การไหลเลื่อนของ "ดวงจิต"


"จิต" ของเราจดจ่ออยู่ที่เรื่องใด ==> การไหลของ "จิต" ก็จะไหลวนเวียนอยู่เฉพาะเรื่องนั้น

บางสภาวะ หรือบางคนอาจใช้คำว่า "จดจ่อ", หมกหมุ่น, จมจ่ออยู่กับเรื่องนั้นๆ มันเหมือนสภาวะเหนี่ยวนำและดึงดูด จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่เรานั้น ยากที่จะนำพาตนเองออกจากเรื่องบางเรื่อง หรือสภาวะบางสภาวะได้ เพราะ "จิต" มันไหลวนอยู่ในเรื่องเดิมๆ...

เปรียบเสมือน...

มีที่ที่หนึ่งที่มีน้ำขังอยู่...การไหลของน้ำยากที่จะไหลเลื่อนไปได้ ก็จะไหลวนอยู่ในบริเวณที่น้ำนั้นขังอยู่ จะต่างกับการปล่อยให้การไหลนั้น ไหลไปได้อย่างเป็น "อิสระ"

การไหลอย่างเป็นอิสระ... คือ อะไร?

คือการปล่อยให้การไหลไปได้ตามพื้นที่ว่างทุกที่ที่ "น้ำ" นี้จะไหลไปได้ ธรรมชาติของการไหลของน้ำ จะเป็นการไหลที่สามารถเนียนไปได้ทุกๆ พื้นที่ที่เป็นที่ว่างที่น้ำนี้จะไหลไปได้

การกักหรือจำกัดการไหลของน้ำ... ก็เปรียบเสมือนการกักขังการไหลของ "จิต"

ให้หยุดอยู่ที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง...หากเป็นเรื่องที่ดีโอกาสเกิดสภาวะเน่าก็จะเกิดช้า หากเป็นเรื่องลบหรือเรื่องไม่ดี สภาวะความเน่าก็จะเกิดเร็ว

สำหรับเรื่องดีการกักไว้ชั่งระยะหนึ่ง...ก็เหมือนเราให้โอกาสเราตรึกตรองอยู่ในสภาวะนั้น แต่ถ้าปล่อยนานเกิน การกัก "จิต" ให้อยู่ในเรื่องนั้นก็จะทำให้เราก้าวไม่ออกหรือปัญญาไม่เกิด ... หรือคิดไม่ออกจากเรื่องนั้นๆ...

ถอดบทเรียนที่ได้เรียนรู้ทางปัญญา 

๓ พฤษภาคม ๒๕๕๒

 ------------------------------------------------------

 

Cogtech2

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 259045เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2009 20:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)
  • แวะมาเยี่ยม และอ่านบันทึกดีๆ มีคุณค่าค่ะ

ไม่ว่าจะไหลเลื่อนไป ณ ที่ไหนแห่งหนใด

หรือไม่ยอมไปไหนจิตจับจดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเนิ่นนาน

ผมเรียกว่าการตามดูจิตหรือการใช้จิตดูจิต

ให้รู้ทุกขณะจิตว่าไหลไป หรือกำลังนิ่งเป็นสมาธิอยู่กับที่

เรียกว่าตามดูให้รู้อยู่ตลอดเวลา

การไหลไม่ไหล... หากเราได้รู้ และได้ดู...นั่นน่ะดียิ่งค่ะ

...แต่...

ไหลหรือไม่ไหล...และไม่ได้ดู และไม่รู้นี่สิ

ถูกนำไปเก็บไว้...ใน "มนัสวิญญาณ หรือ อาลัยวิญญาณแล้วเรียบร้อย"..รอแต่สภาวะการฟุ้งขึ้นมาเท่านั้นเอง...

 

สวัสดีค่ะ...พี่Bright Lily

ขอบพระคุณค่ะ...ที่แวะมาทักทาย

(^__^)

แวะมาอ่านบันทึกดีดีค่ะ..

ยินดีค่ะ...คุณ add  ขอบคุณค่ะ :)

อ่านหนังสือธรรมะพอสมควร แต่ปฏิบัติไม่ได้สักที

แต่มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ครอบครัวอบอุ่น อ่านแล้วรู้สึกโล่งยังไงบอกไม่ถูก ดีมากๆ

เหมือนแสงสว่างวาบมาในเวลาที่เรารู้สึกว่าทุกข์มากมาย มันเหมือนเราเข้าใจ

สวัสดีค่ะ

***แวะมาบอกว่าชอบบันทึกนี้ค่ะ

***ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณมากครับ

เปรียบเทียบได้ชัดเจนดีครับ

ทราบแต่ว่า จิตรที่นิ่ง จะ เป็น เอกัคคตา (เอก+อัคค/อัคคี+ต)

เอก=หนึ่ง
อัคค/อัคคี=ปลายเรียวแหลม (หมายถึงไฟ)
ต=แล้ว   เช่น ช (เกิด)+ต(แล้ว)=ชาต (เกิดแล้ว)

เอกัคคตา=(จิตร อันเปรียบดังไฟ) อันมีปลายเรียวแหลมเป็นหนึ่งเดียว

พระท่านว่า จิตรนี้เหมือนแสง (ที่ซัดส่าย ฟุ้ง กระจายอยู่)  หากเอาเลนส์นูนมารวมแสง (คือการทำจิตรให้นิ่งเป็นสมาธิ) จิตรจะเหมือนแสงเแสงเลเซอร์ที่มีปลายเรียวแหลมซึ่งทรงอานุภาพ ทะลุทะลวงอวิชชา ทำให้เกิดปัญญา

