มีสติตามดูกายดูใจ อยู่กับเป็นปัจจุบัน เข้าใจ ให้อภัย เมตตา กรุณาต่อตนเองและผู้อื่น
หลังจากที่เริ่มเห็นและมั่นใจว่า "ธรรมะ" เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต ผมก็เริ่มศึกษาธรรมะมากขึ้นเป็นลำดับ โดยศึกษาจากหนังสือธรรมะ จากเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต เสียงบรรยายธรรม และก็ปรึกษาขอความรู้จากผู้รู้ทั้งหลาย เมื่อพอมองเห็นธรรมและแนวทางปฏิบัติก็พยายามฝึกตนเรื่อยมา ผมพบว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่รีบร้อน จนถึงวันนี้พอจะสรุปแนวปฏิบัติเท่าที่ภูมิปัญญาจะเรียนรู้มาได้ดังนี้ครับ
- ให้พิจารณา เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นระยะ ๆ ให้เห็นความจริงว่าทุกคนเกิดมาต้องตายเป็นธรรมดา มาแต่ตัวก็ไปแต่ตัว
- พิจารณา ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้เห็นว่า ตัวเราประกอบขึ้นด้วยดินน้ำลมไฟ และจะต้องสลายกลับไปเป็นดินน้ำลมไฟเป็นธรรมดา
- พิจารณาไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งปรุงแต่งทั้งปวงไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เป็นทุกข์ ไม่มีความเป็นตัวเป็นตนบุคคลเราเขา
- กายก็ไม่ใช่ของเรา จิตก็ไม่ใช่ของเรา เราไม่สามารถสั่งให้กายไม่เจ็บไม่ป่วยได้ ไม่สามารถสั่งให้จิตไม่คิดโน้นคิดนี่ได้ แต่เราสามารถเป็นผู้ดู ตามาคอยดูกาย คอยดูใจ เรียนรู้กายเรียนรู้ใจ เข้าใจ ให้ความอบอุ่น ให้อภัยและคอยดูแลเขา ประสานกายกับใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
- มีสติตามดูกายดูใจ อยู่กับเป็นปัจจุบัน เข้าใจ ให้อภัย เมตตา กรุณาต่อตนเองและผู้อื่น ดูให้เห็นธรรมชาติของกาย ของใจ ว่าไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
- พิจารณาธรรมชาติของขันธ์ 5 ตัดการปรุงแต่ง
- ตัดความอยาก ความยึดมั่น ถือมั่น