เมื่อมีความปรากฏเป็นความอิ่มในใจ...นั่นน่ะจะปราศจากความเหงา อ้างว้าง โดดเดี่ยวและเดียวดาย...
ใจที่อิ่มนั้นจะนำพาอนุภาพแห่งความอบอุ่นใจ เปี่ยมด้วยพลังงานแห่งความเมตตา ชีวิตนี้จะเต็มเปี่ยมด้วยพลังงาน อันเป็นพลังงานอันมหาศาลที่ไร้ซึ้งความท้อแท้และหดหู่ จะเป็นพลังงานที่ขับและนำพา...วิถีนี้ไปสู่ยอดแห่งเป้าหมายของความลึกซึ้งของการได้เกิดมา...
เมื่อใจปรากฏเป็นความอิ่มนะ...
ใจนี้จะไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดใด... ความหนาวเหน็บอ้างว้างจะหายไป
เปรียบแล้วก็เหมือนเรากำลังนำพาตัวเรานั้นก้าวปีนขึ้นไปบนภูเขาอันหนาวเหน็บเข้าไปในสุดขั้วแห่งหัวใจ ใจนี้อยากร่ำไห้ อยากกลับบ้าน อยากลงเขา อยากเลิก อยากถอยหนี แต่เมื่อหันมองย้อนลงไป... ยากเหลือเกินที่จะก้าวเดินกลับไปได้ เพราะหนทางที่เดินผ่านมานั้นไม่สามารถกลับไปได้อีก...
แต่...เมื่อแหงนมองขึ้นไปบนยอดเขานี่สิ...
ใจท้อ ใจอ้างว้างเหลือเกิน เพื่อนที่ร่วมเดินทางกันมาต่างล่าถอยและหนีหายไปหมด
ความหวั่นไหวเข้ามาแทนที่... ความที่ไม่รู้ว่าจะนำพาตนเองเช่นไร
เราจะก้าวเดินไปเพียงลำพัง...ได้เหรอนี่ ...หนทางนี้มีการเล่าขานไม่ใช่เหรอว่า มีผู้นำทางและได้ก้าวเดินมาก่อนแล้ว เขาเหล่านั้นอยู่ ณ ที่แห่งหนใดกันหนา... เขาอยู่ไหนกัน
ให้"อดทน"...พึงอดทน จงอดทน
เป็นแสงสว่าง...ที่ส่องประกายมาให้เห็นความสว่างแห่งหนทาง แม้เริ่มแรกจะเป็นเพียงแสงร่ำไร.. แต่สองเท้านี้ยังก้าวเดินขึ้นไปบนยอดเขาสูงนั้น ด้วยความอดทน อันเป็นความอดทนแม้ตัวตายก็ยอม อดทนที่อยากจะเอาชนะ"ความ"ทั้งหลายอันเป็นอุปสรรค...
แม้เพียงนำพาตนเท่านี้ พลังงานพลังใจอันมหาศาลก็กลับคืนมา...
แสงสว่าง...ที่ส่องหนทางนั้นเริ่มชัดเจนขึ้น ชัดเจนขึ้น
ความหนาวเหน็บแห่งดวงจิตดวงใจนี้พลันหายไป ความอบอุ่นใจปรากฏเข้ามาแทนที่
อืม...มันเป็นเช่นนี้เองเหรอ... เพียงแค่ก้าวเดินใจนี้ก็เต็มอิ่มด้วยความอบอุ่นใจแล้ว...
แวะมาเติมพลังค่ะ
ขอบคุณค่ะ