รู้ ปัจจุบัน
เพิ่งคุยกับคุณหงุ่น กัลยาณมิตรมา
คุยกันยาวว่า ชีวิตคนเราต้องเรียนรู้ธรรม ธรรมเป็นเครื่องมือหรือ คู่มือสำหรับการดำรงชีวิตของ มนุษย์
การเจริญสติ ภาวนา กรรมฐาน วิปัสสนา เป็นเครื่องมือแห่งการเรียนรู้เพื่อให้เกิด ปัญญา
เปรียบเสมือน เราอ่านคู่มือการหัดว่ายน้ำ แต่เราไม่เคยลงไปหัดในน้ำจริง ๆ เราจะว่ายน้ำได้อย่างไร
หรือเราหัดถีบจักรยาน จากหนังสือคู่มือ จากคำสอน ย่อมเป็นไปไม่ได้ ไม่สำเร็จ
ต้องผ่านการหกล้ม คว่ำหงาย เจ็บตัว มีแผลถลอกปอกเปิก จึงจดจำและเรียนรู้วิธีถีบจักรยานได้
จึงได้ข้อสรุปกันในวันนี้ ดังนี้
1.พยายามประคองจิต ใจ ให้กลาง ๆ เป็นปกติ
2.รู้ตัว มีสติ อยู่กับปัจจุบัน
3.อดีตผ่านไปแล้ว ทบทวนเป็นบทเรียน
หรือคิดเสียว่าเป็นแผลที่เราเพิ่งหกล้ม-ถ้าเป็นทุกข์
เป็นขนมหวานที่ผ่านลิ้น มีวันละลาย-ถ้าเรารู้สึกเป็นสุข
4.ทั้งหมดนี้ มาแล้วก็ไป
5.อนาคตยิ่งแล้ว ยังมาไม่ถึง คิดก่อนทำไม
รู้ ปัจจุบัน
ไม่รู้ เพียรรู้
ค่ะ รู้ ปัจจุบัน ดีที่สุด แต่ทั้งๆที่รู้ ธรรมชาติของคนที่ยังไม่หมดกิเลส ก็อาจจะมีแว้บไปกังวลในหลายสิ่งหลายอย่างในอนาคตได้บ้างค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่กังวล จนเกินเหตุ เพราะเราคิดได้ค่ะ ว่า ต้องมีสติๆ และอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุดค่ะ
พี่คะ ขนาดคอยหมั่นฝึก นะคะ มีหลุด หลง โทสะ โกรธ....
แต่รู้สึก รู้สติ เฝ้าดู "เขาเหล่านั้น" ที่มาเยือน
มา..แล้ว..ไป
คอยเฝ้าฝึก รับรู้ "เขาเหล่านั้น"อีกตลอดเวลา
ขอบคุณค่ะ