๕ ช.ช้าง = ชี้ เชียร์ ช่วย เชื่อม ใช้ เป็นประเด็นที่ข้าพเจ้าได้จาก อ.หมอสมศักดิ์ ชุณรัศมิ์ ประธานมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ที่มาร่วมในการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กันต่อในวันที่ ๑๖ กค. ๕๒ หลังเสร็จภารกิจงานมหกรรมในภาคกลางวันและถอดบทเรียนร่วมกับทีมงาน สวรส. และเครือข่ายในตอนเย็น...
จากนั้นได้เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อ...ข้าพเจ้าได้รับคำชวนจาก อ.หมอเชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศและ อ.หมออัครินทร์ นิมมานนิตย์...มาช่วยกันคิดช่วยกันทำในเรื่องการขับเคลื่อนเครือข่ายและผลักดัน R2R ให้แพร่หลายและแทรกไปทุกย่อมหญ้าของคนหน้างาน ให้เกิดเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง...
หลายๆ ท่านร่วมแลกเปลี่ยนกัน ดั่งเช่นท่านนายแพทย์ สสจ.จังหวัดอุบลราชธานี ท่านมองว่าผู้บริหารมีส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อน หากว่าทางคณะทำงานและผลักดันการขับเคลื่อนนี้ไปเชื่อมโยงกับทางเครือข่ายผู้บริหารได้จะทำให้กระบวนการแพร่กระจาย R2R แพร่หลายมากขึ้น
ในส่วนของทีม สวรส.อีสานนำโดย อ.หมอสมพนธ์ นั้น...มองว่ามีฐานที่เข้มแข็งจากการสร้างรากฐานการทำวิจัย ดังนั้นอาจไปเชื่อมต่อได้ไม่ว่าจะเป็น node ขอนแก่น node อุบลราชธานี node นครราชสีมา...
ในส่วนของชมรมพยาบาลที่ อาจารย์จรรยาวัฒน์ได้เข้ามาร่วมด้วยในตอนต้นนั้น อาจารย์มองถึงในประเด็นตัวช่วยในเรื่องขององค์ความรู้ของการทำวิจัย ที่ปรึกษา และพี่เลี้ยง...ที่อยากได้รับการสนับสนุนจากเครือข่าย...
คำถาม...
จะขยับขับเคลื่อน R2R ไปตามภาคอื่นๆ ได้อย่างไร ? ณ ตอนนี้เครือข่ายทางอีสานค่อนข้างเข้มแข็งและมีภาพเครือข่ายชัด...
ทุกท่านเห็นพ้องกันว่า จริงๆ แล้วแต่ละพื้นที่มีเกิดขึ้น แต่เรายังหาไม่เจอและเชื่อมต่อไม่ได้
ซึ่งประเด็นนี้ข้าพเจ้าเห็นด้วย เพราะจากการเดินทางทำกระบวนการ บรรยาย และเป็นวิทยากรนั้น...ทำให้ได้เรียนรู้และทราบข้อมูลการทำ R2R จากพื้นที่ต่างๆ...เพียงแต่ว่า แต่ละภาคนั้นยังขาดตัวกลาง (Node) เป็นตัวเชื่อม หากว่าทางเครือข่ายหลักของ R2R ดั่งเช่น สวรส. และ ศิริราช สามารถค้นหา Node ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนได้นี้จะทำให้เกิดความเข้มแข็ง...
จริงๆ มีคนที่มีใจอยากจะทำมากมาย...
เพียงแต่ตอนนี้จะร้อยเรียงเชื่อมโยง "ใจ" เหล่านั้นอย่างไร
ดั่งเช่นที่ ภาคใต้ ... เช้าวันที่สอง (๑๗ กค ๕๒) ข้าพเจ้าได้เจอกับพี่เจี๊ยบเครือข่าย R2R ที่จังหวัดปัตตานี ได้เล่าเรื่องการทำ R2R และขยายเครือข่ายให้ฟัง อีกทั้งได้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในภาพของจังหวัด เสียดายว่าไม่มีคนจับภาพ (Capture) การกระทำกระบวนการนั้นมาเผยแพร่และบอกกล่าวต่อกัน...
หรือในเครือข่ายภาคตะวันออกที่เกิดขึ้นที่จังหวัดชลบุรีก็เป็นตัวแบบที่ดีในการขับเคลื่อน
หรือในเครือข่ายภาคเหนือ...อีกหลายๆ จังหวัด...
คำถามที่เกิดขึ้นเองสำหรับข้าพเจ้าก็คือ ... จะถักทอเชื่อมโยงเครือข่ายนี้อย่างไร...
นี่เป็นความคิดและคำถามที่เกิดขึ้นขณะที่ข้าพเจ้าร่วมฟังการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ ...อ.หมอสมศักดิ์ เน้น ๕ ช.ช้าง ว่ากำลังสำคัญ คือ จะต้องมีคนชี้ให้เห็นว่า R2R มาสัมพันธ์กับงานประจำอย่างไร และต้องมีการเชียร์ให้เกิดการทำ พร้อมทั้งช่วยเหลือในส่วนต่างๆ ตลอดรวมถึงเรื่ององค์ความรู้วิจัย ในการเกิดกระบวนการทำพัฒนางานนี้ได้ มีการเชื่อมโยงอย่างไรต่อส่วนต่างๆ และที่สุดแล้วมีการนำมาใช้ต่อยอดพัฒนางานประจำนั้นได้อย่างไร...
จากประเด็นในวันนั้น...ข้อดีของการนั่งฟัง (Deep Lisening) นั้นทำให้เกิดเป็นภาพความคิดว่า ตัวแปรสำคัญของการขับเคลื่อน บทบาทที่ออกแรงมากนั้นน่ะคือ "คุณอำนวย = Knowledge Facilitator" ไม่ใช่คำสั่งผู้บริหารเป็นตัวตั้ง แต่ผู้บริหารจะมีบทบาททำให้การขับเคลื่อนของ Far ให้สามารถทำงานไปได้อย่างราบรื่นต่อเนื่อง ขยายผลไปได้ก็ด้วยแรงสนับสนุนจากผู้บริหาร
หากจะขับเคลื่อน R2R ให้มีการต่อเนื่อง และขยายผล...บุคคลสำคัญก็คือ KF R2R (Knowledge Farcilitator R2R)และนำไปสู่การสร้าง CoP ของ KF R2R เป็นการเสริมสร้างแรงใจและแบ่งปันประสบการณ์การเรียนแก่กันและกัน (ประเด็นนี้ข้าพเจ้าได้จากการต่อยอดความคิดจากบทเรียนลานเสวนาของกลุ่ม KF R2R)...
ภาพความคิด note ไว้ก่อนกันลืม
อาจไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด เป็นภาพความคิดเท่านั้น
สวัสดีค่ะ
- แวะมาทักทายค่ะ
- เพื่อน "ซี้" ชี้ ช่วย ใช้ เชื่อม เหมือนเพื่อนช่วยเพื่อนนะค่ะ
Chonburi KF ใช้ใจนำทำ...ช่วยและเชื่อม...โดยไม่คาดหวังว่าจะเป็น Model ที่ดีหรือไม่...คิดว่าทำได้ จะทำได้...ถ้าคิดแค่ได้ทำ ก็ได้ทำ...จริงไหมคะ? ขอบคุณอาจารย์ที่ให้เครดิตชลบุรีเสมอ...โชคดีมากค่ะ ที่ได้ไปร่วมงานประชุม R2R ครั้งนี้...P'wi
ใช่แล้วค่ะ เพชรน้อย ... เพื่อนช่วยเพื่อน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันบอกทางเนอะ...
ได้เจอกันกับบุ๋มเจน...ใน G2K นี้หรือยังค่ะ
ถ้ายังก็ไปทักทายได้เลยนะคะ...
อ้าวบันทึกนี้นานแล้วนะครับ อยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็น R2R ในด้านการศึกษาบ้างครับ จริงๆๆแล้วพยายามรวบรวมแต่ยังมีค่อนข้างน้อย
ดีค่ะพี่เอ๊ด...เห็นชอบเป็นอย่างยิ่งในความคิดเห็นของพี่แอ๊ด...
กะปุ๋มเห็นพี่ 5ช ในเรื่องนี้อยู่ ... ติดตามอยู่เช่นกัน
จริงๆ แล้วกะปุ๋มมองว่า งานทุกงานเราสามารถนำพาผู้คนทำ R2R ได้ทั้งนั้น เพราะที่สุดแล้วของการทำ R2R คือ ความเจริญแห่งจิตภายในของผู้ทำนั้น เพราะเขาได้เรียนรู้และแสวงหาหนทางแห่งการแก้ปัญอย่างเป็นระบบนั่นเอง และที่สำคัญนำไปใช้ในวิถีแห่งประจำวันได้ด้วยค่ะ...
ทำต่อนะคะพี่..