การให้โอกาส...เราจะให้จน "วินาที" สุดท้าย
วินาทีสุดท้าย...คือ บุคคลนั้นเลือกที่จะไม่หยิบหรือสัมผัส "วินาที" นั้นด้วยตนเอง
นั่นก็คือ...ว่า เขาตัดสินใจที่จะเลือกไม่เลือกโอกาสนั้นของเขาเอง
ส่วนเรานั้น...อาจผิดหวังหรือผิดความตั้งใจ
แต่สิ่งที่เราพึงเรียนรู้คือ "ใจ" ของเรา และหันมาจัดการใจของเรา
ใจ...ของเรานั้นเป็นสิ่งที่อยู่แนบกับลมหายใจของเราที่มีอยู่
จากก้าวย่างของชีวิตที่ข้าพเจ้าใช้นำพาตนเอง ต้องใช้คำว่า "นำพาตนเอง" ก็เพราะว่าเมื่อก่อนเราเลือกที่จะไปนำสิ่งนั้นสิ่งนี้มานำพาตัวเรา แต่เมื่อเส้นทางการเรียนรู้ที่ปรากฏต่อตนเอง สิ่งที่ดีที่สุดของการมีชีวิตอยู่ของเรา คือ การที่เลือกนำพาตัวเราเอง เพราะเราเท่านั้นน่ะจะรู้เจตนาของเราเอง
ในความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น...
เขาจะรู้หรือไม่รู้ต่อเจตนาของเราก็ช่างเขาเถิด เพียงแค่เรารู้ในเจตนาของเราเท่านั้นเอง
สิ่งที่พึงทำที่สุด คือ ตรวจสอบใจของเรา
ไม่ก้าวหนี...แต่ยังดำรงอยู่ เผชิญหน้าต่อความจริงที่ปรากฏ ไม่ว่าความจริงนั้นจะเป็นเรื่องราว บุคคล หรือสิ่งต่างๆ ที่มากระทบ เรานั้นมีหน้าที่ประคองลมหายใจของเราไว้เพื่อตรวจสอบ "ใจ" ของเราว่ามีการเคลื่อนหรือกระเพื่อมไปเช่นไรบ้าง...
มันก็เท่านั้นสำหรับ "ชีวิต" ที่ดำรงอยู่
ตราบเท่าที่มีลมหายใจ
ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ "ใจ" ของเราหาใช่ "ใจ" ของใคร
เป็นข้อคิดที่ดีแบบโดนใจมากๆๆค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
(^_^)
อ่านบันทึกนี้ทำให้หนูย้อนกลับเข้ามามองที่ใจตนเอง ในการทำส่งต่าง ๆ เมื่อก่อนน้อยครั้งมาที่เข้ามาเอาใจใส่ "ใจตนเอง"
แต่ตอนนี้หนูเพียรพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจ "ใจตนเองให้มากที่สุดค่ะ"
ขอบพระคุณค่ะสำรับบันทึกแห่งพลังนี้
เจ้าค่ะ ขอบพระคุณค่ะ (^_^)
เข้ามาอ่านบันทึกนี้อีกรอบค่ะ พี่ปุ๋ม
แม้ใจยังไม่เบาได้ตลอดเวลา แต่ลมหายใจก็เป็นเหมือนเครื่องช่วยชีวิต ให้พอพยุงกับสิ่งที่มากระทบใจ กับทุกข์ที่บีบคั้น ลมหายใจและสติช่วยให้อยู่กับชีวิตที่เคลื่อนไปในกระแสแห่งอารมณ์ ที่พัดโหมเข้ามาซ้ำ ให้เรียนรู้และยอมรับความจริงด้วยใจที่อ่อนโยนลง
ไม่มีสิ่งใดที่บังคับได้ เมื่อมีความปรารถนาแล้วไม่ได้มันก็ทุกข์ แต่ลมหายใจสบายที่เข้าออก เป็นเหมือนความอบอุ่นที่โอบกอดใจ ให้ยืนหยัดได้อย่างเข้มแข็ง กับสิ่งที่เป็น
เพราะใจมันยังยึด มันยังเป็น แต่ลมหายใจเข้ามาช่วยพยุงให้เห็น แล้วค่อย ๆ เรียนรู้สิ่งเหล่านี้อย่างเข้าใจ ขอบพระคุณนะคะ ที่นำพาให้รู้จักลมหายใจ