แต่จิตร ก็เหมือน น้ำด้วย นั่นคือมักจะไหลลงสู่ที่ต่ำ (ตามอำนาจแห่งแรง G หรือ แรงโน้มถ่วงของโลก) แรง G ไม่ได้ย่อมาจาก Gravity หากแต่ย่อมาจาก Girate (กิเลส)

ขอบคุณทุกท่านค่ะ ;

Zen_pics_007

Engaged Buddhism : หนังสือเล่มสำคัญที่ต้องอ่าน

หลายๆ คนคิดว่า...การแตกฉานและตีความในพระคัมภีร์ คือ สุดยอดของการได้เกิด แต่หารู้ไม่ว่า หนังสือเล่มใหญ่ที่เราต้องอ่านและสำคัญมากของการเกิดมา คือ หนังสือที่มีชื่อว่า "ชีวิตของเราเอง" ... ทุกๆ ขณะจิตที่เราต้องเรียนรู้การแสดง ... ตัวละครอันเป็นตัวเอก คือ ตัวเราเองนั้นเป็นผู้แสดง และเจ้าตัวนี้แสดงออกมาเช่นไร ความรู้สึก นึกคิด ที่สะท้อนออกมาจากจิตใจนั้น แสดงถึงการโหยหาเป้าหมายอะไรในชีวิต...

หัวใจสำคัญของการอ่านหนังสือเล่มนี้...อันเป็นเคล็ดลับสุดยอดคือ จะต้องมีสมาธิในการอ่าน เพราะหากไม่มีสมาธิในการอ่านแล้วจะไม่สามารถอ่านเข้าใจได้เลย...ส่วนพระคัมภีร์จะเป็นเพียง ตัว reference การอ่านหนังสือเล่มสำคัญนี้สำหรับเรา...

โดย Ka-Poom   อนุทิน   ลิงก์ถาวร: 37145   [ แก้ไข : ลบ ]  
สร้าง: อา. 03 พฤษภาคม 2552 @ 09:14   แก้ไข: อา. 03 พฤษภาคม 2552 @ 09:16   ขนาด: 1969 ไบต์

การ "ปล่อย" "จิต" ให้เกิดการไหลเลื่อนได้อย่างเป็น "อิสระ"...

ทำให้ตัวเราเกิดสภาวะที่ "เบา" และ "สบาย" นะครับ...

ขอบคุณครับผม...

ค่ะคุณ Mr.Direct ...ไหลเลื่อนอย่างเป็นอิสระ

และเรานั้นเป็นผู้เฝ้าดูการไหลเลื่อนนั้น...เป็นสภาวะแห่งความอิสระอยู่บนอิสระอีกครั้งหนึ่ง...

แต่ไม่พึงกักขัง...หรือเลี่ยงการกักขังไม่ได้ ...ก็ขอให้เป็นการกักขังแบบไม่กักขัง...

หากแต่ปล่อยดำเนินไปตาม "ธรรมชาติ"

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

อ๋อ หมกหมุ่น จิตไหลแบบนี้นี่เอง

คุณ กอก้าน>>>ก้านกอ*:)*(แก๊งค์ก้านคอพับ)

อืม...นี่เป็นเพียงอีกหนึ่งสภาวะค่ะ...

"จิต"...เป็นเรื่องที่ละเอียดค่ะ...ยังต้องเรียนรู้ไปค่ะ

Zen_pics_007

การกักขังจิต..ไม่ก่อให้เกิดปัญญา...การซัดส่ายไปมาก็ฟุ้งซ่าน...

การตามดูจิตอย่างพอดีคงดีนะคะ...ขอบคุณค่ะอาจารย์....

สวัสดีค่ะ...คุณ nussa-udon

"การกักขังแห่งดวงจิต"... คือ หน้าที่ที่เราเกิดมาเพื่อปลดปล่อยดวงจิตนี้ออกจากที่คุมขังนี้

ขอบคุณนะคะที่แวะมาร่วมพูดคุย :)

 

 

สวัสดีค่ะ

  • อ่านผ่านสายตาไปนานแล้วค่ะ
  • วันนี้อ่านอีก ๒ เที่ยว
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ ครูคิม

เมื่อเช้าแม้ฟ้าจะมืดครึ้มแต่กะปุ๋มก็ได้ออกไปปั่นจักรยานค่ะ ... และได้จอดรถเพื่อวิ่งอีกรอบใหญ่ๆ... เสียงนกทักทายกันด้วย สังเกตว่านกตัวเล็กๆ นี้ส่งเสียงดังมากกว่านกตัวใหญ่...และแถมด้วยการได้ไปเดินตลาดได้ผักบุ้งมามัดใหญ่เลยค่ะ...

 

เวลาที่เราอ่าน...พึงน้อมกลับเข้ามาสู่ "ตัวเรา" ลองเทียบเคียงภายในเราค่ะ จะทำให้เราเข้าใจได้ยิ่งขึ้น

เวลาที่เราอ่าน เรามักมุ่งอ่านเพื่อเอาความ แต่ลองเปลี่ยนน้อมกลับมาสู่การอ่านภายในตัวเราดูบ้างนะคะ

ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักยามเช้าๆ เช่นนี้... :)

สวัสดีค่ะพี่ Ka-Poom
ตามมาดูการไหลเลื่อนของจิตค่ะ ขอบคุณค่ะ ^_^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท