ประทับใจ นครพนม...จนตัดสินใจที่อยากจะย้ายไปพักพิง


การเดินทางเริ่มต้น เมื่อภาระกิจส่วนตัวเสร็จสิ้น คือ จบลงที่ทานอาหารเพื่อสุขภาพที่บ้านสำหรับมื้อเช้า เพื่อว่าไปถึงที่หมาย คือ ม.นครพนม จะได้ไม่เป็นที่ยุ่งยากของเจ้าภาพ... วันที่เดินทางเป็นวันจันทร์ที่ 25 8 กันยายน 2551... ผู้จัดคะยั้นคะยอให้ไปพักก่อนหนึ่งวัน แต่ข้าพเจ้าพิจารณาแล้วว่า... เป็นการใช้เวลาที่สิ้นเปลือง และยุ่งยากต่อผู้จัด ที่จะต้องมาคอยดูแล และใช้จ่ายในการจ่ายอันไม่จำเป็นต้องจ่ายก็ได้... ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินหลวง... แต่นั่นแหละในสภาพที่ประเทศไทย ยังมีภาระหนี้สิ้นมากมาย.. สำหรับตัวเองซึ่งเป็น "ข้ารับใช้..." นี้ยิ่งต้องควรช่วยชาติประหยัด และทำประโยชน์ให้มาก

ดังนั้น ...

ข้าพเจ้าจึงสมัครใจที่จะขับรถจากยโสธร...ในเช้าของวันที่จะต้องไปบรรยาย ไม่ใช่ความประมาท แต่หากได้ผ่านการครุ่นคิดและพิจารณา และคำนึงถึงความเป็นไปได้... ที่จริงแล้วการเดินทางระหว่าง ยโสธร - นครพนม เป็นเส้นทางที่เคยมีประสบการณ์ แต่ล่าสุดก็ผ่านมาประมาณสามปี ด้วยระยะทางประมาณสองร้อยกว่ากิโลเมตร และการขับรถแบบสบายๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง... จึงไม่ใช่เรื่องที่ลำบากสำหรับข้าพเจ้าที่จะขับรถไปเอง เพราะจริตนิสัยเป็นคนชอบการเดินทางเป็นทุนเดิม ดังนั้น การเดินทางไปทำงานกึ่งเที่ยว กึ่งทำหน้าที่ลูกพาคุณแม่ไปเที่ยวพักผ่อนและเยี่ยมเยือนเพื่อนด้วย... จึงอยู่ในวิสัยที่ข้าพเจ้าทำได้

คนที่บ้านเรา...เดินทางตามเส้นทางนี้บ่อย แต่ไปสิ้นสุดเพียงแค่มุกดาหาร จากบ้านถึงมุกดาหารขับรถเพียงชั่วโมงเดียว เส้นทางการเดินทาง เป็นภูเขาไม่สูง ทิวทัศน์สองข้างทางร่มรื่น ถนนบางช่วงเป็นสี่เลนบางช่วงเป็นสองเลน... รถที่วิ่งสวนไปมาไม่เยอะ... หากว่าจะไปต่อถึงนครพนม ก็ไม่จัดว่าไกล เราต้องขับรถผ่าน อำเภอธาตุพนมก่อน... ถึงตัวจังหวัด ซึ่งจะเป็นถนนเรียบริมฝั่งโขง อากาศดี หมู่บ้านสองข้างทางก็เป็นหมู่บ้านเล็ก แต่ดูสงบเงียบ และที่สำคัญได้สัมผัสไอแห่งความชุ่มชื่นจากแม่น้ำโขง...

ในวันที่เดินทาง ข้าพเจ้าขับรถแบบไม่เร่งรีบ เพราะอยากให้คุณแม่ได้พักผ่อนไปด้วย ท่านเกษียณราชการมาสามปีแล้ว และยังแข็งแรง... ชอบเดินทางท่องเที่ยว พักหลังข้าพเจ้าไม่ค่อยได้ร่วมเดินทางไปเที่ยวกับท่านบ่อยนัก ครั้งนี้ไปทำงานที่ไม่ไกลบ้าน จึงถือโอกาสชวนคุณแม่ไปด้วย ท่านมีเพื่อนเก่า...อยู่ที่นั่น จึงนัดหมาย...เพื่อไปส่งคุณแม่ที่บ้านของน้าดอกบัว แต่น้าดอกบัวก็อาสามารับคุณแม่ที่คณะพยาบาล... แล้วปล่อยให้ข้าพเจ้าทำงานตามสบายอย่างไม่ต้องกังวล พอเสร็จงานก็ไปรับท่าน แล้วเราก็เดินทางกลับ...

อาจเนื่องด้วยข้าพเจ้าอายุมากขึ้น การขับรถช้าลง ... แต่นั่นทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตสองข้างทาง อย่างเต็มที่ แม่ทำหน้าที่เป็น navigator ให้ด้วย แม้ว่าในรถจะมีเครื่องนำทาง แต่ก็ต้องปิดเพราะเราออกเส้นทางนิดเดียว โปรแกรมก็จะบ่นอยู่นั่นแหละว่าเราเลี้ยวผิด... สู้ให้แม่เป็น navigator ดูท่าจะ work กว่า...เพราะแม่ไม่บ่น..

เมื่อเราขับรถเข้าตัวเมือง.. ก็ไปตามถนนเรียบฝั่งโขง ความเงียบสงบก็ยังคงบรรยากาศไว้เฉกเช่นเดิม ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง เป็นเมืองเล็กๆ ของลาว มีเทือกเขาหินปูนสวยคล้ายแถววังเวียง... รถวิ่งไม่เยอะในตัวเมือง... จวนผู้ว่าทรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของเมือง... น่าดูชมยิ่งนัก

ในตอนขากลับ...

ข้าพเจ้าเห็นคนออกมาวิ่ง และปั่นจักรยานสองข้างทางไปจนถึง อ.ธาตุพนม เยอะมาก.. เป็นที่น่าสังเกตว่าคนทีนี่นิยมออกกำลังกลางแจ้งพอสมควร

การมาเยือนนครพนมครานี้ ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจ ข้าพเจ้าชอบเมืองเล็กๆ ที่ไม่วุ่นวาย ... นครพนมน่าจะเป็นอีกเมืองที่น่าอยู่ได้ ... จึงเกริ่นๆ กับแม่ว่า หากว่าใช้ทุนทางโรงพยาบาลยโสธรหมด มาอยู่นครพนมดีไหม... ท่านหัวเราะ ท่านว่า ... อยู่บ้านเราดีกว่าลูก..

ยโสธร...ดูวุ่นวายเนื่องด้วยมีรถวิ่งเยอะ แต่ว่า...ก็เป็นเมืองเล็กๆ ที่ข้าพเจ้าก็อยู่ได้ ปั่นจักรยานไปนั่นนี่ได้ สักวันหากต้องโยกย้ายไปไหน... ที่อีกแห่งหนึ่งที่จะให้โอกาสตนเองพิจารณา คือ นครพนม...

ภาพถ่ายที่ถนนเรียบริมฝั่งโขง หน้าสถานีตำรวจ

มองไปฝั่งตรงข้ามเป็นฝั่งลาว

(เสียดายว่าไม่ได้นำกล้องตัวใหญ่ไปด้วย)

ภูเขาที่มองเห็นอยู่นั้นอยู่ฝั่งลาว คล้ายที่วังเวียง... ยิ่งหากยืนดูที่ริมฝั่งน้ำยิ่งงามตามาก

 

-----------------------------------

 

คำสำคัญ (Tags): #นครพนม
หมายเลขบันทึก: 207310เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2008 22:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

ขนาดนั้นเลยนะครับ แต่ก็สวยจริงๆครับ บรรยากาศก็ดีมากๆ

ค่ะน้องเอ๊ะ...พี่เคยไปตอนเช้าๆ นะคะ นานมากแล้ว... ยามเช้านี้งามมากนะในความรู้สึกของพี่...ยิ่งตอนพระอาทิตย์ขึ้น...

