แม่ผมจากไปด้วยวัย 50 ต้นๆ เท่านั้นเอง ตอนนี้ผ่านมา 4 ปีแล้ว ผมอยากเขียนอะไรดีๆ ถึงแม่สักครั้ง แต่ทุกครั้งที่เริ่มเขียนก็มักจะลบทิ้งในที่สุดด้วยเหตุผลที่ว่ามันอาจดีไม่พอ...
เดือนนี้เป็นเดือนแห่งวันแม่ ทุกท่านยกย่องเทิดทูนแม่กันหมด ผมจึงใช้โอกาสนี้ประกาศเกียรติคุณของแม่ของผมครับ
ในสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก เราเป็นครอบครัวชาวบ้านเรียกว่าหาเช้ากินค่ำ หรือหาหลายๆ เช้าเพื่อกินค่ำเดียว ชีวิตส่วนใหญ่จะใกล้ชิดแม่เป็นหลัก แม่จะทำงานเย็บเสื้อผ้าเป็นอาชีพโดยมีคุณครูที่โรงเรียนและเพื่อนบ้านเป็นลูกค้า และผมทำหน้าที่เป็นม้าเร็วส่งชุดเสื้อผ้าที่ตัดเสร็จแล้ว แม่มีชื่อเสียงเรื่องการตัดเย็บที่ปราณีตและคิดราคาเป็นกันเองสุดๆ ผมไม่แน่ใจว่ารายได้เราเป็นอย่างไร แม่ไม่เคยบอกปัญหาเรื่องการเงินในบ้านให้รู้แม้แต่น้อย ผมมีชีวิตในวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความฝันของตัวเองโดยที่แม่ไม่เคยมาบีบคั้นหรือเอาปัญหาเครียดๆ มาใส่หัวแม้แต่น้อย มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมอยากได้ของเล่นเหมือนเพื่อนๆ แม่จะซื้อให้บ้าง ไม่ซื้อให้บ้าง เมื่อโตขึ้นหน่อยจึงรู้ว่า วันที่ได้ของเล่น คือวันที่ทำให้แม่ต้องทำงานหนักขึ้น
เรื่องที่ผมอยากจะแบ่งปันมากที่สุดคือ แม่สอนเรื่องการใช้ชีวิตที่น่าสนใจหลายอย่าง ได้แก่
1.สอนให้รู้จักประหยัดและอดออม ตอนยังเล็ก ผมและน้องจะมีกระปุกออมสิน เราจะชอบเก็บเศษเหรียญแข่งกัน และเอาเงินไปฝากธนาคารเมื่อกระปุกเต็ม ตอนโตอีกหน่อย เมื่ออยากได้ของเล่น แม่จะให้เก็บตังส์ซื้อเอง บางทีพอเก็บเงินได้แล้ว รู้สึกถึงความยากลำบากและเสียดายเงิน เลยเอาไปฝากแทน เสื้อผ้ารองเท้าเราจะใช้จนกว่าจะพังค่อยซื้อคู่ใหม่ตัวใหม่ ของใช้อื่นๆ ก็เหมือนกัน
2.แม่สอนให้กินข้าวให้หมด สอนให้รำลึกบุญคุณของชาวนา และสอนถึงคุณค่าของข้าวเม็ดสุดท้าย ทานข้าวมากน้อยไม่เป็นไร แต่เมื่อตักใส่จานแล้วต้องกินให้หมด
3.แม่จะไม่ลงโทษต่อหน้าคนอื่น แต่จะสอนเมื่ออยู่กันเองภายในบ้าน แม่จะให้เหตุผลเสมอเมื่อทำผิด และเราก็รู้สึกโตพอที่จะเลือกว่าจะรับผิดหรือไม่ แม่จะไม่ลงโทษโดยไม่มีเหตุผลเด็ดขาด
4.แม่สอนไม่ให้เอาเปรียบคนอื่น สอนให้ชอบช่วยเหลือคน ผมโตมาแบบปฏิเสธไม่เป็นเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเสียใจและผิดหวัง แม่จะสอนให้มีคุณธรรมและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เราเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้า เราเชื่อว่าเราเป็นคนดี เราทำบุญตักบาตรเสมอเมื่อมีโอกาส
5.แม่สอนให้มีระเบียบวินัย แม่จะให้เก็บที่นอนทุกวัน สอนให้พับผ้าเอง ให้ทำความสะอาดห้องนอนของตัวเอง และสอนให้จัดข้าวของให้เรียบร้อย
6.แม่สอนให้รักน้อง ตอนเล็กๆ ผมมักมองน้องชายเป็นคู่แข่งเสมอ ผมแกล้งน้องหลายครั้งเมื่อน้องทำอะไรได้ดีกว่า เราทะเลาะกันบ่อยมาก แม่อดทนเรื่องนี้มาก แม่พยายามสอนให้รักกัน เมื่อโตขึ้นผมรู้สึกเสียใจ ผมควรเป็นพี่ที่ดีและรักน้องมากกว่านี้ โชคดีที่น้องชายมีชีวิตการงานที่ดีและสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง
7.แม่ให้กำลังใจเรื่องเรียนมาก ทั้งพ่อและแม่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ที่พวกเขาลำบากมากๆ ในตอนนั้นเพราะพวกเขามีการศึกษาน้อย พ่อแม่เชื่อว่าการศึกษาเป็นสิ่งเดียวที่จะพาพวกเรารอดพ้นจากความยากลำบากได้ เราคุยกันตั้งแต่ผมอายุ 5 ขวบว่าวันหนึ่งผมจะไปเรียนเมืองนอกและจะเป็นด็อกเตอร์ให้ได้
8.แม่คอยให้กำลังใจเสมอเมื่อมีสิ่งผิดพลาดในชีวิต แม่จะเข้าใจ แม่จะไม่ถามมาก ไม่ซักไซร้ไล่เรียง แต่จะพูดให้กำลังใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมจะรู้สึกว่าแม่เข้าใจเสมอ
9.แม่สอนให้ไม่ยินดีกับของที่ไม่ใช่ของเรา หรือของที่ไม่สมควรจะได้ พูดอีกอย่างคือ แม่สอนให้ไม่สนใจในลาภลอย หรือทรัพย์สินอื่นใดที่ไม่ใช่ทรัพย์ของเรา แม่สอนไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้า แม่สอนกระทั่งว่าอย่าไปรับของที่คนให้เปล่าๆ โดยไม่รู้วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เราจนแต่ไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร แม่สอนให้ยินดีกับทรัพย์สิน สิ่งของ ชื่อเสียงที่ได้มาด้วยลำแข้งหรือความสามารถของตัวเองครับ
สวัสดีค่ะ
มาอ่านเรื่องราวของ "คนเป็นแม่"
แม่ เป็นผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเสมอสำหรับเรา...
ขออนุญาตร่วมชื่นชมและยกย่องคุณแม่ ด้วยค่ะ
(^___^)
จำได้ว่าวันที่เพื่อนแต่งงาน เราได้กอดแสดงความยินดีกับแม่เพื่อน...
จำได้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็ได้ทราบข่าวร้ายจากเพื่อน
ว่าแม่ได้จากเพื่อน และพวกเราไปแล้ว..
และจำได้ว่าในพิธีศพของแม่เพื่อน
เพื่อนเศร้าใจและทุกข์ใจมากมายขนาดไหน..
ท่านไปดีแล้ว..
เราและเพื่อนของเพื่อนทุกๆ คน รู้ดีว่า
ท่านภูมิใจในตัวเพื่อน..อย่างที่สุด..