เมื่ออ่านถึงบรรทัดนี้ ทั้งผู้เขียน-และผู้อ่าน ย่อมที่จะต้องเกิดคำถามที่ว่า เช่นนั้นแล้ว สิ่งใด เรียกว่า กรรมดี-กรรมชั่ว พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ ทำกรรมใดแล้ว ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นไม่ดี มธุวา มญฺญติ พาโล ยาว ปาปํ น มุจฺจติ คนโง่ย่อมจะเห็นบาปเป็นน้ำผึ้ง ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล
หากพิจารณาจากพุทธพจน์ ย่อมพอจะอนุมาน (estimate) ได้ว่า กรรมดีชั่ว-กรรมชั่ว/บาป นั้นน่าจะมีรสหวาน น่าลิ้มลองพอๆกัน แต่ทว่าการกระทำ กรรมชั่ว/บาป นั้น เมื่อกระทำสำเร็จแล้ว ย่อมจะทำให้เกิดความร้อนใจ ความกระวนกระวายใจในภายหลัง อนึ่งในบทความ มรรควิธีการบำบัดน้ำเสีย อรรถกถาจารย์ท่าน มักจะใช้ เกลือ เป็นสัญลักษณ์ แทน วิบากกรรม (กรรมเก่า) การจะทำให้ ความเค็มของเกลือ ลดลง ก็ด้วยการนำน้ำใส (บริสุทธิ์) ใส่ลงในน้ำเกลือ เกลือย่อมเจือจางความเค็มลงได้ฉันใด การกระทำกรรมดียิ่งๆ ขึ้น (to increase good) ก็จะสามารถบรรเทาความเข้มข้นของวิบากกรรมได้ฉันนั้น (จบ)
สวัสดีค่ะ
* มารับธรรมยามเที่ยงค่ะ
โคลงโลกนิติ
ฟังเเฟงเเตงเต้าถั่ว งายล
หว่านสิ่งใดให้ผล สิ่งนั้น
ทำทานหว่านกุศล ผลเพิ่ม พูนนา
ทำบาปบาปซั้นซั้น ไล่เลี้ยวตามตน
* สุขสันต์รับดวงวันจันทร์นะคะ
ทำดีได้ ทำชั่วได้ชั่ว
มีลาบเสื่อมลาบ
มียศเสื่อมยศ
แต่ก็มิได้นำพา
ประเด็นว่า ทำดี - ดี ทำชั่ว - ชั่ว นี้ คิดว่าท่านมหาสมปอง น่าจะไม่ได้คิดเอง น่าจะเอามาจากบทปาฐกถาของท่านพุทธทาส ซึ่งมีมานานแล้ว... และความเห็นของท่านพุทธทาสประเด็นนี้ ก็เป็นที่รับรู้ทั่วไปในผู้ใคร่ในงานของท่าน... (อาจารย์ลองค้นหางานปาฐกถาของท่านพุทธทาสดู เจอแน่นอน)
สำหรับความเห็นส่วนตัว คิดว่าท่านพุทธทาสน่าจะพูดง่ายเกินไปเพราะไม่ถูกตามนัยแห่งหลักการแปลเบื้องต้นนัก...
อันที่จริงข้อความว่า ย่อมได้ผลดี หรือ ย่อมได้สาเหตุแห่งความดีี นั้น มิได้เป็นการแปลที่เพี้ยนไป เพียงแต่เราให้ความหมายของคำว่า ดี ต่างไปจากความหมายตามอุดมคติทางพระพุทธศาสนา...
สำหรับ ดี ผลดี หรือ สาเหตุแห่งความดี ในทางพระพุึทธศาสนานั้น หมายถึงบารมีธรรมที่ทำให้เข้าใกล้พระนิพพาน... ส่วน ชั่ว ผลชั่ว หรือ สาเหตุแห่งความชั่ว นั้น ก็คือนัยตรงข้ามจากวรรคแรก...
เจริญพร
สวัสดีค่ะ
* ตกลงจะฟักหรือฟัง....ครุพรรณาไม่ได้นึกไปโน่นหรอกนะ....ถ้าจะคิดแล้วฟังจะแปลว่าอะไร....เช่นภาษาลาวบางกลุ่มคำพูดเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน...เล่นเอาครูพรรณาหน้าม้านไปหลายตลบ...คำว่าหัวโค้ย....บ้านหนึ่งหมายถึงหัวเข่า..แต่อีกบ้านหนึ่งหมายถึงตาตุ่ม(ข้างเท้า)...ทั้งๆที่ก็มาเรียนโรงเรียนเดียวกัน
* พูดถึงฟัก...เมื่อปีก่อนไปหัดเรียนภาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร....แล้วครูฝรั่ง(นักภาษาศาสตร์)เขาก็พาไปเที่ยววัดป่าก์เลไลยก์...ข้างวัดก็มีร้านขายขนมมากมาย...อาจารย์ก็ให้นักเรียนนำชมแล้วถามเป็นคนๆ ไป...ถึงฟักเชื่อม...ท่านก็ถามครูพรรณา..ว่าชื่อหารชนิดใด...
* ตอบทันใจเลย...ภาษาไทยเรียกว่าฟักเชื่อม....อาจารย์ท่านทวนคำอยู่หลายหน...แล้วทำหน้าพิกล...
* ตอนนี้เรื่องที่เรียนก็ส่งคืนอาจารย์ไปแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะคุณกวิน
คุณกวิน
Thought for Today:
"Watch your thoughts; they become words. Watch your words; they become actions. Watch your actions; they become habits. Watch your habits; they become character. Watch your character; it becomes your destiny.
"Watch your thoughts; they become words. Watch your words; they become actions. Watch your actions; they become habits. Watch your habits; they become character. Watch your character; it becomes your destiny.
แล้วคนที่สมองตายตั้งแต่ คลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก อะไรกำหนดชะตากรรมของ เขาล่ะหนอ
รูปังอนิจจัง รูปังอนัตตา แปลว่า รูปไม่เที่ยง รูปไม่ใช่ตัวตน สิ่งที่เรามองเห็น คือโมเลกุลที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ถ้าเรามองเห็น หรือรู้ไม่เท่าทัน เราก็มองเห็นเป็นตัวฉันของฉัน ตัวเธอของเธอ ซึ่งมี character อย่างโน้นอย่างนี้
พุทธองค์ทรงตรัสว่า จิตฺเดน นียติ โลโก จิตฺเตน ปริกิสฺสติ จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส สพฺเพว วสมนฺวคู โลกที่เราอาสัยคือโลกโลกที่ถูกจิต(ความคิด)ของเราชักนำให้เป็นไปอย่างโน้นอย่างนี้ จิตความคิด) ย่อมเสือกไสให้โลกเป็นไปอย่างที่คิดที่ฝัน ที่หวัง ที่ต้องการ โลกทั้งหมดเป็นไปตาม อำนาจของธรรมอย่างเดียว คือจิต
เรามีกรรมเป็นของๆตน เราจักเป็นผู้รับผลของกรรม
เรามีกรรมเป็นแดนเกิด เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้
เป็นกรรมดีก็ตาม เป็นกรรมชั่วก็ตาม
เราจักต้องเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น
...ใครจะชี้ถูกชี้ผิดของแต่ละคนได้ ....ต่างเต้นตามจังหวะกรรมของตนอยากบอกว่า..กำลังใช้มรรคาวิธีการบำบัดน้ำเสียเต็มกำลังความสามารถค่ะ เมื่อถึงวันที่กายเนื้อแตกดับ วิญญานก็ยังคงพอมีความสุขอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
สาธุ..ครูแอนก็เชื่อว่าทำดีต้องได้ดีสักวัน ผลที่เห็นขณะนั้น ก็คือความ สบายใจ ...คนดีผีดีคุ้ม อย่าเจอผีไม่ดีเลย...จรึ๊ย!
สวัสดีครับ
ตามเก็บตก
ทำดีได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว คงเป็นสัจธรรมค่ะ แต่ การทำดี คงต้องทำมากหน่อย จึงจะเห็นผลค่ะ..ไม่ท้อแท้ค่ะ
สวัสดีครับ น้องกวิน
ขอป่วนยามเช้าก่อน....สุ (ทุ?) ภาษิตคนขี้เหล้าบอกว่า
"รักดีกินถั่ว รักชั่วกินเหล้า รักทั้งดีทั้งชั่ว กินถั่วแกล้มเหล้า" (เอิ๊กๆๆ - เลียนแบบใครบางคนแถวๆ นี ;-))
เข้าเรื่องครับ...เรื่องนี้อาจจะมองได้หลายระดับ ระดับปัจเจกดุเหมือนจะมีผู้รู้ว่าไปแล้ว
พี่เลยขอชวนคิดในระดับสังคมดูบ้าง (ก่อนอื่นต้องบอกว่ ที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นการ 'ชวนคิด' คือนำเอาความคิดที่เคยได้รับฟังมาบ้าง คิดเองบ้าง มาปะติปะต่อกัน - ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเป็นอย่างนี้แน่ๆ อย่างไม่สงสัย)
คำว่า "ผี" นี่ในความหมายหนึ่งเห็นนักมานุษยวิทยาบางคนตีฟาม เอ้ย! ตีความว่าหมายถึง กฎ ระเบียบ ค่านิยม วัตรปฏิบัติ ข้อห้าม (taboo) ฯลฯ ของสังคม
หากสังคมที่เราอยู่ยึดถือว่า การกระทำหรือพฤติกรรมหนึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ หรือถึงกับขนาดเป็นสิ่งที่ควรกระทำ หากเราสิ่งนั้น เราก็ทำดี และได้ดีด้วย เพราะ "ผี" (สังคม) เห็นดีเห็นงาม
แต่ถ้าทำในสิ่งที่ขัดกับ "ผี" (กฎ ระเบียบ ค่านิยม วัตรปฏิบัติ ข้อห้าม ฯลฯ) สังคมก็จะมีปฏิกิริยาตอบกลับในทำนองไม่เห็นด้วย และถ้าขัดมากๆ ก็ถึงกับลงโทษได้ (โดนผีหลอก)
แต่ทีนี้หากคนในสังคมจำนวนมากตั้งมาตรฐานไว้ต่ำ เช่น เฮ้ย! มันจะโกงนิดหน่อยแค่ 1-2 แสนล้าน แต่ทำงาน ดีกว่าพวกที่โกงเหมือนกัน แม้จะโกงน้อย แต่ใส่เกียร์ว่าง....อย่างนี้ก็มีปัญหาแน่ครับ
ส่วนเรื่อง "พ้นดี พ้นชั่ว" นี่ ก็น่าคิดเหมือนกัน แต่อาจเป็นอีกระดับหนึ่ง ที่มองแบบกลางๆ เป็นธรรมชาติว่า มันเป็นเช่นนั้นเพราะมีเหตุปัจจัยให้มันเป็นเช่นนั้น
เอ่อ...ถ้าอ่านแล้วรู้เรื่อง แสดงว่าพี่ยังปกติอยู่ แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง แสดงว่า พี่น่าจะเป็นนักปรัชญาได้ครับ ;-)
ปล. ที่บ้านพี่ไม่มีใครไปเข้าเรียนที่ ม.ราชดำเนิน แต่เรียนทางไกล (ผ่าน ASTV) ทุกวันเลย แถมยังจ่ายค่าเรียน (บริจาค) ไปแล้วอีกตะหาก...เอิ๊กๆๆๆ
ผิดผีผียั้งละ ลาเพ
ผิดพระราชโปเร จะล้าง
เหนื่อยนักพักพอเท- ถูกแม่ กระมังนา
ในพระราชกฤษฎีกาอ้าง ท่านไว้ ยังไฉน
สวัสดียามบ่ายครับ กวิน
พี่ว่าเรื่องผีๆ นี่ชักจะยาว สงสัยต้องเอาไปไว้ในบันทึกใหม่ละกระมัง :-P ไว้จะหาโอกาสมาต่อยอดใหม่อีกทีครับ
ปล. อีก 300 ปีข้างหน้า อาจมีนักประวัติศาสตร์ในอนาคตบอกว่า
"สุจิตต์ วงษ์เทศ" ไม่มีตัวตนจริง
และไม่ได้แต่งหนังสือ "คนไทยอยู่ที่นี่ ที่อุษาคเนย์"
คงจะมีการถกเถียงกันมัน (ส์) ล่ะครับ...เอิ๊กๆๆ
มุขนี้ฮามากๆ ครับ
ฮาๆเอิ๊กๆ
พี่ชิว เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเป็นนักปรัชญา(ทางการเมือง) ด้วยนะครับเพราะลงเรียนทางไกลผ่านดาวเทียมนี่เอง ( ASTV)
สวัสดีค่ะ
อนุโมทนา สำหรับบทความดีๆค่ะ
แต่ก็ยังเชื่อว่า " ทำดีต้องได้ดี" อยู่นะค่ะ :)
ขอบคุณอาจารย์ orawan (Dhamma) ครับ :)
คนดีดีแต่สร้าง กรรมศรี
สร้างสิ่งชั่วสักที อาจพลั้ง
คนชั่วชั่วนานปี กรรมแย่
สร้างสิ่งดีสักครั้ง แน่แท้หลอกลวง
ปลายดีแต่กกไม้- โค้งคด
ท่านเปรียบคนชั่วปลด- ชั่วทิ้ง
กกตรงแต่ปลายลด- เลี้ยวกิ่ง
ท่านเปรียบคนดี พริ้ง- เพริศแล้วเลวทราม
กกตรงปลายคด
กกคดปลายตรง
กกตรงปลายตรง
กกไม่ตรงปบายไม่ตรง
จะเป็นแบบไหนดีครับคุณ ไข่มุกราณี
เราจะเป็นแบบไหนดีครับคุณ ไข่มุกราณี? ติดใจที่คุณ 'ราณี แต่งโคลงเอาไว้ว่า คนชั่วชั่วนานปีกรรมแย่ สร้างสิ่งดีสักครั้งแน่แท้หลอกลวง (นึกถึง องคุลีมาลย์ แน่นอนว่าเมื่อละชั่วได้แล้ว ย่อมไม่ใช่เรื่อง ของการสร้างภาพ/หลอกลวงเสมอไป) พุทธองค์ท่านว่า ถึงอดีตจะคด/เลว มาอย่างไร แต่ถ้าปลายตรง ก็ยังถือว่า ดี ผิดกับคนที่ทำดีมาเสมอๆ ในบั้นปลายชีวิต จะมาทำตัวคดๆ งอๆ อย่างนี้ใช้ไม่ได้ (ทางแก้ ไม่อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ถ้าจะดัดต้องใช้ไฟลนให้ร้อนแล้วดัด) สุนทรภู่สอนเอาไว้ว่าการจะดูคนว่า ดีหรือไม่ดี(ตรง/คด) นั้นดูยากเพราะ "ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน"