คุณทวดจบปริญญาอายุ ๙๕ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สูงวัยทั่วโลก (เรื่องที่อดเล่าต่อไม่ได้)


อะไรคือแรงบันดาลให้คุณทวดโนลา ออคส์ มาเรียน? คุณทวดเดินมาหรือนั่งรถเข็นมาเรียน? คุณทวดเดินขึ้นบันใดอาคารเรียนไปห้องเรียนอย่างไร? มหาวิทยาลัยฟอร์ท เฮย์ส สเตท รัฐแคนซัส รับคุณทวดเข้าเป็นนักศึกษาอย่างไร? คุณทวดเรียนร่วมกับนักศึกษารุ่นหลานและเหลนอย่างไร? อาจารย์ที่สอนรู้สึกอย่างไร? และ ฯลฯ

หนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุ-โทรทัศน์ และเว็บไซต์ทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา และแทบทุกประเทศทัวโลก พากันลงข่าวหญิงชราผู้หนึ่ง ชื่อ โนลา ออคส์ อายุ ๙๕ ปี ซึ่งประสบความสำเร็จในการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาประวัติศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๒ พ.ค.๕๐ ที่เพิ่งผ่านมา ด้วยคะแนนเฉลี่ย(GPA) 3.70

นี่เป็นอะไรที่ "ไม่ธรรมดา" เลยจริงๆ 

http://gotoknow.org/file/surachetv/nola_Grad4.jpg
คุณทวดโนลา ออคส์ กับหลานสาวที่รับปริญญาพร้อมกัน

ผมค้นดูในเว็บไซต์ พบว่าเป็นคนหนึ่งที่ hot ที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ลองพิมพ์คำว่า Nola Ochs ลงในกูเกิลดูได้ ทั้งนี้เพราะเธอได้ทำลายสถิติโลก ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่าเรียนจบปริญญาตรีเมื่ออายุมากที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านี้ผู้ที่ทำสถิติไว้คือ Mozelle Richardson เรียนจบปริญญาตรี สาขาหนังสือพิมพ์ จากมหาวิทยาลัยโอคลาโอมา เมื่อปี 2004 

ผมติดใจข่าวนี้ และเรื่องนี้วนเวียนอยู่ในสมองผมทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยคำถามที่เกิดขึ้นในใจหลายข้อ เพราะโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตผมก็ทำกับผู้สูงอายุจำนวนมาก นักศึกษาที่อายุมากกว่า ๖๐ ปีก็หลายคน ที่อายุ ๗๐ กว่าแล้วก็มี

คำถามสำคัญคือ อะไรคือแรงบันดาลให้คุณทวดโนลา ออคส์ มาเรียน? คุณทวดเดินมาหรือนั่งรถเข็นมาเรียน? คุณทวดเดินขึ้นบันใดอาคารเรียนไปห้องเรียนอย่างไร? มหาวิทยาลัยฟอร์ท เฮย์ส สเตท รัฐแคนซัส รับคุณทวดเข้าเป็นนักศึกษาอย่างไร? คุณทวดเรียนร่วมกับนักศึกษารุ่นหลานและเหลนอย่างไร? อาจารย์ที่สอนรู้สึกอย่างไร? และ ฯลฯ

วันนี้(อาทิตย์ที่ ๒๐ พ.ค.) ได้มีโอกาสเข้าไปค้นดูประวัติและเรื่องราวของคุณทวดในโนลา ออคส์จากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยฟอร์ท เฮย์ส และเว็บไซต์สำนักข่าวต่างๆ ที่สัมภาษณ์คุณทวด รวมทั้งวิดีโอคลิปที่บันทึกการออกอากาศเรื่องของท่านย้อนหลัง พบเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหญิงชราคนนี้จนอดไม่ได้ที่จะต้องเล่าเรื่องของหญิงชราผู้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ

คำตอบที่ผมพบคือ คุณทวดเป็นคนชอบเรียนมาก หลังจากสามีเสียชีวิตในปี ๑๙๗๒ ท่านไม่ต้องการอยู่เฉยๆ ปล่อยเวลาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ท่านไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยชุมชนในละแวกบ้าน (คนละความหมายกับวิทยาลัยชุมชนบ้านเรา - ของเราเป็นสถาบันฝึกอาชีพ แต่ของเขาเป็นสถาบันอุดมศึกษาจริงๆ ที่สามารถสะสมหน่วยกิตเทียบโอนไปเรียนที่วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยไหนก็ได้)

ท่านเรียนวิชานั้นวิชานี้ที่ท่านสนใจ แล้วก็สะสมผลการเรียนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ท่านพบว่าเหลืออีกไม่กี่หน่วยกิตก็จะสามารถจบปริญญาตรีได้ ท่านได้ตัดสินใจมาอยู่อพาทเมนต์ใกล้ๆ Fort Hays State University มลรัฐแคนซัส ซึ่งห่างจากบ้าน(ฟาร์ม)ของท่านประมาณ ๑๐๐ ไมล์ เพื่อเรียนให้จบที่นั่น โดยมีหลานสาวของท่านคนหนึ่งชื่อ Alexandra Ochs อายุ ๒๓ ปี ซึ่งเรียนจบและรับปริญญาพร้อมกับท่าน คอยช่วยดูแลท่านด้วย

คุณทวดโนลามีลูก ๔ คน ลูกคนหนึ่งเสียชีวิตเมื่อปี ๑๙๙๕ ปัจจุบันท่านมีหลาน ๑๓ คน และเหลนอีก ๑๕ คน

ท่านบอกว่า ตราบใดที่ความคิดจิตใจและสุขภาพเรายังดี อายุเป็นเพียงตัวเลข (As long as I have my mind and health, it's just a number.) 

คุณโจลีน บริกส์ เจ้าหน้าที่รับสมัครบอกว่า เมื่อเธอได้รับอีเมล์จากคุณทวดโนลาแจ้งว่าต้องการสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยฟอร์ท เฮย์ส  เธอถึงกับอุทานว่า "โอ้ พระเจ้า!" (Oh my God!) เพราะใบระเบียนผลการเรียนของคุณทวดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1930 เธอถามคุณทวดว่า "คุณอายุ ๙๒ ปี?" คุณทวดตอบว่า "ฉันไม่สนใจนับอายุตัวเอง แต่ฉันบอกคุณได้ว่าฉันเกิดเมื่อปี ค.ศ.1911" ตอนแรกท่านสมัครเรียนแบบทางไกลออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตก่อน แล้วต่อมาเมื่อเหลือหน่วยกิตไม่มากจึงเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย

http://gotoknow.org/file/surachetv/nolaWalk.JPG
คุณทวดโนลา ออคส์ เดินหิ้วกระเป๋าผ้าใส่หนังสือ ภาพชินตาของนักศึกษา ม.ฟอร์ท เฮย์ส

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฟอร์ท เฮย์ส จะเห็นคุณทวดโนลาเกล้าผมมวยเดินไปห้องเรียน โดยสะพายกระเป๋าหนังสือที่ทำด้วยผ้า (ในภาพจะเห็นว่าท่านหลังไม่โกงเลย แสดงว่าดูแลสุขภาพตัวเองได้ดีมาก) ท่านบอกผู้สื่อข่าวว่า "เพื่อนนักศึกษาร่วมชั้นเรียนของฉัน เขาก็ปฏิบัติต่อฉันเหมือนนักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง"

อาจารย์หัวหน้าสาขาวิชาประวัติศาสตร์ Todd Leahy ตอนแรกก็สงสัยว่าท่านจะเรียนร่วมกับนักศีกษาคนอื่นๆ ได้ยังไง (ทำนองจะตามเด็กๆ ได้ทันหรือ) แต่หลังจากสองสัปดาห์ผ่านไป คุณ Leahy ก็หมดความสงสัย เพราะคุณทวดท่านก็ทำให้ทุกคนทึ่ง เพราะการที่มีท่านอยู่ร่วมชั้นเรียนด้วย ทำให้การเรียนประวัติศาสตร์เสมือนหนึ่งมี "ตัวละคร" ที่มีชีวิตจริงๆ ในเหตุการณ์ที่เรียน ปรากฏตัวออกมาจากหนังสือเรียน มาเล่าเรื่องราวพร้อมภาพ เสียง กลิ่น รสของเหตุการณ์จริงๆ เช่น เหตุการณ์ฝุ่นปกคลุมท้องฟ้าจนมืดมิดในปี 1930 ที่ทุกบ้านต้องจุดตะเกียงกันทั้งกลางวันกลางคืน คุณย่าซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ก็เล่าให้ทุกคนในชั้น รวมทั้งอาจารย์ฟังจากประสบการณ์ตรงของท่านได้ ซึ่งอาจารย์บอกว่า ท่านทำให้ชั้นเรียนประวัติศาสตร์เป็นชั้นเรียนที่มีพลวัตร (dynamic) ขึ้น สาขาวิชาประวัติศาสตร์กำลังจะทำเรื่องประวัติศาสตร์จากคำบอกเล่ากับคุณทวดโนลา หลังจากวันรับปริญญา

http://gotoknow.org/file/surachetv/Nola_inClassroom.JPG
คุณทวดโนลา ออคส์ ในห้องเรียน

ศาสตราจารย์ David Goodlett อาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์รัสเซีย บอกว่า “She could add a perspective that nobody in the class, including me, could add,”

Will Manly, นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็น copy editor จดหมายข่าวของชมรมหนึ่งในมหาวิทยาลัย เขียนบทความว่า เขาทึ่งมากที่ได้ฟังเรื่องเล่าจากความทรงจำเกี่ยวกับการรวมประเทศตะวันตกประเทศหนึ่งเป็นสหภาพโซเวียตรัสเซียเมื่อปี 1917 แล้วยังมีเรื่องการทุบกำแพงเบอร์ลินอีก

Will เล่าว่าคุณทวดโนลาบอกว่าที่ท่านมาเรียนนั้น "More or less for entertainment, something to do to occupy my time...I did not want to waste my time... and I enjoy it." หมายความว่าจะว่ามาเรียนเพื่อความสนุกสนานก็ได้เพราะไม่ต้องการปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปอย่างเปล่าประโยชน์ และฉันก็สนุกสนานกับการเรียนด้วย

Will ยังเล่าว่าคุณทวดโนลาบอกว่า “She said I’m an inspiration to other people,” ฉันเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ และ "หากฉันสามารถกระตุ้นให้ผู้สูงอายุไม่เพียงแต่นั่งเก้าอี้ยาวและดูทีวี แต่ลุกไปทำบางสิ่งได้ ฉันจะรู้สึกดีมากเลยล่ะ"

ในวันรับปริญญา เมื่อถึงคิวคุณทวดโนลาเดินขึ้นเวทีไปรับ คนกว่า ๒,๐๐๐ คน ที่อยู่ร่วมพิธีได้พร้อมใจกันยืนขึ้นปรบมือให้คุณทวดเป็นเวลายาวนาน ซึ่งในธรรมเนียมตะวันตกถือเป็นการให้เกียรติสูงสุด ซึ่งเขาเรียกว่า standing ovation (เป็นธรรมเนียมที่มาจากโรมันโบราณที่ประชาชนปรบมือต้อนรับทหารที่ได้รับชัยชนะจากสงครามกลับเข้ากรุงโรม)

ความจริงสิ่งที่นักศึกษาที่รับปริญญาพร้อมคุณทวดพร้อมใจกันปรบมือในวันนั้น "แหกกฏ" ของพิธีรับปริญญาของมหาวิทยาลัย ที่ห้ามใครปรบมือให้ใครจนกว่าคนสุดท้ายจะขึ้นรับเสร็จแล้ว แต่สำหรับปีนี้มหาวิทยาลัยไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับใคร แถมประธานในพิธียังลงมาสวมกอดคุณทวดด้วย ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีนักศึกษาคนใดได้รับเกียรตินี้มาก่อนเช่นกัน

คุณทวดตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยคำถามเดียวกับที่ถามนักศึกษาทั่วไปว่า จบแล้วจะไปทำงานอะไร ท่านตอบว่า "จะไปสมัครเรียนเพิ่มเติมบางวิชา เพื่อที่จะไปสมัครทำงานเป็น Storyteller ในเรือท่องเที่ยว" มีคนถามว่าท่านไม่เรียนต่อปริญญาโทหรือ ท่านก็ตอบว่า "อาจจะ"

Tom Nelson หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของสมาคมผู้เกษียณอายุแห่งอเมริกา บอกว่า "เราผู้สูงอายุทุกคนควรทำเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้ ความสำเร็จของคุณโนลา ท้าทายให้เราทุกคนพยายามไปให้ถึงเป้าหมายและความฝันของแต่ละคน"

หมายเลขบันทึก: 97371เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2007 15:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ขอบคุณครับ กับเรื่องราวดีๆ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท