เอาเรื่องเก่ามาเล่าหน่อย เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินหรืออ่านข่าวสามี-ภรรยาชาวเกาหลีใต้คู่หนึ่งที่ติดเกมส์ออนไลน์(หรืออะไรก็ตาม)จนทิ้งลูกวัยไม่กี่เดือนให้อดตายในห้องเช่าของทั้งคู่โดยที่พ่อแม่มัวแต่เล่นเกมส์กันอยู่ที่ร้าน(น่าจะคนละแห่ง) เป็นข่าวที่น่าสะเทือนใจอีกข่าวครับ ในฐานะที่เป็นพ่อมีลูกชาย 2 คน อ่านแล้วมันทั้งเศร้าและหดหู่
ในตอนเด็กผมก็เคยได้ชื่อว่าเป็นเด็กติดเกมส์มากอีกคนหนึ่ง เรียกว่าเมื่อสัก 20 กว่าปีที่แล้วตอนเรียนประถมผมนี่ถึงกับอดข้าวกลางวันเพื่อเก็บเงินไว้เล่นเกมส์ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่เดียวแต่เกมส์ในสมัยนั้นดีที่สุดก็คือเครื่อง Famicom (หลายคนอาจเถียงว่า Family ไม่ใช่ครับ Family เป็นยี่ห้อซึ่งออกมาทีหลัง แต่เครื่องรุ่นนี้คนเล่นเกมส์เขาจะเรียกว่าเครื่อง แฟม-มิ-คอม) เล่นมาเรื่อย ๆตั้งแต่ประถม มัธยม อาชีวะ จนมหาลัย ทำงานแล้วก็มีบางช่วงที่กลับไปเล่นแล้วติดเกมส์ออนไลน์ งอมแงม
ถามว่ามีอะไรดีถึงเล่นได้ทั้งวันทั้งคืน คงต้องย้อนกลับไปดูพื้นฐานหรือประวัติเด็กแต่ละคนครับว่ามีภูมิหลังยังไง กรณีของผม(ซึ่งใช้ไม่ได้กับทุกคน) โตมาโดยไม่มีพ่อหรือแม่อาศัยอยู่กับน้าและยายซึ่งหาเช้ากินค่ำไม่มีใครมามีเวลามาดูแลเอาใจใส่ ประกอบกับธรรมชาติของเด็กมักอยากได้รับการยกย่อง ว่าเป็นคนเก่ง แต่ในชีวิตจริงอาจจะไม่ค่อยได้รับสิ่งนี้เลยก็ได้ ในทางกลับกันเมื่อเขาเข้าสู่โลกของเกมส์เขาสามารถทำอะไรก็ได้ ทำกี่ครั้งก้ได้ไม่จำกัด แต่ถ้าครั้งใดที่เขาทำสำเร็จเขาจะได้รับการยกย่อง(อย่างน้อย ๆก็คือความภาคภูมิใจของเขาเอง)
ผมเชื่อว่าทางออกของปัญหานี้คือการที่เรา(ต้อง)รู้ให้ได้ว่า ลูก-หลานของเราต้องการอะไรจากการเล่นเกมส์ แล้วพยายามตอบสนองในความต้องการนั้น มากกว่าการแก้ปัญหาโดยห้ามให้เขาเล่นเกมส์โดยสิ้นเชิง หรือการส่งเสริมให้เขามาเล่นที่บ้าน เพราะเชื่อว่าดูแลได้ง่ายและปลอดภัยกว่า จะแก้ปัญหานี้ได้คงต้องถามตัวเองให้ดีก่อนว่า พร้อมไหม และตั้งใจจริงมากน้อยแค่ไหน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทางออกก็คือ การให้เวลาเอาใจใส่กับเขา พร้อมทั้งความรักและความเข้าใจของพ่อแม่ นั่นแหละคือทางแก้ปัญหา
แหะ แหะ ผมก็ติดเหมือนกันครับ...
ฟหกฟหกฟหกฟห
555 ผมก็ติดเหมือนกัน
fghfchdfhdfh