หน้าหนาวนี่ท่าจะสวยเพราะเพื่อนบอกว่ามีหมอกมาคลอเคลียกับแสงตะวันด้วย

(^___^)

จะหาโอกาสไปอีกแบบสบายๆ..เที่ยวอย่างเดียว

เคยไปรับราชการที่อำเภอธาตุพนม เมื่อนานมาแล้ว ประทับใจมากค่ะ อ่านบันทึกของดร.กะปุ่มแล้ว ทำให้นึกถึงภาพบรรยากาศเก่า ๆ กับเพื่อนพ้องและสถานที่ที่คุ้นเคย ทำให้รู้สึกสดชื่น สนุกสนาน มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

กะปุ๋มว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อีกเมืองหนึ่งนะคะ...ประเทศไทยเรามีสิ่งดีดีมากมาย เพียงเราลืมตาใจของเรา เราก็จะมองเห็นความงดงามนั้นมากมายเลยค่ะ...

พี่อินทิรา..คงมีภาพประทับใจ ต่อเมืองที่ร่มเย็นนี้มากมายเลยค่ะ...เห็นความสุขในความทรงจำที่ซ่อนอยู่ในภาษาของพี่ค่ะ...

(^___^)

สวัสดีจ้า ดร.กะปุ๋ม จ๋า

ม.นครพนมสวย  เมืองก็สวย คนก็รวยน้ำใจเนาะ  / อยากไปอยุ่เหมือนกันจ้ะ  อิอิ แต่พี่คงไร้วาสนา  เพราะตอนนี้ติดสัญญา ของ สกอ.แล้ว ต้องทำงานให้ DSS @MSU อีกอย่างน้อย 2 ปีจ้ะ

ว่าแต่ว่า...เห็นดรงกะปุ๋มบอกว่า......วันที่เดินทางเป็นวันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2551... อันนี้  ผิดเดือนป่าวจ้ะน้องสาว

5555...

อาการง่วงนอนน่ะค่ะ พี่หนิงจ๋า...ขอปรับแก้ก่อนนะคะ...ฮา(^___^)

เรียบร้อยแล้วค่ะ...พี่หนิงที่รัก... โก๊ะอีกแล้วน้องสาวพี่..ฮา

มีรุ่นพี่อินถวาหลายคนเหมือนกันนะคะที่อยู่ ม.นครพนม เพื่อนรุ่นกะปุ๋มก็สองคน..และอยู่คณะเกษตรอีกหนึ่ง... ไม่ไกลยโสธรด้วย ขับรถสะดวก ...

กำลังๆ ดูพื้นที่จะพักพิงตอนเกษียณค่ะ... 555 อีกสี่ปีอาจจะเกษียณราชการค่ะ...(ความฝันหากคุณแม่ยินยอม)

โห หลงไหลเลยหรอครับ

นั่นบ้านครูโย่งเลยนะครับ

อย่างว่าแหละ

จังหวัดนี้ เป็นจังหวัดที่น่าอยู่

คนแถวนั้น

หน้าตาดีทั้งนั้นเลยครับ

ฮ่าๆๆ

555 หลับตาไม่ลงเลยค่ะ...กำลังจะชะแว้ปไปนอน...ชำเลืองมาเจอความเห็นสุดท้ายของครูโย่ง...ฮา..

ค่ะ หน้าตาดี...ค่ะ..หน้าตาดี...

ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

(^___^)

  • เคยเป็นไปนกขมิ้นทัวร์จาก มหาสารคาม ไปนอนบ้านญาติที่สกลนคร และต่อไปงานแต่งงานเพื่อนที่นครพนม ท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ ไปกราบพระธาตุพนม ชมสาวเรณู และพักค้างคืนที่มุกดาหาร ก่อนเดินทางท่องเที่ยวมาเรื่อย ๆ จนถึงมหาสารคาม เป็นการทัวร์ขับรถไปเองตามป้าย จำไม่ได้เหมือนกันว่าไปตามเส้นทางใดบ้าง เป็นอีกความทรงจำหนึ่งที่ตื่นเต้นสนุกดีไม่น้อยครับ
  • จากประโยคที่ว่า ... สักวันหากต้องโยกย้ายไปไหน... ที่อีกแห่งหนึ่งที่จะให้โอกาสตนเองพิจารณา คือ นครพนม...อยากทราบว่า มหาสารคามอยู่ใน List อันดับที่เท่าไหร่ครับ
  • มหาสารคาม ตักศิลานคร เป็นเมืองการศึกษา ที่น่าอยู่ไม่น้อยนะครับ
  • การสอนหนังสือก็เป็นหน้าที่ที่มีความหมายไม่น้อย ที่สำคัญได้มีโอกาสสร้างลูกศิษย์ลูกหา ปั้นตัวตายตัวแทนของเรา และมีโอกาสช่วยชี้แนะให้ลูกศิษย์ลูกหาหันมามองหรือเดินบนทางธรรมได้ คือ เดินตามทางพระโพธิสัตว์ประมาณนั้นครับ

ดร.กะปุ๋มจ๋า

ไผหนอไปอยุ่ ม.นครพนมก่อนเรา  อิอิ ยังไงต้องรีบไปออกดอกแตกช่ออินถวานะเนี่ย...  เนอะๆ

เอ๊ะ..อ๋อ..จากวพบ.นครพนมใช่ป่าว

โห...ของกะปุ๋มอีก 4 ปีเองหรอ  พี่ยังใช้หนี้ไม่หมดเลยนะกะปู๋ม  ของพี่ให้อีก 10 ปีอ่ะค่ะ ผ่อนบ้านหมดพอดี  อิอิ บังเอิญเพิ่งซื้ออ่ะค่ะ ผ่อนไป 2 งวดเองเนี่ย..

โห... ชมรมคนหน้าตาดี... แวะมาเยือนสองท่านแล้ว...ฮา!

กะปุ๋มเคยอยู่มหาสารคามสี่ปี ค่ะ จบจากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคามค่ะ... เป็นลูกหลานศิษย์เก่าเมืองตักศิลาค่ะ

จะขอฝากข้อคิดของ เด็กข้างบ้าน (ธรรมดา)~natadee 
ไว้พิจารณา..เพื่อให้โอกาสตนเองอีกสักโอกาสนะคะ...

(^___^)

 

น้าน...พี่สาวเรา...

กำลังจะไปนอน ด้วยแรงคิดถึง...พี่หนิง กระชากแขน..โอ๊ะอ๋คุยกับพี่ก่อน...

มีพี่รุ่นสาม รุ่นเจ็ด และรุ่นสิบ (เพื่อนกะปุ๋ม)...เท่าที่ทราบนะคะ... ไปเยือนที่นั่น ทำให้คิดถึงสถาบันเดิมค่ะพี่หนิงขา ได้รำลึกความหลังกับเพื่อนๆ... ปรารถนาอยากให้น้องๆ..ที่เข้ามาเรียนมีความสุข รัก และภูมิใจในวิชาชีพเดียวกันกับแม่ฟ้าหลวงของเราค่ะ

สวัสดีค่ะพี่Ka-Poom

  • บ้านเกิดหนูเองค่ะนครพนม 
  • เรียนถึง ม.3  พี่ก็ย้ายไปอยู่ที่อำนาจเจริญเมื่อก่อนเป็นจังหวัดอุบล
  • แต่ส่วนใหญ่ญาติพี่น้องอยู่นครพนมกันหมด  
  • อยู่ที่ค่ายพระยอดค่ะ
  • นครพนมก็เป็นจังหวัดที่...พนัสอยากไปอยู่เช่นเดียวกันค่ะ
  • สาวสวย....ก็เป็นสาวนครพนมนี่แหละค่ะ  อิอิอิ
  • สบายดีนะค่ะ
  • ระลึกถึงเสมอค่ะ

 

ขอบคุณนะคะ เด็กข้างบ้าน (ธรรมดา)~natadee  ที่แอบมกระซิบแบบดังๆ... ฮา... กะปุ๋มขออนุญาตลบเสียงกะซิบออกตามความปรารถนาของเด็กข้างบ้านนะคะ แหม..แต่จริงๆ แล้วไม่ชอบลบคอมเมนต์เลยค่ะ...(^__^) ....

 danthai สาวนครพนมสวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ผิวพรรณดี พูดเพราะ... ถึงว่าคุณแผ่นดินถึงได้หลงใหลนครพนมยิ่งนัก... สักวันเราคงได้มีโอกาสไปร่วมทำกิจกรรมดีดีที่นครพนมนะคะ สาวนครพนม

อึ๋ยย...รุ่น 3 ก็เพื่อนพี่สิคะ 

แต่เอ๊...รุ่นพี่ไม่มีทุนนครพนมนะจ๊ะดร.กะปุ๋ม  ทุนกองงานวิทยาลัยพยาบาล  ก็มีแค่ 3 คน  อยู่ วศม.และลาออกไปแล้ว 2 คน...เหลือแค่คนเดียวที่อยู่ วศม.เหมือนเดิม

เอ๊ะ...หรือทุนที่อื่น  แล้วย้ายเข้าไปตอนเป็นม.นครพนม

อืม...ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะพี่หนิง...

พักหลังๆ กะปุ๋มได้เจอรุ่นพี่ รุ่นน้อง..อินถวา เยอะมากเลยค่ะ เป็นความมหัศจรรย์ของ G2K นะคะ ที่นำพามาให้ได้เจอพี่น้อง...

ที่ ม.นครพนม เราคุยกันเพื่อเรียนพลังคนทำงานกลับคืนมา... เป็นดังเฉกเช่นแม่ฟ้าหลวง...ครูต้นแบบทางการพยาบาลของพวกเราค่ะ

พี่หนิงก็เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ทำและดำรงตนเพื่อสังคมและโลกนี้นะคะ...

(^___^)

ผมคนนึงครับคนนครพนมอยู่ อ.ท่าอุเทน บ้านหนองเทา นี่เองครับ แถวเขตบ้านผมไปดูเลยคับหนุ่มสาวหน้าตาดีทั้งนั้นครับหนุ่มน้อยสาวน้อย หน้าตาดีมาก ง่ะน่ารักทั้งนั้นไม่ได้โม้ครับ รักนครพนมมาก ท่าอุเทนน่าอยู่ เว้าม่วน สาวงามหนุ่มหล่อ ก๋วยเตี๋ยวอร่อยส้มตำหวานปาก ใครยังไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวนครพนมแปลว่ายังไม่ถึงนคร เด้อครัรบ

ดีใจจังที่เจอะเจอ คนนครพนมที่นี่ ตามหาคนค่ะ เพื่อนกัน จากกันมาก ตั้งแต่เรียนจบจาก เทคนิคเปรมฤทัย ที่กรุงเทพ เค้าชื่อ นิด ชื่อจริง ชื่อ นิตยา เกลี้ยงเกลา แต่เปลี่ยน นามสกุลไปแล้วอ่ะ เลยตามหาไม่เจอ ลักษณะ ขาว ขาว สูง หน้าตาน่ารัก อายุ ตอนนี้ ก้อ 37 ปี มีแฟนชื่อ พี่ โบว์ หน้าตาคล้าย คนใต้ ใครเจอโทรหาทีนะคะ

0810390401

ขอบคุณค่ะที่ชอบนครพนม ชาวนครพนมยินดีต้อนรับ ทุกคนนะค่ะ อยากให้ทุกคนเปิดโอกาสให้ ม.นครพนม ด้วย และช่วยเป็นกำลังใจ ม.นครพนม เล็กๆ แบบเราด้วยนะค่ะ

 

ขอบคุณทุกท่านนะคะ...ที่มาร่วมแจมด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท