบันทึกข้อมูลเชิงคุณลักษณะ เราสามารถบันทึกดังนี้
- เหตุการณ์สำคัญ
- บรรยากาศในการเรียนรู้
- พฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน
- ผลการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน
- พฤติกรรมการสอนของครู
- การถาม – ตอบ ระหว่างครูและนักเรียน และหรือ ระหว่างนักเรียน ด้วยกันเอง
การบันทึกข้อมูลเชิงปริมาณ
เป็นการนำเอาข้อมูลที่เราวัดและประเมินผลเด็กนักเรียนในแผนการสอน นั้น ๆมาเขียนสรุป ผ่านเกณฑ์ หรือไม่ผ่านเกณฑ์ ในการสรุปผลข้อมูลเชิงคุณภาพนี้ เราจะแปรผลเป็นรายบุคคลรวมชั้นเรียน หรือรายกลุ่มรวมทั้งชั้นเรียนก็ได้ แล้วแต่เทคนิคของครู
(1.2) แบบประเมินตามสภาพจริง
ในการสร้างแบบประเมินในแผนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนต้องสร้างประเมินที่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่เราตั้งไว้ อาจจะใช้แบบประเมิน
1. แบบให้น้ำหนักคะแนน (Rating scale )
2. แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน
3. แบบทดสอบประจำแผนการเรียนรู้
(1.3) ภาคผนวกของแต่แผนการจัดเรียนรู้
เป็นเครื่องมือที่ช่วยผู้สอนใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น ใบความรู้ ใบงาน
คำถาม เกมและวิธีเล่นเกม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับครูผู้สอน หรือแม้กระทั่ง ครูที่เข้ามาสอนแทนในกรณี เราอบรม ป่วย หรือติดธุระส่วนตัว
(2) การพูดคุย
เป็นทางการ
- นักเรียน (การสัมภาษณ์) , ครู ( การประชุม) )
ไม่เป็นทางการ
- ( พูดคุยเป็นกันเอง ทั้งนักเรียน ครู ผู้ปกครอง )
(3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเมื่อจบหน่วยการเรียนรู้
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปลายภาคเรียน/สิ้นปี
- คะแนนจากการวัดผลประเมินผลทางการเรียนระดับชาติ (National Test)
7.3 วิธีรวบรวมข้อมูล
7.4 การวิเคราะห์ข้อมูล
การทำวิจัยในชั้นเรียน สามารถจำแนกการวิเคราะห์ข้อมูลออกเป็น 2 ลักษณะดังนี้
(1) ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยข้อมูลในลักษณะนี้เป็นข้อมูลเชิงคุณลักษณะ สามารถรวบรวมข้อมูลจากบันทึกหลังสอน การพูดคุยแบบเป็นทางการ/ไม่เป็นทางการ และสามารถใช้การวิเคราะห์ข้อมูล โดยวิธีการ ถอดรหัส บันทึกหลังสอน ซึ่งประยุกต์จากวงจรการเรียนรู้ของ Kolb และ วิธีวิเคราะห์ข้อมูลในการ วิจัยเชิงคุณภาพ ดังนี้ (บุบผา อนันต์สุชาติกุล,2550)
1. แปลเหตุการณ์หรือข้อมูลเป็นรหัส 2. เชื่อมโยงสิ่งเรียนรู้เก่าและใหม่ 3. สร้างข้อสรุป
(2) ข้อมูลเชิงปริมาณ สามารถรวบรวมจาก ผลงานเด็ก/ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทำวิจัยอยู่ ปลายปี/ หรือผลการสอบระดับต่าง ๆ ผู้ทำวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากคะแนนของนักเรียนโดย หาค่าร้อยละ โดยมีเกณฑ์การแปลผล เป็นลักษณะผ่านเกณฑ์ หรือไม่ผ่านเกณฑ์
8. ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัย
9. ผังดำเนินการ (ทำเป็นตาราง)
10. งบประมาณ
10.1 รายละเอียดงบประมาณการวิจัย
11. เอกสารอ้างอิง
ไม่มีความเห็น