http://gotoknow.org/blog/kapoommind/37995
บันทึก...ที่ข้าพเจ้าทำ link ไว้นั้น...
http://gotoknow.org/blog/kapoommind/37995
ยังเห็นความเห็นของคนที่เข้ามาถ่ายทอดความทุกข์ ประสบการณ์ชีวิต และเรื่องราวในอดีต ... ข้าพเจ้าได้เกิดคำถามต่อเองว่า
ทำให้ข้าพเจ้าได้ใคร่ครวญ ต่อสภาวะที่ดูเหมือนเป็นแบบจำลองแห่งเรื่องราวชีวิตอันเป็นเรื่องสมมติที่เราได้เกิดมา ...
หลายๆ ครั้งหลายครา ที่ได้เรียนรู้เรื่องราวนี้ผ่านลมหายใจของตัว เป็นเรื่องที่ตนเองได้เข้าไปอยู่วงในเสมือนตัวแสดง และการแสดงแต่ละครั้งบทบาทก็แตกต่างกัน ...
ชีวิตคู่ หรือชีวิตครอบครัว เป็นเรื่องที่คนเรานั้นไม่ควรทำเล่น ... การได้แต่งงาน การได้เป็นครอบครัว ถือว่าเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ เสียสละที่จะเข้าไปสู่การเรียนรู้ในชีวิตของคนอีกคนหนึ่ง เรียนรู้ในเรื่องการใช้ชีวิต เรียนรู้ที่จะให้โอกาสแก่ชีวิตอีกชีวิต หรือหลายๆ ชีวิตที่จะเกิดมา...
ดังนั้น คนสองคน ...
ที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน จึงไม่เพียงแค่ถูกต้องตาใจเท่านั้น
ไม่เพียงแค่ว่ามีองค์ประกอบที่ครองคู่กัน
แต่...ต้องประกอบด้วย..ปัญญา ในการพิจารณาครอบครัวว่าจะดำเนินชีวิตเคียงคู่กันไปเช่นไร
ทุกครา...
ที่เห็นความเกี่ยวเนื่องของครอบครัวที่ยุ่งเหยิง ทำให้รู้สึกสะท้อนใจยิ่งนัก ... มีครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้ผ่านเส้นทางเรื่องราวนี้ ... ที่เริ่มมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น ความวุ่นวาย... และความโสมนแห่งความเศร้าตรมของคน...คนที่อยู่หน้าฉากแห่งการเป็นผู้มีการศึกษา แต่ต้องพ่ายแพ้ต่อความทุกข์ ...ความทุกข์ที่บีบคั้นให้ตนเอง กระทำการอันเป็นการผิดศีลธรรม...อันดีงาม
การมีครอบครัว...และการละทิ้งครอบครัว นั้นคือ ความล้มเหลว อันยิ่งใหญ่ของการเรียนรู้เรื่องความเป็นมนุษย์ เป็นการละทิ้งหน้าที่ที่ได้ตัดสินใจเสียสละ...ไม่มีเหตุผลใดใด ที่จะเลิศหล้าหรือประเสริฐไปกว่า ...ศีลธรรม
ศีลธรรม...จะเป็นเครื่องมือหรือเป็นรั้วอันเป็นเกราะกำบังให้ผู้คนที่มาใช้ชีวิตร่วมกันที่เราเรียกว่า "ครอบครัว" ให้ดำรงและดำเนินไปได้...
ทุกวันนี้...ศีลธรรมนี้เรานี้ต่ำลง
และอาจดูเหมือนไม่มีเลย...
จึงทำให้ผู้คนละทิ้งหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบนี้ไปได้...หน้าที่แห่งการเสียสละ ...
บุคคลใดใดที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก หรือล้มเหลวนั้น ... บุคคลนั้นถือว่าเป็นผู้ที่อ่อนแออย่างยิ่ง ที่ยอมให้กิเลสมาครอบครองหัวใจตน แม้ว่าจะอ้างเหตุผลใดใดมามากมายก็ตาม เหตุผลต่างๆ นั้นก็ไม่ได้มากไปกว่า...ความจริงอันเป็นสัจจของการได้ตัดสินใจเสียสละตนเองครอบคู่กับใครอีกคนๆ หนึ่ง...
คิดเสียว่า ไม่มีอะไรเป็นของเรา แม้แต่ตัวเราเอง
จิตแพทย์เคยแนะนำว่า.. การที่จะอยู่ด้วยกัน เราต้องอยู่เป็นเพื่อนกันไปอย่าคิดเป็นเจ้าของเขา ให้อิสระต่อกัน ถึงจะอยู่กันได้ยืดค่ะ
วันใดที่เขาอยากไปจากเรา เราควรพูดคุยกัน ปรับตัวเข้าหากัน
แต่ถ้ายังไม่ไหว เราก็ควรปล่อยเขาไปค่ะ เพราะจะทำให้ทุกข์มากกว่า
เราก็น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้
ฝากให้กำลังใจทุกคนนะคะ
ค่ะ ไม่ยึดมั่นถือมั่น
ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร
ชีวิตใครก็เป็นของคนคนนั้น
เขาอยากไปก็บังคับให้เขาอยู่ไม่ได้
สบายใจดีนะคะ