Dr.aon
ดร. อรนรินทร์ ขจรวงศ์วัฒนา

วิตามิน ซี กับการต่อสู้การติดไข้หวัดใหญ่2009


ต้องรับประทาน วิตามินซีทุกวันๆละ 1000 mg เพื่อพอที่จะทำให้เกิดภูมิต้านทานโรค..ร่วมกับการดูแลสุขอนามัยอื่นๆ ล้างมือบ่อย และใช้หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค

เรื่องเล่าวันนี้..กับสุขภาพดีๆของคุณทุกคน!!

เมื่อกล่าวถึงวิตามินซี..หลายท่านคงร้องอ๋อ!...และแน่ใจว่า..รู้จักมักคุ้นในนาม..วิตามินที่อยู่ในผลไม้รสเปรี้ยว...ประโยชน์คือช่วยเรื่องเกี่ยวกับเลือดออกตามไรฟัน..ถาม 100 คนจะตอบแบบนี้กว่าครึ่งค่ะ..!!!

ในความเป็นจริงวิตามินซีเป็นพระเอกในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง การเสริมภูมิต้านทานเชื้อโรคทั้งกลุ่มแบคทีเรียและไวรัส..โดยเฉพาะช่วงนี้..ช่วงที่เราต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรงมีภูมิต้านโรคสูงๆเพื่อที่จะปลอดภัยจาก ไข้หวัดใหญ่ 2009  ปัจจุบันอ้อนต้องรับประทาน วิตามินซีทุกวันๆละ 1000 mg เพื่อพอที่จะทำให้เกิดภูมิต้านทานโรค..ร่วมกับการดูแลสุขอนามัยอื่นๆ ล้างมือบ่อย และใช้หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค แม้จะทำงานเสี่ยงอยู่กับเชื้อโรคก็ยังรักษาสุขภาพมาได้ถึงปัจจุบัน โดยไม่มีอาการติดหวัด...

วันนี้จึงขอแนะนำ พระเอกของเรา..วิตามินซีค่ะ..

วิตามินซี หรือ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นสารอาหารที่ละลายได้ในน้ำร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้จึงจำเป็นต้องรับประทานเข้าไป วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานได้เป็นอย่างดี และสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้ นอกจากนี้..ยังช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยเชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น..แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน..ลดคอเลสเตอรอลในเลือด..ช่วยคลายเครียด..และยับยั้งเซลล์มะเร็งได้..

แหล่งอาหารวิตามินซี

แหล่งวิตามินซีมีมากในผักตระกูลกะหล่ำ การเก็บเกี่ยวผักผลไม้ตั้งแต่ยังไม่แก่จัด ไม่สุกดี หรือนำไปผ่านการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นการตากแห้ง หมักดอง จะทำลายวิตามินซีที่อยู่ในอาหารไปในปริมาณมาก

ความร้อนทำลายวิตามินซีได้ง่ายจึงไม่ควรต้มหรือผัดนานเกินไป แต่การแช่เย็นไม่ได้ทำให้ผักผลไม้สูญเสียวิตามินซีเพียงข้อเสียอยู่ตรงที่เมื่อนำออกมาวางในอุณหภูมิปกติแล้ว ออกซิเจนในอากาศจะทำให้วิตามินซีสลายตัวเร็ว

บางข้อมูลแนะนำว่าขนาดที่เหมาะสมมากที่สุดต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ คือ 250-500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง


 

แหล่งวิตามินในธรรมชาติ

จำนวน

ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ

ฝรั่ง

น้ำหนัก 100 กรัม

230 มิลลิกรัม

สับปะรด

1 ชิ้นใหญ่(โดยเฉลี่ย)

20-30 มิลลิกรัม

กะหล่ำดอก

น้ำหนัก 100 กรัม

49 มิลลิกรัม

บรอกโคลี

น้ำหนัก 100 กรัม

84 มิลลิกรัม

น้ำมะนาว

1 แก้ว(100 กรัม)

34 มิลลิกรัม

มันฝรั่ง

น้ำหนัก 100 กรัม

21.3 มิลลิกรัม

กะหล่ำปลี

น้ำหนัก 100 กรัม

49 มิลลิกรัม

กล้วยชนิดต่างๆ

1 ลูก(โดยเฉลี่ย)

8.5 มิลลิกรัม

พริกหวาน

1 เม็ด(โดยเฉลี่ย)

100-120 มิลลิกรัม

ผักโขม

น้ำหนัก 100 กรัม

76.5 มิลลิกรัม

สตรอว์เบอร์รี่

น้ำหนัก 100 กรัม

77 มิลลิกรัม

มะเขือเทศ

น้ำหนัก 100 กรัม

21.3 มิลลิกรัม

มะละกอ

น้ำหนัก 100 กรัม

60 มิลลิกรัม


ถ้ารับประทานวิตามินจากแหล่งธรรมชาติได้..ถือว่าดีมากค่ะ..แต่ถ้า..คำนวณดูปริมาณที่รับประทานต่อวันแล้วยังน้อย..วิตามินซี..ชนิดเม็ดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ค่ะ


ขอบคุณข้อมูลแหล่งวิตามินซี..จากหนังสือ ชีวจิต..ค่ะ
หมายเลขบันทึก: 284366เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2009 20:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณข้อมูล ที่เป็นประโยชน์มากนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณ Sasinand

ขอบคุณที่แวะมาค่ะ..

ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ..

สวัสดีครับ

ผมชอบเอาเชอรรี่ไทย ต้นที่บ้านมีลูกดกตลอดปี นำมาบีบ กรองเอาน้ำมา กลั้นใจดื่ม เพราะเปรี้ยว ต้องรีบดื่ม แล้วตามด้วยผลไม้หวาน อะไรก็ได้ กลบความเปรี้ยว ไม่งั้นเข็ดฟัน สัก 20 ลูกต่อวัน ไม่รู้ว่า ได้รับ วิตามิน ซี มากน้อยแค่ไหน แต่คิดว่า ดื่มทุก ๆ วันคงจะได้วิตามินเยอะอยู่

ชอบผลไม้ชนิดนี้มาก เพราะปลูกง่าย มีลูกตลอดปี สีสวย ประหยัด ไม่ต้องซื้อหา ใครมีข้อมูลผลไม้ชนิดนี้ บอกพี่ปีเตอร์ด้วยนะครับ...

ได้ซื้อ เชอรรี่ พันธุ์หวานมาปลูก ได้กินลูกแล้ว ก็มีรสไม่หวานมาก แต่ก็ไม่เปรี้ยวมาก สังเกตดู ลูกไม่ค่อยดก คงปลูกอยู่ในที่ร่มมากเกินไป ลองหาซื้อมาปลูกดูนะครับ ได้วิตามินซี โดยไม่ต้องไปซื้อเป็นเม็ด ๆ มากิน กินจากผลไม้ตามธรรมชาตินี่แหละดี ใช่ไหมครับ

สวัสดีค่ะคุณ PeterA1

เชอรี่ไทย มีคนเอามาทำน้ำผลไม้ดื่มด้วยค่ะ

เคยดื่ม อร่อยมากๆ เสียอย่างเดียวใส่น้ำตาล

ให้ดื่มเปล่าๆ..เปรี้ยวมากน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะทำให้ระลึกถึงผลไม้ไทยๆประโยชน์สูง

เพื่อสุขภาพ...เห็นทีจะต้องรับประทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้น จะได้มีภูมิต้านทานโรคค่ะ

สวัสดีค่ะ

จำได้ไหมคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท