วิธีทำ น้ำมันมะพร้าวและแนะนำเพิ่ม (2)


น้ำมันมะพร้าว 100%

สรุป ให้เข้าใจง่ายขึ้น อีกสักครั้ง ได้เขียนวิธีทำน้ำมันมะพร้าวไว้หลายบันทึก  พอดีได้เขียนสรุปให้ง่ายขึ้น พร้อมคำแนะนำเพิ่ม  เพื่อไปลงในหนังสือ กัลปพฤกษ์  จึงนำมาบอกกล่าวอีกบันทึก 

 

         การทำน้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น ได้

   น้ำมันมะพร้าว 100% มีคุณภาพได้ด้วยตนเอง

 

 

วิธีทำ

   

        นำเนื้อมะพร้าวแก่  1 ส่วน น้ำอุ่น 1 ส่วนหรือประมาณเท่ากัน คั้นด้วยน้ำอุ่นเพื่อให้ได้น้ำกะทิ  เสร็จแล้วกรองด้วยกระชอนหรือผ้าขาวบาง   นำน้ำกะทิที่ได้ทั้งหมดเทใส่ภาชนะทรงกระบอก เช่น หม้อ ขวดโหล โถ เหยือกน้ำ หรือขวดน้ำเปล่าที่สะอาด แล้วปิดฝา  ตั้งวางไว้ในบ้านอุณหภูมิปกติ  หัวกะทิจะค่อยๆลอยขึ้นด้านบน  ประมาณ 12 ชั่วโมง จะเห็นน้ำมันใส หากหมักด้วยภาชนะใส    ถ้าเป็นภาชนะทึบ ให้เปิดฝ้าครีมกะทิด้านบนดู  

 

   หากใส่ภาชนะใสหมัก จะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงเป็น 5 ชั้น คือ 

 

 

 

1. ครีมฝ้าบางๆ 

 

2. น้ำมันมะพร้าวใส 

 

3. ครีมกะทิที่ไม่เป็นน้ำมัน

 

4. น้ำหมัก

 

5. ตะกอน

 

 เตรียมภาชนะกรอง  

 

       ถ้วยทนความร้อน(เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนตอนจะระเหยน้ำ)หรือหม้อใบเล็ก ฯ นำกระชอนหรือตะแกรง วางบนปากถ้วยฯ แล้วนำผ้าขาวบางพับ 8 ชั้น (มากชั้นเพื่อให้ได้น้ำมันใสไม่มีตะกอน)  หรือใช้กระดาษชนิดกรอง

 

 

 

กรองน้ำมัน  

 

1. ตักครีมฝ้าชั้น1 บน ใส่ถ้วยไว้

 

2. ค่อยๆตักชั้น 2 น้ำมันใส ที่อยู่บนครีมกะทิ  ขึ้นมากรอง ให้หมด

 

3. ตักครีมกะทิชั้น 3  ที่ไม่เป็นน้ำมันจะลอยอยู่บนน้ำหมัก 

 

   ใส่รวมไว้ในถ้วยที่ใส่ ชั้น 1 ไว้

 

4. น้ำหมักที่ชั้น 4  และชั้น 5 ตะกอน ทิ้ง หรือทำปุ๋ย

 

5.  รอน้ำมันบนภาชนะกรองหยดจนหมด

 

 

               การระเหยน้ำ 

 

 

-  นำน้ำใส่หม้อต้มให้เดือด นำตะแกรงวางบนปากหม้อ หรือใช้หม้อซึ้ง  พอน้ำเดือดแล้วเบาไฟ

 

-  นำน้ำมันมะพร้าวใสที่ได้จากการกรองขึ้นวางบนตะแกรง

 

- ใช้ช้อนช่วยคนเพื่อให้ความชื้นหรือน้ำที่ปนมาระเหยออกไปเร็วขึ้น จะมีฟองอากาศเดือด ทำจนไม่มีฟองอากาศ ก็ปิดไฟ  หรือจะตั้งภาชนะที่มีน้ำมันลงในน้ำที่เดือดเบาๆ โดยไม่วางบนตะแกรง ก็ได้เช่นกัน

 

- น้ำมันที่ระเหยน้ำแล้ว ใช้ได้ทันที

 

- แต่ถ้านำไปจำหน่าย หรือ เป็นของฝาก ของเยี่ยม ฯ หลังจากระเหยน้ำเสร็จแล้วตั้งวางไว้ ประมาณ 7 วัน จนมั่นใจว่า ไม่มีความชื้น และตะกอน

 

- จึงค่อยนำน้ำมันมะพร้าวใสบรรจุขวด  ซึ่งจะเก็บไว้ได้นานมากกว่า 1 ปี คงสภาพเดิม คุณภาพเยี่ยม

 

 -  หากไม่ทำการระเหยน้ำต้องใช้ให้หมดเร็ว  ถ้าเก็บไว้นาน  น้ำมันจะเหม็นตึ  เหม็นหืน และเกิดเชื้อรา ถึงแม้จะใส่ตู้เย็น ก็เหม็น และเกิดเชื้อรา

 

 

ครีมกะทิจากการหมัก

 

 

    จากชั้น 1 และชั้น 3 ที่ไม่เป็นน้ำมัน และบน-ในผ้าขาวบาง ให้บิด แล้วนำลงกระทะทั้งหมด เปิดไฟอ่อนๆเคี่ยว จนเนื้อครีมกะทิเป็นสีน้ำตาลอ่อน ก็ปิดไฟ รอจนเย็นก็ตักกรอง จะได้น้ำมันใสไว้ใช้ได้อีกส่วนหนึ่ง

 

 

 

 

       หมักในภาชนะที่หาง่ายสะดวกไม่ต้องล้างก็ได้

 

 

 

 

 

หมายเหตุ

 

1.    การขูดมะพร้าวด้วยกระต่าย ให้ขูดหรือใช้ช้อน ขูดผิวสีดำที่ติดก้นกะลา ออกมาให้หมด เพราะวิตามินอี ของมะพร้าวอยู่ตรงที่ผิวดำติดเนื้อมะพร้าวที่ติดก้นกะลา เมื่อเราขูดออกมาหมดแล้วคั้นหมักไปด้วยกัน เราก็จะได้ วิตามินอี มากมาย

 

2.    กรณีซื้อหัวกะทิไม่ผสมน้ำจากตลาด  เมื่อถึงบ้าน นำเทใส่ภาชนะหมัก ทั้งหมด แล้วเติมน้ำอุ่นเท่ากับ หัวกะทิ ปิดฝาตั้งวางไว้ในบ้าน

  

3.   การซื้อมะพร้าวจากตลาด เราต้องลุ้นและทำใจเล็กน้อยในการจะได้น้ำมัน เพราะ ผู้ขาย เครื่องใช้งานมากไม่ได้ล้าง และเว้นระยะการขูด ช่วงที่รอผู้มาซื้อ อาจเกิดเชื้อแบคทีเรีย หรือเครื่องไม่สะอาดเพราะเกิดการสะสมมะพร้าวใหม่เก่าที่ขูดตลอดเวลามีค้างในเครื่องบ้าง   อาจมีมะพร้าวไม่แก่ หรือมีมะพร้าวงอกปน  การล้างก่อนขูดไม่สะอาด ฯ ( แต่ผู้ขายบางคนใจดี เมื่อเราบอกว่าจะไปทำน้ำมัน เขาก็จะเลือกแก่ๆและล้างให้ ใหม่ ก่อนนำไปขูด )

 

4.    หากหมักไปแล้ว 12 ชั่วโมง ไม่ได้เกิดน้ำมันใส เกิดแค่ 2 ชั้นคือครีมกะทิและน้ำหมัก   สาเหตุ มาจาก ข้อ 3 แล้ว ให้ตักครีมกะทิชั้นบนทั้งหมด ลงกระทะ เคี่ยวไฟอ่อนๆพยายามอย่าให้เนื้อครีมกะทิติดกระทะ คนไปมา (เมื่อยก็ปิดไฟหยุดพัก แล้วเคี่ยวใหม่ได้)  เคี่ยวจนกากเป็นสีน้ำตาลอ่อนก็ปิดไฟ จะได้น้ำมันใสแจ๋ว และได้น้ำมันเร็วกว่าการเคี่ยวหัวกะทิสด เพราะผ่านการหมักมาแล้ว แต่กากจะมีรสเปรี้ยว

 

5.   หมักครบ 12 ชั่วโมงเป็นน้ำมันใสแล้วแต่ยังไม่ว่างกรอง เลย 12 ชั่วโมงก็ไม่เป็นอะไร เมื่อเกิดน้ำมันใสแล้ว ตัวน้ำมันดีเหมือนเดิม แต่ไม่ควรนานเกินหลายวัน 

 

6.     เมื่อตั้งวางหมักไม่ควรเขย่าขวด และเวลากรอง ก็ปล่อยให้น้ำมันหยดเอง  ถ้าใช้ช้อนบี้ หรือขย้ำเพื่อให้หยดเร็ว  ครีมกะทิที่ไม่เป็นน้ำมันและน้ำหมัก ปนลงไปด้วยแล้ว ทำให้น้ำมันขุ่นไม่ใส และเปรี้ยว

 

 

7.     การที่จะกินกาก หรือขี้ออด หรือขี้แหย่ ฯให้อร่อยนั้น ต้องเคี่ยวจากหัวกะทิสด โดยคั้นเหมือนกัน กรองแล้วตั้งวางไว้สักพัก รอจนหัวกะทิลอยขึ้นบนแล้ว ค่อยๆตักหัวกะทิลงกระทะ  (หากนำลงทั้งหัวทั้งหางกะทิจะกระเด็นมากและได้น้ำมันช้ามาก)   เคี่ยวไฟอ่อนๆ จนกากเป็นสีน้ำตาลอ่อน กากนี้หอมอร่อยมาก และน้ำมันที่ได้ก็หอมมาก การเคี่ยวแบบโบราณ หากต้องการเก็บน้ำมันไม่ให้ตกตะกอน ควรใส่ตู้เย็น จะเก็บไว้ได้นาน

 

8.    ในฤดูหนาวหรือฝนตก ทำให้อากาศเย็น หากจะหมักทำน้ำมัน เมื่อใส่ภาชนะแล้ว แนะนำให้นำไปวางไว้ ด้านหลังตู้เย็น หรือข้างหน้าต่างในบ้าน ที่มีแดดภายนอก 

 

9.     ผ้าขาวบางที่ใช้กรองน้ำมันหลายชั้นนั้น จะซักเพื่อให้น้ำมันออกหลายครั้งมาก แนะนำให้ต้ม ก่อนนำไปซัก เวลาซักหากมีน้ำมะกรูดหรือน้ำมะนาวก็บีบใส่รวมลงไปในน้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอก ก็จะซักง่ายสะอาดเร็ว  

  

 ด้วยความปรารถนาดี   กานดา แสนมณี



หมายเลขบันทึก: 474928เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2012 10:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2013 07:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ชอบมากค่ะ ขอเก็บข้อมูลนี้ไว้รอโอกาสทำสักวัน คาดว่าจะทำที่เชียงใหม่ค่ะ เพราะตั้งใจจะปลูกมะพร้าวไว้หลาย ๆ ต้นเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ดา

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรปีใหม่นะค่ะ

ว่าจะลองหัดทำดูค่ะ ทุกวันนี้ซื้อน้ำมันมะพร้าวมากินเหมือนกันค่ะ

ฝากข่าวจากครอบครัวคุณเพชรน้ำหนึ่ง ค่ะ คุณเพชรน้ำหนึ่งและน้องมดตะนอย ได้สูญเสียลูกชาย อายุครรภ์ได้ ๔ เดือนค่ะ สภาพจิตใจของทั้งคู่ตอนนี้ ดีขึ้นเยอะละค่ะ

พี่ดา รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

สวัสดีค่ะ

น้องอ.ศิลา Ico48

มีที่มากกว้างปลูกไว้บ้างดีแล้วค่ะ ยิ่งอยู่ไกลเมืองควรปลูกจะได้ไว้ทานทั้งลูกอ่อนลูกแก่ ทุกอย่างของมะพร้าวมีประโยชน์ทั้งนั้น หาพันธุ์กะทิปลูกด้วยนะคะ  น้ำมันนั้นทำไม่ยาก ถึงเวลาทำไม่ได้อย่างไรถามได้เสมอค่ะ

    พี่ดาจะสาธิตสอนวันที่ 17 กพ.55 ที่โรงแรมฮอลิเดย์อิน หากมาเชียงใหม่ช่วงนี้ น้องเตรียมสมัครมาชมพี่ดานะ รายละเอียดมีอยู่ก่อนหน้าบันทึกนี้ มีความรู้มากมายเกี่ยวกับมะพร้าวค่ะ

http://gotoknow.org/blog/kanda01/474427 

การสัมนามะพร้าว ฯงานพืชสวนโลกฯ

 

น้องกอหญ้า Ico48

ค่ะว่างๆชวนกันทำไว้ใช้ได้สารพัดอย่าง เกิดอะไรขึ้น 4 เดือนแล้วเสียไป  งานไม้ดอกฯ 3-5 กพ.55 นี้ น้องทั้ง 2 คงมาแอ่วนะ พี่ดาจะสอบถามดู ขอบคุณนะคะ คุณแม่ของน้องเป็นอย่างไรบ้าง หายดีแล้วใช่ไหม  คิดถึงเสมอค่ะ

 

 

ขอบคุณ สำหรับข้อมูลดีๆมีประโยชน์ค่ะ

อยากฝึกทำก็ยังไม่ได้ลงมือซะทีค่ะ

*ขอบคุณมากค่ะ..แวะมาบอกว่า วันนี้ได้ส่ง e-mail เขียนเรื่อง "ประสบการณ์ดีๆในการใช้น้ำมันมะพร้าว" ไปให้แล้วค่ะ..

*ขอ copy มาให้ทราบไว้ที่นี่ด้วยค่ะ :

 

...........................................................................................................

 

"ประสบการณ์ดีๆในการใช้น้ำมันมะพร้าว"

 

        1. ให้ความชุมชื่นแก่ผิวหนัง

             ข้าพเจ้าเป็นคนผิวแห้ง มักใช้ครีมบำรุงผิวอยู่เสมอ แต่พบว่าการดูดซึมลงใต้ผิวหนังไม่ดีเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะเนื้อครีมมีความหยาบ จึงเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ แต่เมื่อใช้นำมันมะพร้าวสะกัดเย็น ๑๐๐ % ชะโลมผิวหลังอาบน้ำเป็นประจำแล้ว ผิวหนังมีความชุ่มชื่น ไม่แตกแห้งอีกเลย เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวแทรกซึมสู่ผิวหนังรวดเร็ว มีความละเอียดและไม่เยิ้มมัน สามารถลูบไล้ผิวกายทุกส่วนทั้งภายนอกและภายใน อีกทั้งมีคุณสมบัติเป็นครีมกันแดดได้เป็นอย่างดี

       2. บำรุงหนังศีรษะและเส้นผม

           ปกติมีหนังศีรษะแห้ง และเส้นผมละเอียด เริ่มมีสีดอกเลา ไปตามอายุ หลังจากใช้นำมันมะพร้าวชะโลมศรีษะก่อนสระผมเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงทุกวัน ทำให้หนังศีรษะไม่แห้งและเส้นผมอ่อนนุ่มกว่าเดิมมาก

      3. สมานแผลสด

          เมื่อมีอุบัติเหตุเป็นแผลสด หลังล้างแผลให้สะอาดแล้ว ได้เคยหยอดน้ำมันมะพร้าวใส่แผลสดทุกวัน ทำให้สมานแผลแห้งหายเร็วขึ้น เมื่อแผลเริ่มปิดใกล้ตกสะเก็ดแล้ว ควรทาด้วยครีม "Scajel" ซึ่งมีส่วนประกอบของว่านหางจระเข้ จะช่วยไม่ให้เกิดแผลเป็น

      4. ป้องกันอาการเหงือกและฟันอักเสบและทำลายจุลินทรีย์ในช่องปาก

           ตื่นเช้าก่อนแปรงฟัน การกลั้วอมน้ำมันมะพร้าว ๑ ช้อนโต๊ะ ไว้ประมาณ ๑๐ นาที น้ำมันมะพร้าวจะใสไร้กลิ่น เพราะทำปฏิกิริยากับน้ำลายและจุลินทรีย์ หลังจากบ้วนทิ้งแล้ว รู้สึกได้ถึงช่องปากที่สะอาด ป้องกันเหลือกและฟันอักเสบ
       
      5. ช่วยการขับถ่ายให้เป็นปกติ

             การดื่มน้ำมันมะพร้าววันละ ๑ ช้อนโต๊ะ ก่อนรับประทานอาหารเช้า ช่วยทำให้การขับถ่ายเป็นปกติดี ซึ่งน่าจะมาจากคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวที่ช่วยการย่อยและเคลือบกากอาหารให้ขับเคลื่อนสู่ลำใส้ใหญ่และทวารหนักได้ง่าย

............................................................................................................

ภาพจากสายบริหารงานสื่อสารองค์กร SCB

 

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่

   ดาขอบคุณมากค่ะ ดาพึ่งส่งเรื่องคุณลุงโชคดำรง ไปให้อาจารย์ณรงค์ วันนี้ ก่อนหน้าดาจะมาที่นี้ ให้อาจารย์ชมว่าใช้ได้ไหม 

   ดีใจค่ะ ดาจะขึ้นบันทึกรวบรวมประสบการณ์เพื่อเขียนหนังอีกบันทึกแล้วดาจะนำของคุณพี่ใหญ่ไปไว้ด้วย ดาเปิด ที่ gmail ก่อนยังไม่ได้เปิด hotmail ยังไม่ทราบว่าคุณพี่ใหญ่ส่งมาให้ดา  ขอบคุณมากค่ะภาพอวยพรตรุษจีน ขอให้คำกล่าวอวยพรกลับไปที่คุณพี่ใหญ่เช่นกันนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท