ไปขออนุญาตลาออกจาก...ความเสียสละ


โยมกะปุ๋มยุ่งมากไหม... พอมีเวลามาวัดไหม

เป็นคำถามจากพระอาจารย์ผู้เปี่ยมเมตตากรุณา... พอสิ้นเสียงที่ท่านถาม มีประโยคที่คอยโต้ตอบท่านอย่างมาก หากสติไม่มากพอคงเล่าเรื่องการงานให้ท่านฟังอย่างมากมาย แต่ได้คิดก่อนว่า จะเล่าไปทำไมเนี๊ยะ...

 

ได้แต่ตอบท่านไปว่า มีเจ้าค่ะ... พอตอบไปแล้วในหัวคิดนี้รีบนึกตารางการทำงานเลยว่าจะเคลียร์อะไรออกไปได้บ้าง และจะได้วันไหน... จากที่ว่าจะไปนอนเพียงหนึ่งคืน แต่ได้วันมาเพิ่มเป็นสองคืน ... วางงานลง อย่างแบบเสร็จแล้วเท่าที่เสร็จแล้ว ไม่งั้นชีวิตนี้คงไม่ได้ไปกราบองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์

 

ระหว่างทางที่ขับรถไปนั้น ในใจก็นึก...

มาทำไหมเนี๊ยะ...ทำไมไม่ไปหาหลวงตา (องค์พระหลวงตามหาบัว)... เอ้า..มาแล้วก็ต้องมาให้ถึง

 

ทันทีที่ได้กราบองค์พระหลวงพ่อใหญ่...

ท่านเมตตา...ชี้นำทางมาก...

ท่านบอกว่า ... อย่าเห็นแก่ตัว

 

เป็นประโยคที่ท่านพูดได้อย่างลงใจข้าพเจ้ามาก เพราะข้าพเจ้าจะไปกราบขอโอกาสท่าน ต่อความเห็นที่คิดว่าจะเลิกทำการงานที่เป็นภาระหน้าที่ และจะอุทิศตนเองแก่พุทธศาสนา... ทำงานเล็กๆ เป็นจิตอาสาให้กับทางวัด

 

วันนั้นจำได้ว่าท่านเมตตาสอนสั่งอยู่สองชั่วโมง...

เรื่องการเสียสละ...

ในใจข้าพเจ้านั้น...คร่ำครวญ...แต่ก็น้อมใจ หักใจ ดัดใจ เคารพต่อการบอกทางของท่านผู้เป็น พระแท้...

 

เราน่ะมีประโยชน์...

ยังเป็นผู้มีประโยชน์...

ทำประโยชน์ต่อผู้คนได้อย่างมากมาย

 

ให้กลับไป...กลับไปตั้งใจทำงานเช่นเดิม

 

ณ วันนี้ก็เป็นเวลาหลายวัน...มาก ... ที่ข้าพเจ้าได้กราบลาท่านกลับมาทำหน้าที่แห่งการงานต่อ... อันเป็นการทำงานที่ทำอย่างปราศจากความชอบและไม่ชอบ หากแต่ตั้งหน้า ตั้งตา และตั้งใจทำการงานตามหน้าที่ หน้าที่ที่พึงมีต่อเบื้องหน้า

 

เป็นหน้าที่..

ที่เราไม่อาจทราบได้ว่าเราจะมีโอกาสได้ทำไปมากเพียงใด

เพราะความตายนั้นจ่ออยู่เพียงแค่ลมหายใจเข้าและออกของเราเท่านั้น

เส้นทางแห่งการฝึกฝน...การภาวนา ผ่านวิถีชีวิต ผ่านการงาน...

สอนให้เข้าใจใน ธรรมชาติ อย่างน้อมลงในใจ

ไม่แม้จะวิ่งหนีหน้าที่...มีเพียงแต่ใช้ใจนี้เป็นที่ตั้ง และน้อมลงทำอย่างตั้งใจเท่าสมองและปัญญามี ส่วนแรงกายนั้นก็เท่ากับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะพึงมีแรงทำได้... ที่สุดทำไป ทำไป ทำไปอย่างสุดกำลัง

 

เกือบจะหลงทาง...เตลิดเปิดเปิง...

เมื่อองค์พระหลวงพ่อใหญ่...บอกทาง ในวันถัดมาก็ได้มีโอกาสได้ก้มลงกราบพระอริยเจ้าสองพระองค์... องค์พระหลวงตา และ "องค์พระหลวงพ่อใหญ่"

 

ความเมตตาและความกรุณา...

และการชี้โอกาส...อันเป็นโอกาสที่เป็นดั่งเส้นทาง แห่งวิถีชีวิต

ที่เพียรเร่งละความชั่ว...และสร้างความดีให้มากเท่า...

 

ลมหายใจ...

เป็นเครื่องพยุงแห่งกายและจิต...นี้ให้น้อมนำอุทิศตนเพื่อละความเห็นแก่ตัว

ละให้มากได้เท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้... การได้เสียสละ... เพื่อสรรพสิ่งต่างๆ นั้นทำให้หัวใจที่หยาบกระด้าง...นี้อ่อนลง

 

ทุกๆ ลมหายใจจะถามตนเองเสมอว่า... ทำเต็มที่หรือยัง...ทำด้วยใจแห่งความกรุณาหรือยัง... หากทำแล้ว ...ก็เสร็จแล้ว ก็วางลงได้ด้วยใจเบาเบา... เท่านั้นเอง

ภาพ ; กัลยาณมิตรเมตตาเผื่อแผ่ให้

หมายเลขบันทึก: 295574เขียนเมื่อ 7 กันยายน 2009 22:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

พยายามจะวางอย่างเบาๆ...ในทุกๆ ลมหายใจของตัวเอง
แต่บางทีก็ยากพอตัว...
ชีวิต มักไม่ง่ายอย่างที่คิด เลยนะครับ

 

ไม่มีความยากใดใด ...ที่ยากไปกว่าได้เกิดและได้มารู้ว่าเราต้องทำความดีงามเช่นนี้

เพียรทำต่อไปนะคะ...ดำรงแห่งวิถีชีวิตด้วยใจเบาเบา แม้ว้ากระแสแห่งรอบด้านอาจเป็นดั่งพายุก็ตาม...

เพราะ "ชีวิต"  คือ "ชีวิต" ^___^

เป็นกำลังครับพี่สาว เดินต่ออย่างมีสติ

เป็นความงามในจิต ที่พี่นกขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะ ในบางวิถีของการปฏิบัติเพื่อความปล่อยวาง เราช่างรู้สึกถวิลหาบางอย่าง จนอยากละวางบางสิ่งเหลือเกิน (ความอยากอีกแล้ว )ผู้เดินตามหลังขอมอบพลังใจ เพื่อให้อาจารย์กะปุ๋มมีพลังอันมหาศาลเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของผู้ให้เฉกเช่นที่ต้องปฏิบัติ และได้ปฏิบัติอย่างงดงามแล้ว ตลอดมาและจนกว่าธรรมมะจะจัดสรรให้ลงตัวอย่างงดงามค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท