เมื่อ จ. 30 ก.ค. 2550
ความจริง เรื่องนี้ตามหัวข้อ น่าจะเป็น Holistic Corner แต่เนื่องจากเป็นคำถาม ในใจผมก่อนเข้าร่วมงาน " มหกรรม เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อยู่กับเบาหวาน อย่างมีความสุข และพอเพียง " ที่อยากมาหาคำตอบ ในงาน ก็เลยเป็นความเกี่ยวพันกันกับงานนี้ สำหรับผม เรื่องของเทคนิควิธีการ กลวิธี ทฤษฎี ต่าง ๆ ในการดูแลผู้ป่วย ผมคิดว่าสามารถ ค่อยๆ เรียนรู้จากที่ต่าง ๆ ได้ แต่ ความคิด กระบวนการทำงาน สิ่งที่เจอ มุมมองของคนทำงาน หาได้ยาก ต้องอาศัยการ เล่า การคุย ครับ มางานนี้ก็ไม่ผิดหวัง
ผมหาโอกาสที่จะคุย กับ ทีม ร.พ.พุทธชินราช กับ pcu ในเครือข่าย บ้านกร่าง ได้คุยกับพี่นิพัธ ซึ่งผมก็สงสัยมานานแล้วว่า หมอเฉพาะทาง ศัลยกรรมกระดูก ทำไมถึงได้มาทำงาน กับชุมชนได้ แล้วก็ทำได้ดีจริง ๆ ได้คุยกับเพื่อนใน blog ของ ทีมพุทธชิน ฯ รู้สึกคุ้นเคยมาก่อน ผมคุยแล้ว พอจะสรุปได้อย่างนี้ครับ
1. เริ่มจากความฉุกคิด และรับผิดชอบ ไม่นิ่งดูดาย มองเห็นประโยชน์ชัดเจน พี่นิพัธ เล่าบนเวทีว่า ทำงานมา 25 ปี สังเกตุ เห็นความเปลี่ยนแปลง คนไข้มากขึ้น หนักขึ้นทุกวัน ลักษณะการให้บริการ ที่ตึงเครียดขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง สักวันเราจะรับมือไม่ไหว ช่วงนั้น ปี 2544 มีการชักชวน ได้เข้าอบรมเวชศาสตร์ครอบครัว ไปดูงานชุมชน ก็ได้ความคิด
## เรื่องนี้สำคัญมากครับสำหรับการเริ่มต้น
2. งานเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ที่มีความชัดเจน และมีความปรารถนาดี ไม่ต้องเริ่มใหญ่โต เพราะผลของ ความปรารถนาดี และความตั้งใจดี จะเหมือน ลูกบอลหิมะ snow ball ที่เริ่มจากก้อนหิมะเล็ก ๆ จนมันก่อตัวมีพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ ( ตอนฟัง ผมนึกถึงการ์ตูน กระรอกที่แทะผลต้นสน แล้วโยนเปลือกทิ้ง กลิ้งลงภูเขาที่มีหิมะปรกคลุม จากเมล็ดสนเล็ก ๆ กลิ้งไปกลิ้งมา ( จริง ๆ กลิ้งลงเขา ) เป็นหิมะถล่มทลาย ไปได้
### ถ้าคิดอย่างนี้ จะล้มสักกี่ครั้งก็ได้ เริ่มใหม่ได้อีกบ่อย ๆ เสมอ พี่ สกล สิงหะ ก็พูดไว้ใน 8th HA National Forum ว่า การทำอะไร ที่อยู่บนความปรารถนาดี ไม่ต้องกลัวผิด มีแต่วิธีนี้ไม่ได้ผลพอใจ ก็ทำใหม่ ทางนี้ไปไม่ได้ ก็หาทางใหม่ คนที่ ทำงานบนความปรารถนาดี และตั้งใจดี มีความสง่างามในตัวเอง
การทำ HA ในโรงพยาบาล หลายครั้งมากที่นั้งเถียงกัน ในห้องประชุมว่า อันนี้ผิด อีกคนบอกอันนี้สิถูก ไปอบรมมาแบบฟอร์มเก่าเขาไม่ใช้แล้ว เขามีเพิ่มให้กรอกตรงนี้ เดียวนี้ต้องทำ tracer มี เครื่องมือใหม่มา ต้องเรียกประชุม .................. ตกลงกันไม่ได้ซักที ผมเลยว่า คงต้อง go back to ABC กันใหม่ ถ้า เริ่มที่แบบประเมิน เริ่มที่การผ่าน การรับรอง เริ่มที่เครื่องมือ ก็ลงรอยเก่าทุกที จนผมต้องปลีกวิเวก ไปทำงานตามบ้านนอก กับคนไข้ กับ ครอบครัวเขา กับชุมชนของเขา ดูจะสนุกกว่า เป็นไหน ๆ ( ผมก็คิดว่า อาจารย์ อนุวัฒน์ และ พรพ. ก็คงอยากจะเห็น พวกเรา มีข้อ 1 กับ ข้อ 2 นี่แหละครับ )
1. เริ่มจากความฉุกคิด และรับผิดชอบ ไม่นิ่งดูดาย มองเห็นประโยชน์ชัดเจน2. งานเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ที่มีความชัดเจน และมีความปรารถนาดี ไม่ต้องเริ่มใหญ่โต เพราะผลของ ความปรารถนาดี และความตั้งใจดี จะเหมือน ลูกบอลหิมะ snow ball ที่จะมีพลังยิ่งใหญ่ ในวันข้างหน้า |
3. มีแต่ พวกเรา ไม่มีพวกเขา พวกโรงพยาบาล พวก pcu พวกคนไข้ พวกหมอเฉพาะทาง พี่นิพัธ เล่าว่าต้องมีการ รวบรวม สมัครพักพวก แนวร่วม เพราะเราทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีทีม
#### ผมสังเกตุว่า สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือ ลดช่องว่างที่เกิดขึ้นของทีม ทีมสุขภาพพุทธชินราช เป็นทีมที่ดีน่าสนใจมากครับ ทุกคนทำงานมีความสุข เจอปัญหาก็ค่อย ๆ แก้ พี่นิพัธ และทีม สามารถ หาแนวร่วม ทั้งระดับบน คือ แพทย์เฉพาะทาง และระดับล่างคือ เจ้าหน้าที่ pcu ที่สำคัญ คนในพื้นที่ ชุมชน ได้ดีมาก ผมเลยเชื่อที่กล่าวไว้ในข้อ 2 คือ การมีจุดเริ่มต้นที่ดี บนความปรารถนาดี มีพลังยิ่งใหญ่
4. ต้องมองเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นชัดเจน แล้วก็ต้องเป็นเป้าหมายที่ต้องใช้ความพยายามเอื่อมไปจับ ความชัดเจนของสิ่งที่จะเกิดขึ้น สำคัญ ต้องมีจินตนาการ เป้าหมายที่ยืนเฉย ๆ ก็แตะได้แล้ว ไม่ท้าทายไม่ สร้างงาน เป้าหมาย ต้องใช้ความพยายามเอื่อมไปแตะ ต้องมีความพยายาม มันถึงจะมีความหมาย
ผมได้สัมภาษณ์กับผู้ปฏิบัติงาน ใน pcu กับทีมของพี่นิพัธด้วย ทุกคนล้วนถูกคัดเลือกมาก่อน แล้วก็มีความตั้งใจจะมา ทำงาน บางครั้งก็ลำบาก จนน้ำตาเล็ด แต่ผมพบว่า ถ้าการทำงาน ถูกกำกับด้วย ความปรารถนาดี และความตั้งใจดี เจ้าหน้าที่ก็มีความสุข ไม่ท้อถอยกับงาน ที่เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
เป้าหมาย สลักไว้บน ศิลา ( ไม่โยกคลอน ) วิธีการเขียนไว้บนผืนทราย ( เขียนผิด เขียนใหม่ได้ เสมอ ) |
จริง ๆ แล้วได้อะไรจากการพูดคุยอีกมาก วันนี้ต้องรีบมาสกัด ที่สำคัญมาบันทึกไว้ก่อน เดี๋ยวจะลืม เพราะเรื่องทั้งหมด เป็นสิ่งที่ผมจะต้องเอาไปใช้ต่อแน่นอน
ชอบความหมายของทั้งสองประโยคนี้มาก จะขอนำไปใช้เกริ่นนำเขียนเรื่องเล่าด้วยค่ะ ปีนี้ทำนวัตกรรมของสพช. เขาให้เขียนรายงานแบบเรื่องเล่า ทางภาคเหนือจะจัดวันที่ 9 - 10ส,คนี้ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว ( ทำโครงการชื่อบวรสุขสร้างสุขภาพสูงวัยด้วยแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น )ลงพื้นที่ที่ สอ,รัตนปัญญา อ.หนองม่วงไข่ จ,แพร่ ทำงานอยู่ที่รพ .ชุมชน ขอขอบคุณหมอจิ้นที่ได้เล่าสิ่งดีๆ ให้ฟัง
ผมเห็นด้วยที่ทำงานด้วยใจและใช้สติปัญญา รู้จับใช้ทรัยพากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าตามบริบทของตัวเองเป็นสิ่งที่น่าจะทำให้งาน
"จงทำงาน ทุกชนิด ด้วยจิตว่าง ยกผลงาน ให้ความว่าง ทุกอย่างสิ้น
กินอาหาร ของความว่าง อย่างพระกิน ตายเสร็จสิ้น แล้วในตัว แต่หัวที
ท่านผู้ใด ว่างได้ ดังว่ามา ไม่มีท่า ทุกข์ทน หม่นหมองศรี
"ศิลปะ" ในชีวิต ชนิดนี้ เป็น "เคล็ด" ที่ ใครคิดได้ สบายเอย
สวัสดี
ดูแลสุขภาพ ทุกข์ สุข ของคน น่าจะเริ่มที่ความปรารถนาดีและความรับผิดชอบค่ะ
ประชาชนมีความสุขและความมั่นใจค่ะ
ดีใจกับ"คุณหมอจิ้น"ด้วยนะคะที่ได้ค้นพบคำตอบว่าการทำงานดูแลสุขและทุกข์ของคนน่าจะเริ่มที่อะไร และต้องขอบคุณที่คุณหมอได้มองเห็นคุณค่าบทเรียนความสำเร็จในการทำงานของทีมพุทธชินราชซึ่งอาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด และสกัดออกมาให้ได้เรียนรู้ร่วมกันใน 4 ประเด็นที่น่าสนใจนับว่าเป็นข้อหนึ่งในมหัศจรรย์ KM อย่างที่ ดร.ยุวนุช ทินนะลักษณ์ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มหัศจรรย์แห่ง KM เบาหวาน
ดีใจและมีความสุขไปกับอาจารย์วัลลาค่ะที่งานนี้สร้างการเรียนรู้จากเรื่องจริง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้มาร่วมงานทุกคน
ดีใจที่หนังสือได้ถ่ายทอดสิ่งดีๆที่ทีมงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลพุทธชินราชได้ทำมาต่อเนื่องได้อย่างเป็นภาพใหญ่และถูกต้อง
ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาเยี่ยม ว่าแต่ว่า คุณ ท้องฟ้า เขียน blog อะไรอยู่ครับ จะได้เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย
หลวงพ่อพุทธทาส ก็เป็นหนึ่งใน พระอาจารย์ที่ พี่ศรัทธาในคำสอนอย่างมาก
ถ้าเราไม่ยึดมั่นถือมั่น มากนัก ทำเพราะ มันเป็นสิ่งที่ควรทำ เราก็จะเป็นทุกข์น้อย จากงานที่ทำ
ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ การเริ่มต้นคิดให้ถูกต้อง และมีทัศนคติที่ถูกต้อง จะช่วยกำกับ ให้เราทำงานได้อย่างที่ควรเป็น การเริ่มต้นด้วยความ ปารถนาดี เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุดครับ
ทีม พุทธชินราช เป็นแม่แบบที่ดีครับ ถูกแล้ว ที่สมควรจะได้รับการ ถ่ายทอดเรื่องราว อย่างที่ควรจะเป็น
เมื่อ เดือนก่อน ท่านรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข มาที่อุบล แวะ ที่ CMU ห้วยขะยุง ระหว่างยืนคุยกัน ท่านอธิบดีท่านหนึ่งเห็นว่ามีหมอมาทำงานที่ pcu ทำงาน primary care บอกว่า มีหมออย่างนี้ด้วยเหรอในประเทศไทยไม่เคยเห็น ผมบอก อย่างนี้ยังไม่ถือว่าดีหรอกครับ มีดีกว่านี้อีกครับ มีหลายที่ด้วย ความหมายของผม หนึ่งในนั้น ก็คือ ทีมเวชศาตร์ครอบครัวและ เครือข่าย พุทธชินราช ( ชื่อก็เป็นมงคลแล้วละครับ )
หนังสือของอาจารย์เป็น สื่อที่ดีและเหมาะสม แล้วครับ เรื่องราวของทีม พุทธชินราช สมควรที่จะได้รับการถ่ายทอดเป็นอย่างยิ่งครับ
สวัสดีครับพี่หมอ..
รู้สึกดีและรู้สึกว่าบันทึกนี้มีคุณค่ากับผมมากครับ
ขอบคุณพี่หมอมากๆครับที่ได้มาเล่าแต่เรื่องดีๆให้ฟังครับ แม้ว่าไม่ได้ไปด้วยแต่ก้ยังได้ประโยชน์ทางอ้อมจากงานนนี้ครับ
ผมเคยเข้าไปแบ่งบันกับบันทึกของอาจารย์นิพัธ ครับ อาจารย์ใจดีและมีเมตตามาก อ่านจากพี่แล้วยิ่งรู้สึกดีๆกับทีมนี้มากกว่าเดิมครับ
ผมขอสกัดความรู้ต่อจากพี่ครับ(ข้อความ ประเด็นที่ประทับใจ และเพื่อจดจำ ไปทำ ไปต่อยอดครับ)
ขอบคุณพี่มากๆครับ สุพัฒน์..ปาย
หมอจิ้น
สำหรับตัวเองเคยฝึกเขียนเรื่องเล่าของblog สูงอายุ/ พัฒนาคุณภาพ/ แพทย์แผนไทย แต่ใช้ไปได้สักระยะหนึ่งเขียนไม่ค่อยเป็น เลยหยุดไ ป แต่ชอบอ่านเรื่องเล่าของแต่ละคนมากๆ เมื่อ28ก.ค 50 มีโอกาสไปเป็นวิทยากรให้แก่นิสิตป.โทเอกบริหารการศึกษาที่อุตรดิตถ์ เรื่องบวรสุขสร้างเสริมสุขภาพสูงวัยด้วยแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น ( อ. ที่เคยสอนชวนไป เพราะได้นำโครงการที่ทำนวัตกรรมไปให้อ. ช่วยดูให้ ) ก็ได้แนะนำweb gotoknow ให้แก่นิสิต เพราะไม่ค่อยเก่งทางการใช้คอม วันหลังว่าจะฝึกเล่าเรื่องผ่านblog ขอช่วยให้กำลังใจด้วยนะค่ะ
สวัสดีครับ อ่านวรรคนี้แล้ว..จี๊ดๆมากครับ
..พี่นิพัธ เล่าบนเวทีว่า ทำงานมา 25 ปี สังเกตุ เห็นความเปลี่ยนแปลง คนไข้มากขึ้น หนักขึ้นทุกวัน ลักษณะการให้บริการ ที่ตึงเครียดขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง สักวันเราจะรับมือไม่ไหว
จึงขอแบ่งปันความรู้สึกที่เกี่ยวกับตรงนี้เพิ่มครับ
- รู้สึกว่าคนไข้ที่ OPD เพิ่มมากขึ้นทุกๆ วันครับ เพิ่มจากเดิมอย่างชัดเจนครับ
- คนไข้เพิ่มอย่างเดียวไม่พอครับ ความยาก ความซับซ้อนของโรคก็มีมากขึ้นครับ
- ที่ห้องตรวจนอกเวลา ส่วนมากแล้ว ต้องตรวจตลอดเลยครับ ไม่มี on call เพราะคนไข้หนัก และมีตลอดครับ
-ภาวะของโรคและปัญหาบางอย่างที่เพิ่มมาก ปัญหาทางจิตเวช อัตราการทำร้ายตัวเองและฆ่าตัวตายเพิ่มสูงระดับประเทศ สถานการณ์ปัญหาทางสังคม การอย่าร้าง โรคพิษสุราเรื้อรัง ปัญหาอุบัติเหตุที่เพิ่มมากขึ้นครับ
ตอนนี้ผมทำงานได้ 3 ปีกว่าๆ รู้สึกว่าตัวเองจะเห็น จะรับรู้ปัญหา ของระบบบางอย่าง บางเรื่อง แต่ก็ในขณะเดียวกันนี้ก็รู้สึกเหมือนว่า รู้ไม่จริง รู้ไม่ครอบคลุม บางทีรู้แต่ไม่ทราบว่าจะแก้ไข้ หรือดำเนินการอย่างไร อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ ความรู้ที่ไม่เพียงพอ หรืออาจจะไม่มีเวลามาคิด ทบทวน วางแผน หรือสร้างสรรค์งานเหล่านี้อย่างจริงจังครับ
ความรู้สึกตอนนี้ ถ้าเปรียบ ก็อาจจะเหมือน นักมวยที่ยังกระดูกไม่แข็ง กับระบบงาน ปัญหาที่มากมายและซับซ้อน แต่ถูกให้ขึ้นต่อย หรือว่าจำเป็นต้องขึ้นเวทีครับ เพราะว่าหมัดหรืออาวุธของคู่ต่อสู้ มีทั้ง HA FA MED งานประจำ(OPD IPD ER LR OR) งาน PCU งานคลินิกตางๆ งานเยี่ยมบ้าน งาน ฯลฯ
ครับ..อย่าถือสาคำบ่นของผม ที่อยากเล่าให้พี่ชายฟังนะครับ เพียงคิดว่าอาจจะมีคำแนะนำดีๆจากพี่ๆที่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อนครับ
ปล..แต่นักมวยคนนนี้ใจสู้เสมอๆ และมีกำลังใจที่จะชกต่อไปนะครับ
สวัสดีครับ คุณท้องฟ้า
อยากให้คุณท้องฟ้า เขียนบันทึกใน blog ใหม่ครับ วันข้างหน้าการบันทึกของเรา จะมีประโยชน์ต่อ ตัวเราเอง และคนรอบข้าง ค่อย ๆ ฝึก ที่ gotoknow ไม่มีใครทำผิดหรอกครับ เขียนแล้วรู้สึกไม่ดี เขียนใหม่ได้เสมอ ครับ ถ้าเปิด blog แล้วแจ้งผมด้วยนะครับ จะคอยอ่าน
อ่านแล้วได้แนวคิด หลายอย่างค่ะ
ขอบคุณค่ะ ^__^
ยินดีที่เข้ามาเยี่ยมเยียนครับ
ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ กำลังเดินตาม ครับ