"ปล่อยให้มันไหลเรื่อยไปดั่งกระแสน้ำ"
"ปล่อยให้เป็นไปดั่งธรรมชาติ"... ==> บทเรียนจากพระอาจารย์ผู้เป็นครูดั่งกัลยาณมิตร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทุกอย่างมันมีที่จบและมีจุดเริ่มต้น ความที่มันผ่านมาแล้วคือ มันจบแล้ว
แต่กิเลสอันหมายถึงรัก โลภ โกรธ และหลงอันเป็นหมวดแห่งหัวหน้ามันมาใช้ขันธ์เรา มันมันชวนให้เราคิด จำ ระลึก เสพอารมณ์นั้นไปเรื่อย
ภายนอกที่เห็นและเป็นไป
ภายในอาจเห็นหรือไม่...ก็เป็นไป
สองอย่างนี้เป็นไป...เช่นนั้นเอง
คนมีสติ ทำการณ์ภายนอกได้อย่างรู้เรื่องและเข้าใจ
คนไร้สติจะไม่รู้ว่าอะไรเป็น "เหตุ" ให้ทำ ให้ผลัก และเป็นไป อีกทั้ง "สติ" ก็ปราศจากกำลังที่จะรู้ได้โดยเนื้อในว่า "ภายใน" กำลังเกิดสภาวะอะไร
อาการมันเป็นอย่างไร?
อาการมันมัวซัว เป็นเหมือนมีฝุ่นหรือคราบอะไรบางอย่างเกาะไว้อย่างหนาและเหนียวแน่น
แต่เรายังไม่รู้วิธีเช็ดมันออก เพราะเราไม่รู้เหตุแห่งอาการนั้น...ชัด
มันมีอาการเบื่อหน่ายแทรกซึมมาด้วย แต่ไม่ใช่ความเบื่อด้วยความชัง และไม่ใช่เบื่อด้วยความชอบ ไม่ใช่เบื่อด้วยการอยากผลักไส แต่...เป็นสภาวะวางและนั่งดูของบางสิ่งบางอย่างและนึกได้ว่ามันก็เท่านั้นเอง...
ตอนนั้นเราเชื่อสิ่งนี้มากกว่าสิ่งนั้น
ตอนนี้เราเชื่อสิ่งนั้นมากกว่าสิ่งนี้
ทุกสรรพสิ่งคืออันเดียวกันแต่ใจเรานี้แหละมองให้เห็นต่างกัน..
ธรรมะยามเช้าขอรับอาจารย์
นมัสการค่ะ...ท่าน ธรรมฐิต
มาอ่านธรรมะยามเช้าค่ะพี่กะปุ๋ม
ทุกสิ่งอยู่ที่ใจจริงๆ นะคะ เหมือนปลงๆ ยังไงไม่รู้ค่ะ :)
สวัสดี ครับ คุณkapoom
เป็นความสุข ..ที่มิอาจปฏิเสธได้
ธรรมที่ไหลไป...
ขอบคุณ คุณ kapoom
ที่มีบันทึก ดี ดี มาให้อ่าน สม่ำเสมอ
บันทึกที่มีธรรม ...ศาลาก็จะคับแคบ
สรุปธรรมบทนี้คือ "อนัตตา" ครับ
สวัสดีครับ
ดังที่พ่อแม่ครูอาจารย์สอนว่า
เรียนธรรมคู้ จากของคู่ เช่น สุข ทุกข์
เพื่อให้รู้ธรรมหนึ่ง คือ นิพพาน
สาธุครับ
ขอบคุณค่ะ คุณ แสงแห่งความดี ทุกอย่างนั้นคือ ความงดงาม และแต่การแตกดับก็งดงามเช่นกัน
ขอบคุณนะคะคุณ ธีรเดช รัตนากร ที่มาเติมต่อ...และที่สุดแล้วบันทึกที่เขียนนี้อาจไม่ได้หมายถึงอะไรเลยก็ได้ค่ะ :)
ขอบคุณคุณ Phornphon ... คำสอนและเรื่องราวที่บอกกล่าวมานั้น เป็นสิ่งที่มีคุณค่า..เสมอนะคะ
กลับมาอ่าน และทำความเข้าใจหลายรอบ ทุกสิ่งเกิดขึ้น มีอยู่ ดับไป ทำอย่างไรหนอ จึงจะฝึกให้สภาวะแห่ง การรู้ดำรงอยู่ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อมิให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาวะแห่งคนไร้สติ อันล่องลอยไปอย่างไร้ทิศทาง ขอบคุณที่บอกเล่า ให้ย้อนกลับสู่การดูจิตของตนเองเป็นระยะ เพื่อการดำเนินชีวิตที่ไม่ไหลเอื่อยลงสู่ด้านล่างอยู่เสมอ ดั่งกระแสน้ำ ด้วยดวงจิตคารวะ ค่ะ พี่นก