โรค นักบริหาร


ในดีมีเสีย ในเสียมีดี
บทความ โดย นายแพทย์ชูทิตย์ ปานปรีชา
 
ผู้บริหารมักเกิดโรคได้ง่าย
และผู้บริหารระดับสูงจะมีอาการของโรครุนแรงกว่าผู้บริหารระดับต่ำ
โรคดังกล่าวมีทั้งที่มีอาการทางจิตและที่ทีอาการทางร่างกาย
แต่มีสาเหตุใหญ่เกิดจากจิตใจทั้งนั้นครับ
 
 
 
     ในสมัยก่อนผู้ใหญ่มักให้พรเด็กกว่า   ขอให้หนูโตขึ้น เป็นผู้เจ้าคนนายคนนะ คำว่าเจ้าคนนายคนนั้นก็ หมายถึงผู้บริหารระดับสูงนั่นเอง นั้นจึงเห็นได้ว่า การเป็นผู้บริหารมีความสำคัญ และเป็นความต้องการอย่างยิ่งของคนไทยเรามาแต่ไหนไรแล้ว 
 
     เนื่องจากผู้บริหารมีความสำคัญเช่นนี้ ผมจึงขอถือโอกาสนำโรคของผู้บริหารที่พบได้ในปัจจุบันและจะพบได้ในอนาคตอันใกล้นี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้ท่านได้เห็นความสำคัย ได้สำรวจตนเอง และทำความเข้าใจ เพื่อนำมาป้องกันและช่วยเหลือตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ รวมทั้งจะมีประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านทั้งหลายที่กำลังจะเป็นผู้บริหาร หรือวางแผนจะเป็นผู้บริหารในอนาคตอีกด้วย ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านทั้งหลายท่านรู้ความหมายของคำว่าผู้บริหารแล้วนะครับ ผมจะขออนุญาตให้ คุณสมบัติของผู้บริหารไว้ว่า 
 เป็นบุคคลผู้มีความสามารถ  ๒ ประการ  คือ
 
๑. สามารถวางแผนงานและแผนดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย
     และเป้าหมายที่วางไว้ และ
 
๒. สามารถมอบงานให้ผู้ร่วมงานในระดับที่ต่ำกว่าไปปฏิบัติแล้วควบคุม ดูแล
     และ ติดตามงานที่มอบหมายให้เกิดผลสำเร็จ
 
 
 
       ประเทศไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ และสังคมอยู่มาก  ไม่มีใครรู้แน่ว่าเมื่อไรจะหลุดพ้นจากภาวะนี้ได้ แม้จะพอมองเห็นได้จางๆแล้วก็ตาม แต่ที่แน่ๆก็คือ ปัญหาทางสังคมยังอยู่ และบานปลายออกไป สังคมเมืองจะขยายตัวออกไปเรื่อยๆ มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในเมือง มาหางานทำมากขึ้น ทำให้คนในสังคมเมืองต้องต่อสู่แข่งขัน ชิงดีชิงเด่น กันเพื่อให้มีงานทำมีเงินใช้จ่าย  ต้องอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ แต่ละคนมองเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม   
    
       วัตถุนิยมมีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่มากขึ้น สัมพันธภาพระหว่างบุคคลขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ที่จะได้รับ ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร ชีวิตคนในสังคมเมืองไม่มีความปลอกภัย ไม่มีความสุข จิตใจไม่สงบ โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้บริหารด้วยแล้ว ยิ่งต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆนานา เช่น ปัญหาการทำงาน ปัญหาเกี่ยวกับผู้ร่วมงาน ปัญหาเกี่ยวกับการบริหารเงิน เป็นต้น ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาใหญ่ แก้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันจบ ทำให้ผู้บริหารเกิดความเครียดสูง และความเครียดในระดับสูงนี้เอง เป็นตัวทำให้เกิดโรคขึ้นที่เราเรียกว่า โรคผู้บริหาร นั่นเอง
 
 
 
          การศึกษาวิจัยโรคนักบริหารได้ริเริ่มกันมานานแล้ว เป็นการศึกษาต่างเวลา สถานที่ สังคม วัฒนธรรม เชื้อชาติ และภาษา ที่ไดผลออกมาเหมือนกันว่าผู้บริหารมักเกิดโรคนักริหารได้ง่าย และผู้บริหารระดับสูงจะมีอาการของโรครุนแรงกว่าผู้บริหารระดับต่ำ โรคดังกล่าวมีทั้งที่มีอาการทางจิตใจ และที่มีอาการทางร่างกาย แต่มีสาเหตุใหญ่เกิดจากจิตใจทั้งนั้นครับ
 
         อาการทางจิต ได้แก่ รู้สึกไม่มีความสุข จิตใจไม่เบิกบาน นอนไม่หลับ คิดฟุ้งซ่าน วิตกกังวล หวาดกลัว ใจน้อย โกรธง่าย หวาดระแวง หันไปใช้สุราและสารเสพติดเพื่อลดความเครียด ดับความกลุ้มใจ มักเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถได้ง่าย เพราะจิตใจหมกมุ่นครุ่นคิดทำให้สมาธิขณะขับรถ บางรายนำความเครียดและอารมณ์เสียจากที่ทำงานมาระบายออกในครอบครัว ทำให้สมาชิกในครอบครัวไมมีความสุขไปด้วย
 
      ส่วนอาการทางกาย ที่มีสาเหตุจากจิตใจ ได้แก่ ปวดศรีษะอยู่เสมอ ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ ปวดหัวท้องเดิน  ท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนต้น ความรู้สึกทางเพศลดลง อวัยวะเพศท่านชายไม่ทำงาน ผมหงอกและร่วงง่าย แก่เร็ว และแก่ก่อนวัย ท่านคงไม่อยากจะเป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ 
 
       เมื่อไม่อยากจะพบกับสิ่งต่างเหล่านี้ ท่านที่จะเริ่มรับหน้าที่บริหารจึงต้องเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อป้องกันไว้ก่อน ทั้งต้องรู้วิธีบริหารงานเพื่อไม่ทำให้เกิดความเครียด และรู้จักขจัดความเครียดที่เกิดขึ้นให้หมดไป   
 
 
 
เตรียมตัวเตรียมใจเป็นผู้บริหาร  มีวิธีดังนี้ครับ
 
๑.      ต้องมีเวลาในการเตรียมตัว ยิ่งมีเวลาเตรียมตัวนานเท่าใดโอกาสพบความสำเร็จในการริหารงานจะเพิ่มมากเท่านั้น อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุขท่านหนึ่งบอกกับผมว่า ผู้บริหารจ้องมีเวลาเตรียมจัวไม่ต่ำกว่า ๓ ปี หากมีเวลานานกว่านั้นยิ่งดี เสมือนนกกีฬาที่มีเวลา ฟิตซ้อมมายาวนาน เมื่อลงแข่งขันก็จะพบชัยชนะได้ง่าย
 
๒.     เตรียมความรู้ด้านการบริหารให้เพียงพอ เพื่อให้เริ่มปฏิบัติงานได้ถูกต้อง และได้ผลสำเร็จตามต้องการ ดังคำกล่าวที่ว่า การเริ่มต้นที่ดีเสมือนมีความสำเร็จไปแล้วครึ่งหึ่ง ความรู้ในเรื่องนี้มีหลากหลาย ท่านสามารถหาได้จากสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์  การบรรยาย การอ๓ปราย การจัดอบรมทั้งของภาครัฐ และเอกชน รวมถึงการได้สนทนาไต่ถามผู้ผ่านงานด้านนี้มาแล้ว
 
๓.      ต้องทำความเข้าใจและยอมรับความจริงของการเป็นผู้บริหาร ว่าเป็นผู้มีความรับผิดชอบสูง ต้องมองเห็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และหาทางป้องกันไว้ก่อน ปัญหา อุปสรรคต่างๆมีให้ต้องแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ต้องพัฒนาความรู้อยู่เป็นนิจ ครั้นเมื่อได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันในการทำงานมากขึ้น ทั้งจากผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ซึ่งเกิดจากความแตกต่างในบุคลิกภาพและความคิดเห็น
 
๔.     เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อนเริ่มทำงาน ให้เป็นคนทันสมัย มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีพฤติกรรมของความเป็นผู้นำ มีอุดมการณ์ในการบริหารงาน สู่งาน  ไม่ย่อท้อ มีอารมณ์หนักแน่นมั่นคง ไม่อ่อนไหวง่าย ไม่วู่วาม รุนแรง หรือโกรธง่าย ควบคุมกิริยามารยาทได้ วางตัวได้เหมาะสมกับทุกคน สำหรับการตัดสินใจต้องมีความรอบคอบ พิจารณาบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
 
 
 
 
  บริหารงานดี ไม่มีเครียด มีหลายวิธีดังนี้ครับ
 
๑. มีความพึ่งพอใจในตำแหน่งหน้าที่และงานที่ปฏิบัติ ความพอใจทำให้เกิดความรัก ความภูมิใจ เกิดแรงบันดาลใจให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ
 
๒. เดินสายกลางในการใช้ระเบียบวินัยในการปฏิบัติงาน ไม่เคร่งครัด จริงจังหรือหย่อนยานจนเกินไป ทั้งกับตนเองและผู้ที่อยู่ในความดูแล
 
๓. มีจิตวิทยาในการควบคุมดูแลผู้ร่วมงานระดับต่ำกว่า ด้วยการสอนงาน ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลงานเป็นระยะๆ สร้างบรรยากาศเป็นกันเองในหน่วยงาน ให้เวลาและโอกาสที่เขาจะพัฒนาตนเองและแสดงความสามารถ ให้อภัย ตักเตือน ภาคทัณฑ์ หรือลงโทษตามสภาพความผิดที่มี
 
๔.   มีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ร่วมงาน ด้วยการมองว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นผู้มีเกียรติและศักดิ์ศรีเช่นเดียวกันกับตน มีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจ ชวนพูดคุย รับฟังปัญหาและคำปรึกษาด้วยความสนใจ และหาทางช่วยเหลือตามความเหมาะสม ไม่รับความดีจากผลงานเอาไว้กับตนเพียงผู้เดียว ต้องมอบให้ผู้ร่วมงานด้วย หากเกิดผลเสียจากงานก็กล้าที่จะยอมรับผิดและกล่าวคำขอโทษ
 
๕.  ทำงานเป็นทีม กระจายงานให้ทุกคนรับผิดชอบตามถนัด put the right man on the right job หมั่นสร้างความสามัคคี กลมเกลียวในทีมงานด้วยการทำงานอย่างโปร่งใส ไม่มีความลับต่อกัน ร่วมกันออกความคิดเห็นและการตัดสินใจ
 
 
 
 
 
วิธีจัดการความเครียดส่วนตน มีด้วยกันหลายวิธีครับ
 
 แต่ผมจะขอนำเสนอเพียงบางวิธี เป็นวิธีที่ผู้บริหารทุกท่าน ทุกระดับจะต้องยึดถือไว้เป็นหลักในการปฏิบัติ คือ
 
๑.  มองปัญหาในแง่ดีไว้ด้วย ไม่มองเฉพาะแต่แง่ร้ายเท่านั้น เช่น การเผชิญปัญหาจะทำให้มีประสบการณ์  มีความสมารถเพิ่มขึ้น การถูกต่อว่า ตำหนิ เท่ากับเป็นการให้รู้จักทบทวนการปฏิบัติงาน สำรวจตนเองว่ามีข้อบกพร่องหรือไม่ ไม่เหมาะสมอย่างไร
 
๒.  หาทางลดความโกรธตนเองหรือความโกรธแค้นผู้อื่น หากมีความโกรธตนเอง รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง หมดกำลังใจ อยากทำร้ายตนเองหรือมีความโกรธผู้ที่สร้างปัญหาหรือคิดไม่ดีต่อเรา อยากทำร้ายเขา ขอให้พิจารณาข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้น การไม่ยอมแพ้  ไม่ท้อถอย หาทางสร้างขวัญกำลังใจให้ตนเอง  จะทำให้รู้จักคิดสู้ และหาทางแก้ปัญหาต่อไปได้ การให้อภัย แผ่เมตตา จะช่วยลดความโกรธแค้นลงได้
 
๓.  ฝึกตนเองเพื่อทำจิตใจให้สงบ วิธีนิยมกันก็เช่น การสวดมนต์ ภาวนา หรือนั่งนิ่งสงบจิตต่อหน้าพระพุทธรูป หรือฝึกทำสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก(อนาปานัสสติ) หรือ ด้วยวิธีใดก็ตาม ควรเข้ารับการอบรมฝึกทำสมาธิโดยผู้รู้  จะทำให้ได้มีครูฝึกช่วยแนะนำให้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง ไม่หลงทาง จิตใจสงบได้ ความเครียดก็จะหนีหายไป
 
๔.  อย่าเอางานหรือปัญหาต่างๆที่เกิดจากงานมาที่บ้าน เพราะจะเป็นการเพิ่มความเครียด และยังจะทำให้ครอบครัวเครียดไปด้วย
 
๕. ไม่ควรทำงานต่อเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเครียดมาก ควรหยุดไว้ก่อนเปลี่ยนอิริยาบถ โดยอาจไปหาน้ำเย็นๆดื่มสักแก้ว หรือลุกออกไปเดินเล่น หาเพลงไพเราะฟัง หรือไม่ก็คุยกับผู้ร่วมงานที่ชอบสร้างอารมณ์ขัน ทำให้ได้หัวเราะ หากยังไม่หายเครียดหรือพบว่ายิ่งมีความเครียดเพิ่มขึ้น ควรใช้เวลาวันสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปี ชวนครอบครัวไปเปลี่ยนบรรยากาศทัศนาจร พักผ่อน หาความเพลินเพลินกับธรรมชาติที่พอใจ อาจเป็นชายทะเลหรือป่าเขาลำเนาไพร
 
 
 
 
      อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขท่านหนึ่งได้กล่าวไว้น่าฟังว่า
ในดีมีเสีย ในเสียมีดี "     งานบริหารแม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียมากด้วยเช่นกัน เพราะงานบริหารทำให้เกิดความเครียดสูง จนถึงทำให้เกิดโรคนักบิหารได้ ผมจึงขอให้ท่านผู้อ่านที่เป็นผู้บริหารหรือกำลังจะเป็นผู้บริหารได้พิจารณาบทความนี้ คิดว่าจะมีประโยชน์พอจะช่วยให้ท่านได้เตรียมป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ และไว้แก้ไขตัวท่านเอง  ถ้าเผอิญเจอกับโรคนี้เข้าให้แล้ว ก็ขอให้โชคดีนะครับ
 
 
ขอบคุณบทความ โรคนักบริหาร จากหนังสือ จิตเป็นเหตุ
 โดย น.พ.ชูทิตย์ ปานปรีชา จิตแพทย์ดีเด่นจากสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย         
 
 
 
 
ด้วยความปรารถนาดี  กานดา     แสนมณี
 
หมายเลขบันทึก: 456754เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2011 11:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 14:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

*ตามมาชมดอกอัญชันกลีบซ้อนและดอกไม้งามๆ..ช่วยให้อ่านแล้วไม่เครียดนะคะ..ถ้าบริหารงานด้วยใจ..ได้งานและได้ใจทีมงาน..งานจึงจะ "สำเร็จ"..ไม่ใช่สักแต่เพียง "เสร็จ"..นะคะ..

*ที่สวนบ้านพี่ใหญ่..ดอกอัญชันสีขาว ที่ น้องดา ให้เมล็ดพันธุ์ไป ออกดอกเป็นกลีบซ้อนเช่นกันค่ะ..

 

โชคดีที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร  โรคนี้เลยห่างไกลจากตัวมาก

ความเครียดไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไรเลย  ทำไมเราจะต้องให้มันเกาะติด

อยู่กับตัวเราเนาะ.......

สบายดีนะคะ คิดถึงเช่นกันค่ะ

  • สวัสดีครับ
  • เดี๋ยวโรคมันรุนแรงขนาดนี้เลยหรอครับ ฮ่าๆ ๆ
  • ถ้าผมเป็นลูกน้องแล้วเจอหัวหน้าแบบนี้สักสองคนคงต้องยิ้มสู้ครับ
  • ตอนนี้สุพรรณฯกำลังมีงานทิ้งกระจาดเลยครับ
  • อย่าเอางานหรือปัญหาต่างๆที่เกิดจากงานมาที่บ้าน : ข้อนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ เวลาที่บ้านควรใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่  บางทีลงทุนกับงาน แต่ลืมการลงทุนชีวิตระยะยาว อย่างออกกำลัง กินอาหารดีๆ เคยเป็นมาแล้วคะ เพิ่งคิดได้ว่ามันไม่คุ้ม :-)
  • ชื่นชมว่า ทำบล็อกได้น่าอ่านมากๆ เลยคะ

-สวัสดีครับพี่กานดา..

-สบายดีนะครับ...

-เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ".....สังคมเมืองจะขยายตัวออกไปเรื่อยๆ มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในเมือง มาหางานทำมากขึ้น ทำให้คนในสังคมเมืองต้องต่อสู่แข่งขัน ชิงดีชิงเด่น กันเพื่อให้มีงานทำมีเงินใช้จ่าย  ต้องอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ แต่ละคนมองเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม..." 

-อาทิตย์ก่อนไปทัวร์ ต.ป.ท. มา..ครับ 55555

-เก็บภาพมาฝาก...พี่ดาครับ.

   

ขอบคุณสำหรับดอกไม้โบราณเจ้าปี้ดา

เอามาฝาก ดอกไม้ที่บ้านป้า เจียงฮายเจ้า

คราวหน้าผมขอโรคของผู้ใต้บังคับบัญชาบ้างน่ะครับ พี่กานดา ฮ๋าๆๆๆ สวัสดีครับ

สวัสดีค่ะพี่กานดา

เรียกว่าผู้บริหารต้องบริหารตน คน งานและบริหารความเครียดเป็น เพื่อความผ่อนคลายทั้งกายและจิตนะค่ะพี่ดา

ขอบคุณสำหรับสาระความรู้ดีๆที่นำมาฝากค่ะ

สวัสดีค่ะ   Ico48    Ico48    Ico48    Ico48  

              Ico48    Ico48    Ico48     Ico48   Ico48

 

ขอบคุณมากนะคะ  ดอกไม้และกำลังใจที่มอบให้ บันทึก โรคนักบริหาร

                      

 

สวัสดีค่ะ  Ico48   Ico48  Ico48  Ico48  Ico48  Ico48  Ico48  Ico48

 

คุณพี่ใหญ่ อัญชันสวย ขอบคุณมากค่ะ นำให้ดาชมด้วย

              ค่ะบริหารด้วยใจ ตั้งใจ ใจเขา ใจเรา พอเพียงด้วย ถึงจะมีความอิ่มใจนะคะ

 

คุณพี่กีร์  ดาสบายดี ขอบคุณมากค่ะ ค่ะต้องไม่ให้ความเครียดมาเกาะใจและสมองนะคะ

 

น้องวศิน  ค่ะอีกไม่นานทำงานลองสังเกตดูว่า นักบริหารงานที่ทำอยู่มีอาการอย่างที่กล่าวบ้างหรือเปล่า กระซิบบอกให้คลิกมาอ่านที่บันทึกนี้ได้เลยค่ะ

 

คุณ CMUpal  ค่ะเหนื่อยแทนเลยค่ะหากทราบว่าใครหอบงาน และความเครียดกลับมาบ้านด้วย น่าเห็นใจด้วย  ค่ะมีดอกไม้แทรกบ้างจะได้สบายตา ขอบคุณมากค่ะ

 

น้องเพชรน้ำหนึ่ง   ค่ะเจ้าประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวมนี้แหละ หากต่อมามีปัญหายิ่งเครียดมากขึ้นอีก แล้วไปปตท.มา นำภาพล้อส้มมาฝากให้พี่ดาชมมีอะไรพิเศษในภาพหรือ ....อ๋อ...กลับไปดูดีๆใหม่ เป็นคนขายด้วยหรือ.......พี่ดาซื้อ ที่ติดกับฝรั่งนั่นคืออะไร?  พี่ดาสบายดี ขอบคุณค่ะ

 

น้องPoo  ดอกไม้ป่าสีแจ่ม สวยดีจัง ขอบคุณนะคะ

 

อ.สามารถ  โรคผู้ใต้บังคับบัญชา มีแน่นอน บางคนเครียดกว่านักบริหารอีกนะคะ

 

น้องอุ้ม ค่ะต้องวิสัยทัศน์ดี มองไกลคิดไกล ด้วยนะคะ

 

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท