(๑) จิตอาสา “บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์-ต้นกล้าแห่งจิตใจ” ; การพัฒนาเครือข่ายเด็กและเยาวชน


กิจกรรมอย่างหนึ่งที่เป็นความต่อเนื่องที่ทีมคนหน้างานจิตเวช โรงพยาบาลยโสธรดำเนินกันมาตั้งแต่ปี 2545 คือ การพัฒนาเครือข่ายเด็กและเยาวชน การที่เรายังมีทีมน้องๆ มาเป็นเครือข่ายที่ต่อเนื่อง ด้วยความต่อเนื่องสมัครใจ ทำให้เกิดเป็นความเข้มแข็งและยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น ข้าพเจ้าได้ถอดบทเรียนมิติและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น อันอาจเป็นเรื่องราวเล็กๆ ที่เราได้มองข้ามผ่านไป เพราะปัจจุบันเรานั้นมักไปให้ความสำคัญในมุมของตัวเลข และจำนวนโครงการใหม่ๆ ทีผลุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด...

 

สำหรับคนหน้างาน ทีมดูแลทางด้านจิตใจ กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลยโสธร ก็ยังคงสานต่อการงานเรื่องการสร้างเครือข่ายนี้อยู่ ตอนนี้คุณหนิง สุปราณี พลไชย เป็นโต้โผใหญ่ในการดูแลน้องๆ เครือข่าย ...

 

และนี่เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ข้าพเจ้า..ได้ถอดบทเรียนออกมา เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับทัศนะของข้าพเจ้าเอง ที่เห็นเด็กกลุ่มเล็กๆ มาด้วยพลังแห่งความกระตือรือร้น...เพื่อเป็น จิตอาสา... ี้หนิง ่ายนี้อยู่ รมอย่างหนึ่งที่เป็นความต่อเนื่องที่ทีมคนหน้างานจิตเวช โรงพยาบาลยโสธรดำเนินกันมาตั้งแต่ปี

 

 

 

แรงบัลดาลใจที่อยากมาทำจิตอาสาในครั้งนี้ก็คือ

 

  • ในช่วงปิดภาคเรียนไม่มีอะไรทำและอยากจะได้ความรู้และประสบการณ์ในการเป็นจิตอาสาอยู่ที่โรงพยาบาลยโสธร  อยากจะรู้ว่าการที่จะมาเป็นจิตอาสานี้จะต้องทำยังไง  ทำอะไรบ้าง  และคิดว่าจะได้คุ้นเคยกับโรงพยาบาล  คนป่วย  และเจ้าหน้าที่ในแผนกต่างๆโดยเฉพาะพ่อแม่ก็สนับสนุนเพราะอยากให้ได้เรียนรู้ว่าการทำงานอยู่ร่วมกันกับคนอื่นการไปเจอสิ่งใหม่ๆเป็นยังไง
  • ก่อนที่คนเราจะทำอะไรก็จะต้องมีแรงบันดาลใจที่จะทำหนูก็เหมือนกันชอบที่จะเป็นพยาบาลมีความตั้งใจจะเรียน  และปิดเทอมที่บ้านไม่มีอะไรทำ เพื่อนได้มาชวนจึงตอบตกลงเพราะชอบจะได้ช่วยเหลือผู้อื่นจะได้บุญด้วยเพราะไม่ค่อยได้ทำบุญจึงเป็นแรงบัลดาลใจให้มาเป็นจิตอาสาเพื่อเป็นประสบการณ์ในชีวิต
  • แรงบัลดาลใจที่หนูอยากมาจิตอาสานี้คือหนูเห็นพวกพี่ๆรุ่นที่แล้วมาก็เลยอยากมาดูว่าเขาทำอะไรกันบ้างก็เลยเป็นแรงบันดาลใจหนูอยากมาดูมาเห็นสิ่งต่างๆ  ในโรงพยาบาลนี้เพื่อเป็นประสบการณ์ในชีวิตอีกด้วยและอีกอย่างหนูก็อยากเรียนรู้สิ่งต่างๆในโรงพยาบาลนี้เพื่อจะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
  • แรงบันดาลใจคืออยากช่วยเหลือผู้ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลและยังได้เห็นพี่ๆปฏิบัติหน้าที่ก็อยากมีโอกาสแบบพวกพี่ๆจึงมาดูการปฏิบัติงานในแต่ละแผนกว่าทำอย่างไร
  • แรงบันดาลใจ   อะไรคือแรงบันดาลใจที่อยากจะมาทำเป็นจิตอาสาปิดเทอมอยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพราะจะช่วยเหลือทุกคน  ช่วยเหลือผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลช่วยเท่าที่จะช่วยได้บางอย่างการที่ได้มาเป็นจิตอาสาทำใช้เราได้ความรู้สึกของผู้ป่วยที่เข้ามารักษาว่าเป็นยังไงความสะดวกสบายที่เข้ามารักษาอยู่ที่นี้
  • แรงบันดาลใจให้มาทำจิตอาสาคืออยากได้ช่วยเหลือผู้ป่วยถึงจะทำอะไรไม่ได้มากก็ตาม
  • การที่คนเราอยากจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งย่อมมีแรงบันดาลใจหรือแรงจูงใจจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขเช่นเดียวกับหนูแรงบันดาลใจที่ทำให้คิดว่าอยากมาจิตอาสาคือการอยากเรียนรู้และการรักอาชีพทางด้านนี้ซึ่งการที่มาในครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายๆอย่าง
  • สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจคือสิ่งผูกพันและรักมากในการอยากช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน  และคงเป็นเพราะมีแรงบันดาลใจที่อยากจะเป็นพยาบาลให้ได้  อีกทั้งเห็นพยาบาลตามตึกต่างๆแล้วดูเท่ดีแถมใส่ชุดขาวแล้วดูสะอาดตามาก  อีกทั้งยังมีพี่ๆที่อยู่จิตเวชคอยช่วยแนะนำหนูในเรื่องต่างๆ

 

 

มาแล้วได้ทำอะไรบ้างที่นำไปสู่การเรียนรู้

 

  • การมาเป็นจิตอาสาครั้งนี้ก็ได้ไปพูดคุยกับคนป่วยที่มาโรงพยาบาลที่  OPD1  ได้ทำงานอยู่ที่ต่างๆได้ไปเดินดูตึกต่างๆว่าเป็นตึกอะไรมีหน้าที่ทำอะไรและได้ไปทำแบบคัดกรอง  2  คำถามเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า
  • การมาเป็นจิตอาสาครั้งนี้ได้ประสบการณ์ในการพูดคุยและสอบถามเกี่ยวกับโรงซึมเศร้าและได้ไปทำแบบคัดกรองโรคซึมเศร้า  2  คำถามที่ตึกต่างๆจึงได้รู้จักตึกต่างๆ
  • การมาจิตอาสานี้มาแล้วก็ได้ความรู้หลากหลายอย่างไม่ว่าจากพี่หนุ่ย  พี่หนิง   พี่กะปุ๋ม  ฯลฯ  ก็ได้ให้ความรู้เราได้ดีไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือคนไข้ต่างๆ  หรือเรื่องต่างๆก็ให้คำปรึกษาหนูดีค่ะ  เช่น  คลินิกจิตเวชท่านก็สอนทุกอย่างในเรื่องนี้หนูก็จะเอาประสบการณ์พวกนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่าการช่วยเหลือผู้ป่วยจะช่วยอย่างไรผู้ป่วยจึงจะปลอดภัยมาแล้วก็ได้มาช่วยผู้ป่วยในหลายๆด้านการประเมินโรคซึมเศร้าต่างๆอีกด้วย
  • มาแล้วได้รับประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย  ได้ช่วยพยุงคุณยายลงบันไดและช่วยไปรับยาแทนผู้ป่วยที่ไม่สามารถไปรับเองได้  และในหลากหลายด้านและมีการประเมินโรคซึมเซร้าว่ามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า
  • แรงบันดาลใจให้มาเป็นจิตอาสาเพื่อเป็นประสบการณ์ในชีวิตที่เคยได้ทำมาและก็ได้ทำแบบประเมินโรคซึมเศร้าและก็ได้ลงไปที่ตึกต่างๆที่เราไม่เคยได้เห็นได้พบ
  • มาแล้วหนูได้ทำกิจกรรมต่างๆ  เช่น  ประเมินโรคซึมเศร้าได้ไปดูตึกต่างๆในการประเมินอาจมีปัญหาอยู่บ้างแต่ก็สนุกและพี่ๆที่จิตเวชก็เป็นกันเอง
  • ไม่ว่าจะเป็นการประเมินโรคซึมเศร้าได้รู้จักตึกต่างๆแถมพี่ๆก็น่ารักดูแลดีทำให้การมาทำจิตอาสาในครั้งนี้สนุกสนานอาจมีเครียดบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นไรถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตซึ่งถ้าอยู่บ้านคงไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยลืมไปอีกหนึ่งข้อได้เข็นคนป่วยด้วย  เป็นอะไรที่สนุกสนานอีกด้วย
  • มาแล้วได้ช่วยคนป่วยขึ้นรถเข็นที่จุดบริการเปล  มีคุณตานายและคุณตาสมที่เป็นคนคอยแนะนำเรื่องดีให้ด้วยและทำไปก็สนุกดีรู้สึกอบอุ่นด้วยและคอยส่งหนังสือเวียนให้กลุ่มงานจิตเวชและนำแบบคัดกรองโรคซึมเศร้าไปทำข้างล่างเพื่อมาทำลงในแฟ้มปฏิบัติงานด้วยค่ะ  ทำแล้วให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นระบบระเบียบดีจริงๆ

 มีต่อ...

 

 

ถอดบทเรียนตอนที่หนึ่ง

พลังอันงดงามจาก "ต้นกล้าเล็กๆ"

มีนาคม 2552

หมายเลขบันทึก: 252791เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2009 15:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เป็นกำลังใจให้นะครับ สำหรับโครงการจิตอาสาดีดี

ขอบคุณคุณ Phornphon สำหรับกำลังใจนะคะ

พยายามทำไปให้ต่อเนื่องให้ยั่งยืน อย่างน้อยสิ่งที่เราหวังอาจไม่ใช่รูปธรรมที่ชัดเจน แต่สิ่งที่ใจเราปรารถนาอยากให้เกิด คือ การสนับสนุนเพื่อให้น้องๆ ได้เติบโตเป็นต้นไม้แห่งความดีต่อไปในวันข้างหน้าค่ะ

(^___^)

 

ช่วงนี้มีบันทึกเกี่ยวกับการพัฒนามิติแห่งจิตวิญญาณมาให้อ่านกันนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

 

ได้มีเวลานั่งเขียนรายงานค่ะ..

ช่วงเดือนนี้ set ตัวเองสำหรับเขียนงาน และเขียนหนังสือค่ะ

นี่เป็นส่วนหนึ่งของ ภาคส่วนที่ต้องทำเป็นรายงาน ก็เลยนำบางประเด็นที่ไม่เป็นวิชาการมากเกินไปมาเผยแพร่ บันทึกเก็บไว้ค่ะ

(^___^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท