ปาฏิหาริย์การรอคอยสู่ปาฏิหาริย์การตื่น


Ico48

มีบทเพลงดัง ๆ หลายบทเพลงที่แต่งด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ไม่ใช่ซิ  ต้องบอกใหม่ว่ามีผู้นำบทประพันธ์ที่เป็นกาพย์ยานี ๑๑ มาร้องเป็นเพลง ที่ดังมาก ๆ ก็คือเพลงนี้ค่ะ

เปิบข้าวทุกคราวคำ    จงสูจำเป็นอาจิณ
เหงื่อกูที่สูกิน           จึงก่อเกิดมาเป็นคน
ข้าวนี้น่ะมีรส            ให้ชนชิมทุกชั้นชน
เบื้องหลังซิทุกข์ทน   และขมขื่นจนเขียวคาว
จากแรงมาเป็นรวง     ระยะทางนั้นเหยียดยาว
จากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำบากเข็ญ
เหงื่อหยดสักกี่หยาด ทุกหยดหยาดล้วนยากเย็น
ปูดโปนกี่เส้นเอ็น     จึงแปรรวงมาเป็นกิน
น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง     และน้ำแรงอันหลั่งริน
สายเลือดกูทั้งสิ้น     ที่สูซดกำซาบฟัน
กาพย์ยานี ๑๑ มักไม่นิยมเสียงสูง  เพราะต้องการให้เนื้อหากระชับ รวบรัด จึงมักแทรกคำตายอยู่ในวรรคด้วยค่ะ สำหรับคนเพิ่งฝึก  แต่งได้ในระดับนี้ก็ถือว่า ดีค่ะ  สู้สู้
.................................................................................................................

 

อิงจันทร์ให้ความรู้           ผังกาพย์ดูเป็นคู่ฝึก

แต่งไปตามใจนึก             ศรัทธาเรียนรู้ตรองดี

 

จันทน์ลักษณ์   ๑๗  เมษายน ๒๕๕๔

 

..................................................................................................................

Ico48

โอ้ ! ขอบคุณพี่จันทน์รักษ์อีกแล้วครับ ;)...

คำกลอน สอนใจ ให้ได้คิด (จริง ๆ) ครับ

บทกลอนของพี่ ทำให้ผมเลือกมุมถ่ายภาพได้ดังที่เห็นนะครับ ;)...

.......................................................................................................................

 

Wasawat  ให้โจทย์          เพื่อประโยชน์มอบแบ่งปัน

ถ่ายภาพสวยสีสัน              เรียงคำวจีจานใจ

 

จันทน์รักษ์   ๑๗ เมษายน ๒๕๕๔

 

......................................................................................................................

จันทน์รักษ์ฝึกเรียนรู้     จากภาพครูกำหนดให้

ต้องฝันอย่างตรงใจ      ดูเข็ญยิ่งเย็นสุดยาก

 

หน้าจอใช่หน้าใจ          นึกนิ่งใฝ่ชวนฝันอยาก

นำความจริงวิพากษ์       พลอยฟื้นชีวันทำนอง

 

บรรยากาศสลัว          เงาหมอกมัวหม่นหมอง

หันรอบกายยืนมอง     ฉันยืนตรงนี้เดียวดาย

 

อาวรณ์ย้อนอดีต              เก็บชีวิตที่หล่นหาย

ลางเลือนพอพร่างพราย    จ้องฉีกหน้าปฏิทิน

 

เฝ้ารอคอยคนไกล       ลัดฟ้าไปสุดแผ่นดิน

เป็นนกจะผกผิน          ขยับปีกไม่พรึ่งพรั่น

 

รอวันนับวันคอย          ผ่านเคลื่อนคล้อยให้เหหัน

น้ำตากลบหน้าพลัน     ไร้ซึ่งสุขระทุกข์ตรม

 

เฝ้ารอและขอคอย      มั่นมิถอยแม้ขื่นขม

ล้วนโลกอภิรมย์         ยินดีปิติเนิ่นนาน

 

ดวงจิตแจ้งการตื่น       ปรีดิ์เปรมชื่นใจเบิกบาน

สรวงสวรรค์ขับขาน      สู่สุขสันติสมใจ

 

อดกลั้นคอยรอทน       บันดาลบันดลดั่งได้

พรั่งพร้อมจากภายใน    ตัวตนผ่องพรรณไพศาล

 

รอหวังสู่วาดหวัง          สร้างพลังที่กล้าหาญ 

ดลสู่ฤกษ์พบพาน         สู่ปาฏิหาริย์การตื่น

 

หมายเลขบันทึก: 435689เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2011 20:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

ตามมาขอบคุณอีกคราที่พี่จันทน์รักษ์ได้นำ "ภาพ" สื่อออกเป็นบทกลอนกวีศิลป์ ;)

ชวนคิด พินิจภาพ ... ว่าพี่จันทน์รักษ์มองเห็นอะไรในใจบ้าง ;)...

ขอบพระคุณที่ให้ความรู้ครับ จะลองฝึกแต่งกลอนดูบ้างครับ

สวัสดีค่ะคุณWasawat Deemarn

การมองภาพขึ้นอยู่กับจินตนาการและปรัชญาชีวิตของแต่ละคนนะคะ  พี่จันทน์รักษ์ว่ามันยากแก่การถูกผิด  เพราะคนเราต่างจิตต่างใจ  ต่างความคิดกันค่ะ  ชอบทุกภาพเลยค่ะ  เคยเข้าไปในมหาวิทยาลัยของคุณค่ะ

มีภาพหนึ่งมองเห็นถนนโชตนา  ด้านหน้า  คิดว่าน่าจะใช่นะคะ  สมัยนั้นมีอาคารไม้หลังเก่า ๆ ตั้งอยู่ด้านหน้า

จะพยายามเขียนมองต่างมุมให้นะคะ  ไม่ทราบจะสำเร็จไหม  ระยะนี้มีธุระอย่างอื่นทำค่ะ  ไปขายสเต็กค่ะ  แบบทำส่งขายตามร้านค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเนิ่ม ขมภูศรี

ยังเริ่มฝึก ๆ ค่ะ  อันนี้ยากและท้าทายดีนะคะ  ฝึกตามผังนี้แหละนะคะ  พี่ไม่มีความรู้ค่ะ  แต่อยากรู้ก็ต้องเรียน  เรียนด้วยกันนะคะ  มาผลัดกันอ่านค่ะ

พี่ จันทน์รักษ์ ;)...

ไม่มีผิด หรือ ถูก อย่างแน่นอนครับ

ชอบนั่งอ่านบทกวีพี่แล้วนั่งคิดตามไปด้วย

ม่วนขนาด ครับ ;)...

วิพากษ์สักสองบท      อย่ากำสรดและเศร้าใจ

ตรองตรึกแล้วฝึกไป    เถอะวันพรุ่งรุ่งเรืองรอง

หนักนะ จะรับไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวก็บอกนะคะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ขอไม่เกรงใจหล่ะนะคะ

 การแต่งบทประพันธ์ร้อยกรอง ไม่ว่าชนิดใด นอกจากจะต้องให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์แล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับถัดมา คือจังหวะ  อย่างกาพย์ยานี ๑๑  วรรคหน้าห้า วรรคหลังหกยกแสดง  จังหวะคือ

เปิบข้าว  ทุกคราวคำ ( แบบ 2-3 )       จงสูจำ  เป็นอาจิณ (แบบ 3-3)

เหงื่อกู ที่สูกิน ( แบบ 2-3 )               จึงก่อเกิด  มาเป็นคน(แบบ 3-3)

จะเห็นได้ว่า การอ่านจะต้องลงจังหวะ  วรรคหน้า 2-3   ส่วนวรรคหลัง 3-3   กาพย์ที่ยกมาวิพากษ์ 2 บท ถ้าผู้เขียนอ่านแบบไม่เข้าข้างตัวเอง ก็จะเห็นว่า ไม่ลงจังหวะ ยังไม่ต้องพูดเรื่องความเหมาะสมของเสียงนะคะ  เอาไว้รอบต่อไป

จันทน์รักษ์ฝึกเรียนรู้(พอได้)    

จากภาพครูกำหนดให้(พอได้)

ต้องฝันอย่างตรงใจ(ถูกแต่ไม่ดี)     

ดูเข็ญยิ่งเย็นสุดยาก(ผิดจังหวะ ผิดเสียงท้าย)

หน้าจอใช่หน้าใจ(ดีค่ะ)         

นึกนิ่งใฝ่ชวนฝันอยาก (ไม่ดี เค้าเรียกว่าจนคำ)

นำความจริงวิพากษ์       พลอยฟื้นชีวันทำนอง (ผิดจังหวะทั้งสองวรรคค่ะ)

นำความ-จริงวิพากษ์      พลอยฟื้นชี-วันทำนอง

บรรยากาศสลัว(ฉีกคำอีกแล้วค่ะ บรรยา-กาศสลัว)          

เงาหมอกมัวหม่นหมอง(ผิดค่ะ แค่ห้าคำเอง)

หันรอบกายยืนมอง(ไม่ดีค่ะ หันรอบ-กายยืนมอง)    

ฉันยืนตรงนี้เดียวดาย(ฉันยืน-ตรงนี้-เดียวดาย) ไม่ได้ค่ะต้องอ่าน 3-3  ไม่ใช่ 2-2-2

(ขอต่อเม้นท์ 2 ค่ะ ขี้เกียจเลื่อนขึ้นเลื่อนลง)

สวัสดีค่ะคุณWasawat Deemarn

ไปนอนและตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์   ลืมปิดสัญญาณ  จึงแวะมาดูผู้มาเยี่ยม  ดีใจมากค่ะที่คุณแวะมา  และมีคุณอิงจันทร์ตามมาสอน  ยินดีที่จะแก้ไขใหม่ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณอิงจันทร์ บ้านกลอนไฉไล

แบบนี้โดนใจมาก ๆ ค่ะ  หายง่วงเลยเชียว  วันนี้ต้องแก้ ๆ ๆ ๆ  ยินดีมาก ๆ เลยค่ะ

รออ่านเม้นท์ ๒ ค่ะ

แก้อันแรกก่อนนะคะ

อิงจันทร์ให้ความรู้           ผังกาพย์ดูเป็นคู่ฝึก

แต่งไปตามใจนึก             ศรัทธาใฝ่รู้ตรองดี

.................

Wasawat  ให้โจทย์          เพื่อประโยชน์มอบแบ่งปัน

ถ่ายภาพสวยสีสัน              เรียงลำนำเป็นคำงาม

จันทน์รักษ์ฝึกเรียนรู้    จากภาพครูกำหนดให้

ต้องฝันอย่างตรงใจ        ดูเข็ญยิ่งเย็นสุดยาก

จันทน์รักษ์ อยากเรียนรู้    จากภาพครู  กำหนดให้

ฝึกคิด ขีดเขียนไป         แม้นยากยิ่ง ก็จะทน

หน้าจอใช่หน้าใจ          นึกนิ่งใฝ่ชวนฝันอยาก

นำความจริงวิพากษ์       พลอยฟื้นชีวันทำนอง

หน้าจอใช่หน้าใจ             ชวนฝันใฝ่ให้ฝึกตน

วิพากษ์ด้วยเหตุผล           สลัดได้ในอัตตา

***ขออภัยนะคะ ที่ตรงไปตรงมา ใครมาอ่าน อาจคิดว่า "มันเก่งมาจากไหนวะ" ไม่ใช่ค่ะ  อิงจันทร์ก็ยังต้องฝึกอีกเยอะ  เพียงแต่กล้าที่จะวิพากษ์ มิฉะนั้น ผู้เขียนก็จะไม่ทราบถึงจุดบกพร่องของตัวเอง มิอาจพัฒนาได้  ย่ำอยู่กับที่ ถ้าพี่จันทน์รักษ์รับไม่ได้ก็แจ้งด้วยนะคะ***

      แต่พี่ก็เริ่มได้สวยแล้วนะคะ  บางวรรคใช้คำได้ดีมาก  คิดว่า ฝึกอีกสักบันทึกสองบันทึก ก็จะดีขึ้นแน่นอนค่ะ  อย่าเพิ่งท้อกับคำวิพากษ์ของครูอิงนะคะ  สู้ สู้ เป็นกำลังใจให้นะคะ

อิงจันทร์ให้ความรู้           ผังกาพย์ดูเป็นคู่ฝึก

แต่งไปตามใจนึก             ศรัทธาใฝ่รู้ตรองดี

.................

Wasawat  ให้โจทย์          เพื่อประโยชน์มอบแบ่งปัน

ถ่ายภาพสวยสีสัน              เรียงลำนำเป็นคำงาม

โอ...เลยค่ะพี่  โอ.เค.  555555555+

ดีขึ้นแล้วค่ะ  บทที่หนึ่งบกพร่องนิดหน่อย ที่วรรค ศรัทธาใฝ่รู้ตรองดี

แต่บทที่สองนี่  เยี่ยมค่ะ เอาไปเลย 10  เต็ม 10

จันทน์รักษ์ฝึกเรียนรู้     มีภาพครูผู้กำหนด

ร้อยคำลำนำบท           ดูสุดเข็ญยากเย็นยิ่ง

 

หน้าจอใช่หน้าใจ          นึกฝันใฝ่ใส่วิพากษ์

เล่าจริงยิ่งดีมาก            พลอยฟ้าฝนตามครรลอง

อากาศเย็นสลัว           หมู่หมอกมัวดูหม่นหมอง

หยุดนิ่งหมายยืนมอง    ฉันยืนอยู่คนเดียวดาย

อาวรณ์ย้อนอดีต       เก็บชีวิตที่หล่นหาย

ลางเลือนพอพร่างพราย   เฝ้าฉีกหน้าปฏิทิน

เฝ้ารอคอยคนไกล       ลัดฟ้าไปสุดแผ่นดิน

เป็นนกจะผกผิน          ขยับปีกไม่ไหวหวั่น

 

รอวันนับวันคอย          ผ่านเคลื่อนคล้อยให้เหหัน

น้ำตากลบหน้าพลัน     ไร้ซึ่งสุขระทุกข์ตรม

 

เฝ้ารอและขอคอย      มั่นมิถอยแม้ขื่นขม

ล้วนโลกอภิรมย์         ยินดียิ่งอย่างเนิ่นนาน

 

ดวงจิตประจักษ์แจ้ง       สว่างแสงใจเบิกบาน

สวรรค์ร้องขับขาน        สู่สันติสุขสมใจ

 

อดกลั้นคอยรอทน       บันดาลดลให้ดั่งได้

พรั่งพร้อมจากภายใน    ตัวผ่องพรรณแผ้วไพศาล

 

รอหวังสู่ความหวัง          สร้างพลังที่กล้าหาญ 

ดลสู่ฤกษ์พบพาน          ปาฏิหาริย์การตื่นจริง

สวัสดีค่ะ

ขั้นตอนนี้มีความเข้าใจเรื่องการอ่านค่ะ   จะพยายามค่ะ  สู้ ๆ ๆ ๆ  ต้องฝึกกาพย์ให้แม่น ๆ เพราะมีการบังคับมากมาย

รับด๊าย ๆ  ๆ  ๆ   คร่ะ  ขอขอบคุณจริง ๆ  จะนำไปบันทึกใหม่นะคะ

ดีขึ้นแล้วค่ะ  อาจปรับปรุงนิดหน่อย ว่า  เรียนรู้เร็วดีจังเลยค่ะ  สู้  สู้  เริ่มเก่งแล้ว

อากาศเย็นสลัว   มืดหมอกมัวดูหม่นหมอง

หยุดนิ่งหมายยืนมอง   ฉันยืนอยู่อย่างเดียวดาย

อาวรณ์ย้อนอดีต (วรรคนี้ดีมากค่ะ)        เก็บชีวิตที่หล่นหาย

เลือนลางพอพร่างพราย     เฝ้าฉีกหน้าปฏิทิน 

สวัสดีค่ะอิงจันทร์ บ้านกลอนไฉไล

ขึ้นหน้าใหม่แล้วค่ะ เนี๊ยบ ๆ ๆ ๆ ๆ  ยิ่งเรียนยิ่งมัน  มันมากค่ะ

ได้รับการแก้ไขปรับปรุงเพื่อเข้าสูตำแหน่งเดิม แม่บ้านระดับล่าง วิทยฐานะ  ไม่มีบรรดาศักดิ์ค่ะ

โห "กระบวนการเรียนการสอน โดยผ่านเทคโนโลยีบล็อก" หรือนี่

ทันสมัยกันทั้งสองท่านเลยนะครับ

ส่งกำลังใจมาให้ครับ ;)...

สวัสดีค่ะคุณWasawat Deemarn

กาพย์ยานี ๑๑ นี่ยากจังนะคะ   เพราะมีคำไม่มาก  แถมบังคับสัมผัส  คำเป็นคำตาย  แต่เป็นเรื่องยากที่น่าท้าทาย  สำหรับคนไม่รู้มาก่อนจริงค่ะ

เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ

เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน

ข้าวนี้น่ะมีรส ให้ชนชิมทุกชั้นชน

เบื้องหลังซิทุกข์ทน และขมขื่นจนเขียวคาว

จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนั้นเหยียดยาว

จากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำบากเข็ญ

เหงื่อหยดสักกี่หยาด ทุกหยดหยาดล้วนยากเย็น

ปูดโปนกี่เส้นเอ็น จึงแปรรวงมาเป็นกิน

น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง และน้ำแรงอันหลั่งริน

สายเลือดกูทั้งสิ้น ที่สูซดกำซาบฟัน

ชอบจังเลยครับ บทนี้

จากต้นกล้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท