รัสนิยาย : เจโตปริยญาณ


ปรจิตตวิชานนญาณ

เธอคงคิดว่าตัวเองสวยมีเสน่ห์จึงทำให้มีนายสถาปนิกมาป้วนๆ เปี้ยนๆในชีวิตเธอ หารู้ไม่ว่าตนนั้นเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดา แถมตัวก็เตี้ยๆ ป้อมๆ อายุก็ปาเข้าไป 40 กว่าๆ (กว่าไปหลายปี) บนใบหน้ามีอีกา บินมาเกาะและฝากรอย กากบาท (กา=กา : บาท(ะ)=ตีน) ไว้

แรกพบกัน นายสถาปนิก (ที่อายุน่าจะประมาณ 45-50) ไม่ได้มองที่เธอเลย แต่เขามองที่กล้อง Canon D40 ราคาประมาณ 4 หมื่นต้นๆ ของเธอต่างหากและยิ่งได้เห็นเธอขับ Volvo s40 ก็ยิ่งทำให้นายสถาปนิกมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ใช่อาซิ้มธรรมดาๆ คนธรรมดาคงไม่ขับรถและใช้กล้องราคาแพงๆ ขนาดนี้ นายสถาปนิกตัดสินใจเข้าไปตีสนิทกับเธอเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เขาทำอยู่ ถ้าเธอสนใจสร้างบ้านคนที่ใช้รถและใช้กล้องราคาแพงๆ ขนาดนี้คงไม่สร้างบ้านราคาต่ำๆ หรอก และเรายังสามารถใช้ชื่อของเธออ้างอิงกับลูกค้ารายอื่นๆ แถมถ้าเราทำดีกับเธอมากๆ เธออาจจะแนะนำเพื่อนฝูงของเธอให้มาว่าจ้างเราสร้างบ้าน ก็ได้

ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นใน มโนมยจักษุ ของ "ชาญ" เด็กหนุ่มอายุ 27 ปี ในทางพุทธศาสนาเรียกอาการที่ผู้หนึ่งหยั่งรู้วาระจิตของอีกผู้หนึ่งว่า สำเร็จ เจโตปริยญาณ หลังจากที่ชาญลืมตาออกจากสมาธิ เขาก็อุทานออกมาว่า

"มิตรภาพที่ฉาบทาไว้ด้วยผลประโยชน์ เช่นนี้เรียกว่า มิตรภาพที่แท้จริงกระนั้นหรือ โถ่..เธอผู้ซึ่งในอดีตชาติเคยเป็นพี่สาวของฉันทำใม เธอ..เอ้ย พี่ ทำใมพี่ถึงได้ถูกแวดล้อมไปด้วยมวลมิตรเทียม มากมายถึงเพียงนี้"

สาเหตุก็คงเป็นเพราะพี่เป็นคนที่โอบอ้อมอารี ต่อคนทั่วไป อีกทั้งพี่เป็นคนมองโลกในแง่ดี ทว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ด้านดีเพียงด้านเดียว ด้านที่ร้ายมันก็ยังมีอยู่ ฉะนั้นคนเราควรมองโลกให้เห็นครบทั้งสองด้าน ทั้งด้านที่ร้าย และด้านที่ดี แล้วนำมาพิจารณาไตร่ตรองก่อนที่จะทำหรือไม่ทำสิ่งต่างๆ โลกนิติคำโคลงได้สอนเรื่อง "เพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายาก" ไว้ พี่ไม่เคยอ่านหรือ? ที่ว่า


เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว    แหนงหนี
หาง่าย หลายหมื่นมี-       มากได้
เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี-    วาอาตม์
หายาก ฝากผีไข้           ยากแท้จักหา



-เวลาขัดสนจนทรัพย์เพื่อนที่คอยประจบปอกลอกก็แหนงหนีไปจนหมดสิ้น
-เพื่อน(ที่คอยปอกลอกเรา)กิน หาง่ายมีมากมายหลายหมื่นจำพวก
-ส่วนเพื่อนที่เวลาเราขัดสนจนทรัพย์ กลับคอยช่วยเหลือ และยอมตายแทนกันได้ เวลาที่ป่วยไข้ก็คอยดูแลรักษา เวลาตายก็คอยเป็นธุระเอาผีไปเผา
-เพื่อน(ที่อยู่ด้วยตอนที่เรา)ตาย เช่นนี้หาได้ยากยิ่ง

อนุสติ : อย่าทำตัวง่าย ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก คือโดนคนเขาปอกลอกเอาได้ง่ายๆ ถ้าทำตัวเป็นกล้วยก็ควรเป็นกล้วยดิบ ปอกลอกได้ยาก เวลาเคี้ยวกินก็ฝืดคอ ถ้าทำตัวเป็นกล้วยแก่ๆ เอ้ย กล้วยสุกๆ ปอกลอกได้ง่าย กลืนได้โดยไม่ต้องเคี้ยว

ฉันรู้ว่าพี่สาวฉันไม่อยากมีมิตรเทียม และพี่ไม่ใช่กล้วยๆ ที่จะโดนใคร ปอกลอก เคี้ยวกินได้ง่ายๆ แต่อย่างไรเสีย ฉันก็ต้องเตือนพี่ไว้สักหน่อยดีกว่า แต่ว่า จะเตือนพี่ได้อย่างไรล่ะวะเนี่ย..!!!!

พี่สาวก็น่าจะฟังชาญ เพราะขนาดโดนจิ้งจกทัก บางทีเรายังเชื่อ นับประสาอะไรกับโดนคนทัก

เพียงแต่ว่าใน  อภัยราชกุมารสูตร (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓) ได้อรรถาธิบายไว้ว่า

  • ตถาคต... ย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น
  •  ตถาคตย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น 

    วาจาที่ ชาญ จะกล่าวเตือนพี่สาวเป็นวาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานี้อาจจะไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจกับพี่สาว  ชาญนั่งใคร่ครวญอยู่ครู่ใหญ่....


    ติดตามอ่าน ตอนต่อไปที่ เรื่องสั้น : เจโตปริยญาณ#2
  • หมายเลขบันทึก: 201684เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2008 16:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 12:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (22)

    ถ้าสนิทกันมาก ก็น่าจะคุยกันได้

    แต่ถ้าไม่ค่อยสนิทก็ ต้องคิดมากหน่อย

    • รีบเข้ามาอ่านเพราะ
    • สงสัย กวี กวิน คนเก่ง
    • เอาอะไรมาอีกแล้ว
    • แล้วก็ถึง..บางอ๋อ
    • ถ้าอยากจะฝึก เจโตปริยญาณ
    • มีตำราเปล่า
    • หาให้ที  อยากได้...อิอิ

    สวัสดีครับคุณพี่อาจารย์หมอเปิ้ล..sarah

    "ถ้าสนิทกันมาก ก็น่าจะคุยกันได้แต่ถ้าไม่ค่อยสนิทก็ ต้องคิดมากหน่อย" ผมก็คิดไว้อย่างนั้น แต่ว่ามันคือ เรื่องสั้นที่ลองหัดเขียนกะจะลองส่งซีไรต์ ปี...น่ะครับ -_-'' ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ 

    สวัสดีครับท่านอาจารย์ ผอ.ประจักษ์ ตำรามีครับของพระเดชพระคุณ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยฯ ว่าด้วยเรื่อง มโนมยิทธิ งัยครับ แต่ว่า ...ถ้า ได้อนาคตังสญาณ แล้ว อย่าลืมมาบอกเลขท้ายสามตัว ผมบ้างนะครับ..

    สวัสดีค่ะ น้องกวิน

    เปรียบเทียบดีจัง

    ป้าแดงอีกคนที่เป็นคนเชื่อคนง่าย ไว้วางใจคนไปเสียหมด

    ต้องพยายามมองทั้งสองด้านนะคะ

    ดีนะ ที่มีมากกว่า 40D ถึง 400D แต่ราคาแตกต่างกันเยอะค่ะ อิอิอิ

    ดีนะ ที่มีแค่จักรยาน อิอิอิ

    ขอบคุณค่ะ ได้แง่คิดทีดี มากๆๆค่ะ

    สวัสดีครับ pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ] คนที่รู้ตัว มักไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่ารัยว่ามั้ยครับ แต่ผมก็ห่วงป้าแดงนะครับ (ขอให้มีแต่มิตรแท้เยอะๆ) ส่วนเรื่องกล้อง แพงที่เลนส์ นะครับราคาตัวกล้องไม่ต่างกันเท่ารัย ส่วนที่ป้าแดงขี่จักรยาน(แล้วเอาเงินไปฝากแบงก์ไว้) นั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับได้ออกกำลังกาย และลดสภาวะโลกร้อน ว่าแต่ป้าแดง คงไว้ใจผมนะครับ :)

    สวัสดีค่ะคุณกวิน

    พี่สาวคุณกวินนี่ รูปร่าง อายุคล้ายๆกับพี่เลยค่ะ เพียงแต่ต่างกันที่กล้อง 40D กับ Volvo นี่แหละถึงทำให้มั่นใจว่าไม่ใช่พี่...อิอิ
    พี่เองก็เชื่อคนง่ายค่ะ แต่ใครเตือนก็ฟังอยู่ค่ะ หากมีเหตุมีผล ... คุณกวินก็น่าจะเตือนพี่สาวได้นะคะ...และพี่สาวก็น่าจะเชื่อคุณกวินนะคะ

    สวัสดีครับคุณพี่อาจารย์  paew ขอผมมองรูปคุณพี่อาจารย์ ชัดๆก่อน คุณพี่อาจารย์  paew  ดูสูงเพรียว แต่ก็หมวยๆ เข้าข่ายเป็นนางเอกในเรื่องสั้นได้อยู่เหมือนกันครับ

    ผมก็เชื่อว่า พี่สาวก็น่าจะฟังชาญ เพราะขนาดโดนจิ้งจกทัก บางทีเรายังเชื่อ นับประสาอะไรกับโดนคนทัก

    เพียงแต่ว่า  อภัยราชกุมารสูตร (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓) อรรถาธิบายไว้ว่า

  • ตถาคต... ย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รักไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น
  •  ตถาคตย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
  • อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น

    ผมวิเคราะห์แล้วว่า  วาจาที่ ชาญ จะกล่าวเตือนพี่สาวเป็นวาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของพี่สาว ชาญ ก็ ต้องเลือกกาลเทศะ ที่จะกล่าววาจานั้นกับพี่สาว  

    ขอบคุณคุณพี่อาจารย์ paew  ที่แวะมาอ่านเรื่องสั้นของกวินนะครับ
  • ++ เข้ามาอ่านด้วยคนอีกครั้ง

    ++จากเรื่องสั้นนำมาซึ่งความรู้ศัพท์พุืทธพจน์อย่างน่าสนใจ    เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายเข้ากับความรู้ประสบการณ์ของคนทั่วไป จักสัมผัสได้ แต่บางอย่างรู้ตัวเลยว่าต้องตามอ่านข้อความคุณกวินต่อไป เพราะยังไม่รู้อะไรมาก

    ++ ยังอยากอ่านเรื่อยไป

     

    สวัสดีครับอาจารย์ Suchet Chookong  อาจารย์ถ่อมตัวเกินไป...นะครับ :) ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ

    สวัสดีคะ คุณกวิน

    เรื่องคำพูดนี่สำคัญกับการอยู่ในสังคมมากเลยนะคะ

    หลายครั้งที่ต้องคิดเป็นสิบตลบว่าควรพูดดีหรือไม่

    บ่อยครั้งที่ต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดไป

    แม้ว่าเราจะคิดว่ามันมาจากความหวังดีของเราเอง...

    ขอบคุณมากคะ

    ---^.^---

     พิมพ์ดีด ขอบคุณครับในขณะเดียวกันก็มีบางครั้งที่เราอาจจะคิดว่า รู้อย่างนี้พูดไปเสียก็ดีแล้ว เสียใจที่ไม่ได้พูดก็มีถมไปนะครับ อีกอย่างผมคิดว่า คำพูดบางที่ก็ไม่ได้สำคัญกับการอยู่ในสังคมนะครับ เพราะคนใบ้แม้จะพูดไม่ได้แต่ก็อยู่ในสังคมได้นี่เนอะ

    แวะมาอ่าน...นิยายซีไร้ท์ของคุณกวิน...

                   (^__^)

    แล้วชาญกับพี่สาว(ในอดีตชาติ)สนิทกันหรือไม่

    สวัสดีครับคนไม่มีราก ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ ฝีมือผมยังไม่ถึงขั้นหรอกนะครับ แต่คนเราก็ควรมีการตั้งความหวัง ทว่าว่า เรื่องสั้น/นิยาย นี้อาจจะผิดกติกาซีไรต์ ที่ว่าซีไรต์คือ วรรณกรรมสร้างสรรแห่งอาเซี่ยน (หลายคนอ่านแล้วอาจจะส่ายหัวว่า  เรื่องสั้น/นิยายของผม มันไม่ค่อยสร้างสรรเท่าไร) ผมก็คิดเช่นนั้น "ในขณะที่เราสร้างตึกเราเราย่อม ได้ทำลายทรัพยากรต้นไม้ ภูเขา ไปพร้อมๆ กันฉันใด งานเขียนนี้แม้จะสอดแทรกคติธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ แต่ก็อาจจะทำร้าย/ทิ่มแทง ใจของใครหลายๆ คนให้ได้รับความเจ็บแปลบ เจ็บปวด" การสร้างสรร ก็มักจะมาพร้อมๆกับภาวะที่ต้องสูญเสีย อะไรบางอย่างหรือหลายๆ อย่าง ทว่า เมื่อสร้างขึ้นมาแล้ว สิ่งทีได้มา กับสิ่งที่จะเสียไปคำนวณ/สรตะ ดูแล้วว่า พอสมน้ำสมเนื้อ (ผู้อ่านบางคนอาจจะได้ข้อคิด ผู้อ่านบางคนอาจจะจิตตก ผู้อ่านบางคนอาจจะหัวเราะ ผู้อ่านบางคนอาจจะขมวดคิ้ว) บทละครเรื่อง As you like it ของ วิลเลียม เช็คสเปียร์ (William Shakespeare) ที่ว่า


    All the world's a stage,
    And all the men and women merely players;
    They have their exits and their entrances;
    And one man in his time plays many parts
    ,

     

    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแปลบทละครของวิลเลียม เช็คสเปียร์ ไว้เป็นภาคภาษาไทยชื่อ ตามใจท่าน ลครเริงรมย์ (As you like it) ความว่า

     
    “ทั้งโลกเปรียบเหมือนโรงละครใหญ่    ชายหญิงไซร้เปรียบตัวละครนั่น
    ต่างมียามเข้าออกอยู่เหมือนกัน          คนหนึ่งนั้นย่อมเล่นตัวนานา”.


    โบราณท่านว่า ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว หากท่านผู้อ่านได้อ่านเรื่องสั้น/นิยาย เรื่องนี้แล้วได้ ฉุกคิด พินิจพิจารณา จนเกิดการน้อมนำไปสู่การมีสติรู้เท่าทันในการเลือกคบหามิตร ผมว่านั่นคือรางวัลสูงสุดในชีวิต นั่นคือคุณค่าแห่งงานเขียนอย่างแท้จริง ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

    ตามมาอ่านครับ

    สบายดีไหมครับ

    ณ กมล เจ้าเดิม ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ คุณ ณกมลมี พี่ชายน้องชาย มีพี่สาวน้องสาวมั้ยครับ คุณณกมล สนิทกับพี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาว มั้ยครับ คำตอบของผมคงคล้ายๆ คำตอบที่อยู่ในใจคุณ ณกมล นะครับ

    สวัสดีครับพี่โย่ง สบายดีครับ........

    มาช้าไปนิด...นะคะน้องกวิน

    อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น

    • อันความกรุณาปรานี
    • จะมีใครบังคับก็หาไม่
    • หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
    • จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน...
    • จะบอกกล่าวตักเตือนด้วยความเป็นน้องพี่เป็นสิ่งดีมากๆบางครั้งผู้รับฟังอาจรับในสิ่งที่ตรงเกินไปไม่ค่อยได้แต่เชื่อเถอะการพูดเท็จไม่ช้าไม่นานความเท็จก็จะค่อยๆเผยตัวตนออกมาเอง ....
    • นิดเดียวนะคะก่อนจะบอกเธอประเมินความรูสึกเธอนิดนึงว่าเธออยู่ในอารมณ์ไหน...ชาญจะได้เปล่งวาจาที่เหมาะสมที่สุดค่ะ ...
    • ตกลงที่เล่ามา"ชาญ"หรือ"กวิน"ที่ถามมา....

    สวัสดีครับ พี่นุส nussa-udon นึกถึง พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ ท่านทรงพระนิพนธ์สักวาไว้บทหนึ่งความว่า

    สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสน                     ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม
    กลิ่นประเทียบเปรียบดวงพวงพะยอม        อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม
    แม้นล้อลามหยามหยาบไม่ปลาบปลื้ม       ดังดูดดื่มบอระเพ็ดต้องเข็ดขม
    ผู้ดีไพร่ไม่ประกอบชอบอารมณ์               ใครฟังลมเมินหน้าระอาเอย

    แต่ผมก็นึกถึงสุภาษิตโบราณที่ท่านว่า "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" ครับ

    พูดไม่ออกบอกไม่ชัดจึงขัดข้อง
    เกรงถูกมองด้านลบพบปัญหา
    เกรงจะขุ่นเคืองใจในเวลา
    จึงไม่กล้าเอ่ยคำทำฉันใด?

    ยอมให้เธอหน้าง้ำทำแผงฤทธิ์
    ขอมีสิทธิ์ท้วงติงว่าสิ่งไหน
    มิชอบมาพากลทนทำไม?
    พูดบอกไปตามตรงคงจะดี

    บอกให้รู้ไปเลยใช่เฉยไว้
    หากเธอพลั้งพลาดไปในวิถี
    พูดตรงตรงจากใจไปในบางที
    เธออาจเชื่อวจีที่ท้วงติง

    แต่ถ้าหากพูดไปสองไพเบี้ย
    ก็นิ่งเสียดีกว่าอย่าสุงสิง
    ถือกรรมใดใครก่อข้อแท้จริง
    เลือกข้างนิ่งเฉยไว้ไม่ก้ำเกิน

    "สวัสดีคุณกวินฯ และทุกท่าน มาร่วมด้วยช่วยเม้นท์ ฮี่ฮี่"

    ขอบคุณป้าหมู (สุกรวดี) ปิยมิตร ต่างแดน (อเมริกา) ที่ได้เมตตานุเคราะห์ แต่งกลอนประกอบ เรื่องสั้นให้ครับกระผม กระจะกระจ่างกลางใจ มากๆ ครับ

    อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท